หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

ฉบับที่ ๑๔๙ ธันวาคม ๒๕๔๕


ผู้ชายนะยะ
ไม่ต้องบอกว่าเป็นผู้หญิงนะยะหรอกนะ ดิฉันรู้สึกหงุดหงิดมากกับข่าวพวกผู้ชายเพี้ยนเพศ เรียกร้องสิทธิ แต่งเครื่องแบบ นิสิตนักศึกษาหญิง ไปเรียนหนังสือ โธ่เอ๋ย เรียนสูงระดับ อุดมศึกษา แล้วยังไม่มีปัญญา คิดว่าเรียกร้องสิ่งที่ฝ่าฝืนระเบียบ ที่ตนเองยอมรับรู้ รับปฏิบัติมาแล้วแต่แรกเข้าเป็นนิสิตนักศึกษาน้องใหม่ พอแก่แดดเข้าหน่อย อุตริคิดนอกรีต นอกรอย คนไม่รักษาวินัยในวันนี้จะเป็นผู้ใหญ่มีวินัยในวันหน้าได้อย่างไร ครูบาอาจารย์ บางสถาบัน และพวกนักสิทธิมนุษยชน สุดโต่งบางคน ก็บูชาสิทธิเสรีภาพจนไร้ขอบเขต เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย
* อดีตนักศึกษา (เฒ่า) กทม.
- พวกสติเฟื่องบางคนอาจเลอะเลือนไปว่าสิทธินั้นหนอ มีหน้าที่เป็นกรอบกำกับ หน้าที่ต้องปฏิบัติ ตามระเบียบข้อบังคับ ของสถาบันการศึกษา ตัวบทกฎหมายของชาติไงครับ สังคมใด คนใช้สิทธิไร้ขอบเขต ก็จะกลายเป็น สังคมไร้ระบบ ระเบียบกติกา คนด้อยโอกาส คนอ่อนแอ ก็จะถูกย่ำยีเอารัด เอาเปรียบ คนเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว ที่คิดแต่จะเอา จนไม่รู้จักให้นั้น เป็นภัยสังคมร้ายแรงยิ่งนัก ดูนักการเมือง และข้าราชการขี้ฉ้อ ที่ก่อเรื่องฉาว น่าอัปยศอดสู ก็แล้วกัน ทั้งที่อาสา มารับใช้ ประชาชน และเป็นข้าราชการ ในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว แต่ก็ยังทำชั่วช้าได้สนิทใจ แม้มีพระพุทธรูปเต็มบ้าน แขวนพระเต็มคอ แต่ไม่มีศาสนา อยู่ในใจ ก็ย่อมเป็นไปได้ อย่างนี้แหละครับ

กรรมอันน่ารังเกียจ
แรกๆ ที่ทางการจะกวดขันการพูดโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ผมคนหนึ่งที่คัดค้านสุดตัว เพราะเห็นว่า ล่วงละเมิด สิทธิส่วนตัว กันมากเกินไปหน่อย ผมเองขับรถ พูดโทรศัพท์ เป็นปกติวิสัย แต่แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ ผมก็ถึงบางอ้อ เพราะขับรถ ตามรถเก๋งหรู คันหนึ่ง หนุ่มขับ สาวน้อยนั่งเคียง รถคลาน ไปเรื่อยๆ ทั้งที่ทางข้างหน้าว่างตลอด ผมจะแซงก็ไม่ได้ เพราะช่อง ทางซ้ายขวา มีรถแล่นฉิวไม่ ขาดสาย จนกระทั่งติดไฟแดง ที่สี่แยกลำสาลี จึงประจักษ์ตาว่า เขาขับรถพูดโทรศัพท์ นับแต่นั้นมา ผมเลิกขับรถ พูดโทรศัพท์ได้เด็ดขาด นึกย้อนหลังไป ก็ไม่วายนึกรังเกียจตัวเอง เหมือนที่รังเกียจเจ้าหนุ่มคนนั้น
* สมาชิกเก่าแก่ กทม.
- กว่าคนจะมีปัญญาเห็นกรรมอันน่ารังเกียจของตนเองได้มิใช่ง่ายเลยครับ นี่ไงครับ เรียกว่า คิดใหม่ทำใหม่ของแท้ เต็มร้อย ไม่เสียที ที่เก่าและแก่ ขอให้อยู่ดีกินดีไปดีเถอะครับ

ง่ายจัง
ฉบับที่ ๑๔๗ ครบรอบ ๘ ปี เห็นปกหลังแล้ว สะดุดตาสะดุดใจ ลงโฆษณา พรรคไทยรักไทย เต็มหน้า แสดงว่า "เราคิดอะไร" ติดตามท่าน มหาจำลอง ไปร่วมหอห้องกับ ไทยรักไทยแล้ว ใช่ไหม
* อิสรชน ไทยรักไทยจริง สมุทรปราการ
- รักนวลสงวนตัวอยู่มาได้ตั้ง ๘ ปี จะเสียทีพลาดท่าเสียจุดยืนปลอดพรรคฝักฝ่ายง่ายดาย ถึงปานนั้นเชียวหรือ ตีศอก เข้าเต็มดั้งแบบนี้ ก็ขอศอกกลับเข้าทัดดอกไม้สักเป้งเหอะนะ บ.ก.ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังธรรม หรือ พรรคไทยรักไทย และไม่คิดจะเป็น แค่ลงโฆษณา นานทีปีหน ไม่น่าคิดลึกเลยนะ รู้ไหมเอ่ย ต้นทุนค่าพิมพ์ ตกเล่มละ ๑๗.๕๐ ส่งให้ผู้ขาย เล่มละ ๑๕ บ้าไหมล่ะ ราคาหน้าปก ๒๕ ผู้ขายได้เล่มละ ๑๐ "เราคิดอะไร" อยู่ได้เพราะคนเขียน ไม่คิดค่าเรื่อง คนทำไม่คิด ค่าแรง มีสมาชิกประจำค้ำจุน และครบรอบปีหนหนึ่ง ก็ได้เงินก้อน จากค่าโฆษณา มาต่อลมหายใจ พออยู่รอดไป ปีต่อปี แบบนี้แหละ หากท่านผู้ใดสนใจ จะเป็นผู้จำหน่าย ก็อย่าชักช้านะครับ จัดส่งถึงที่

คนกินปุ๋ย ปุ๋ยกินคน
กรณีปุ๋ยปลอม เลขานุการ รมว.เกษตรบอกว่าตนบริสุทธิ์ เพราะทำหน้าที่ เพียงไปรษณีย์ รับเรื่องจากฝ่ายราชการ ส่ง รมว. ... ทำไมข้าราชการ จึงชั่วช้า แสวงหาประโยชน์จากชาวนา ซึ่งเดือดร้อนอยู่แล้วได้ ช่างไม่ดูแบบอย่างที่ดีเช่นนักการเมือง หรือ บ.ก.ว่าไง
* เทพไพร ปัตตานี
- ความจริงเขาก็ดูแบบอย่างนักการเมืองน่ะแหละ หรือไม่จริงก็ว่ามา

ติดทั้งเหล้าทั้งเบียร์
หนังสือดีมีให้อ่าน หนังสือที่ส่งมาให้เราอ่านเป็นประจำจนพูดได้ว่าเป็นแฟนกันอย่างเหนียว- แน่นคือหนังสือ "เราคิดอะไร" นับเป็นหนังสือ ที่มีสาระ ออกเป็นรายเดือน ซึ่งคณะผู้จัดทำ ไม่ได้หวังผลกำไร เป็นเงินทอง จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ ดูเหมือนจะอยู่ที่ คอลัมน์ คนบ้านนอกบอกกล่าว โดยจำลอง จะจำลองไหนเสียอีก ก็จำลอง ศรีเมือง นั่นเอง ฉบับ ประจำเดือน พฤศจิกายน ผู้เขียน (จำลอง) เขียนไว้น่าสนใจ จนอดเอามาบอกต่อไม่ได้ บางตอนของบทความ ว่าไว้ดังนี้ ไม่เคยมีใคร คาดมาก่อนว่า คนบ้านนอก จะติดเบียร์ นายทุนหัวใส ผลิตเบียร์ยี่ห้อใหม่ ขายควบกับเหล้าขาว ที่ติดอยู่ก่อนแล้ว เลยติดทั้งเหล้า ทั้งเบียร์
* จากคอลัมน์ ปลายนิ้ว "นายกำแหง" เดลินิวส์
- อีกอย่างหนึ่งครับ ติดเครื่องดื่มชูกำลังมหาประลัยด้วย

แว้งที่รัก
ผมเป็นคนใต้ อ่านเรื่องแว้งที่รักตอนจบแล้ว ประทับใจที่เรื่องนี้ถ่ายทอดวิถีชีวิตชาวใต้ได้ดีมาก คนเขียนคงเป็นชาวใต้ แน่เลย ไม่งั้น ไม่รู้ลึกซึ้ง แบบนี้หรอก อยากให้พิมพ์เป็นเล่ม และขอให้ เขียนเรื่องให้อ่านต่อไปอีก คนเขียนเป็นใคร บอกหน่อยได้ไหม
* ผู้อ่าน ชาวใต้
- ใช่เลย คนเขียนเป็นชาวใต้ ไม่ได้พูดเล่นหรอก เป็นชาวใต้ฟ้าเมืองไทยน่ะ ส่วนเป็นใคร บอกไม่ได้ เพราะไม่ได้รับฉันทานุมัติ เดี๋ยวโดนฟ้อง เรียกค่าโง่แบบที่เขาฟ้องร้องกันอยู่อุตลุดไง แว่วว่า มีผู้ขอพิมพ์รวมเล่ม คืบหน้าอย่างไร จะลงโฆษณาให้ฟรีใน "เราคิดอะไร" ติดตามอ่าน ไปเรื่อยๆ อย่าได้ขาดนะครับ โธ่ ไม่ได้หลอกให้หลวมตัว หรอกน่า

นัย
ความนัยของนกกระจาบ โผบินมา... นกกระจาบ กระซิบกระซาบ บนพรมหญ้าเขียว เกาะโคนหญ้าเจ้าชู้ จำนรรจ์ สำเนียง ถลาบินไป... มีใครรู้เลย เจ้าสุขทุกข์ร้อนหรือไร!?!
* ไศล ภูลี้ บุรีรัมย์
- กระซิบกระซาบเฉลยความนัยสักหน่อยได้ไหม เจ้านกกระจาบเอย บัดนี้เจ้า กำลังระเริงอยู่ใน กระทะน้ำมัน ร้อนฉ่า ณ ครัวสวนอาหารแห่งใด

ไปตามสาย
ผมส่งบทกวีมาร่วมงานด้วย ๕ เรื่อง คือ ธกส. พัฒนาสังคม และความมั่นคง ของมนุษย์ ลอย กระทง ลงทะเล สยามเมืองยิ้ม เจริญธรรม อโศก แล้วแต่จะจัดการเถอะครับ
* ทิวเรือง ไทยเขียว ชัยนาท
- คุณน้อมคำ อิสรา เห็นว่าเนื้อหาธรรมะเข้มข้นสมควรลงในสารอโศกอย่างยิ่ง จึงส่งต่อไป ตามสายงานแล้วครับ ขอบคุณครับ ที่เอื้ออาทร "เราคิดอะไร" ตลอดมา

อธิษฐานกระทง
กระทงน้อยลอยล่องท้องธารา
ด้วยบุปผาหลากสีมีกลิ่นหอม
มะลิขาวพราวอยู่คู่พยอม
กุหลาบล้อมเรียงไว้ได้พอดี
กลิ่นควันธูปเทียนสว่างกระจ่างศรสรี
ประทีปมีจันทร์ฉายในยามนี้
ขอกุศลผลสร้างกลางวารี
ให้จงมีสุขใจใต้จันทร์เพ็ญ
* หนุ่มกรุง
- กระทงน้อยลอยคว้างอยู่กลางน้ำ
ดังตอกย้ำความจริงแท้ให้แง่คิด
กระทงไร้หางเสือนำทางทิศ
เปรียบชีวิตไร้ศีลสิ้นทางธรรม
บรรณาธิการ

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๙ ธันวาคม ๒๕๔๕)