ปลูกฝันไว้ในแผ่นดิน
เขียนโดย ลูเซีย บาเกดาโน่ แปลจากภาษาสเปน โดย รัศมี กฤษณมิษ

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

หิมะตกครั้งแรกในวันที่ ๔ ธันวาคม ซึ่งลูกอุปถัมภ์ของฉันถือกำเนิดในวันนี้พอดี

ระยะนี้เราขี่จักรยานขึ้นเขาไม่ได้อีกแล้ว ในตอนเช้าๆ ฉันไม่อยากลุกจากที่นอนอันอบอุ่นเพื่อสัมผัสกับความเย็นยะเยือกของห้องเลย และที่โรงเรียนเราต้องคอยสุมฟืนใส่เตาผิงเพื่อจะได้อบอุ่นเพียงพอ ฉันต้องจัดการให้เสร็จก่อนที่ 'เด็กของโรงเรียน' จะมา เพราะทุกอย่างในโรงเรียนนี้ทั้งเก่าและโทรมจึงมีควันไฟมาก เด็กๆ เองก็เป็นหวัดด้วย ทั้งห้องจึงมีแต่เสียงไอขรมไปหมด

อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกสบายใจและมีความสุข เทศกาลคริสต์มาสกำลังจะมาเยือน อากาศและตัวหมู่บ้านก็อยู่ในบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส ทั่วทั้งหมู่บ้านดูประหนึ่งถ้ำพระกุมารที่วิจิตรงดงาม

ฉันชอบออกไปที่ระเบียงในตอนย่ำค่ำแม้อากาศจะหนาว ฉันพอใจที่ได้เห็นแสงสว่างลอดออกมาจากหน้าต่างบ้านเรือน อีกทั้งต้นไม้ที่ปราศจากใบ มีแต่กิ่งทอดออกมาและมีหิมะปกคลุม รวมไปถึงรอยเท้าที่จมในหิมะ ระฆังโบสถ์ซึ่งในขณะนี้ดูเหมือนแม่ชีสวมหมวกขาว เทือกเขาอันหนาวเหน็บ พายุหิมะที่ทำให้ฉันนึกถึงเทวดาซุกซนที่ชวนกันขว้างปาลูกอมเม็ดเล็กๆ สีขาวนับร้อยนับพันเม็ด

การขี่จักรยานท่องเที่ยวสิ้นสุดลง จักรยานของฉันได้พักผ่อนที่ห้องใต้หลังคาอยู่หลายเดือนซึ่งก็ดีเพราะเราจะได้ทำกิจกรรมอย่างอื่น เหล่าพี่น้องได้รวมกันในห้องครัวใหญ่ที่แสนอบอุ่น บางทีเราก็จับกลุ่มคุยกันในหมู่เพื่อนฝูง พร้อมกับ
ถักเสื้อให้คนรัก น้องชาย พี่ชาย ญาติๆ หรือถักผ้าคลุมไหล่ให้ย่า ยาย แม้กระทั่งผ้าห่อตัวกันหนาวให้เด็กทารก

ฉันรู้ว่าตัวเองมีความสุข ในวันที่คุณพ่อโฆเซ่ มาริ จะไปปัมโปล๎น่า แต่แล้วก็ต้องกลับมาหลังจากที่ออกไปเพียงครู่เดียว

"พ่อไม่รู้จะบอกเธอยังไงดี ไม่มีรถโดยสารวิ่งหรอก สถานีรถปิดหมด ถ้าหิมะยังตกหนักอย่างนี้ละก็ เธอคงกลับไปฉลองคริสต์มาสที่บ้านไม่ทันแน่ พ่อเสียใจ กับเธอด้วยนะ"

ฉันรู้สึกตกใจเพราะฝันหวานถึงวันคริสต์มาส และรู้ว่าแม่คงนับชั่วโมงคอยการกลับของฉันอยู่ที่บ้าน อีกทั้งยังไม่ลืมภาพแม่น้ำตาคลอตอนมาส่งฉัน

ฉันไม่ปฏิเสธว่าเสียใจมาก แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าจะรู้สึกอย่างไรหากได้รับข่าวนี้เมื่อสองเดือนก่อน ตอนนี้ฉันดีใจที่ไม่ตกอกตกใจมากนักกับการวาดภาพตัวเองที่จะต้องฉลองคริสต์มาสกับคนที่นี่ เพราะฉัน ไม่คิดจะทิ้งโรงเรียนอีกแล้ว ฉันชอบที่นี่และความรู้สึกแบบนี้ ความมั่นใจในตัวเองอย่างนี้ ทำให้ฉันมีความสงบอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

ฉันโทรศัพท์ไปหาพ่อกับแม่จากบ้านโกญิ พอได้ยินเสียงท่านฉันก็ยิ่งสะเทือนใจ พ่อถามฉันไม่หยุดปากว่า ไม่มีใครในหมู่บ้านบ้างเลยหรือที่จะมีรถสมบุกสมบันสักคัน

น่าสงสาร ! พ่อช่างไม่รู้เลยว่าที่เบอิเรเชอานั้น แม้แต่หมอยังมีแค่รถ SEAT 600 เล็กๆ เท่านั้น

ฉันพยายามพูดให้กำลังใจพ่อแม่ว่า บางทีอากาศอาจจะดีขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันคงกลับไปฉลอง ปีใหม่ได้ และเมื่อได้พูดให้พ่อแม่เข้าใจว่าฉันมีความสุขดีที่นี่ ตัวเองก็ค่อยสงบลงและเลิกเศร้าได้

ฉันเดินกลับบ้านพลางคิดไปว่า บางทีอาจจะเป็นการดีที่ต้องเป็นเช่นนี้ ความคิดโง่ๆ เริ่มผ่านเข้ามา ในหัวสมองของฉัน เพราะฉันอาจจะไม่กลับมาอีกเลยหากได้กลับบ้าน คราวนี้ และการงานที่เริ่มลงตัว รวมทั้งความสงบภายในจิตใจของฉันก็ต้องพลอยมลายหายไปด้วย

ก็เพราะฉันเริ่มรักเบอิเรเชอา ฉันจึงอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้าน ผู้คน และวัฒนธรรมที่นี่

ฉันไม่อยากกลับไปสู่ 'ความไม่รู้' เหมือนเก่า ที่ไม่อาจแยกกิ่งเฮเซลนัทจากกิ่งไม้ชนิดอื่นได้ เพียงเพราะ มันทั้งอ่อนและดีเหมือนกัน

ฉันผิดที่ตัดสินคนที่นี่เร็วเกินไป ไม่รู้ว่าตัวเองไปเอาความคิดที่ว่า ชาวเบอิเรเชอาเป็นคนหยาบกระด้าง ไม่อ่อนโยนและไร้การศึกษามาจากไหนกัน

คุณย่ารอฉันอยู่ที่บ้านทุกวันหลังเลิกเรียน พร้อมกับช็อกโกแลตร้อนๆ ฉัน รับมาดื่มด้วยความขอบคุณยิ่ง นิ้วที่โอบรอบแก้วช็อกโกแลตร้อนนั้นก็พลอยอุ่นไปด้วย

บาทหลวงโฆเซ่ มาริ ซึ่งช่วยงานฉันทุกวัน เสิร์ฟอาหารให้ฉันก่อนใครในโต๊ะ คุณพ่อมักจะให้ยืม หนังสือพิมพ์หรือเครื่องพิมพ์ดีดทุกครั้งที่ฉันต้องการ ไม่ต้องพูดถึงหนังสือที่เราแลกกันอ่านอยู่เสมอ

ตลอดฤดูหนาว เปโย่ไม่ยอมให้ฉันลงไปเอาจดหมายที่ไปรษณีย์ เขาลงไปแทน ส่วนโตมัสก็คอยดูแล และคอยหยอดน้ำมันให้รถจักรยานของฉันเป็นอย่างดี ฟืนที่ โรงเรียนก็ไม่เคยขาด เพราะเพื่อนบ้าน ช่วยกันเอามาเติมให้

ฉันจะต้องทำลายต้นเฮเซลนัทอีกกี่ต้น เพื่อเรียนรู้การแสดงความรักในรูปแบบ ที่แตกต่างกันออกไป

โชคดีที่ความหวังยังไม่สิ้น ฉันรู้สึกว่าไม่ยากจนเกินไปที่จะตระหนักว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอาศัย ความเห็นอกเห็นใจ และความอดทนต่อนิสัยส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ที่เราต่างก็มีกันทุกคน

ด้วยความคิดเช่นนี้ ฉันจึงเตรียมพร้อมอย่างกระตือรือร้นที่จะจัดงาน จะต้องมีอะไรอยู่บ้างที่โรงเรียน ฉันพบตะกร้าหวายที่มีถ้ำพระกุมารสมบูรณ์แบบและงดงามมาก เด็กๆ กับฉันช่วยกันตกแต่ง มันขึ้นมาใหม่ เราออกไปเก็บตะไคร่และเปลือกไม้กันตลอดอาทิตย์ แม้แต่เด็กเล็กๆ ก็มาร่วมด้วย เราทำถ้ำพระกุมารได้สวยมากจนชาวบ้านต้องมาเข้าแถวรอดูกันทีเดียว

บ้านของเปโย่และโตมัสก็มีถ้ำพระกุมารที่สวยงามเช่นเดียวกัน และพวกเราก็ร้องเพลงฉลอง การประสูติของพระกุมารเยซูหน้าถ้ำนี้

ฉันรู้สึกขอบคุณและละอายใจที่เห็นว่า ทุกคนพยายามจะทำให้คืนคริสต์มาส ที่ห่างไกลจาก ครอบครัวของฉันเปี่ยมไปด้วยความสุข และพวกเขาก็ทำสำเร็จอย่างเต็มภาคภูมิ

ฉันคงไม่มีวันลืมมิสซาเที่ยงคืนครั้งนั้นเลย เพลงคริสต์มาสที่ร้องกันทั้งหมู่บ้าน การร้องเดี่ยวของ อานา มาริ และเฟร๎มิน ซึ่งเสียงดีกว่าใครๆ ในเบอิเรเชอาก็น่าประทับใจ เพลงที่เด็กๆ ร้องเมื่อออก จากโบสถ์ทำให้ฉันตื้นตันใจมากจนเกือบร้องไห้เลยล่ะ ! ช่างน่าอายเสียจริง !

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกขอบคุณ 'พระกุมาร' ที่นำฉันมายังเบอิเรเชอานี้ แม้จะต้องผ่านการสอบ และ ตอบคำถามที่ยุ่งยากเพียงใดก็ตาม

ใช่สิ ! โรงเรียนแห่งเบอิเรเชอาที่น่าสงสาร ที่จริงแล้วมันเป็นโรงเรียนที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอด เพียงแต่ตอนนั้น ฉันยังไม่เข้าใจอะไรๆ ดีพอ

มูริเอลที่น่าสงสาร เธอจะไปทำอะไรในโรงเรียนที่ทันสมัยในเมือง แต่ปราศจากบรรยากาศอบอุ่น สถานที่ซึ่งงานจะเลิกเพียงแค่ หกโมงเย็น แล้วก็ปิดประตูห้องเรียนกลับบ้านไป โดยไม่ได้รู้สึกว่า โรงเรียนนั้นเป็นของฉันสักเท่าใด

ใช่ ! ถ้าสิ่งที่เป็นตัวฉัน 'การเรียกร้องและความร้อนรน' แบบของฉันอย่างที่ผู้ใหญ่บ้านว่าไว้เป็นแบบอื่น ! ฉันควรจะสร้าง ปรับปรุง ไม่ใช่มาทำงานต่อจากที่คนอื่นเริ่มไว้ และที่เบอิเรเชอานี้ ไม่มีใครเริ่ม อะไรเลย ฉันต้องเริ่มต้นกับพ่อแม่และเด็กๆ ไปพร้อมกัน กี่ครั้งแล้วที่เด็กโตมาโรงเรียน เพราะโดนฉัน เคี่ยวเข็ญ และบางครั้งถึงกับต้องแกล้งชมเพื่อให้กำลังใจ เราก็รู้กันดีว่า การที่พ่อได้ยินว่า ลูกของตน เป็นเด็กฉลาดที่สุดในชั้น และควรจะเรียนต่ออีกสักปีหนึ่งนั้น เขาจะรู้สึกเช่นไร ฉันฉวยโอกาสเอา ความอิจฉาและความต้องการเอาชนะคนในหมู่บ้านแถบนี้ด้วยกันเป็นตัวเทียบเคียง บางครั้งก็เพียง พูดกับแม่ของเด็กสกุลอิปาร๎รากิร๎เร่ เมื่อหล่อนเดินผ่านมาใกล้ๆ ว่า

"เด็กน้อยคนนี้ก็สัญญาไว้เช่นกัน... แกฉลาดและขยันตลอดทั้งเดือน ไม่เคยขาดเรียนเลย ที่จริงแก ก็เรียนพอๆ กับเตเรซ่า ถ้าเพียงแต่ลูกสาวของคุณไม่ขาดเรียนมากนัก ดิฉันเชื่อว่าแกจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่แกก็เผอิญมีปัญหาเรื่องปวดฟัน"

การพูดคุยอะไรแบบเด็กๆ นี้ก็ให้ผลดีไม่น้อย เตเรซ่ามาเรียนสม่ำเสมออยู่หลายวันทีเดียว

ในระหว่างพิธีมิสซาคืนวันคริสต์มาสนั้น ฉันได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการเป็นครูของฉันที่นี่

"มูริเอล" ฉันรู้สึกว่าพระกุมารตรัสกับฉัน "ทำไมเจ้าช่างโง่เสียจริงนะ ! เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้ในสิ่งที่ ตัวเองทำหรือ เมื่อนำเจ้ามาอยู่กับพวกเราที่เบอิเรเชอานี้น่ะ !"

ฉันแปลกใจที่พระกุมารก็ตรัสคำว่า 'พวกเรา' เช่นเดียวกับบาทหลวง เมื่อครั้งฉันยังเป็นครูใหม่ที่ถือดี ในสมองเต็มไปด้วยความฝันโง่ๆ ที่ทำให้ฉันไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในโรงเรียน ซึ่งถ้ามองภาพ ภายนอกแล้ว ทรุดโทรมเต็มที

เราออกมาข้างนอกหลังมิสซา หิมะหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าประดับด้วยดวงดาวเล็กๆ ที่แสนสุกใส และกะพริบอย่างเอียงอาย เฟร๎มินเดินยิ้มมาหาฉัน "สุขสันต์วันคริสต์มาส มูริเอล !" เขากล่าว

หมอมิเกลก็มาถึงพร้อมกันจากอีกฟาก

"กำลังชื่นชมหมู่ดาวอยู่หรือครับ" หมอถาม

ทั้งสองมองกันอย่างสับสนและอายๆ ที่มาถึงพร้อมกัน

"อานา มาริ กับผม และครอบครัวเอเชเบร๎เรีย จะไปร้องเพลงที่บ้านคุณอานาสักหน่อย เธออยู่คนเดียว และเคลื่อนไหวไม่ได้เลยเพราะ ไขข้ออักเสบ มูริเอล คุณอยากมาร่วมด้วยไหม แล้วคุณล่ะ มิเกล"

"ต้องขอโทษด้วยครับ พ่อแม่และน้องของผมมาอยู่ฉลองเป็นเพื่อนผมช่วงนี้ ดังนั้นผมจึงต้องการ สาวสวย ที่จะทำให้บรรยากาศหวานชื่นขึ้น แต่คนที่ไม่หล่อก็ไม่ได้สร้างความรำคาญให้เรา ผมยังคิดว่า จะเชิญพวกคุณมาที่บ้านของผมเลย"

ฉันรู้สึกว่าหน้าของเฟร๎มินเจื่อนลง และพร้อมกันนั้นประกายแห่งความหวังของเขาก็ดับวูบลง มันดับและสว่างขึ้นใหม่ราวกับไฟกะพริบฉันนั้น

ทั้งสองหนุ่มจ้องมอง และรอคอยการตัดสินใจของฉันว่าจะไปกับใคร ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร ที่จะไม่ให้ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียใจ เพราะว่ามิเกลก็ดูเศร้าสร้อยไปในทันทีทันใด

และแล้ว โตมัส ชายโสดสูงอายุ ได้แสดงท่าราวกับสุภาพบุรุษผู้อ่อนโยนแห่งเบอิเรเชอา เดินมาถึง ที่เรายืนอยู่และกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมว่า

"ไปเถอะ เร็วเข้า คุณย่ากำลังคอยอยู่ และเป็นธรรมเนียมของเราที่จะต้องสวดสายประคำในตอนนี้"

ฉันยืนแข็งเป็นหุ่นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่เพื่อนชายทั้งสองของฉันกลับหัวเราะ อย่างเปิดเผย ฉันแน่ใจว่าเขาทั้งสองต้องดีใจ

"ปล่อยให้เราเก้อ เป็นพ่อสายบัวเลยนะ" เฟร๎มินพูด

"ใครว่าคนแก่ไม่มีสิทธิ์ ! ดูท่าจะมีเสน่ห์กว่าเราด้วยซ้ำไป !" มิเกลหัวเราะ

แล้วฉันก็วิ่งกลับบ้าน เหยียบหิมะอย่างแรงด้วยรองเท้าบู๊ทสูงของฉัน และพร้อมที่จะสวดสายประคำ ๑๕ ทศ() ถ้าจำเป็น

แม้ว่าโตมัสสนใจที่จะสวดสายประคำเพียงใด แต่บาทหลวงก็บอกว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลา เพราะตอนนี้ 'พระมาอยู่กลางเรา' และเป็นช่วงเวลาแห่งการสังสรรค์รื่นเริง

คุณย่าเอาชามใส่ลูกพีช ลูกพลัม แอปเปิ้ลต้ม พร้อมกับอบเชยและถาดใส่ตูรอน() ซึ่งทำเอง ที่บ้านออกมา บาทหลวงโฆเซ่ มาริ แอบเอาทัมโบรีนใส่เป้มา อยู่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของท่าน ไมเต้และมิเกเล่ใช้ครกกับสากทำเสียงอึกทึกแทนเสียงดนตรี ขณะที่น้องเล็กสองคนมองไปที่ บาทหลวง... ดวงตาซึ่งหรี่ปรือกลับมีชีวิตชีวาขึ้น เพราะคุณพ่อไม่ได้เล่นทัมโบรีนอย่างธรรมดาๆ ทว่า เล่นด้วยกลวิธีพิเศษที่ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ และทุกครั้งที่ส่งเสียงจะมีลูกอมสีขาวทั้งเม็ดเล็ก และเม็ดใหญ่รวมทั้งเมล็ดอัลมอนด์ร่วงลงมาด้วย

เราร้องเพลงกันจนเสียงแหบเสียงแห้ง โตมัสซึ่งผิดหวังจากการไม่ได้สวดสายประคำ ส่งขลุ่ยบาส ก์ไปให้น้องชายเป่า และทำทีกระแอมขอฉันเต้นรำเพลงพื้นบ้าน บาทหลวงก็ขออนุญาต คุณย่า ว่าจะให้เกียรติเต้นรำกับท่านสักเพลงไหม ฉันไม่เคยหัวเราะมากเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต

ท้ายสุดโตมัสบอกอย่างยินดีปรีดาว่า วันรุ่งขึ้นคงไม่มีใครเชื่อว่าเขาได้เต้นรำกับครูเชียวนะ

และเมื่อเราทุกคนต่างรู้สึกเหนื่อย จึงคิดว่าน่าจะได้เวลาแยกย้ายกันไปนอน บาทหลวงโฆเซ่ มาริ บอกโตมัสว่า เรามาสวดสายประคำทศที่สาม บทที่ว่า 'พระมาอยู่กลางเรา' กันได้ แน่นอนว่า ท่านต้องการจะทำให้โตมัสพึงพอใจ

แต่โตมัสไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเครื่องดื่มเจือแอลกอฮอล์ หรือน้ำแอปเปิ้ลหมัก ฟองฟอด สองแก้ว หรือบางทีอาจเป็นเพียงความปีติยินดีธรรมดาๆ ก็ได้ แต่เขาก็เริ่มร้องเพลง โดยใช้เนื้อของเพลง อาเดสเต้ ฟิเดเลส-ขอเชิญท่านผู้วางใจ และใช้ทำนองของเพลง ดวงดาว กระจาย อยู่เต็มฟากฟ้ามาแทนได้อย่างน่าอัศจรรย์

(อ่านต่อฉบับหน้า)



() สายประคำ ๕ ทศแรก คือ ภาคชื่นชมล้ำลึก ได้แก่
๑. ทูตสวรรค์แจ้งสารแก่พระแม่มารี ๒. แม่พระเสด็จเยี่ยมนักบุญเอลิซาเบธ
๓. พระมาอยู่กลางเรา ๔. แม่พระถวายพระเยซูในพระวิหาร
๕. แม่พระพบพระเยซูในพระวิหาร

สายประคำ ๕ ทศที่สอง คือ ภาคระทมล้ำลึก ได้แก่
๑. พระเยซูอ่อนระโหยโรยแรงในสวนมะกอก ๒. พระเยซูทรงถูกเฆี่ยน
๓. พระเยซูได้ขดหนามต่างมงกุฎ ๔. พระเยซูทรงแบกกางเขน
๕. พระเยซูถูกตรึงและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน

สายประคำ ๕ ทศที่สาม คือ ภาคเรืองราศีล้ำลึก ได้แก่
๑. พระเยซูทรงกลับคืนชีพ ๒. พระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์ ๓. พระจิตเสด็จลงมา
๔. แม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
๕. แม่พระทรงมงกุฎราชินีสวรรค์

() ตูรอน คือขนมหวานที่ทำจากถั่วอัลมอนด์หรือถั่วชนิดอื่นๆ บดผสมกับน้ำผึ้ง รับประทานกัน ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๓ พ.ค. - มิ.ย. ๒๕๔๗ -