หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

วิถีอันธพาลหลุดโลก
* วิมุตตินันทะ

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อผู้นำค่ายประชาธิปไตยอย่างอเมริกา ไม่ยอมฟังเสียงมติส่วนใหญ่ ของสหประชาชาติ ทั้งที่เป็น หัวเรือใหญ่ในการก่อตั้งองค์การ เช่นเดียวกับอังกฤษ ที่มักถูกยกอ้าง เป็นแม่แบบ ประชาธิปไตย มาถึงวันนี้กลายพันธุ์รวมหัวร่วมแก๊งนอกคอกยูเอ็นเอาดื้อๆ ใครจะทำไม! ประชาธิปไตย ตามใจกู สูตรนี้เกิดผ่าเหล่า ขึ้นมาได้ยังไง สามัญสำนึกของคนเมืองผู้ดี หล่นหาย ไปไหนหมด

วิสัยนกรู้อย่างอีเหยี่ยวมะกัน พอเห็นว่าเสียงส่วนใหญ่ในคณะมนตรีความมั่นคง ต่างไม่ยอมเล่นด้วย แถมต่อให้ หาพวกผ่านไฟเขียว เพื่อลุยอิรักได้ อเมริกันผู้กระหายสงคราม ยังต้องเจอตอ จากการใช้สิทธิ ยับยั้ง โดยฝรั่งเศส และรัสเซียอีก เมื่อชัดเจนว่าหมดทาง ป่วยการที่จะขอมติจากยูเอ็น นายบุชน้อย ก็ไม่ยอมฟังเสียง ประชาคมโลก ต่อไป จัดแจงประกาศเปิดฉากถล่มอิรัก โดยมีอังกฤษ เป็นคู่หูสำคัญ ร่วมก๊วนด้วย บทหมาป่า พันธุ์แท้ กับลูกแกะ ในนิทานอีสป นับว่าทันสมัย โลกได้เห็นพันธุ์ตัวจริงเสียงจริง แม้ไม่ต้องโคลนนิ่ง แต่สืบทอด เชื้อสาย ได้ร้ายกาจมาก

นี่แหละ คือผู้นำบุช เขาคงถือว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม ขณะเดียวกันเขาคงจะถือตัวยโสโอหัง กระทั่งหลงตัว ประหนึ่งว่า ยูเอสเป็นพ่อของใครๆ ไปทั่วโลกประมาณนั้น ถึงขนาดสั่งให้หันซ้ายหันขวา กันได้ไม่ใช่น้อย สำหรับไทยเรา ก็อาจถือว่า ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม เพราะผมเข้าข้างยูเอ็นต่างหาก แต่ประหลาดที่ขับทูตอิรักไป ๓ คน ตามใบสั่งใครไม่รู้ เลยไม่แน่ใจว่าไทยเป็น ๑ ในประเทศอีแอบ ๑๕ ชาติที่หนุนเมริกา โดยไม่เปิดเผยตัว หรือเปล่า.......(เฮ)

นับว่าเสียดายโอกาส ที่ไทยไม่กล้าประกาศจุดยืน อันสร้างสรร ให้ชัดแจ้งบนเวทีโลก อาจเป็นเพราะ ไม่มีวิสัยทัศน์พอ ที่จะคิดใหม่ ทำใหม่นอกจากเอาตัวรอด หรือมัวแต่ตามหลังใครต้อยๆ มานานนม จนเคยชิน ช่างแตกต่าง จากประเทศเพื่อนบ้านเล็กๆ เช่น มาเลเซีย ซึ่งผู้นำมีความกล้าหาญ ทางจริยธรรม เพียงพอ ดังเช่น ถ้อยแถลงของ มหาเธย์เร็วๆ นี้ประกาศผ่าเปรี้ยงลงไปเลยว่า การรุกรานอิรัก เป็นการกระทำ ของ 'อันธพาล จักรพรรดินิยมขี้ขลาด' ซึ่งจะนำไปสู่ระบบเผด็จกา รของรัฐบาลหุ่น

นี่เป็นการกระทำของนักล่าเมืองขึ้น ซึ่งยังต้องการควบคุมโลก ถ้าประเทศไหนแข็งแกร่ง พวกเขา ก็ไม่โจมตี เป็นการกระทำ ของพวกขี้ขลาด ตาขาว เป็นทัศนะแบบนักเลงโต" (ไทยโพสต์ ๒๕ มี.ค. ๔๖)

ในขณะที่มหาโจร เอ๊ย มหาอำนาจอเมริกาอุตส่าห์ลงทุนขี่ช้างจับยุงตัวเดียว เพียงอ้างจะขับไล่ ซัดดัม ให้พ้นจากอิรัก สงครามถล่มอิรัก ซึ่งเริ่มไปหลายวันแล้ว คงจะยืดเยื้อ และไม่ง่ายดังฝัน ถึงกระนั้น ใครๆ ต่างเชื่อว่า น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ในที่สุด ไหนๆ เมื่อมีพวกบ้า ทุ่มโถมหมดตัว ด้วยชีวิตผู้คน และ สรรพกำลัง มหาศาลประดามี เพื่อทำลายล้างอิรักให้พินาศย่อยยับ จนยอมแพ้ให้จงได้ งานป่าเถื่อน ที่ต้องจ่ายค่าโง่ มโหฬารพันลึก ขนาดนี้ ไม่ใช่ของเล่นๆ ดังนั้นมันควรจะเป็นจุดหักเหของโฉมหน้าโลกต่อไป อย่างไรบ้าง ท่านว่าคนโง่ๆ พรรค์นี้แหละ จะเป็นครูสอนนักปราญ์ ให้ฉลาดแท้จริงยิ่งๆ ขึ้น

อุทาหรณ์อันสะท้อนให้เห็นสัจธรรมสำคัญ ซึ่งน่าจะยกขึ้นมาตอกย้ำสำนึกดีสำหรับผู้มีสติ และ หิริโอตตัปปะ ดังเช่น

มหาภัยค้าอาวุธ อาวุธเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บุชน้อย เจริญรอยสิงห์เท็กซัส ย้อนยุคบ้านป่าแดนเถื่อน แต่แทนที่ จะขี่ม้ายิงปืน เดี๋ยวนี้ยิงจรวด ถล่มทางไกล นับพันกิโลเมตร แม่นยังกะจับวาง ยุทธการ อกสั่นขวัญสยอง (Shock and Awe) กระทำไปแล้ว กับกรุงแบกแดด และจะหนักหน่วงยิ่งขึ้น ขนาดไหน คงไม่มีใครขวางทางปืนได้ ยุทโธปกรณ์ ที่ก้าวไกล ด้วยฝีมือธุรกิจ ตัดตอนค้ากำไร ช่วยให้อเมริกาพัฒนา และสะสมอาวุธร้าย ไว้มหาศาล พร้อมใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกระดับขนาด ปล่อยให้ชาติใดชาติหนึ่ง มีแสนยานุภาพ ที่จะปราบใครก็ได้ ให้จมดินไปเลย เมื่อเสี่ยงภัยแบบนี้ เราจะอยู่ด้วยสันติภาพได้อย่าง? เทพีสันติภาพ ยังจะเหลือความหมายอันใด ให้ชื่นชม ความสง่างาม หรือ เสรีภาพฉบับไอ้ปืนโต ใครจะไป เล่นด้วยหนา โลกคงก้าวหน้า มาผิดทาง ตั้งนานแล้วหรือเปล่า.....

ตัวอย่าง หากซัดดัมเป็นภัยก่อการร้าย ก็คงเป็นโจรกระจอกงอกง่อยสิ้นดี ถ้าจะไปเทียบชั้น กับผู้นำ กองทัพ ไฮเทค เช่นอเมริกา ตราบใดการแข่งขันกันสร้างเขี้ยวเล็บ มันไม่มีวันจบ เราคงได้พบเห็น โจรมหากาฬ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างนั้นไหม

อนึ่ง คนถูกสร้างขึ้นมาอุตส่าห์ให้แตกต่างจากสัตว์เสือสิงห์โดยสิ้นเชิง เช่นไม่ติดเขี้ยวแหลมเล็บคม ให้ไว้เลย แต่คนไม่วายอุตริ ต่อเขี้ยวเล็บ จนยาวใหญ่ แสนร้ายกาจ เหลือกำลัง กระทั่งพระเจ้า คงเป็นงง หัวปั่น กับคนที่ ตัวเอง ปั้นขึ้นมากับมือ แล้วกลายพันธุ์ ออกมาแบบนี้ และพระเจ้าที่ไหนหนอ จะกล้าฉลอง ศรัทธา ต่อเสียงร้องขอพร ขอพระเจ้า จงคุ้มครองอเมริกา

สัตว์หน้าขน เราบอกว่าอย่าไปไว้วางใจมันจะโดนขบกัดเอาเมื่อไหร่ไม่รู้ ส่วนคนหน้าเนื้อใจเสือ เรารู้หน้า ไม่รู้ใจ ย่อมลำบาก ถ้าหากถือปืนมาด้วยแน่นอน หนีห่างดีที่สุด

การสะสมอาวุธ จึงจำเป็นสำหรับคนขี้ขลาดหวาดกลัวด้วยหัวขี้โลภ แทนที่เขาจะเห็นทุกข์ โทษฐาน หอบหวง กักตุนเอาไว้ล้นเกิน แล้วหันมา ระบายออกเสียบ้าง เพื่อสร้างมิตรสร้างสังคม ที่เอื้ออาทร แบ่งปัน ความสุข เมื่อไม่รู้จักบุญบาป ไม่ยอมแก้ต้นเหตุ คนย่อมวุ่นวาย ยุ่งยากยิ่งกว่าสัตว์มีระดับ อย่างช้าง ม้าลิงนก ซึ่งมันรู้จัก รวมตัวกันอยู่เป็นฝูง โดยไม่ต้องกินเลือด เนื้อเถือหนังใครเลย

ในกรณีของอิรัก มันยังไม่ประจักษ์ว่าได้สะสมอาวุธเคมีหรือชีวภาพ จริงแท้แค่ไหน ทั้งไม่เคยมีหลักฐานว่า ได้เอาไปใช้ กับใครที่ไหนบ้าง โดยยูเอ็นกำลังตรวจอย่างเต็มที่ เพื่อปลดอาวุธร้ายดังกล่าว ซึ่งคั่งค้างอยู่ด้วย เสร็จแล้ว อีกฝ่ายหนึ่ง อเมริกาเอง ขณะที่เพียบพร้อมด้วยอาวุธ นานามหาประลัย นำหน้าจนใครๆ ตามไม่ทัน บนความจริง เฉพาะหน้าปัจจุบัน เช่นนี้ ไม่รู้ว่าโลกกำลังเสี่ยงภัย จากข้างไหน มากกว่ากันเอ่ย... ซัดดัม หรือบุช ?

การกดดันให้อิรักปลดอาวุธเพียงลำพังฝ่ายเดียว ย่อมไม่พอที่จะประกันความปลอดภัยของโลกทั้งมวล จึงไม่แปลก หากฝ่ายต่อต้าน สงครามอิรัก จะเรียกร้องให้อเมริกานั่นแหละ ช่วยปลดอาวุธ ตัวเองบ้าง ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ไหนๆ จะยกตัวเป็นผู้นำโลกทั้งที สิ่งดีๆ ไยไม่รู้จักทำนำหน้าก่อน ให้เห็นเป็น ตัวอย่างดีเด่น

เรื่องอาวุธคงลดไม่ลง เพราะธุรกิจค้าอาวุธมันทำเงินมหาศาลเหลือเกิน จนกลายเป็นเส้นเลือดหลัก ไปแล้ว

ยิ่งอเมริกาเก่งกาจพัฒนาอาวุธเศรษฐีมีระดับได้เหลือร้ายสูงส่งเท่าไร ยิ่งยั่วยุให้อาวุธคนจน ด้วยเคมี ชีวภาพ เป็นทางแก้ลำ ตามแข่งไปให้จงได้ ยากที่จะปิดกั้นไว้อยู่

สมมติครั้นจะเพ้อฝันให้วิเศษเจิดจ้า อเมริกา นั่นแหละจะต้องปลดอาวุธ เช่นนิวเคลียร์คนรวย ถึงจะช่วย ให้นิวเคลียร์ คนจน ไม่แข่งขันกัน แจ้งเกิดขึ้นมา ได้ง่ายๆ

ตรรกะนี้ลัทธิบุชจะมีวิสัยทัศน์อาจเข้าใจได้เพียงใดเมื่อไหร่หนอ ...

ระดับโลกเทวดาเดินดินเหินฟ้าทุนนิยมวัตถุนิยมทั้งหลาย ต่างจะแบ่งค่ายทำลายล้างกันไม่เสร็จ เมื่อไม่มีใคร ไปห้ามมวย ช่วยหยุดไม่ไหว คงต้องวางใจอุเบกขา สิทธิสัตวชน ของสัตวโลก ต่างย่อมมีสิทธิ ทำเลวร้ายได้ ตามมิจฉาทิฐิ อวิชชา ตัณหาพาเป็นไป บุญใครบาปมัน ตามกรรมที่เลือกทำ

สำหรับลัทธิพุทธสุดทันสมัย เพราะบัญญัติไว้เรียบร้อย คือการค้าอาวุธ การค้ายาพิษ ล้วนต้องห้าม เด็ดขาด ในมิจฉาวณิชชา ๕

เมืองไทยตลอด ๕๐ ปีที่แล้วมา เราหลงบ้าซื้ออาวุธทั้งรถถัง จนถึงฝูงบินขับไล่ ไม่รู้จะไปรบกับใคร เพื่อนบ้าน ล้วนแต่จนๆ ทั้งนั้น สุดท้าย ไม่วายกลายเป็นของซ้อมมือเล่น และเศษเหล็ก หรือ ลูกระเบิด น้อยใหญ่ มันเหลือใช้นัก เก็บไว้วันร้ายคืนร้าย ตูมตามโทษทันตาเห็น

ส่วนอาวุธเคมี อย่างที่อเมริกาจี้ไชสงสัยอิรัก ไทยเราห่างไกลจากภัยสูตรซัดคนชักดิ้นชักงอ ตายแบบนั้น แต่อย่ามองข้าม ยาพิษเคมี ฆ่าแมลงฆ่าหญ้า ทั้งหลายแหล่ ทั้งพืชสัตว์สิ่งแวดล้อม กระทั่งถึงคน จนชาวสวน ตายผ่อนส่ง และหายงง เมื่อแม่หม้ายเป็นแถว ไม่ต้องนับอาหารพิษก่อมะเร็ง ทั่วไทย อีกต่างหาก

เมื่อไหร่รัฐบาลไทย จะปลดอาวุธเคมีร้ายแรงเสียบ้าง...

ใครว่าคนรวยทำอะไรไม่น่าเกลียด หรือเงินหนาอาจปิดปากหลายคนได้ แต่คงไม่จริงนัก ในกรณีบุชน้อย นำก๊วนบุ่มบ่าม ลุยถล่มอิรัก พิเคราะห์ตามสถานการณ์ ดูไม่เห็นเหตุจำเป็น เพียงพอ ที่จะต้องใช้ มาตรการ รุนแรงนั้น ทั้งไม่ถึงกาละรีบด่วน อะไรนักหนา ยิ่งลงทุน ถึงขนาดไม่สน ฉันทานุมัติ จากยูเอ็น ยิ่งรับไม่ได้ ใหญ่เลย

จากสงครามที่เปิดฉากโดยพลการกันไปแล้ว ประชาคมโลก จะทำอย่างไรกันดีล่ะ และไม่ว่าอเมริกา จะชนะ หรือไม่ก็ตาม จะปล่อยให้สหประชาชาติ ต้องล้มไป เหมือนสันนิบาตชาติ ในอดีต สังคมโลก คงไม่มีอะไรดีขึ้น

อย่างไรเสียการรวมกลุ่มตามภูมิภาคต่างๆเพื่อพึ่งพากันใกล้ชิดลึกซึ้งยิ่งขึ้น จะเป็นพลังสร้างสรร ที่มีความหมาย สำคัญ อย่างน้อยๆ คงจะป้องกันภัยหมาป่า ได้ดีกว่าโดดเดี่ยว หรือแตกแยก ตัวใครตัวมัน

ในขณะที่วิถีพาลใช้อำนาจเป็นธรรม การรวมพลังแผ่นดินตามวิถีพุทธ ย่อมสร้างธรรม ให้เป็นอำนาจ

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๓ เมษายน ๒๕๔๖)