>เราคิดอะไร


- ฟอด เทพสุรินทร์ -

หวยใต้ดิน พาจมดิน

บ้านทรงสูงปลูกสร้างมายี่สิบกว่าปี หลังคามุงด้วยสังกะสีที่ขึ้นสนิมจนออกสีน้ำตาลไปทั่ว ฝาไม้ล้อมรอบ บานประตูหน้าต่าง ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกสานเป็นสี่เหลี่ยมแนบด้วยใบตองปิดเอาไว้ รอบระเบียงเอาไม้ไผ่มาทำ เป็นลูกกรง หัวบันได ที่พาดขึ้นบ้านมีเชือกผูกเอาไว้ เพื่อจะได้ดันแม่บันได ให้ออกไปตั้งพ้นจากตัวบ้าน ในเวลากลางคืน กันสุนัข ที่ชอบปีนขึ้นไปนอน บนระเบียงบ้าน

ที่ต้นมะม่วงใหญ่หน้าบ้าน มีเศษไม้ฝายาวศอกกว่าๆ ตอกติดไว้พร้อมตัวหนังสือที่เขียนด้วยถ่านสีดำ "ร้านลมโชยเกศา" มันเป็นฝีมือของเด็กวัยรุ่นที่มาคอยตัดผมคิดทำเล่นสนุกๆ กัน แต่ก็ดูดี เลยปล่อยไว้เช่นนั้น หลายวันเข้า ลูกค้าที่มาตัดผม ได้นำไปพูดต่อๆ กันไป จนชาวบ้านต่างพากันพูดว่า "ไปตัดผม ที่ร้าน ลมโชยเกศามา"

ลุงทองวัย ๖๕ ปี เป็นช่างตัดผมประจำหมู่บ้านมาตั้งแต่วัยหนุ่ม ด้วยเครื่องมือที่มีแค่ปัตตาเลี่ยนมือ หรือชาวบ้าน เรียกว่า ตองเดอ กรรไกรซอย กรรไกรตัดผม มีดโกนและเก้าอี้ไม้สี่ขาที่พับได้ ที่รองนั่ง เป็นผ้าชนิดหนาสองชั้น ตีติดไว้ พร้อมทำเป็นกระเป๋า เก็บผ้าคลุมไว้ เมื่อเก็บพับเก้าอี้

ลมโชยพัดมาเย็นสบายเพราะใกล้จะถึงฤดูการทำนา เศษใบไม้ผุๆ ที่ปิดอยู่ตรงหน้าต่างทยอยปลิวลงมา ใบไม้ ที่แนบปิดอยู่ ที่หน้าต่าง คงจะหมดอายุ การใช้งาน เห็นทีจะต้องเข้าป่า ไปหาใบตองสาดตองกุง มาแนบ เปลี่ยนใหม่ ได้แล้ว แต่ถ้าหวยงวดนี้ ออกมาตรงกับ เลขที่ซื้อละก็ ข้าจะไปซื้อบานประตูหน้าต่างไม้ อย่างดี มาใส่ ให้มันถาวรไปเลย มันเป็นความคิดที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ของลุงทอง ที่หวังได้เงิน จากการซื้อหวยใต้ดิน

การพนันหวยใต้ดินได้ซึมซับเข้าไปอยู่เหนือจิตใจของลุงทองมานานตั้งแต่วัยหนุ่ม และช่วงก่อนวันหวยจะออก ชาวบ้าน ที่มาเข้าคิว รอตัดผม ก็จะพูดคุยกันแต่เรื่องหวยใต้ดิน กันอย่างไม่รู้จบ

ทิดสีเพื่อนบ้านวัยเดียวกันกับลุงทอง ที่กำลังคลุมผ้าขาวนั่งตัดผมอยู่พูดถึงเลขเด็ดที่ได้มา

"เมื่อเช้านี้ข้าเอาอาหารไปถวายพระธุดงค์ที่ท่านจาริกมาปักกลดอยู่ท้ายหมู่บ้าน ท่านได้ใบ้หวยว่า เมื่อคืนนี้ อาตมาฝันว่า ได้ฉันไข่ไก่ สองฟอง ข้าคิดว่าเลขเก้าสองศูนย์แน่เลย"

ลุงทองยิ้มดีใจที่เลขจากพระธุดงค์มาตรงกับเลขของตนที่ได้มา

"ข้าก็ไปเอาเลขมาเมื่อคืนนี้ตรงกันพอดี"

ทิดสีหูผึ่ง "แกไปเอามาจากที่ไหน"

ลุงทองหยุดจากตัดผม ยืนพูดอย่างจริงจัง "ก็เมื่อคืนนี้ข้าไปขอเลขจากต้นโพธิ์ในป่าช้า(เพราะความอยากจะรวย ลุงทองจึงลืม เรื่องกลัวผี) ข้าเอา ดอกไม้ห้าคู่ ธูปเทียนห้าคู่ จานสังกะสีใบ (ชาวบ้านเรียวกว่าขันห้า) พอไปถึง ต้นโพธิ์ ข้าก็นั่งลงกราบ แล้วยกขันห้าขึ้นขอ ท่านเทวดาอารักษ์ ที่ได้สิงสถิตอยู่ในต้นโพธิ์ใหญ่แห่งนี้ ได้โปรด สงสารลูกหลาน ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ลำบากลำบน ต้องทำงาน หามรุ่ง หามค่ำ อยู่ทุกวี่ทุกวัน ขอให้ท่าน ได้บอกเลขท้ายสามตัว ของรางวัลที่หนึ่งให้ด้วย หากลูกหลาน ถูกรางวัลงวดนี้ ลูกหลาน จะนำหัวหมู ที่อร่อยๆ พร้อมเหล้าอย่างดี มาถวายท่าน หากว่าท่านให้เลขลูกหลานถูกถึงเจ็ดงวด จะจ้างหมอลำคณะใหญ่ มาแสดง ที่ทุ่งนา หน้าป่าช้า ถวายท่าน แล้วข้าก็เอามีดถากต้นโพธิ์ จุดเทียนลนแผลเปลือกไม้ตรงที่ถาก พอเปลวไฟ จากเทียน ก็จะไหม้เส้นใยเปลือกไม้แล้ว ตัวเลขก็ออกมา เมื่อคืนนี้ ๙๒๐ ข้าเห็นชัดเจนเลย" ลุงทอง มองไปที่บ้าน งวดนี้แหละ บานหน้าต่าง บานประตูใหญ่ พร้อมลูกกรงหน้าระเบียง คงได้มาครบแน่

ถึงวันหวยออกชาวบ้านคุ้มเหนือคุ้มใต้ต่างออกมาจับกลุ่มถามหาเลขเด็ดกันจอแจ เลขของอาจารย์โกย อาจารย์เกลี้ยง จากต้นกล้วย ที่ออกปลีกลางลำต้น มีมากหลายที่จะเลือกซื้อวัดดวงกัน

ลุงทองกำลังตัดผมให้ลูกค้าอยู่ เจ้ามือรายเก่าที่มาขายหวยใต้ดินให้ประจำก็มานั่งรอ "เงินที่คางอยู่ ๗๐๐ นั้น ลุงขอ ค้างไว้ก่อน งวดหน้าจะจ่ายให้นะ"

เจ้ามือพยักหน้ายอมให้ค้าง เพราะรู้ดีว่าลุงทองเป็นคนซื่อตรงมาตลอด

"สามตัว ๙๒๐ หนึ่งพันบาท สองตัว ๒๐ ห้าร้อยบาท" ลุงทองยื่นเงินสดพันห้าร้อยบาทให้เจ้ามือ ในใจคิดอยากซื้อ ให้มากกว่านั้น แต่เงินสดลุงทองมีเท่านั้นเอง

บ่ายสามโมงกว่า ลูกค้าที่มาเข้าคิวรอตัดผมยังนั่งอยู่สลอน วิทยุเครื่องเก่าแต่เสียงยังฟังได้ชัดแจ๋ว เปิดรับ การถ่ายทอด การออกฉลาก ของรัฐบาล ดังอยู่ตลอด "ต่อไปจะเป็นการออกรางวัลที่ ๑ เลขที่ออก ๒๕๐๔๙๒๑"

ลุงทองหน้าซีดจ๋อยหันไปดื่มน้ำจากไหดินปั้นที่ตั้งอยู่บนแคร่ใต้ต้นมะม่วง ลมพัดเศษใบไม้ผุๆ ที่แนบอยู่บน หน้าต่าง ปลิวผ่านไป ลุงทองมองขึ้นไปดู เห็นรูใบไม้ผุๆ อยู่ตั้งหลายรู หากฝนตก มันคงสาดเข้าในบ้านแน่

"พรุ่งนี้ตอนเช้า ลุงจะเข้าป่าหาใบตองมาซ่อมบานประตูหน้าต่าง หากใครจะมาตัดผมให้มาตอนบ่ายก็แล้วกัน" เป็นการบอก ผ่านลูกค้า ที่กำลังรอตัดผม ไปถึงชาวบ้าน ที่จะมาตัดผม ในวันพรุ่ง

ลูกลุงทองมีถึง ๕ คน แต่ไม่มีใครอยู่กับพ่อแม่สักคน เพราะลุงทองแกชอบซื้อหวยใต้ดิน เงินที่หามาได้เท่าไหร่ ก็ทุ่มซื้อ หวยใต้ดิน จนหมด เป็นเหตุ ให้ความนึกคิด ที่จะไปทำกิจการค้าขายอย่างอื่นๆ จึงถูกปิดกั้นไป ลูกทุกคน จึงต้อง พากันเข้าไปทำงาน ในเมืองกรุง หาเงินด้วยแรงกาย ของตนเป็นทุน และมีครอบครัวปักหลักทำมาค้าขาย อยู่ที่ ต่างจังหวัด แม้ลูกๆ ทุกคน จะทยอยส่งเงินมา ให้พ่อแม่ได้ใช้อยู่บ้าง แต่เงินส่วนใหญ่ ลุงทอง จะเอาไป ทุ่มซื้อหวย จนหมด

ไผ่สานแผ่นแรกเอาใบตองแผ่นใหญ่หนามาแนบจนเต็มแล้วเอาไผ่สานอีกแผ่นทับเอาตอกมัดนำขึ้นไปปิดหน้าต่าง แทนอันเก่า จนแล้วเสร็จ ลูกค้าก็ทยอยมาตัดผมลุงทองยืนประจำ ที่ใต้ต้นมะม่วง แต่บ่ายจรดค่ำ

ลุงทองกินข้าวมื้อเย็นอิ่มแล้ว ขยับไปนั่งพิงพักที่ต้นเสา รู้สึกว่าวันนี้จะมีอาการเหนื่อยกว่าทุกวัน ที่เคยทน ยืนตัดผมมา ลุงทอง ล้มตัวลงนอนพัก เอามือก่ายหน้าผาก

"แล้วเราจะคิดทำงานตัดผมหาเงินไปกันอีกสักกี่ปีถึงจะได้หยุดพักกันเสียที ข้าราชการพออายุ ๖๐ ปี เขาก็เกษียณ อายุไปพัก ชาวนาในหมู่บ้าน พออายุใกล้จะหกสิบ ก็พากันเกษียณหยุดการงานทำไร่ไถนา หันไป ทำงานเบาๆ ในบ้าน และมอบหมาย งานต่างๆ ให้ลูกๆ ไปทำต่อกัน" เป็นความคิดที่ใหม่ ที่ลุงทองพึ่งคิดได้

บ้านไม่ได้เช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ มีรายได้เสริมประจำทำติดต่อมาหลายปี หากไม่ติดหวยใต้ดิน เราคงจะมีเงิน ไว้เป็นทุน ไม่น้อย ลูกๆ ทุกคน คงอยู่พร้อมหน้า คงไม่คิดไปหางานทำที่อื่นเป็นแน่ มันเป็นความคิด ที่สายเกินไป เสียแล้ว สำหรับลุงทอง

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๘ กันยายน ๒๕๔๖)