สิ่งมหัศจรรย์ของนักการเมือง

"เล่อเจิ้งจื่อ" ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่สมัยเดียวกับท่านขงจื๊อ เกิดอาการปิติดีใจจนนอนไม่หลับ เมื่อทราบข่าว นายอำเภอ ท่านหนึ่งจะมาปกครองท้องถิ่นนี้

ลูกศิษย์นึกฉงน นายอำเภอคนนี้มีดีอะไร รวย หล่อ ขุนนางเก่า มีการศึกษา จบจากนอก?

"เล่อเจิ้งจื่อ" โบกมือปฏิเสธและตอบว่าที่ดีใจเพราะเขาเป็นคน "ใจกว้าง"!

"คนใจกว้าง" เหล่าผู้รู้จะแห่กันมาให้ข้อมูล เสนอความเห็นหลากหลาย การบริหารบ้านเมือง ก็จะก้าว กระโดด ผิดกับคนที่สำคัญตัวว่ารู้แล้ว "กูรู้แล้ว!" คนเช่นนี้ใครๆ ก็หนี จะมีก็แต่เหล่าขุนนางกังฉิน เข้าหา!

สมัยพุทธกาล พระราหุลสำคัญตนเป็นลูกพระพุทธเจ้า เกิดความอวดดี ยโส ยากที่จะบรรลุธรรม พระพุทธองค์ต้องทะลวงจุดหยิมต๊ก ด้วยการให้กรรมฐาน "เธอจงทำตนเหมือนแผ่นดิน!"

พระราหุล ท่านทบทวนจนประจักษ์แจ้งถึงสาระแก่นแท้ของแผ่นดินว่า
โอหนอ! แผ่นดิน ใครจะด่าจะชม เจ้าก็ไม่โกรธ เจ้าวางเฉยได้เยี่ยมยอด
โอหนอ ! แผ่นดินเอ๋ย ด่าได้ ว่าได้ ใช่ไหม?
เมื่อพระราหุลน้อมนำสภาวะของแผ่นดินมาไว้ที่จิต สิ่งมหัศจรรย์ก็พลันอุบัติ เกิดพระอรหันต์อีก ๑ องค์ในโลกมนุษย์!

ณ อามลกวัน ใกล้หมู่บ้านจาตุมา พระพุทธองค์ได้ตรัสถึงภัยของภิกษุที่มีโอกาสสึก ด้วยเหตุ ๔ ประการ
๑. ถูกเพื่อนนักบวชตักเตือนบ่อยๆ
๒. ถูกเพื่อนนักบวชตักเตือนเรื่องอาหารการกิน
๓. เห็นคฤหัสถ์มีชีวิตที่สุขสบาย มีเครื่องอำนวยความสะดวกสารพัด
๔. เกิดราคะกำหนัด

มาวันนี้ ถ้าเทียบกับนักการเมือง นักบริหารประเทศ ก็น่าจะมี ๔ เหตุที่ทำให้เสียผู้เสียคน
๑. ถูกประชาชนตักเตือน วิพากษ์วิจารณ์
๒. ถูกเตือนเรื่องผลประโยชน์
๓. อยากรวยกว่านี้
๔. กามราคะกำเริบ

ปัญหาบ้านเมืองมีภาวะกดดัน ๒ เรื่องที่รุนแรง
- การโกงกินของนักการเมือง
- การปิดกั้นการวิพากษ์วิจารณ์

นักการเมืองที่ฉลาด จึงมักเปิดโอกาสให้มีเวทีระบายความเห็น เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด
ในทางจิตวิทยา หน้าที่จิตแพทย์แค่ฟังคนไข้พูด ก็ถือว่าเป็นการบำบัดที่ยิ่งใหญ่
รัฐบาลจึงมี ๒ หน้าที่ในเวลาเดียวกัน คือ เป็นทั้ง จิตแพทย์ ที่รู้วิธีผ่อนคลายอารมณ์ประชาชน
และเป็นนักศึกษา ที่ตื่นตัวแสวงหาความรู้ รวมไปถึงข้อบกพร่องของตัวเอง
ความจริงแล้ว ยุทธศาสตร์การโค่นคู่ต่อสู้ไม่มีอะไรมาก "ทำให้ศัตรูประมาท"

ฝ่ายค้านจึงมักจะเป็นพระเอกในภาค ๒ ได้เป็นรัฐบาลในยุคต่อมา แต่จะดีกว่าเก่าหรือไม่ เป็นอีก เรื่องหนึ่ง

ความกดดันที่ทรงประสิทธิภาพ จะมีอะไรดีไปกว่าการปิดกั้นประชาชนให้ปิดปากห้ามวิพากษ์วิจารณ์ !
ตอบโต้ทุกครั้งที่รับข้อกล่าวหา
แสดงความหงุดหงิด ไม่พอใจ ให้ประชาชนได้เห็น
และปล่อยลิ่วล้อออกมาโวยวายแก้ตัว
เมื่อคุณภาพของข้าราชการอยู่ที่การประเมินผลงาน รัฐบาลมีเกณฑ์ประเมินที่เป็นรูปธรรมต่ำกว่าเกณฑ์ ต้องปรับปรุง หากไม่ผ่าน มีโอกาส "ออก"
เป็นข่าวดีของประชาชน
แต่จะดียิ่งขึ้นเป็นซุปเปอร์ดี ถ้าประชาชนมีสิทธิวิพากษ์รัฐได้ จากผู้หวังดีและทั้งผู้หวังร้าย!
ในสังคมประชาธิปไตย เมื่อมอบอำนาจการดูแลประเทศชาติให้รัฐบาลประดุจตัวแทน
ประชาชนมีกลไกควบคุม ดูแล กำกับ และแสดงความอาทรห่วงใย ด้วยการ "แสดงความคิดเห็น" เป็นมีดเล่มน้อยของเรา!
อาจจะหนวกหู แต่ก็เพราะ!
อาจจะดูปากพล่อย แต่ก็เป็นข้อมูลที่ดี!
เมื่อวิกฤติยังเอามาเป็นโอกาส ความเห็นที่โง่ๆ ย่อมแปรเปลี่ยนมาเป็นความฉลาดได้เสมอ
ดอกบัวย่อมบานกลางโคลนตม แปลว่าไม่มีตมจะมีดอกบัวได้อย่างไร?
อยากเป็นบัว ย่อมไม่รังเกียจตม
สันดานบัวย่อมเข้าใจสันดานตมเราทั้งสองจึงประคองกอดกันไป

นี่แหละ ตาดูดาว เท้าติดดินขนานแท้

ยอดคนก็เหมือนยอดข้าว มักก้มโน้มตัวลงสม่ำเสมอ หยอกล้อสายลมแสงแดด คุยกับแมลงปอ ผีเสื้อ ส่วนยอดคนไม่แท้ ก็เป็นยอดข้าวเหมือนกัน แต่ไปหมักทำสุราเมามาย!

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ -