ฝุ่นฟ้าฝากฝัน โดย ฟอด เทพสุรินทร

ก้าวแรกเริ่มที่บ้าน

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับที่ 131 เดือน มิถุนายน 2544
หน้า 1/1

ฤดูฝนเวียนมาถึงอีกครา ไร่นาป่าเขาชุ่มฉ่ำไปทั่ว ใบไม้เขียวขจีพลิ้วไหวเล่นลม ต้อนรับความอุดม สมบูรณ์ของดินฟ้า

ประเสริฐเอามีดพร้าแหวกพุ่มไม้ในป่า เจ้าจุกลูกชายหิ้วตะกร้าเดินตามต้อยๆ หาเก็บเห็ดป่าที่ออก ตามฤดูกาล ละอองฝนโปรยปราย ยังเกาะค้างอยู่ตามใบไม้ หยดลงมาเสียงดังป็อก-แป็กๆ สอดเสียงกรอบแกรบของใบไม้ ที่ร่วงอยู่ตามพื้นดิน ยามสองพ่อลูกเหยียบย่ำไป

เห็ดป่าหลากหลายผุดโผล่อยู่เป็นหย่อมๆ ก่อนเก็บเห็ด ประเสริฐจะแจกแจงชื่อของเห็ด แต่ละชนิด และลักษณะของเห็ดที่มีพิษ ให้เจ้าจุกได้เรียนรู้ เพราะมีชาวบ้านหลงเก็บไปต้มแกงกิน จนต้องเข้าโรงพยาบาล ปีละหลายราย เพียงไม่นาน สองพ่อลูกก็เก็บเห็ดได้เต็มตะกร้า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเห็ดดิน เห็ดข่า เห็ดหน้าหมองที่ออกสีคล้ำ และเห็ดแป้งออกสีขาวนวล

ประเสริฐพาเจ้าจุกกลับออกมาพ้นป่าแล้วพูดขึ้น "ตั้งแต่นังแต๋วมันมาผูกคอตายในป่านี้ เมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ชาวบ้านที่เคยหาเก็บเห็ด ต่างกลัวผี จึงพากันไปหาเก็บเห็ดในป่าแถบอื่น ในป่านี้จึงมีเห็ดอยู่เยอะ มีทั้งดอกตูมดอกบาน เรามาหาเก็บไม่นาน ก็ได้เห็ดเอาไปแกงตั้งหลายหม้อ" จุกรีบเดินแซง ออกนำหน้าทันที เมื่อได้รู้ว่า เจ้าแต๋วมาผูกคอตายอยู่ในป่านี้ หากรู้มาก่อน คงไม่อยากตามพ่อเข้าไปเป็นแน่

ใกล้ถึงบ้าน จุกนึกถึงเรื่องที่แก่นมาหาเมื่อวาน จึงบอกพ่อว่า "พ่อครับ ไอ้แก่นบอกว่า พ่อของมันได้มาชวน ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านมาช่วยลงแขกดำนา ผมว่าไปช่วยสักวัน"

" ดีแล้วลูก เมื่อถึงคราว เราจะลงแขกปักดำนา หรือเกี่ยวข้าว ก็จะได้เพื่อนของลูก มาช่วยอีกแรง"

ฟ้าครึ้มฝนบดบังแสงแดดไว้ แถมด้วยสายฝนปรอยๆ อากาศจึงเย็นสบาย ชาวบ้านที่มาช่วยลงแขก ดำนา บางคนจูงควาย แบกไถแบกคราด มาช่วยทั้งคนและควาย แก่นกับจุก รับหน้าที่หาบต้นข้าวกล้า ที่พวกผู้ใหญ่ถอน และมัดไว้ในแปลงกล้า ไปส่งที่แปลงนาตรงที่ไถคราดเสร็จ จัดตั้งไว้เป็นจุดๆ ตลอดแปลง เพื่อให้พวกที่ปักดำอยู่ หยิบเอาไปปักดำติดต่อกันได้เลย

เมื่อมีคนมาลงแขก ปักดำนากันหลายคน ควายจะถูกผู้ไถคราดเร่งไล่ให้ได้งานมาก ให้ทันกับคนที่จะ ตามมาปักดำ พวกมันต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ ไถคราดแต่เช้าจนเที่ยง ถึงจะได้พักกินฟางอย่างเร่งร้อน เพราะตอนบ่าย ก็จะต้องไถคราดนาต่ออีก จนใกล้ค่ำถึงจะได้กินฟาง กันอีกครั้ง

พวกควายต่างก้มหัว ลากไถคราดนาอย่างเหนื่อยล้า พวกมันเดินช้าลงๆ คนจับไถคราดอยู่ ต้องกระตุกเชือกตี พร้อมส่งเสียงไล่ฮุยๆ อยู่ตลอด จุกหาบข้าวกล้า เดินไต่คันนาไปส่ง ยังแปลงที่ไถคราดแล้วเสร็จ มองควายเหล่านั้นด้วยความสงสาร พวกมันต้องทำงานหนักทั้งวัน โดยไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดขืนได้เลย

ใกล้ค่ำจุกกลับมาถึงบ้าน อาบน้ำแล้วรีบทำงาน บ้านช่วยแม่เช่นทุกวัน

ประเสริฐนั่งจักตอกมัดข้าวกล้าอยู่ที่ระเบียง จุกเข้ามานั่งตรงหน้า แล้วเล่าเรื่องราวที่ตนได้ไปลงแขก ดำนาของเจ้าแก่นให้พ่อฟัง รวมทั้งเรื่องที่รู้สึกข้องคาใจอยู่... ควายทำงานหนักตลอดวัน ที่ลูกเห็นควายถูกใช้งานหนักทั้งวันนั้น ที่จริงควายงานก็จะหนัก เฉพาะในหน้าทำนาเท่านั้น หลังจากนั้น พวกมันก็ได้พักยาวไป จนถึงหน้าทำนาใหม่ แต่ถ้าหากว่าลูกได้เห็นวัวควาย เข้าโรงฆ่าสัตว์แล้ว จะต้องสงสารพวกมันที่สุดเลย มันเห็นพวกเพื่อนๆ ของมัน ถูกลากออกไปฆ่า ต่อหน้าอย่างหฤโหด พวกมันต้องอดน้ำอดหญ้าอยู่สองสามวัน ก่อนถูกดึงเอาไปฆ่า เพราะพวกมันจะต้องตายอยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องให้น้ำ และหญ้าให้สิ้นเปลือง อารมณ์ เศร้าๆ เกิดขึ้นในความรู้สึกของจุก เมื่อรู้ว่ารางวัลตอบแทนพวกควาย ที่ทำงานลากไถคราดนา มาให้ได้ข้าวกินนั้น คือความทุกข์ทรมานกับความตาย

ควายตัวผู้ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าจุก เอาสีข้างถูกับไม้กันคอกเสียงดังฉาดๆ เจ้าจุกนึกขึ้นได้ รีบถามพ่อว่า "แล้วควายในคอกของเราพ่อจะขายไหมครับ"

" ที่จริงควายของเรานั้น มันโชคดีกว่าควายอีกหลายๆ ตัวนะ เพราะครอบครัวเรารักมัน คอยหาน้ำหา หญ้าเลี้ยงมันอิ่มอยู่ทุกวัน พ่อไม่เคยคิดขายมันเข้าโรงฆ่าสัตว์ เพราะมันช่วยงานเรา สงสารมัน จะเลี้ยงจนมันแก่ตายไปเอง และก็จะไม่หาวัวควายมาเลี้ยงอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้ ทำนาแบบธรรมชาติ ไม่ต้องไถคราด หว่านข้าวผสมถั่วเขียว แล้วเอาฟางกลบ ก็ได้ผลไม่น้อยเหมือนกัน ประเสริฐสบโอกาสเหมาะ ที่จะนำเอาเรื่องบุญและบาปกรรม ที่เคยได้ฟังจากพระท่าน มาถ่ายทอดให้ลูกได้ซึมซับ

"พ่อเคยได้ฟังพระท่านเทศน์ว่า คนที่ทำบาปมาก เมื่อตายไปก็จะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน วนเวียน ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายอยู่ กว่าจะได้เกิดมาเป็นคนอีกครั้ง วนกลับไปมาไม่รู้จบ นอกจากคนนั้น มีบุญ ได้พบพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถูกตรงตามคำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจนเกิดปัญญา กลับตัวอยู่ในกรอบ ของศีลห้าให้ได้ ถึงจะได้เกิดมาเป็นคน ที่เจริญครบพร้อมด้วยปัญญา ที่มีโอกาสพัฒนาตน ตามแบบอย่างพระท่านผู้พ้นทุกข์ได้แล้ว

ส่วนคนผู้ชอบฆ่าสัตว์บ่อยๆ ผิดศีลข้อหนึ่ง ครั้นตายไป เมื่อมาเกิดใหม่จะมีอายุสั้น เกิดมาอาจมีโรคร้าย หรืออุบัติเหตุเภทภัย มาเอาชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย ตายแล้วเกิดแล้วตายวนเวียน อยู่ใช้กรรมอยู่หลายร้อยชาติ

คนที่ชอบขโมย หรือชอบโกงเอาทรัพย์สินของคนอื่น ผิดศีลข้อสอง ครั้นตายไปเมื่อมาเกิดใหม่ ก็จะตกอยู่ในกองทุกข์กายและใจ ไปตลอดชาติแล้วชาติเล่า ที่ไม่ต่างจากฝูงควาย ที่ได้รับความทุกข์ที่ถูกตี และไถนาอยู่ทั้งวัน ไม่มีทางจะหลบเลี่ยงขัดขืนได้เลย"

"จุกมาหิ้วกระติบข้าวช่วยแม่หน่อย แม่จะได้ยกสำรับออกไปกินข้าวกัน" เสียงเครือวัลย์จากครัว เจ้า จุกรีบลุกออกไป ประเสริฐคิดขึ้นในใจ

"ยุคสมัยนี้เยาวชนหลงไปติดยาบ้ากันมากราย เพราะขาดผู้มีปัญญาที่แท้จริงมานำพา สังคมพ่อแม่ จึงเป็นด่านแรก ที่ต้องเริ่มชักนำลูกไปในทิศทางที่ดี นี่แหละลูกๆ ถึงจะเติบโตเป็นคนดีได้"

 
อ่านฉบับ 130
     

ฝุ่นฟ้าฝากฝัน (เราคิดอะไร ฉบับ ๑๓๑ มิ.ย. ๔๔ หน้า ๖๙ - ๗๐ )