- เสฏฐชน -


ไฉนต่างกัน

มี ข่าวน่าคิดสองเรื่องที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟัง ข่าวแรก คุณลุงสัมฤทธิ์ มาลัย ออกกวาดขยะ ตามถนน ในเมืองอยุธยามา ๒๐ ปี โดยไม่มีใครจ้าง แต่ทำด้วยความสมัครใจ มีผู้เห็นคุณค่า ในการกระทำนี้ จึงนำเหรียญ และตราต่างๆ มาติดให้ตามตัว

อีกข่าวหนึ่ง คือ "ปั่นโป๊" ชาวเมืองกระทิงดุ ระดมพลนุ่งลมห่มฟ้า เปลือยกาย ปั่นจักรยานไปตามถนน ในกรุงมาดริด เมืองหลวงประเทศสเปน ประท้วงการขับรถยนต์สิ้นเปลืองน้ำมัน และต่อต้านพวกชอบ ขับรถซิ่ง ตีนผีทั้งหลาย

มีคนมาถามลุงสัมฤทธิ์ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ ลุงตอบว่า อยากเห็นบ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ทำแล้วสบายใจ แม้จะถูกคน บางจำพวก ดูหมิ่นดูแคลน หาว่าบ้า ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน ไม่มีเงิน บำเหน็จ บำนาญ ใช้โรงรถของคณะลิเก ที่เคยเป็นคนขับรถให้ เป็นที่พักอาศัย อาหารจากการหยิบยื่น ของผู้มองเห็น ความดีนี้ ก็ทำให้มีชีวิตอยู่ได้ เพราะชีวิตไม่มีพันธะอะไร ทำงานตั้งแต่ตี ๒ ถึงเที่ยงทุกวัน เว้นวันเสาร์ เพื่อหยุดซักผ้า เพราะมีชุดเดียว

ข่าวดีๆ อย่างนี้หาไม่ได้ง่ายนัก เพราะแต่ละวันมีแต่ข่าวฆ่า ปล้น ข่มขืน คดโกง ฯลฯ เมื่อเป็นอย่างนี้ แล้วคน จะได้รับอาหารทางศีลธรรมจริยธรรมมาจากที่ใด ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม? เยาวชน ผู้คนต่างๆ จึงเหี้ยมเกรียมขึ้น เป็นเงาตามตัว เพราะซึมซับข่าวร้ายๆ พฤติกรรมเลวๆ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ดูแต่ในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันนี้ หน้าแรกเสนอเรื่องคุณลุงสัมฤทธิ์ แต่หน้าหลังเสนอเรื่องปั่นโป๊ แล้วใครจะแยกแยะออกได้ว่าข่าวใดสำคัญกว่ากัน

ในสังคมผู้บริโภควัตถุฟุ่มเฟือย จนกลายเป็นความจำเป็นในยุคนี้ คือเครื่องอุปโภคที่ต้องซื้อหา ใช้จ่ายภาษี ให้แก่ต่างประเทศ และยังต้องเป็นภาระวุ่นวายนานาประการ แต่คนก็จำยอม ตราบที่ต้องการ ความสะดวก สบาย ภูมิใจกับคำว่าทันสมัย หลงว่าเป็นความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง แม้ถนนแทบจะไม่มีเดิน แต่รถ นานายี่ห้อ ก็ยังวิ่งกันได้อยู่ จะให้คนเดินเท้า ถีบจักรยานแทนการนั่งรถยนต์มอเตอร์ไซค์ ไม่ต่างจาก การไหว้วอน ให้พระอาทิตย์ขึ้น ทางทิศตะวันตก นั่นแหละ

แม้การจราจรจะติดขัดเพียงใด ก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ เพราะคนมีวิธีแก้โดยไม่ต้องลดบริโภคดังใจ ปรารถนา เขาจึงสร้างสร้างรถที่เหมือนบ้าน มีทุกอย่างเหมือนอยู่ในบ้าน แล้วรถจะติดนานเท่าไหร่ ก็ไม่เดือดร้อน น้ำมันจะแพงอย่างใด ก็ไม่สนใจ ขอแต่ให้เราไม่ต้องหยุดเสพ สิ่งที่เรายังพึงพอใจอยู่เท่านั้น

ฉะนั้นจะยากอะไรที่คนจะประท้วงด้วยวิธีนี้มันง่ายกว่าไปสร้างรถแบบใหม่ด้วยซ้ำ มันง่ายกว่าการขยาย ถนนเลนใหม่ ทั้งเนื้อทั้งตัวของๆ ใคร ไม่มีใครมีสิทธิ์ เหนือลิขสิทธิ์ชนิดนี้ เพื่อจะยังคงการบริโภค เหมือนเดิม

ด้วยการคิดเหมือนกัน ทั้งชายหญิงจึงไม่เคอะเขินที่จะออกตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำกลับเข้าใจผิด คิดว่าตัวเอง เสียสละ ตัวเองทำความดีด้วยซ้ำไป เพราะได้ช่วยแก้ปัญหาสังคม ได้ช่วยออกหน้า แทนคนหมู่มาก ที่ต้องอาศัย สิ่งเหล่านี้อยู่ ยิ่งในทัศนะชาวต่างชาติ ที่ไม่เหมือนคนไทย จึงไม่มีความผิดอะไร แม้อาจถูก บางหมู่กลุ่ม ตราหน้าว่า "ไร้สาระสิ้นดี" เขาก็คงยืนยันว่า เขาทำสิ่งที่เป็นสาระ ในเมื่อคนส่วนใหญ่ ยังใช้น้ำมัน ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ จะเกิดขึ้นอย่างไร เขาไม่คำนึงถึง

ภาพระหว่างคนสองจำพวกนี้ เราควรจะบอกว่าเป็นวีรกรรม หรือเป็นเวรกรรมต่อสังคม ต่อตัวเอง มากน้อย แค่ใด? ก็คงจะแล้วแต่ระดับภูมิธรรมของคนต่างๆ กระมัง

ห่วงอยู่แต่เยาวชน วัยรุ่นที่บริโภคข่าวตามกิเลส เขาจะรู้คิดมากน้อยแค่ใด? หรือจะลงไปละเลงด้วยกับ ความต่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คาดคะเนสภาพจิตใจวัยรุ่น คงไม่เจริญรอยตาม คุณลุงสัมฤทธิ์ ง่ายนัก หากจะเลียนแบบ ชาวสเปน ดูจะเป็นไปได้มากกว่า

ดูจากงานรับน้องใหม่ตามสถาบันการศึกษาระดับชาติใหญ่ๆตั้งมานานเก่าแก่เพียงใด ก็มิวายที่ผู้ใหญ่ ต้องอุทาน ด้วยความอิดหนาระอาใจ จนบรรยากาศการวิพากษ์วิจารณ์ ยังคุกรุ่นอยู่ เกมกามในรูปแบบ ต่างๆ ทั้งลักษณะเปิดเผย โจ่งแจ้ง และแฝงเร้น สองแง่ หลายง่าม ถูกเผยแพร่ออกมา เกลื่อนกล่น ชนิดที่ ความละอาย โบยบินไปหมด

ข่าวคาวโลกีย์ที่จำเพาะแต่จากหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน ภาพโป๊เปลือยหน้าแรก ชวนเชิญให้ซื้ออ่าน จากนางแบบอาชีพ นางแบบดารา นางแบบนักร้อง ฯลฯ ก็ล้วนแต่มีแนวโน้ม ไปในทิศทางเดียวกัน หานางแบบ ที่กล้าทวนกระแสแฟชั่น ด้วยภาพแต่งกายมิดชิดน้อยเต็มที ด้วยความคิดที่ถ่ายทอด สู่กันและกันว่า ของดีของสวย ไม่โชว์แล้วจะเก็บไว้ทำไม? ความภาคภูมิใจที่จะพึงสงวนไว้ จำเพาะ ผู้เป็นเจ้าบ่าว ลบเลือนหายไป อย่างสิ้นเชิง

ความสกปรกเลอะเทอะของรสนิยมจึงแผ่ขยายวงกว้างขึ้น ไม่ต่างจากความสกปรกของบ้านเมือง แม้เราจะ ชวนเชิญกันให้จัด แต่งให้สะอาดเรียบร้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติประทับใจ นำเม็ดเงิน เข้าเมืองไทย มากขึ้น แต่จังหวัดหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯไม่เกิน ๖๐ กิโลที่ชื่อว่า นคร...นคร... เป็นเมืองสัญลักษณ์ บอกถึงความเจริญ ทางศาสนวัตถุแห่งแรก ที่พระพุทธศาสนามาหยั่งลง แต่สภาพถนน ตลาด สะพานลอย ริมทางเท้า ตู้โทรศัพท์ ฯลฯ เต็มไปด้วยถุงพลาสติก จอกพลาสติก อาหารเหลือ ถุงบรรจุขนมญี่ปุ่น พวงมาลัย ดังประหนึ่ง ไม่เคยได้รับการกวาดมาเลย ยิ่งตลาดที่มีชื่อว่า "มงคล" แทบจะหาความเป็นมงคล แก่ตาไม่ได้ เพราะแม้แต่เขียงเนื้อหมู ก็ยังเขลอะดำ พื้นตลาดที่หลังคาใหม่เอี่ยมอ่อง กลับเต็มไปด้วย คราบเลือด กระดูกสัตว์ แอ่งน้ำเลือด ทางน้ำเลือดไหลนอง กระดูกหมูจำนวนมาก ถูกนำมาทิ้งไว้ แถบตลาด ที่สร้างใหม่ กลิ่นขยะโชยมาตลอด

ตลอดเวลา ๖ ปีที่ผ่านสถานที่นี้ ไม่เคยพบเห็นคนกวาดขยะเลย ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ไฉนเขาไม่เปิดรับ คนงาน แม้รายวันก็ยังดี ซึ่งเทศบาลที่มีหน้าที่โดยตรง ในงานชิ้นนี้ น่าจะรับไปพิจารณาแก้ไข ทำได้ เพราะเป็น เมืองเศรษฐกิจดีอยู่แล้ว

เช่นจังหวัดทางภาคใต้มีอยู่สองจังหวัด ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองสะอาด เพราะเทศบาล จะกวาดถนน ล้างท่อระบายน้ำ ขัดล้างตลาด วันละสองครั้งด้วยซ้ำไป วัฒนธรรมเหล่านี้ ถูกปลูกฝังทำให้คน ในท้องถิ่นนั้น เอาใจใส่ดูแลผลงานของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย เพราะเราเลือกเขามา เพื่อทำหน้าที่นี้แล้ว ประชาชนในท้องที่นั่น ก็มีสิทธิ์ตรวจสอบผลงาน เหมือนกัน

ฟังคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ ชินวัตร ในรายการคุยกับประชาชน ทุกวันเสาร์ ท่านเล่าถึง ที่ท่านผ่าน ไปตรวจราชการต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง เจอสนามหญ้าด้านหน้าโรงพยาบาล มีแอ่งน้ำสกปรก ท่านยังตำหนิ ว่าไม่อยากเข้าไปดูถึงภายใน และถ้าป่วยจะไม่เข้ารับการรักษาที่นี่ แสดงถึงรสนิยมผู้นำ ว่าชี้นำไปในทางใด ความสะอาดจะเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาประเทศไทย ที่ลงทุนน้อยที่สุด แต่ผลได้ มากกว่า หลายเท่านัก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความขี้เกียจในการกวาดล้าง กับความรังเกียจในความสกปรกน่าจะหาทางยุติได้ เพื่อว่าจะได้ ไม่โดนมรสุม ทางการเมืองภายหลัง สำหรับนักปกครอง ทั้งในสภากลาง และสภาท้องถิ่น

หากนักปกครองจะหันมาสนับสนุนงานชิ้นนี้ น่าจะดีกว่าความคาดหวัง ลงทุนให้ประเทศไทย เป็นเมือง แฟชั่น ซึ่งเป็นสื่อนำความฟุ่มเฟือย เปิดทางให้ความเจริญเติบโตของสิ่งไร้สาระ มากขึ้น กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้เสียแล้ว

ยุคนี้เรามีเครื่องทุ่นแรงมากขึ้น ต้นทุนการผลิตสิ่งเหล่านี้ หรือการนำเข้าของเครื่องมือ อุปกรณ์เหล่านี้ ก็ไม่แพง หากคนงานไม่พอ การหาอุปกรณ์เครื่องทำความสะอาดให้ ก็คงจะช่วยทำให้ ทันกับงาน ได้เหมือนกัน เราต้องฝึกใช้ ต้องฝึกหัดตัวเองให้เป็น "แม่บ้าน-พ่อบ้าน" เพิ่มขึ้นทีเดียว

คนมักชอบแต่งตัวสวยๆ งามๆ แต่เมื่อสถานที่ไม่น่ารื่นรมย์แล้ว ความสวยความงามจะมีประโยชน์ อันใด ย่อมไม่ต่างจาก คนใส่เสื้อผ้าใหม่ แต่มีกลิ่นไม่สะอาด จะมิแย่กว่ากันหรือ? เช่นเดียวกับที่อยากให้ การท่องเที่ยว เจริญขึ้น มีคนต่างบ้านต่างเมืองมาชมเรา แต่สิ่งที่เขามองเห็นเหล่านี้ จะมิกลายเป็น การเผยแพร่ ให้ชาวโลกชาติอื่น รู้จักเมืองไทยในแง่ไม่ดี เพิ่มขึ้นดอกหรือ

เรามีสถานท่องเที่ยวมากมาย ทั้งที่เกิดเป็นโดยธรรมชาติ และที่คนประดิษฐ์สร้างขึ้น แต่ที่เหล่านั้น ปรักหักพัง ล้าสมัยไป ก็เพราะไม่ได้รับการดูแลใส่ใจ เพราะการปลูกฝัง เรื่องรับผิดชอบ วัฒนธรรมการใช้ ของส่วนรวม น้อยเกินไป มิหนำซ้ำสถานที่ดังกล่าวยังเป็นส่วนเพิ่มขยะไปด้วย รถยนต์ที่หมดสภาพ จอดริมถนน ยาวเหยียดเป็นกิโล กองขยะที่คุกรุ่นด้วยไอร้อน ใต้ต้นไม้ริมทางสายเปลี่ยว ยังเป็นที่ทิ้งขยะ อีกมาก

วิธีการสลายขยะ แปรรูปขยะ แปรรูปสิ่งที่ของที่เราบริโภคเพื่อให้ดูดีขึ้น ต่างประเทศรุดหน้ากว่าเรา มากนัก จนอดสงสัยไม่ได้ว่า เขาเทขยะอย่างไร กำจัดขยะอย่างไร แม้ข่าวจะออกมาว่าจำนวนขยะที่กำจัด จะน้อยกว่า ที่เหลืออยู่ก็ตาม แต่เมื่อมาเทียบกับบ้านเราแล้ว ยังทิ้งช่วงห่างกันนัก

ในเมื่อเราปรารถนาจะให้ชาติอื่นเขายอมรับว่าเราเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เราก็น่าที่จะหันกลับมามอง ในเรื่องนี้บ้าง เพราะแม้แต่คำสอนในพุทธศาสนา ก็ยังสรรเสริญ ยกย่องความจน แต่สะอาด จะกล่าวไปไย ถึงความร่ำรวย ว่าควรจะสะอาด มากขึ้นอีกเท่าไร

ถ้าคนไทยพร้อมใจกันหยิบไม้กวาด ทำความสะอาดที่ของตน หรือที่อยู่ใกล้ที่ตนพอจะทำได้เหมือน ลุงสัมฤทธิ์ เชื่อแน่ว่า ความสะอาดกาย สะอาดใจจะเพิ่มขึ้น

การ "แก้ไข" สิ่งที่ควรแก้ไขด้วยวิธีที่ถูกต้อง ย่อมดีกว่าการ "แก้ผ้า" ที่แม้แต่หน้าก็ไม่น่าชม แล้วตัวจะรอด ได้อย่างไร ก็ฝากให้ท่านผู้อ่าน ช่วยกันคิดด้วยเถิด

-เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ -