เราคิดอะไร.

ธรรมดาของโลกจะได้ไม่ต้องโศกสลด...สมพงษ์ ฟังเจริญจิตต์
จาก บิน ลาเดน สู่ จัน ดารา ไป...
(ตอนที่ ๑)
ว่าด้วยบทพาหุง - คาถาพิชิตมารของพระบรมศาสดา


เมื่อตึกสูงระฟ้า ๒ พี่น้อง ถล่มย่อยยับ นอสตราดามุส ก็ยิ้มอีกวาระ ถูกหวยอีกแล้ว!

หากินกับคำทำนาย แม่นก็มี แต่อาจารย์มั่วกลับเยอะกว่า

กลียุค ยุควินาศสันตะโร คำทำนายน่ากลัวๆ พูดไปเถอะ สักวันจะอุบัติ

อาจารย์เมืองไทย ใครทำเก่งเที่ยวทำนายกลียุค เขาเรียก หากินกับของเก่า ไม่แฟร์!

ตื่นเต้นก็แค่นั้น พากเพียรปฏิบัติความดีกันดีกว่า คนชอบทำนายก็เหมือนคนเล่นฮวงจุ๊ย มีโอกาสถูก ๕๐ : ๕๐ ชนะแล้วครึ่งหนึ่ง

โชคดีก็เพราะอาจารย์แก้เคล็ด โชคร้ายก็เพราะกรรมเก่าของแกมันแรง!

หวยออกแล้วค่อยตีฝัน ย่อมง่ายกว่าตีฝันแล้วไปเล่นหวย!

คนอคติ คนลำเอียง คนชอบพอกัน ทำอะไรๆ ก็ดีไปหมด

กฎอะไรก็ตาม อย่าลืมแม่บทของกฎ คือ "กฎแห่งกรรม"

เหตุการณ์สะเทือนโลกของวันนี้ หลายคนวิจิกิจฉา "เป็นความดี หรือความชั่ว?" เป็นเรื่อง "ศาสนาหรือการก่อการร้าย?"

มุมมองวิธีคิดผิดแผกแตกต่างกระจัดกระจาย จะเชื่อใครดี?

จุดยืนของความคิดต้องมี แต่ภูมิหลังกลับเป็นเรื่องสำคัญ เด็กที่เกิดมาท่ามกลางการต่อสู้ ย่อมเห็นสงคราม เป็นธรรมดา เด็กที่เกิดมา ท่ามกลางการให้อภัย ย่อมใจเย็นพอ ที่จะให้โอกาส

ตัวอาชีพก็เป็นตัวกำหนดวิธีคิดของมนุษยชาติ อีกตัวหนึ่ง

ทหารคิด ก็ย่อมเห็นการใช้กำลังเป็นความสำคัญ การกำจัดศัตรูทุกวิธีแม้ผิดธรรมชาติ ก็เป็นความจำเป็น บิดเบือนแค่ไหน ก็ต้องทำ เข้าทำนอง แมวตัวไหนก็ได้ ขอให้จับหนู

เซลส์แมนก็มักจะคิดแต่ผลประโยชน์ที่จะได้ นักธุรกิจก็มองแต่ตัวเลข กำไร....ฯลฯ

เพราะเหตุนี้การอบรมเลี้ยงดู ท่านจึงให้เริ่มตั้งแต่ในท้อง ช่วงกำลังเติบโตก็ยิ่งสำคัญๆ ห้ามละเลย "กว่าจะถึงอนุบาล ก็สายเสียแล้ว" "โรคที่พ่อแม่ทำ" หนังสือชื่อเหล่านี้ คงบอกความนัย ได้หลายๆ อย่างเด็กๆ ยังจำเป็น ต้องฟังเทพนิยาย ที่จะสั่งสอน ให้เป็นคนดี เป็นคนเสียสละ มนุษยโลก ก็เหมือนกับ เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ต้องป้อนข้อมูล ที่สร้างสรรค์ ตั้งแต่ลืมตา แรกเกิด ป้อนห่วยๆ ก็ได้เด็กฮ่วยๆ ต่อไปก็เป็น ผู้ใหญ่ ห่วยแตก!

วันนี้เรามีภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มาแก้ไขวิถีชีวิตของประชาชน หลายๆ อย่างที่ละเลย วันนี้เราดูถูกคนโบราณ ไม่ได้เสียแล้ว คนโบราณ มีพลาดเรื่องไหน โปรดบอกที!

วิกฤติของโลก ความจริงแล้วหลักธรรมของศาสนาได้กำหนดมานานนับพันๆ ปี แต่ไม่เอาธุระต่างหาก เพราะเหตุนี้ ถึงมีวันนี้ มีอย่างนี้ อย่างที่เห็นๆ

คาถาพิชิตมารของพระบรมศาสดา มีผู้ประพันธ์ไว้สวยงามเล่าถึงยุทธศาสตร์ เคล็ดลับกระบวนท่า เอาชนะข้าศึก ๘ วิธีการ ไม่ว่ามาร จะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ต้องศิโรราบ บทพาหุงจึงเป็นบทสุดยอดแห่งการเอาชนะ!

ขึ้นบ้านใหม่ งานพิธีต่างๆ เป็นต้องแทรกบทสวดไม่ยอมให้หายขาด มีการถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางพิธีกรรม แต่ยังขาด ปฏิบัติการ ให้จริงจัง
ชัยชนะ ที่นำพระพุทธองค์ เป็นแม่แบบ มี ๘ ยุทธวิธี

(๑) ชนะพญามารพันมือ ด้วยทานบารมี
(๒) ชนะอาฬวกยักษ์ ด้วยขันติธรรม
(๓) ชนะพญาช้างนาฬาคีรี ด้วยเมตตา
(๔) ชนะโจรองคุลิมาล ด้วยอิทธิฤทธิ์ทางใจ
(๕) ชนะนางจิญจมาณวิกา ด้วยความสงบ
(๖) ชนะสัจจนิครนถ์ ด้วยปัญญา
(๗) ชนะพญานาคนันโทปนันทะ ด้วยฤทธิ์ที่เหนือกว่า
(๘) ชนะพรหมชื่อพกะ ด้วยญาณ

๘ ยุทธวิธีเน้น สังเกตได้ว่า "ห้ามใช้อารมณ์" เป็นพื้นฐาน ในความไม่โกรธ ม่านอารมณ์จะไม่บังตา มองอะไรก็จะเป็นความจริง (ภาวะวิสัย) ไม่มีอคติ เพราะเหตุนี้พุทธภาษิต จึงกล่าวว่า "ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนปัญญาทราม!" "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า!" "อารมณ์" ทำให้โอกาส กลายเป็นวิกฤติ ตาเปล่ากลับสวมใส่ แว่นขยาย และตัดสินใจด้วยความ "สะใจ"!

พาหุง ๘ เดินบนเส้นทางของ "อหิงสา" แต่เมื่ออ้างคำนี้ก็มักจะหน้าเบ้ มองเป็นเรื่องของคนอ่อนแอ ทั้งๆที่มีแต่คนแข็งแกร่งเท่านั้น ที่จะให้ หลักอหิงสา

ย้ำว่าไม่ใช่ "กล้าใช้" แต่ถ้าเขาจะเอาชนะศัตรูเขาจำเป็น "ต้องใช้" ต่างหาก ขัดเคือง "อหิงสา" นัก ไม่ต้องใช้คำนี้ก็ได้!

ยุทธวิธีที่ ๑-๕ เป็นเคล็ดกระบี่ ที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น โดยมีวิธีที่ ๑ เป็นฐานที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นยาครอบจักรวาล หรือ เป็นยาดำ แทรกทุกสูตร

ทานบารมี มี ๓ ระดับ ระดับแรก คือ การให้คือการแบ่งปัน คือ การบริการ รับใช้ ตลอดจนช่วยเหลือเฟือฟาย เป็น "น้ำใจให้โลก ไม่หิวโหย"

ระดับที่ ๒ "อภัยทาน" เป็นความดีที่สูงขึ้นและยากขึ้น ฝึกไม่โกรธไม่ง่ายแต่ก็ต้อง "ทำ"


ไม่ฝึกวันนี้ เราก็จะขี้โกรธ เราก็จะเจ้าอารมณ์กลายเป็นคนมีปัญหา คนโกรธคือคนไม่มีเหตุผล เป็นการปรุงแต่ง ของกิเลสตัวเอง
ความโกรธ ไม่มีตัวตน ขึ้นอยู่กับอุปาทานของแต่ละคน โกรธง่าย โกรธบ่อย ความเป็นคนมีเหตุผลจะค่อยๆ เสื่อมสลาย

เหตุผลที่ลดลงไปเรื่อยๆ ความเป็นคนก็จะค่อยๆ หายไป ความเป็นเดรัจฉานก็จะเข้ามาแทนที่!

ความโกรธที่รุนแรงขึ้น ย่อมกลายเป็นความอาฆาต พยาบาท หวังประทุษร้าย

"ฑีฆาวุ...เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร" พระราชบิดาของฑีฆาวุกุมาร สั่งความก่อนถูกประหาร ใครพอจำได้ เรียนวรรณคดีไทย สมัย ป.๔!

เมื่อพระเยซูถูกตรึงกางเขน ประโยคสุดท้ายที่บอกกับพระเจ้าก็คือ "ขอให้ยกโทษคนที่ฆ่าพระองค์"

ท่านนะบี มะหะหมัด ถูกกลั่นแกล้งจากหญิงชราคนหนึ่งที่มักจะโปรยหยากไย่ จากชั้นบนลงศีรษะท่านเมื่อเดินผ่าน

วันนั้น หญิงชราไม่โปรยดังเช่นวันก่อน เพราะป่วย ท่านนะบี ทรงห่วงใย ถึงกับเข้าไปเยี่ยมดูอาการ... พฤติกรรม เกินมนุษย์ ของมหาบุรุษ เป็นรหัสชีวิต สอนชาวโลก ให้เห็นคุณค่า "อภัยทาน" เป็น "น้ำเย็นหล่อเลี้ยงโลกให้สุขสงบ"

และนี่ก็คือ*(1)หนึ่งในหลายรูปแบบของ "ธรรมทาน" อันเป็นทานบารมีระดับที่ ๓ ที่ "สอนด้วยภาพ ด้วยการกระทำ" อันเป็นการสอน ที่ได้ผล มากที่สุด ยิ่งกว่าการสอนใดๆ

ธรรมทานจึงเป็น "อาหารหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณโลก"

ยุทธวิธีที่ ๒ ต้องใช้ขันติ ความอดทน อดกลั้น เข้าประกอบ กับคนหยาบกระด้าง ก็ต้องใช้วิธีนี้

ยุทธวิธีที่ ๓ ต้องเพิ่มความเมตตาเข้าไปอีก คนยิ่งมัวเมา ยิ่งพูดไม่รู้เรื่อง

ยุทธวิธีที่ ๔ ชนะองคุลิมาลด้วยอิทธิฤทธิ์ทางใจ นั่นก็คือการรู้วิธีพูดให้ตรงจุด ตรงประเด็น การหัดเข้าใจคนอื่น จะทำให้คำพูด สะดุดใจ ได้คิด เหมือนกับ วิธีการของเซ็น

ยุทธวิธีที่ ๕ นางจิญจมาณวิกา ทำเป็นท้องโต กล่าวหาพระพุทธองค์ต้องใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว ไม่โวยวาย แต่หนักแน่น ไม่กลัว ฝ่ายตรงข้าม

๕ วิธีการ เป็นเรื่องต้องไม่โกรธ ไม่ใช้อารมณ์ แล้วยังต้องมีจิตวิทยาในการพูดประกอบอีกด้าน รบร้อย ก็จะชนะทั้งร้อย!

ยุทธวิธีที่ ๖-๘ เป็นการปราบพวกเก่งทางธรรม หรือนักบวชด้วยกัน นั้นก็ลึกซึ้งขึ้นไปอีก ให้ท่านว่ากันเอง เพราะเป็นการแสดง เป็นการข่ม ด้วยภูมิธรรม ที่สูงกว่า

บทชัยชนะของพาหุง ๘ เป็น "ภูมิปัญญาท้องถิ่น" อันหมายถึง เขามีมากันนานแล้ว และ ผู้นำของประเทศ ที่รอดปากเหยี่ยว ปากกา หรือ รอดจากภัยสงคราม หรือผ่านหนัก ให้เป็นเบา ทั่วทั้งโลก ก็ใช้ยุทธศาสตร์บทนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเคยเรียนมา หรือไม่ก็ตาม

เรามีวิชาสุดยอดแห่งการเอาชนะ ๘ วิธีการ โดยมีที่มาจากวิชา "สุดยอดการเรียนรู้!"

"สุดยอดแห่งการเรียนรู้" คือการรู้จักความต้องการของตัวเอง

ความต้องการของเรา ก็ไม่ต่างจากความต้องการของคนอื่น เราไม่ชอบให้ใครทำอะไร แบบไหน เราก็อย่าไปทำแบบนั้น กับคนอื่นเขา เราไม่ชอบ ให้ใครมาโหดเหี้ยมกับเรา เราก็อย่าไปโหดเหี้ยมกับเขา!

ปรัชญาขงจื๊อ นำธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นบทปฏิบัติต่อกัน เพื่อสันติสุข "ใจเขา-ใจเรา" "อกเขา-อกเรา" ความจริงแล้วนี่ก็คือ "หลักจริยธรรม แห่งการใช้ชีวิตร่วมกัน" นั่นเอง

วันนี้ บางคนมอง บิน ลาเดน เป็น "โจรก่อการร้าย" เป็น "โจรห้าร้อย" บางคนมอง บุช มองคนอเมริกันเป็น "จอมโจรบัณฑิต" ตัดสินกันอย่างไร ใครแย่กว่าใคร?

ประวัติศาสตร์อเมริกันชน ก็ได้สร้างคดีไว้มากมาย ให้แก่มวลมนุษยชาติ ใช่หรือไม่? ขายอาวุธสงคราม ให้กับกลุ่มชนทั่วโลก เป็นรายได้ มหาศาล เงินเหล่านี้ คือความตาย ของประเทศอื่นๆ

คนอเมริกัน กินอยู่สิ้นเปลืองมากทั้งๆ ที่มีประชากรเพียง ๕ % ของประชากรโลก แต่เมื่อเทียบกับ อัตราส่วนการกิน การใช้ คนทั้งโลก รวมกัน ยังเปลืองน้อยกว่า คนอเมริกัน ประเทศเดียว! ยิ่งกินมาก ก็เท่ากับแย่งทรัพยากร ของชาวบ้าน! เข้าข่ายปล้นโลก ด้วยอำนาจเงิน! คนอเมริกัน มีอุตสาหกรรม มีการผลิต การก่อสร้างมากมาย ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมโลก มากที่สุด...เข้าข่ายฆาตกรโลก!

แค่ ๓ ข้อกล่าวหา ศาลไหนก็คงประหารชีวิต!

การต่อสู้มีแต่ย่อยยับทั้ง ๒ ข้าง ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ พยาบาทอาฆาต บทเรียนของโลก เราจะเห็นเหตุอิทัปปัจจยตา ผู้เบียนเบียน ย่อมได้เบียดเบียน ผู้ไม่หวังดี ย่อมได้ "ไม่หวังดี"

มนุษย์จะต้องมี "สัมมาทิฏฐิ" ในชีวิต ดูเขาเป็นบทเรียน เราอย่าไปเป็นอย่างเขา อย่าเลียนแบบพฤติกรรม แล้วเอามาใช้กับพี่น้องเพื่อนฝูง ตาต่อตา ฟันกับฟัน ไม่เคยแก้วิกฤติของโลก...ของชีวิต

เรารู้จัก "เศรษฐศาสตร์แม่บท" เมื่อฟองสบู่เศรษฐกิจแตกดังโพละ เราเสียบริษัทหลายหมื่นหลายแสน คนตกงานเป็นล้าน แต่เราก็ ซาบซึ้ง "เศรษฐกิจ พอเพียง"

เราแจ่มชัดไม่สงสัย อยากรวยโอกาสซวยมีทุกเมื่อ

จงดำรงชีวิต "ประหยัด!"

วันนี้เราจะเรียนทฤษฎีการต่อสู้ มิใช่แบบกองโจร หรืออเมริกันแสตนดาร์ด แต่เป็น "วิถีของพุทธธรรม"

ผู้นำของโลก เขากำลังบ้าอำนาจ บ้างทำด้วยความโลภ บ้างด้วยโกรธ บ้างด้วยสำคัญผิด (โมหะ) ผู้นำบางคน ไม่ทำก็อยู่ไม่ได้ เพราะ ประชาชน เขาจะเอาอย่างนั้น

แก้ปัญหาด้วยวิถีทางที่เป็นอยู่ ก็มีแต่เข้าทางปืนของซาตานเท่านั้น นี่แหละมือที่ ๓ ขนานแท้!

อยากจะสรุปว่า สุดยอดแห่งการกอบกู้โลก ต้องใช้คาถาวิเศษที่ว่า "อดทน - รอคอย - ให้อภัย..."

(อ่านต่อ ตอน ๒)

*(1) ธรรมทาน มี ๓ รูปแบบ ก) กายกรรม ข)วจีกรรม ค) มโนกรรม

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๓๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔)