- จำลอง -


ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของชาวบ้านป่าจังหวัดไหนก็เหมือนกัน ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ถึงปลายเดือนเมษายนปีต่อไป ต้นไม้ใบแห้งเหมือนกับจะพากันตายไปทั้งป่า คนมือบอน จุดไม้ขีด ก้านเดียว ต้องช่วยกันดับไฟป่าเป็นวันๆ

สัตว์ป่าไม่มีน้ำกิน ผมกับคุณศิรลักษณ์ก็เอาน้ำใส่อ่างไปวางไว้ที่ชายป่าเป็นจุดๆ พร้อมกับหยุดสูบน้ำ ในสระใหญ่ ที่ล้อมรอบด้วยป่า น้ำสำหรับรดพืชผักจะขาดไปบ้างก็ต้องทน เพื่อเก็บน้ำก้นอ่าง ไว้ให้สารพัดสัตว์

แต่ทุกข์ของสัตว์ที่โดนไฟป่าไม่รู้จะช่วยอย่างไร เมื่อสองปีก่อนหมาจิ้งจอกและสัตว์เล็กสัตว์น้อย นอนตาย กลางกองเพลิงตรงทางไปถ้ำ คนไทยเราด้อยพัฒนาและเห็นแก่ตัวอย่างมาก จุดไฟเพื่อไล่ สัตว์ป่า เข้าสู่แดน สังหารที่เตรียมจ่อปืนไว้แล้ว จุดไฟเพื่อให้ผักหวานป่าผลิใบเร็วๆ และจุดไฟ เพื่ออยากดูว่า ในยามค่ำคืน ไฟป่าจะสวยงามปานใด

ทั้ง ๓ ภาคกำลังแล้ง แต่ภาคใต้ยังชุ่มชื้น มองไปทางไหนก็เห็นใบไม้เขียวๆ เต็มพรืดไปหมด ภาคใต้ ฝนฟ้า อุดมสมบูรณ์ สมกับคำที่พูดกันติดปากว่า "ฝนแปดแดดสี่" ตอนนี้เสียอย่างเดียวที่ ๓ จังหวัด ไม่สงบ

ผมและคณะล่องใต้อีกครั้งเป็นครั้งที่สอง ๓ จังหวัดเสียงปืนยังดังไม่ขาดสาย แต่ผู้คนในบ้านช่อง เงียบลง เพราะอพยพไปซื้อที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอื่น อำเภอหาดใหญ่ที่ดินขายดี ราคาแพงคนก็ซื้อ การฝึกอบรม พนักงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตระดับผู้บังคับบัญชาเมื่อปลายเดือนธันวา มีคนแจ้ง ความจำนง จะบริจาคที่ดิน ในอำเภอ หาดใหญ่ให้ถึง ๑๕ ไร่ ถ้าโรงเรียนผู้นำจะขยายสาขาไปที่นั่น ที่ดินกำลังขึ้นราคา ยังตัดใจให้ได้ ใจถึงดีแท้ๆ

ไป ๓ จังหวัดภาคใต้ครั้งที่ ๒ นี้ไปกันคณะเล็ก ๆ "คณะกรรมการรวมน้ำใจสู่ชาวใต้" มีครูประทีป (ส.ว.กรุงเทพฯ) กับผม ส่วน "ศูนย์คุณธรรม" มีอาจารย์นราทิพย์ อาจารย์พงศธรและผม คณะแรก นำเงินสดไปมอบให้เด็กกำพร้า (ไม่จำกัดศาสนา) ถึง ๑ ล้าน ๕ พันบาท ส่วนคณะที่ ๒ นำไปรษณียบัตร ที่คนทุกภาคเขียนไปให้กำลังใจ ไปมอบ ให้ผู้ประสบภัย

ทำพิธีมอบที่สำนักงานอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และยะลา ส่งปลัดจังหวัด และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้แทนไปรับเงิน เราขอให้คณะกรรมการกองทุน ช่วยเด็กกำพร้าทั้ง ๓ จังหวัด เน้นการช่วยเหลือ เรื่องอาหารและการศึกษา

"คณะกรรมการรวมน้ำใจชาวไทยสู่ชาวใต้" เป็นองค์กรเอกชนองค์กรเดียวที่บริจาคเงินช่วยถึง ๑ ล้านบาทเศษ ที่มีเงินบริจาคให้ได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาเรี่ยไร เพราะแปรสภาพมาจาก "คณะกรรมการ รวมน้ำใจชาวไทย สู่ชาวอิรัก" นำเงินที่พอมีอยู่บ้าง เปลี่ยนจากการช่วยชาวอิรักเป็นช่วยชาวใต้

ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วว่าผมคุ้นเคยกับเรื่องทำนองนี้มาเหมือนกัน ตอนภาคใต้เกิดพายุใหญ่ และน้ำท่วม เมื่อประมาณสิบกว่าปีมาแล้ว ผมนำชาวกรุงเอาของกินของใช้ที่จำเป็นใส่รถขบวนยาวเหยียดไปช่วยถึง ๓ ครั้ง แล้วเงินก็ยังเหลืออีกถึง ๕ ล้านบาท จึงตั้งมูลนิธิเมืองหลวงห่วงเมืองใต้ขึ้น ๒ จังหวัด นคร-ศรีธรรมราช ๓ ล้าน และสุราษฎร์ ๒ ล้าน ใช้ดอกผลช่วยภัยพิบัติภาคใต้มาถึงเดี๋ยวนี้

ก่อนทำพิธีมอบเงินและก่อนที่จะสนทนาเรื่องสถานการณ์ภัยใต้ ท่านประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำ จังหวัดนราธิวาสก็ปรารภว่า "อิหม่ามเป็นผู้นำครับ อิหม่ามจะต้องพากันไปเรียนที่กาญจนบุรี" ชื่อเสียง โรงเรียนผู้นำ ไม่ธรรมดา ดังไปไกลถึงชายแดนสุดภาคใต้

ผมเข้ากรุงวันก่อน หมุนหาคลื่นวิทยุ บังเอิญไปเจอรายการที่คนติดกันมาก เอฟเอ็ม ๙๖.๕ เมกะเฮิรตซ์ กำลังรายงานใ ห้ผู้ฟังทราบถึงการสุ่มถามความคิดเห็นของประชาชนก่อนจะสิ้นปีเก่าว่า ปีใหม่ปีนี้ อยากได้อะไร และ ไม่อยากได้อะไร

สำหรับหนังสือที่แจกเป็นของขวัญปีใหม่นั้น ประชาชนอยากได้หนังสือของคุณหมอเฉก ธนะสิริ มากที่สุด ชื่อ "ทำอย่างไรชีวิตจะยืนยาวและมีความสุขที่สุด" พิธีกรทั้ง ๒ คน ได้พูดถึงความเด่น ของหนังสือเล่มนั้นอยู่นาน สงสัยว่าตอนนี้คงจะเกือบขาดตลาดแล้วก็ได้

ขนาดผมเคยอ่านแล้วก็ยังต้องกลับไปอ่านอีกที ในหน้าต้น ๆ คุณหมอเขียนถึงเรื่อง "กรรมและ วัฏสงสาร" ผมชอบที่สุด เวลาผมบรรยายในหลักสูตรนำทุกครั้งผมจะเน้นเรื่องนี้ แต่ไม่ละเอียดเท่า และไม่มีหลักฐาน ยืนยันชัดเจน

ผมขอคัดลอกข้อความมาเผยแพร่ต่อสำหรับสมาชิก "เราคิดอะไร" ที่ไม่มีโอกาสอ่าน ดังมีข้อความตอนหนึ่งว่า

"...เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นว่า แม้แต่องค์พระมหากษัตริย์ไทย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๗) ผู้ทรงศึกษาวิชาปรัชญาและวิชาพุทธศาสนาอย่างแตกฉาน นอกเหนือจากวิชาทหาร อันเป็น วิชาหลัก พระองค์ท่านได้ทรงปรารภไว้เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๔๗๒ คำปรารภของพระองค์ท่าน สามารถอธิบาย และให้ความกระจ่างในเรื่อง "กฎแห่งกรรม" และรวมไปถึง "การเวียนว่ายตายเกิด" เป็นอย่างดี คำปรารภมีดังนี้

สำหรับพระพุทธศาสนานั้น ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า สิ่งที่เราควรจะสอนให้เข้าใจและเชื่อมั่น เสียตั้งแต่ต้น คือสิ่งที่เป็นหลักสำคัญของพุทธศาสนา นั่นคือ วัฏสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด และกรรม คือ ทำดีได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว เป็นหลักสำคัญของ พระพุทธศาสนา ก็เพื่อให้พ้นจากวัฏสงสาร อันเป็นความทุกข์ แต่สิ่งที่ดี ประเสริฐยิ่งกว่านั้นคือ ความเชื่อในกรรม แต่จะสอนเรื่องกรรมอย่างเดียว ไม่สอนเรื่องวัฏสงสารด้วย ก็ไม่สมบูรณ์

ความเชื่อในกรรม ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นของประเสริฐยิ่ง ควรเพาะให้มีขึ้นในใจของทุกคน และถ้าคน ทั้งโลก เชื่อมั่นในกรรมแล้ว มนุษย์ในโลกจะได้รับความสุขใจขึ้นมาก เป็นสิ่งที่ทำให้คนขวนขวาย ทำแต่ความดี โดยหวังผลที่ดี เรื่องวัฏสงสารนี้เป็นของต้องมีความเชื่อ เพราะเป็นของที่น่าเชื่อกว่า ความเชื่ออีกหลายอย่าง"

หนังสือ "ทำอย่างไรชีวิตจะยืนยาวและมีความสุข" พิมพ์ ๘๕ ครั้งแล้ว ในรอบ ๒๓ ปี ชื่อหนังสือ เป็นหัวข้อ ที่คุณหมอเฉก ธนะสิริ ท่านไปช่วยบรรยายที่โรงเรียนผู้นำเป็นประจำ ผมพูดกับผู้เข้ารับ การอบรมว่า ในหลักสูตร ๔ วัน ๓ คืนนั้น ได้ฟังคุณหมอเฉกพูด ๒ ชั่วโมงก็คุ้มแล้ว

ถ้าคนเราเชื่อเรื่อง "กรรม" และ "การเวียนว่ายตายเกิด" คงไม่มีใครโกง ไม่มีใครทุจริตแน่ โดยไม่ต้อง เอาคำของ "เราคิดอะไร" ฉบับนี้ไปขู่ว่า "ทุจริตทำไม ? สัตว์เดรัจฉานมันยังไม่ทุจริตเลย !"

เวลาผมบรรยาย ผมจะยกตัวอย่างเสมอๆ ๒ เรื่อง เรื่องแรกอดีตรัฐมนตรีคมนาคม ลงนามในสัญญา โครงการ "โฮปเลส" ตายไปแล้ว นึกว่าพ้นบ่วงโทษบ่วงกรรม ไม่พ้นหรอก ได้รับกรรมแน่ อีกเรื่องหนึ่ง อดีตรัฐมนตรี สาธารณสุข ตอนที่ทำผิด ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ยังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโอ่อ่าใหญ่โต เป็นเพราะกรรม ยังตามไม่ทัน เมื่อออกจากตำแหน่งเรื่องก็ปูดขึ้นมา หนีรอดกรรมไปอีก เมื่อสองสาม เดือน ที่ผ่านมา ขณะกำลัง ออกกำลังกายในสวนสาธารณะเมืองนนท์ กรรมตามทัน ตำรวจจับขังคุก ๑๕ ปี

ทั้ง ๒ อดีตรัฐมนตรี ถ้าเชื่อตามที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าท่านตรัส จะไม่ต้องรับกรรมเลย เหตุที่ไม่เชื่อ เพราะไม่มีใครบอก จึงควรบอกควรสอนตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา

ต่อคำถามพื้นๆ ที่ว่า "ชื่อนั้นสำคัญไฉน" ผมเคยคุยโม้ว่าชื่อ "จำลอง" คุณยายผมเป็นคนตั้งชื่อให้ แม้จะไม่ไพเราะ เพราะพริ้งเหมือนชื่อทั้งหลาย แต่ก็เป็นชื่อดีที่สุดในตระกูล ๔ ชื่อ คือ จำเลย จำลอง จำนอง จำนำ

เข้ากรุงวันก่อน ขณะที่ผมกำลังจะนั่งหลับอยู่ข้างคุณศิริลักษณ์ บนรถประจำทาง กรุงเทพฯ-กาญจน์ คุณศิริลักษณ์ เขย่าแขนผมให้ฟังเพลงเพลงหนึ่ง ที่คนขับรถอุตส่าห์ไปหามาเปิดให้ผู้โดยสารฟัง ดังก้อง ไปทั้งคันรถ

เป็นเพลงตลก พรรณนาถึงชื่อคน ชื่อต่างๆ นานา เพลงนี้ผมคิดว่าท่านผู้อ่าน "เราคิดอะไร" ก็คงไม่เคยฟัง ผมจำเนื้อบางตอนได้คลับคล้ายคลับคลา "...คนนั้นชื่อสมศรี คนเบี้ยวหนี้ชื่อสมชาย ..." แต่ที่ผมจำได้แน่ชัด คือตอนที่ร้องว่า "...คนนั่งหลับชื่อจำลอง"

ราวกับคนที่แต่งเพลงอัดเทปไว้นั้นรู้จักผมดี ว่าผมชอบนั่งหลับขณะขับรถ โดยเฉพาะตอนบ่ายๆ เมื่อ ๒ ปีกว่าๆ ผมขับรถชนรถที่ติดไฟแดงตรง ๓ แยกหน้าพระประโทน จังหวัดนครปฐม ที่จะเลี้ยวไป ปฐมอโศก ผมขับชนทีเดียว ๔ คัน ยังนึกสยองอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้

ผมดีใจที่มีป้ายเตือนคนขับรถว่า "หลับอย่าขับ" แต่ก่อนมีเตือนอย่างเดียว "เมาไม่ขับ" (เมื่อมีคำโต้แย้งว่า ตอนขาไปนั่งไม่เมา แต่เมาก่อนกลับแล้วจะทำอย่างไร คนขับแท็กซี่หัวใสโฆษณาท้ายรถว่า "เมาไม่ขับ กลับแท็กซี่")

ทุกคนที่ห่วงใยเรื่องความปลอดภัยในท้องถนน ต่างภาวนาขออย่าให้เหมือนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งตายมากถึง ๖๕๔ คน ช่วง เทศกาลสงกรานต์ไม่กี่วัน ตายมากกว่าตายทั้งปีที่ ๓ จังหวัดภาคใต้ เสียอีก


 

เคล็ดลับแห่งสุขภาพดี...กินอาหารพืชผักให้มาก
หมั่นออกกำลังกาย...และพักผ่อนให้เพียงพอ
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน...อย่านอนดึก
เมื่อยามทำงาน...มีสติอยู่กับตัว หมั่นรู้ตัวทั่วพร้อม
และหมั่นอยู่กับลมหายใจ
กำหนดลมหายใจเข้า...กำหนดลมหายใจออก
* สิเนรุ

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๔ มกราคม ๒๕๔๘ -