ตำราดูพระภิกษุ
ตำราดูคอร์รับชั่น

อาจารย์ปุ่น จงประเสริฐ ท่านรวบรวมพุทธบัญญัติ คำสั่งสอน ตลอดจน ข้อห้ามต่างๆ ของพระภิกษุในพระ ไตรปิฎก มาพิมพ์เป็นเล่มเผยแพร่

๔๐ กว่าปีที่แล้วมีเสียงร้องเจี๊ยกจ๊าก พระที่ดีต้องไม่ทำอะไรบ้าง ไม่ปลุกเสก ไม่ รดน้ำมนต์ ไม่ทำนายดูดวงดูหมอ ไม่เจิม ไม่ใช้เงิน ฯลฯ (รายละเอียดคงต้องไปหาอ่านเอง)

ประชาชนเริ่มหูตาสว่าง ที่สำคัญว่าพระแท้ที่แท้ก็อลัชชีเดียรถีย์นี่เอง

วงการพระสงฆ์ฮือฮา ฆราวาสร้องอื้อฮือ หลายคนเกลียดอาจารย์ปุ่นเข้ากระดูกดำ หาว่าประจานศาสนา ทั้งๆ ที่คนเรียบเรียงบอกกำลังชี้เนื้อร้าย

การติดอาวุธทางปัญญา มิให้ประชาชนงมงายศรัทธาเนื้องอกพระศานาได้ผลพอสมควร

ไหนๆ ก็มีตำราดูพระ ก็น่าจะมีตำราดูฆราวาสกันบ้าง แบบไหนเรียกคอร์รัปชั่น เรียกทุจริตโกง ทำสำเร็จ ก็มาเรื่องต่อไป แบบไหนเรียกคนดี

เราทำ work shop มามากมาย หวังว่าสักวัน น่าจะมีแนวทางปฏิบัติว่าคนดีต้องมีพฤติกรรมอย่างไร
ก) ชีวิตส่วนตัว
ข) ชีวิตครอบครัว
ค) ชีวิตในที่ทำงาน
ง) ชีวิตกับสังคม อะไรทำนองนี้

ปัจจุบัน เรารณรงค์การทุจริตคอร์รัปชั่น มากมาย รัฐบาลของเป็นหัวหอก แม้สมาชิก ภายในจะปากมอมกันหลายคน ท่านก็พร้อมจะทำ

มองในแง่ดี มือถือสาก ปากถือศีล ย่อม ดีกว่า มือถือสาก ปากก็อมสาก สังคมมี สากกระเบือ ๑ อัน ย่อมดีกว่ามี ๒ อัน เป็นของธรรมดา !

"อย่างไรเรียก 'คอร์รัปชั่น'? " มิใช่ คำถามชวนหัว แต่ขอถามอย่างจริงจัง

ดูเหมือนรู้ แต่เชื่อเถอะไม่ค่อยรู้ !

ถึงรู้ก็รู้แบบหลับๆ ตื่นๆ ภาษาพระท่านว่ารู้แบบเนวสัญญานาสัญญาเวทยิตนิโรธ !

ความดีหลายเรื่อง รู้ระดับมลังเมลืองทั้งนั้น

นักการเมืองหลายคน หลังการสอบตกเลือกตั้ง ท่านพูดปากสั่น "นี่หรือผลตอบแทน ที่ประชาชนให้ข้าพเจ้า ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้า เสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง อดตาหลับขับตานอน เพื่อท่าน?"

แบบนี้ก็ยังไม่รู้จัก "เสียสละ"

ผู้ว่า กทม.คนไหนไม่บอก แต่ท่านบอกเป็นผู้ว่าฯ ต้องเป็นหน้าตาของบ้านเมือง ไปที่ไหน ไม่อายเขา มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ต้องเดินต๊อกๆ ไปล้วงท่อ ไปกวาดถนน เสาร์อาทิตย์ ต้องเป็นเวลาของตัวเอง !

แบบนี้ก็ยังไม่รู้จัก "งานบริหาร" เพราะ งานบริหารย่อมรวมไปถึงการสร้างภาพ การสร้างกำลังใจ ให้แก่คนอื่นเขาด้วย

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาทำตำรา คู่มือการดูพฤติกรรมคอร์รัปชั่น เหมือนหนังสือ สมบัติผู้ดี เราจะแบ่งเป็นระดับ อนุบาล-ประถม-มัธยม และอุดมศึกษา

ระดับต้นๆ จะพูดถึงการคอร์รัปชั่นแบบง่ายๆ เห็นง่ายๆ แต่เมื่อนักเรียนโตขึ้น ก็จะอธิบาย การคอร์รัปชั่นที่ลึกซึ้งแนบเนียนขึ้น จนถึงขั้นมองด้วยตาเปล่าก็ยังไม่เห็น !

คอร์รัปชั่น หมายถึงการทุจริต การเพิ่ม หรือแสวงหารายได้ให้แก่ตัวเองโดยมิชอบ

คอร์รัปชั่น หมายถึง การทำให้ตัวเองมี รายได้ โดยที่คุณพ่อคุณแม่รู้จะตำหนิ หรือต้อง แอบๆ ซ่อนๆ บอกใครไม่ได้

คอร์รัปชั่น หมายถึง การกระทำใดๆ ให้ญาติพี่น้อง หรือหุ้นส่วนของตัวเอง ได้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้น

ยกมา ๓ ความหมาย เพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น หนังสือเรียนต้องเขียนไว้ เด็กก็อธิบาย แบบเด็ก ผู้ใหญ่ก็อธิบายยากขึ้นอีก ซับซ้อนขึ้น

อย่างไรเรียกว่าการทุจริตคอร์รัปชั่น?

) เป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อ ซื้อของ ๑๐๐ บาทให้ทางร้านเขียนใบเสร็จ ๑๒๐ บาท ตัวเองเก็บ ไว้ ๒๐ บาท

) แม่ให้เงินไปซื้อกับข้าว ๕๐ บาท จ่ายไป ๔๕ บาท กลับมาบอกแม่ เงินซื้อ ของหมด แต่ตัวเองเก็บไว้ ๕ บาท

) บอกคุณพ่อ ขอเงินไปจ่ายค่าเทอม ๒,๐๐๐ บาท แท้จริงแค่ ๑,๕๐๐ บาท ตัวเองเก็บไว้ใช้เอง ๕๐๐ บาท

) เป็นฝ่ายจัดซื้อ ให้บริษัทเปิดซองประมูล แต่ตัวเองแอบเปิดซองก่อน แล้วไปบอก บริษัทที่ตัวเองชอบให้เขารู้ว่าบริษัทอื่นประมูลราคาเท่าไหร่

) เป็นฝ่ายจัดซื้อ ทุกสิ้นปีทางบริษัทจะมอบเช็คของขวัญให้ ๑ ใบเป็นสินน้ำใจ

) เป็นรัฐมนตรี ให้หน้าห้องแจกซองกฐินให้แก่ลูกน้องหน่วยงานต่างๆ ไม่บังคับ แต่ต่างก็รู้ว่าต้องทำ

) เป็นผู้ตัดสินการประมูล แต่มีญาติ พี่น้องมาร่วมประมูลด้วย

) ส่งครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศ โดยมีคนไม่ใช่ญาติ ทำตัวเป็นกระเป๋าเงิน ดูแลทุกอย่างให้

หรือจะลึกซึ้งขึ้นไปอีก เช่น

) เป็นนายธนาคาร รู้ว่าลูกหนี้จะมาขอกู้เงินไปเตรียมกักตุนสินค้า แต่ก็อนุมัติ

) หรือปล่อยกู้ให้แก่ลูกหนี้ที่จะเอาเงินไปเล่นการพนันหรือค้าผู้หญิง

) หรือไปทำสัญญากับต่างประเทศ แต่มีผลพลอยได้ในบางเรื่อง เช่น ตัวเอง มีบริษัท ทำเม็ดกวยจี๊ ผลการทำสัญญา คู่กรณีแถมเครื่องมือแกะเม็ดกวยจี๊ให้มา !

การทุจริตคอร์รัปชั่นย่อมโยงไปถึง อย่างไรเรียก ลาภมิควรได้Ž

ลาภมิควรได้Ž หมายถึงสิ่งที่ได้มาอย่างเงียบๆ บอกใครไม่ได้

"ลาภมิควรได้" หมายถึงสิ่งที่ได้มา อันเนื่องจากหน้าที่การงานทั้งทางตรงและทางอ้อม ฯลฯ

รัฐบาลยุค พ.ศ.นี้ มีลูกหลานเพื่อนฝูงเป็นนักธุรกิจมากมาย เอาก้อนหินขว้าง อย่างหลับตา ก็ต้องโดนหัวของหุ้นส่วน ๑ คน ! จึงจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ต้องทำใจว่า รัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมาก็คิดเหมือนๆ กัน เพียงแต่ ความสามารถเชิงธุรกิจมีไม่เท่ากัน

- แจ้งแก่ผู้ประมูล ใครประมูลได้ ต้องจ่าย ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ให้พรรค (ไม่ได้ให้ตัวเอง)

- มีหุ้นอยู่ในบริษัท แต่โอนให้ลูกหลานหมด วันนี้ค่าบริการแพงมาก ทุกคนโจมตี ผู้โอนให้ลูกหลาน ทำไมไม่ลดราคา

- แจ้งแก่ผู้ประมูลที่ชนะ บริจาคให้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ทุกครั้ง ฯลฯ

ยังมีอีกหลายๆ พฤติกรรมที่ซับซ้อน แต่ก็น่าจะนำมาพิจารณาเป็นบรรทัดฐานว่า ใช่หรือไม่?

อะไรที่ใช่จะได้ช่วยกันประณาม ส่วนอะไรที่ไม่ใช่ก็จะได้เลิกโจมตีเสียที

วันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องเขียนแบบเรียนเด็กเล็กถึงเด็กโต อธิบายพฤติกรรมเป็น รูปธรรมว่า อะไรคือโกง อะไรคือคอร์รัปชั่น

คนไทยวันนี้ เขาว่าภาษาไทยอ่อนจะตาย !

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๙ สิงหาคม ๒๕๔๗ -