เรื่องอย่างนี้ต้องช่วยกันเผยแพร่ - วิวัฒน์ ศัลยกำธร -รักษ์วัฒนธรรมเดินตามรอยพระยุคลบาท (ตอน ๒)
บรรยายที่ชุมชนสันติอโศก วันพุธ ที่ ๑๖ มิ.ย. ๒๕๔๗ ในการอบรมเยาวชนคนสร้างชาติ รุ่นที่ ๓
(นักเรียนชั้น ม. ๔ ร.ร.บดินทร์เดชา สิงห์ สิงหเสนี จำนวน ๑๐๓ คน)



เศรษฐศาสตร์เก่า เป็นศาสตร์ที่คนอังกฤษเขียนเป็นตำราไว้ เล่มแรกชื่อ The Wealth Of Nation อดัม สมิธ เป็นบิดา เศรษฐศาสตร์คนแรกของโลก หนังสือ The Wealth Of Nation ดังระเบิดเถิดเทิงไปทั่วโลก Wealth ภาษาชาวบ้านแปลว่ารวย ถ้าภาษาเท่ๆ ก็ว่า ความมั่งคั่ง มนุษย์จะรวยได้เพราะอะไร เพราะต้องผลิต ในเรื่องที่ตัวเองถนัดที่สุด แล้วนำไปขาย แลกกับเงิน กับทองคำเพื่อนำมาสะสมไว้ นี่คือความรวย ความมั่งคั่ง ของมนุษย์

เมืองไทยพยายามเดินตาม เพราะเราส่งคนไปเรียนด็อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์ เต็มประเทศไทย ก็เอาฝรั่ง มาเปิดสอนในเมืองไทย นิด้าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ผมเรียนแล้วผมก็มาเปิดสอน อยู่วิชาหนึ่ง ตอนนี้ ได้รับการขอร้องหลังจากที่หนีออกจากราชการไปเก้าปี ไปทำนาอยู่ที่บ้าน แล้วก็เอาที่นา นั่นแหละทำเป็นโรงเรียนสอนชาวบ้าน คนไปเรียนหนังสือ แรกๆ ก็มีเกษตรกรไปเรียนหนังสือกัน ร้อย สองร้อยบ้าง ห้าคนสิบคน บางคนมาอยู่กันสามวันห้าคืน เจ็ดวันเจ็ดคืน สิบวันสิบคืนบ้าง มาอยู่เรียนรู้ กันไป

เดี๋ยวนี้เขาไปขอร้องให้มาเปิดสอนวิชาเศรษฐกิจพอเพียง ที่นิด้า เพิ่งปิดคอร์สไปเมื่อรุ่นที่แล้ว แต่ก็สอนที่ นิด้าครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งไปสอนตามท้องนา นักศึกษาปริญญาโทก็เอา เขาชอบใจกันมากทีเดียว เรียนกัน ที่ท้องนา แต่ที่ท้องนานี่ร่มรื่น ใครสนใจก็ตามไปเที่ยวได้ น่าอยู่ ดีกว่าโรงเรียนที่คุณอยู่ก็แล้วกัน ต้นไม้ร่มรื่น เย็นสบาย เอาเต็นท์ไปกางนอน มีความสุขมาก ใครคิดถึงไปเที่ยวได้

วิชาเศรษฐศาสตร์ของโลกที่เห่อเหิมกันไปทั่วโลกนี้เขาเรียกว่าเศรษฐกิจการค้า ใครเคยดูข่าวบ้าง FTA ย่อมาจาก Free Trade Area (Free แปลว่าเสรี อิสระ ปราศจาก Trade แปลว่าการค้า Area แปลว่าพื้นที่) นักเรียน เตรียมอุดมต้องรู้ บดินทร์เดชานี่แหละเป็นโรงเรียนเตรียมอุดม คือโรงเรียนที่เตรียมการ เพื่อจะไปเรียน อุดมศึกษา ไม่ได้หมายถึงเตรียมอุดมที่อยู่ข้างๆ จุฬาฯ หมายถึงโรงเรียนเตรียมอุดมที่จะไปเป็นอุดมศึกษา

ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การค้าของนายอดัม สมิธ อธิบายง่ายๆ ว่า ใครถนัดอะไรให้ทำอย่างนั้น ใครไม่ถนัด อย่าไปทำ แบ่งงานถนัดให้คนอื่นทำ แปลว่า แบ่งงานกันทำ ถ้าเราถนัด เราจะมี skill มีความชำนาญ เมื่อชำนาญ ก็จะทำให้ต้นทุนต่ำและมีความเสียหายน้อย ได้รับมาคือประสิทธิภาพ efficiency จะได้ ประสิทธิภาพ เกิดขึ้น ก็ให้แบ่งงานกันทำ คนไทยกับคนญี่ปุ่นแบ่งงานกันทำ ญี่ปุ่นถนัดสร้างรถยนต์ สร้างรถปิ๊กอั๊พก็ทำไป คนไทยถนัดทำนา ก็ทำนา เอาข้าว ๑ ตันมาแลกกับรถ ๑ ตัน ใช่ไหม ไม่ใช่ ข้าว ๑ ตันราคากี่บาท ข้าวสารตันหนึ่งราคาเท่าไหร่ หมื่นกว่าบาท รถปิ๊กอั๊พ ๑ ตันราคาเท่าไหร่ หกแสนบาท เอามา แลกกันได้ไหม คนไทยนี่ได้เลย เอาข้าวไป ๑ ตัน ข้าวสารอย่างดีเลย หอมมะลิ ๑๐๕ เลย เอ็งเอา ปิ๊กอั๊พให้ข้า ๑ ตัน เราเอาแต่ญี่ปุ่นไม่เอาด้วย ทำไมล่ะ แสดงว่าฟรีเทรด (FREE TRADE) มันไม่จริงสิ

มาดูระบบการค้า ถ้าค้าขายกันอย่างเสรีจริงอย่างเอฟทีเอ ฟรีเทรดแอเรีย ฟรีเทรดโซน ถ้าค้าขายเสรีจริง เราควรจะค้าเท่ากับที่เราขาย ถูกไหม เราขายกับซื้อควรจะเท่ากัน แต่ชีวิตประจำวันใครขายมากกว่าซื้อบ้าง ใครซื้อมากกว่าขาย เราเป็นลูกค้าวันละกี่ครั้ง ลูกค้าแปลว่า เอาตังค์ไปให้เขา แล้วเอาของมา เราไปซื้อ ของเขา เรียกลูกค้า ถ้าเราเอาของไปขาย เอาตังค์มา เขาเรียกพ่อค้า หรือ แม่ค้า ถามว่า เราเป็นลูก หรือ เป็นพ่อเป็นแม่มากกว่ากัน ตอบว่าเป็นลูกมากกว่า ซื้อของเป็นลูกค้าวันละกี่ครั้ง วันละ ๓ ครั้ง ปีหนึ่งเอา ๓๖๕ คูณ เป็น ๑๐๙๕ ปีละพันกว่าครั้ง เป็นพ่อค้าแม่ค้าปีละกี่ครั้ง ใครเป็นพ่อค้าแม่ค้าบ้างแล้ว มีเวลา ว่างเสาร์-อาทิตย์ ไปหาตังค์เองมีไหม

ชีวิตเราน่ะ มันพึ่งตัวเองไม่ได้เลย แล้วพอหันไปค้าขาย ไปค้าไปเอาตังค์ไปให้เขาหมด คนไทยเป็นลูกค้า ดีที่สุดในโลก เชื่อไหม ผมไปเมืองจีน ไปกรุงปักกิ่ง เขาบอก โอ คนไทยมา ไทกั่ว ไทกั่ว มาต้อนรับกันใหญ่ เจ้าของร้านยังออกมาต้อนรับเลย ไปฝรั่งเศส โอ ไทยแลนด์มา ทั้งพนักงานทั้งเจ้าของมาต้อนรับอย่างดี ไปอเมริกาเหมือนกัน ญี่ปุ่นเหมือนกัน คนไทยดังไปทั่วโลกในเรื่องการเป็นลูกค้า เป็นนักช็อปนักซื้อ มือหนึ่ง ของโลก ไม่ว่าผลิตเครื่องจักร รถยนต์ โทรศัพท์มือถือรุ่นไหนออกมา คนไทยซื้อหมด ผลิตออกมา ส่งมา เมืองไทยขายได้ ใครไม่มีโทรศัพท์บ้างยกมือขึ้น มีนิดเดียว นอกจากนั้นมีหมด ลูกผมร้องขอโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่อยู่ ม.๒ อ้างมีธุระกับเพื่อน

เราซื้ออะไรบ้าง ลองคิดดูดีๆ เศรษฐศาสตร์การค้า ซื้ออะไรชีวิตประจำวัน ตื่นเช้าขึ้นมา ซื้ออาหารเช้า หนังสือพิมพ์ การ์ตูน เข้าเรียน ซื้อข้าวกลางวัน น้ำ ขนม ตอนเย็นซื้อน้ำมันนั่งรถเมล์กลับบ้าน เช่าเขา กลับบ้าน ซื้อน้ำดื่ม เครื่องดื่ม นับแล้วคนเดียวเก้าครั้ง

ชีวิตประจำวันตื่นนอนขึ้นมา เอาขี้ฟัน ขี้หัว ขี้ตัว (ขี้ไคล) ออกจากร่างกาย แปรงฟัน ยาสีฟัน เราซื้อจาก ประเทศไหนมากที่สุดและเป็นประเทศที่รวยที่สุด จากการขายสิ่งเหล่านี้ให้ประเทศไทย คือ ประเทศอังกฤษ คนไทยมักไม่ใส่ใจ มัวเรียนรู้สิ่งรอบตัวแต่มักลืมสิ่งใกล้ตัวนับเป็นหมื่นๆ ล้านที่กอบโกยจากเมืองไทย

เรื่องอาหารการกิน กว่าจะได้ข้าวมากินแต่ละคำเราพึ่งคนอื่นเขาทั้งนั้น พระเจ้าอยู่หัวท่านสอนง่ายๆ บนโต๊ะเสวยท่านตักข้าวมาคำแล้วตรัสถามว่า "นี่ข้าวไทยหรือเปล่า" ทุกคนตอบว่า "ข้าวไทยพระเจ้าค่ะ" ท่านบอกว่าไม่ใช่ ย้อนหลังไป ๔๐ กว่าปี เป็นข้าวไทย ร้อยเปอร์เซ็นต์ ปลูกบนนาไทย ใช้ควายไทยไถนา กินหญ้าไทย ถ่ายลงลงดินเป็นปุ๋ยไทย เกี่ยวด้วยเคียวไทย นวดด้วยลานไทย ขนด้วยกระบุงไทย ใส่ยุ้งไทย ออกจากยุ้งใส่ครกตำใส่เครื่องสีของไทย ใส่หม้อหุงข้าวไทย เอาฟืนถ่านไทยหุง ตักใส่จาน ช้อนตักใส่ปาก คนไทย

แต่พัฒนาประเทศมา ๔๐-๕๐ ปี ปัจจุบันนี้มิใช่เป็นข้าวแบบไทยๆ ดังเช่นก่อนแล้ว เพราะดูจาก องค์ประกอบ

- นายังเป็นนาไทยแต่บางแห่งธนาคารยึดไปต่างชาติมาซื้อหุ้นไปแล้ว เยาวชนของชาติรุ่นนี้ โตเป็นหนุ่ม ขึ้นมา รับผิดชอบบ้านเมือง จะเป็นรุ่นที่ทุกข์ที่สุดในวันข้างหน้า

- ควายไทยมันเปลี่ยนชื่อจากไอ้ทุย ไปเป็นยันมา คูโบตา ฟอร์ด มิตซูบิชิ แล้ว ควายเหล็กกินหญ้าได้ไหม ออกลูกได้ไหม มันกินหญ้าไทยไม่ได้ ต้องไปกินหญ้าจากซาอุฯ ต้องซื้อหญ้าให้มันกินปีละ สองแสนกว่า ล้าน เกือบสามแสนล้านบาท พอกินเสร็จมันขี้ขึ้นฟ้า เป็นควันเป็นพิษขึ้นไป

- ทีนี้ก็ไม่มีปุ๋ย ทำอย่างไร ก็ไปซื้อปุ๋ยจากต่างประเทศมาอีกแล้ว สูตร NPK (๑๕ ๑๕ � ๑๕) ใส่ในท้องนา ต้นข้าวก็อ่อนแอเพราะกินธาตุอาหารเพียง ๓ อย่าง โดยปกติพืชเกิดจากการแตกตัวแล้วกินคาร์บอนในอากาศเป็นอาหารหลัก กินแสงแดด กินน้ำ และแร่ธาตุในดิน ๙๓ ชนิด เป็นการวิจัยทั่วโลกมานานแล้ว แต่บ้านเรามาสอนตลก กินธาตุหลักแค่ NPK แล้วก็ธาตุรอง ธาตุเสริม ว่ากันไปเรื่อย ในปุ๋ยขายกันแค่นี้

เสร็จแล้วก็เกี่ยวด้วยเคียวญี่ปุ่น ขึ้นรถตีนตะขาบ เกี่ยวเสร็จฝัดเรียบร้อยขนขึ้นรถโตโยต้าขนไปโรงสี ออกจากโรงสีมาใส่หม้อหุงข้าว ก็ชาร์ป โตชิบา หม้อหุงข้าวชาร์ป ใช้ถ่านไม่ได้ ก็ต้องใช้ไฟฟ้า โรงไฟฟ้าที่ผลิตเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ มีกำลังผลิตสูงสุดคือโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งองค์ประกอบหลักในการผลิตคือแก๊สธรรมชาติในอ่าวไทย บริษัทที่ขุดคือ ยูโนแคล อเมริกา ในชีวิตประจำวันเพียงแค่เสียบปลั๊กไฟหุงข้าวใช้พลังงานไฟฟ้าเท่ากับเตารีดหนึ่งเตา เสียบหม้อหุงข้าวปุ๊บ เงินก็ไหลตามท่อไปกลางทะเล ไปหาบริษัทยูโนแคล แล้วก็ไหลไปที่ตึกเวิร์ลเทรดที่ถูกเผาไปแล้ว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก

ชีวิตประจำวันของเราเรียกว่าระบบเศรษฐกิจการค้า ซื้อทุกอย่าง อย่าว่าแต่ขี้หัวขี้ฟัน เลย แม้แต่อุจจาระ ปัสสาวะ เราก็ยังไม่มีปัญญาบำบัด คนกรุงเทพฯต้องไปจ้างฝรั่งมาออกแบบระบบบำบัด ไปซื้อเครื่องจักร ของฝรั่ง ไปซื้อเคมีจากฝรั่งมาบำบัดอุจจาระปัสสาวะของตัวเอง อย่างนี้จะไปมีปัญญาทำมาหากิน แข่งกับใคร

เมื่อปี ๒๕๒๘ ที่บึงมักกะสัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่งประทับนั่งเรือในบึงมักกะสัน พระองค์รับสั่ง กับคนกรุงเทพฯ ว่า ขอโทษเถอะคนกรุงเทพฯ สิบกว่าล้านคนถ่ายออกมาแล้ว ก็ไม่จัดการกับของเสีย ของตนเอง ต้องไปซื้อเคมี ซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศมาบำบัด อย่างนี้ไปไม่รอดแน่ ทั้งๆ ที่ไทยเรา ก็มีนักวิทยาศาสตร์ ที่มีความสามารถ ทำไมเราพึ่งตนเองไม่ได้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเมืองไทยจะไม่รอด เพราะ ต้องพึ่งเขาทุกอย่าง อาหารการกินเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักร รถยนต์ โทรศัพท์ มือถือนาฬิกา แว่นตา ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ฯลฯ แม้ของใช้ส่วนตัวล้วนซื้อจากต่างประเทศทั้งสิ้น ฉะนั้นคนรุ่นใหม่จะต้องพยายามทำอะไร ด้วยตนเอง ให้มากที่สุด เช่น ริเริ่มทำน้ำมันใช้เอง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชี้ทางออกเศรษฐกิจใหม่แบบพึ่งตนเอง (sufficiency economy) มีหลักปฏิบัติดังนี้

๑. พึ่งตนเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ไม่ได้ครึ่ง เพียงหนึ่งในสี่ก็ยังดี นี่คือก้าวที่ ๑ ของเศรษฐกิจใหม่

๒. ต้องเดินสายกลางให้ได้ ต้องรู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักทาน รู้จักการแบ่งปันผู้อื่นบ้าง ทำให้เกิดหมู่มวลมิตรดี มิใช่มีแต่โลภ

๓. รู้เท่าทันโลก รู้เท่าทันกิเลส จึงจะมีภูมิคุ้มกันตัวเอง ชีวิตประจำวัน อยู่กันอย่างไร กินกันอย่างไร ไม่ใช่ขึ้นไปห้างสรรพสินค้า มีเงินเท่าไรก็ซื้อหมด ของนั้นมาจากไหน ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างไร ไม่รู้เลย อย่างนี้ไม่ได้ การศึกษาจึงผิดพลาดอย่างหนัก ระบบการศึกษาประเทศไทยจึงล้มเหลว ไม่สามารถสร้าง กุลบุตรให้เข้าใจโลก ให้มีภูมิคุ้มกัน จะทำให้ลูกหลานอยู่กับโลกอย่างลำบาก วันนี้อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่โตขึ้น จะเข้าใจคำพูดของผม เริ่มทำงาน จะเริ่มเข้าใจ โลกเปลี่ยนแปลงมาก เราจึงต้องมีระบบ เศรษฐกิจใหม่ที่เหมาะสมกับประเทศไทย

ชีวิตของผมในวัยเด็กสนุกมากเพราะอยู่ในวิถีชีวิตชาวบ้านที่พึ่งตนเองตลอด ตื่นขึ้นมาเสียงเป็ด มันร้อง ก้าบๆ ไปดูเลย ไข่เป็ดวันนี้ ๒๕ ฟอง เอาไข่ไปเจียว กินไข่ดาวทุกเช้า บางวันแม่หรือพี่สาวจะตุ๋นไข่ให้ อร่อยมาก เป็นหนุ่มใหญ่แล้วยังชอบกินไข่อยู่เลย

ยังมีป่า เขาปลูกไว้รอบบ้าน มีป่า ๓ อย่างของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ กินได้ เอามาใช้ ประโยชน์ได้ ใช้งานได้ สร้างอาคารบ้านเรือนเครื่องใช้ไม้สอยได้ ตกเย็นนกบินมาเต็ม

ฉะนั้นผมจึงลาออกจากราชการ มาดำเนินชีวิตอยู่กับธรรมชาติเช่นในวัยเด็ก สร้างโรงเรียนให้มาเรียนรู้กัน ไม่ว่าจะเป็นชาวนา อบต. หน่วยงานราชการ ผู้บริหารประเทศได้เรียนรู้ จะจัดปฏิรูปการศึกษาใหม่ ให้สัมพันธ์ กับท้องถิ่น จะทำให้คนเข้าใจเศรษฐศาสตร์ทั้งประเทศ และคนชนบทเข้าใจเกษตรศาสตร์ จึงจะปลูกอะไร ก็ได้กิน เราก็เอาศาสตร์ ๒ ศาสตร์นี้มาสอนเกษตรกร พูดแป๊บเดียวชาวนาเข้าใจเลย

เศรษฐศาสตร์สองแนวทางคือ

- หลักเศรษฐศาสตร์ของอดัม สมิท ชาวอังกฤษ การแบ่งงานกันทำตามความถนัด จึงจะเกิดประสิทธิภาพ ในการงาน แล้วเอาไปขายแลกเปลี่ยนสะสมเงินทองไว้จนกระทั่งร่ำรวย นี้คือเศรษฐศาสตร์ของอังกฤษ

- ระบบเศรษฐศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชื่อ ชื่อวิชา เศรษฐกิจพอเพียง (sufficiency eoconomy) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้คำนี้เอง เป็นเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งตนเอง เดินสายกลางรู้จักพอ เรียนรู้ ให้เท่าทันโลก นี้คือทิศทางของเศรษศาสตร์ใหม่ เมืองไทยสามารถคงอยู่ได้ด้วยการจัดการ ปฏิรูป การศึกษาใหม่ ให้เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของโลกให้ได้

ฉะนั้นต้องเร่งรัดปฏิรูปการศึกษาใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสอนวิธีจัดระบบการศึกษาง่ายๆ อย่างนี้ ถ้าเอาเหล็กแท่ง ๑ กิโลกรัม ใส่ไปในเตาหลอม เผา เสร็จแล้วเอาขึ้นมาตี แต่ง ทำให้เป็นมีด พอเป็นมีดแล้ว ราคาต่างกันไหม เวลาเอาเหล็กไปหลอม ถ้าเหล็กคุณภาพดี ร้อนก็สู้ ตีดัดได้สวยงาม ช่างตีเหล็กก็ต้องมีฝีมือด้วย ระบบการศึกษาถ้าเด็กเข้ามาใหม่ๆโดยธรรมชาติจะไร้วินัยถ้าไม่ถูกฝึก

โดยธรรมชาติของคนจะเป็นผู้ไร้วินัย ถ้าไม่ฝึกฝนมาอย่างดีก็จะทำอะไรไม่เป็น ถ้าไม่เคี่ยวตัวเอง ไม่ยก ระดับพัฒนาตนเอง เราก็จะหาจุดเด่นอะไรไม่ได้สักอย่าง มนุษย์จะไม่ผ่านการฝึก ไม่ผ่านการฝน ไม่ผ่าน การบ่ม การเพาะอย่างดี จะไร้วินัย ทำอะไรไม่เป็น หาจุดเด่นไม่ได้สักอย่าง ประเทศไปไม่รอดหรอก

เมื่อเข้าเตาหลอมออกมาเป็นเหล็กคุณภาพเยี่ยม เป็นดาบที่แหลมคม เปรียบกับมนุษย์ เปรียบกับระบบ การศึกษาต้องปฏิรูปผ่านกระบวนการหลอม ต้องเป็นคนศีลเด่น ต้องเป็นงาน ต้องชาญวิชา มนุษย์ต้อง มีเด่น มีเชี่ยวชาญสักเรื่องหนึ่ง ถ้าเราค้นหา ต้องปฏิรูปการศึกษาเพื่อฝ่าวิกฤตของชาติ

ถ้าปล่อยเละเทะไปไม่รอดแน่ รุ่นพวกคุณนี่แหละจะเผชิญแน่ๆ จึงต้องเตรียมตัว ให้เป็นคนวินัยเด่น ศีลเด่น มีศีลมีธรรมคุ้มครองโลก ถ้าคนยุคนี้ไม่มีธรรมคุ้มครองโลก เรียกว่า ธรรมโลกบาล ไม่ละอายชั่ว ไม่ละอายบาป สังคมจะเหลวเละลงไปทุกวัน จะทำผิดสักนิด ไม่มีใครเห็นก็ละอายตัวเอง เรียกว่ามีหิริ มีโอตตัปปะ กลัวจะทำสิ่งเลว แต่มนุษย์ยุคนี้หาคนกลัว หาคนอายยาก หน้ามันด้าน ไม่กลัวเวร ไม่กลัว กรรม ไม่มีธรรมคุ้มครองโลก มันจึงใกล้กลียุคไปทุกวัน ระบบการศึกษาจึงต้องถูกปฏิรูป ปฏิวัติอย่างรวดเร็ว

เดิมเราไปศรัทธาเชื่อถือฝรั่งเป็นที่พึ่ง คุณหมอประเวศ วะสี ใช้คำว่าฝรั่ง สรณัง คัจฉามิ แปลว่า เราเอาฝรั่ง เป็นที่พึ่ง เราเชื่อนายอดัม สมิธ จะร่ำรวยได้ ต้องผลิตมากๆ เอาไปขาย เอาเงินมาเก็บสะสม

แต่พ่อสอนว่า
- พึ่งตนเอง
- เดินสายกลาง รู้จักพอ รู้จักการให้ การทาน แบ่งปัน ไม่สะสม
- รู้เท่าทันโลก จึงจะมีภูมิคุ้มกันตัวเอง รู้เท่าทันตัวเอง รู้เท่าทันกิเลส ฝึกฝนมีอำนาจเหนือกิเลสในตนเอง อยู่กับโลกได้อย่างผาสุก

นี้เป็นทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกิดมายี่สิบหก ยี่สิบเจ็ดปี ไปดูตำราเก่าๆ ไม่มีศัพท์เหล่านี้ ในวิชาเศรษฐศาสตร์ของอดัม สมิธ ไม่มีคำว่าsufficiency eoconomy ไม่มีคำว่าพอ ไม่มีคำว่าให้ ไม่มีคำว่าพึ่งตนเอง ทฤษฎีใหม่จะถูกนำไปปฏิบัติ นำไปปลูกฝัง จะต้องจัดการศึกษาใหม่ทั้งประเทศ ต้องปฏิรูปการศึกษาให้มีเป้าหมาย ๓ ประการ คือ

๑. ศีลเด่น วินัยเด่น กลัวบาป เกรงบาป
๒. เป็นงาน ต้องฝึกฝนให้เป็นงานทุกอย่าง เอาตัวรอดให้ได้
๓. ชาญวิชา เชี่ยวชาญอะไรสักอย่างให้ได้

แล้วสังคมไทยจะไปรอด

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ -