561111_รายการสงครามสังคมฯ ณ เวทีผ่านฟ้า
พ่อครู สมณะโพธิรักษ์

เรื่อง ปฏิวัติโดยประชาชน

 

        หลังจาก15.35 น. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ขึ้นบนรถขยายเสียง ประกาศปฏิวัติ โดยประชาชน และไม่ยอมรับ อำนาจศาลโลก ให้ข้าราชการใหญ่ ผบ.ทบ. ฯลฯ มารายงานตัวกับ สภาประชาชน ที่เวทีผ่านฟ้าฯ

        วาระนี้ เป็นเวลาฟังธรรมโดยปกติ แต่ที่ไม่ปกติ คือเหตุการณ์บ้านเมืองไทยเรา เป็นมิติใหม่ ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันคือ การปฏิวัติ ของประชาชน หลายประเทศ มีการปฏิวัติ โดยประชาชนขึ้นมา และหลายประเทศ ที่ได้ทำการ ก็ยังไม่เหมือน ประเทศไทย ของไทยเป็นการปฏิวัติ ของประชาชน ที่ใหม่ แปลก มหัศจรรย์มาก เพราะเป็นการปฏิวัติ อย่างสงบมากที่สุด จนคนทั่วไป.. อาตมาว่า ก็คงจะนั่งงงอยู่  แม้แต่ทางบ้าน เพราะการปฏิวัติครั้งนี้ ไม่ได้ไปยึดตรงนั้นตรงนี้ ใช้กระบอกปืน อำนาจไปกดดัน Nothing ไม่มีเลย เป็นการปฏิวัติที่สัมบูรณ์ Absolute ที่เหลือคือ ถ้าใครเกิดการทำรุนแรงขึ้นนั่นแหละคือ การเข้าข่าย เพราะเราปฏิวัติ โดยประชาชน ขอให้ประชาชน ออกมาแสดงความเป็น รัฐาธิปัตย์ ไม่ใช้รัฐบาลาธิปัตย์

        รัฐบาลาธิปัตย์ คืออธิปัตย์ของรัฐบาล แต่รัฐาธิปัตย์ คืออำนาจอธิปไตยของรัฐ ผู้ที่มีคือประชาชน ไม่ใช่รัฐบาล อย่าสับสน อาตมาว่ารัฐบาลได้ตีกิน คำว่ารัฐ หรือรัฐบาล มานานแล้ว หรือผู้บริหารที่เป็นรัฐบาล ได้เผลอฮุบอำนาจของประชาชน ไปหมดแล้ว จะโดยเผลอหรือโง่ ก็แล้วแต่ แล้วปฏิบัติเหมือน ตนเป็นเจ้าของอำนาจ เช่น มีผู้บริหาร บอกว่า การเมืองต้องเป็นเรื่องของ รัฐบาลในสภาฯ เท่านั้น ถ้าประชาชน ออกมาประท้วง คือ การเมืองข้างถนน นี่คือ คำของนักกฎหมาย ในระดับเบ้งๆใหญ่ๆ ผู้ที่เข้าใจอย่างนั้น อาตมาถือว่า สอบตกประชาธิปไตย การพูดเช่นนี้ คือคุณได้ยึด อำนาจอธิปไตย ไปจากประชาชน ไปหมดแล้ว ที่จริงเขาทำไม่ได้ ประชาชนเป็นผู้แทน นายกฯ เป็นผู้แทนระดับ ๖ ที่เลือกจากสส. ที่เป็นอำนาจที่ ๕ แล้วการเลือกตั้ง เป็นลำดับ ๔ ส่วนมาตรา ๓ ในรัฐธรรมนูญ  คือ ในหลวงทรงใช้อำนาจ ผ่านสามสถาบัน เพราะอำนาจ เป็นของประชาชน ที่มีพระมหกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นราชประชาสมาสัย ราชะกับประชาชน อาศัยซึ่งกันและกัน

        ตามรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสากล ผู้ใช้อำนาจในประเทศ ที่มีพระมหกษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้ อำนาจเป็นของประชาชน ไม่มีใคร จะริบอำนาจนี้ ไปได้ แม้แต่วินาทีเดียว แม้ประชาชนจะไปใช้สิทธิ์ เลือกตั้งแล้ว แต่ผู้แทน ก็เข้าใจผิด ไปยึดอำนาจของ ประชาชนไปหมด ทำมาผิดๆ ตั้ง ๘๑ ปีแล้ว ถ้าทำดี ก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าทำไม่ดี ก็มีปัญหา ทำผิดๆ ผิดนิติรัฐ นิติธรรม

        นิติรัฐ คือหลักเกณฑ์ของรัฐ นิติธรรมคือ หลักเกณฑ์ของสัจธรรม เขาผิด ทั้งสองอย่างเลย ไม่ซื่อสัตย์ ทำผิด รัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษา ๖​๓ องค์ ก็ออกมา พิพากษา กลางสาธารณะแล้ว เท่ากับ ตัดสินความ ตามแบบประชาธิปไตย ตามสัจธรรม มีนิติธรรม เพราะฉะนั้น ประชาชนคนไทย ที่ตื่นรู้ เข้าใจความเป็น ประชาธิปไตยว่า ตนเองมีสิทธิ์ มีอำนาจ ๑ คน ๑ เสียง ล้านคนล้านเสียง เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเล่นเลย

        ตราบนี้ไป เมื่อประชาชน ได้ประกาศปฏิวัติ ๑๕.๓๐ น.วันนี้ออกไปสู่สาธารณะ เสร็จแล้ว ตามนิติรัฐ นิติธรรม สวยงามสงบ เท่าที่มีมาเลย ไม่เหมือน หลายประเทศ ที่มีปฏิวัติ แล้วมีการบาดเจ็บ ล้มตายกันเป็นเบือ ไม่เคยเกิดเลย ที่จะสงบเรียบร้อย อย่างไทยเรา

        ตกลงมีหลักสำคัญสองอย่างคือ
        ๑.ประชาชนออกมาแสดงสิทธิ์เสียง เป็นมวลประชาธิปไตย คืนนี้จะพิสูจน์ว่า นี่คือ อำนาจประชาธิปไตย จริงไหม แน่นอนว่า อีกฟากหนึ่ง ที่จะถูกยึดอำนาจนั้น ต้องดิ้นรน และก็ต้องมีคนสนองคำสั่งการ ผู้ที่จะทำการนี้ บัดนี้ ประชาชน ได้ประกาศ ขออำนาจ คืนแล้ว ตามหลัก นิติรัฐ นิติธรรม เป๊ะเลย สวยงามด้วย ใครมาทำรุนแรง ก็ผิดเลย  และ มวลต้องมาก มาแสดงเสียง ประชาชนไทยมี ๖๐ ล้าน ถ้าออกมา เป็นล้านคน จะได้ ขอสักคืนหนึ่ง คืนเดียวก็ได้ เหนื่อยเพื่อชาติ อย่างสวยงามสงบ เพื่อโลก  จะทำได้ไหม ประชาชนทั้งหลายเอ๋ย ขอแรงท่านเสียสละ จะขาดเบี้ย เสียแรงงาน ก็ขอเถอะ ผู้ที่ไม่ได้ออกมา จงออกมาเลย ฟ้าเป็นใจไม่มีฝน ทั้งที่พายุรุนเข้าอยู่นะตอนนี้ วิกฤติธรรมชาติ แต่นี่เป็นวิกฤติของชาติ อาตมาเลยต้องอาราธนา สมเด็จปู่วิชิตอวิชชา ออกมาห้าม เป็นเรื่อง อจินไตย เกินคิด เป็นเรื่องลึกซึ้ง พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ที่สั่งการ มนุษย์จะรู้ไม่ได้ เหมือนเล่นหม้อข้าวหม้อแกง แต่สวยงามที่สุด คนยังไม่รู้ว่า มีด้วยหรือ อย่างนี้ ถ้าฝ่ายตรงข้าม จะมาปราบปราม อาตมว่า จะฝืนพระเจ้า มากไปไหม จะละเมิด อำนาจพระเจ้า มากไปไหม จะบังอาจละเมิด พระสยามเทวาธิราช อย่าเล่นกับพระเจ้า กับ พระสยามเทวาธิราชนะ อาตมาไม่ได้ขู่นะ แต่พูดสัจธรรม ด้วยลีลา ให้ดูฮึกเหิม คึกคักหน่อย

        ๒.ความจริงความถูกต้อง ซึ่งเราเป็นฝ่ายถูกกว่า ทางฝ่ายรัฐบาล
        ก็ขอให้สติแก่ประชาชน ถ้าจะกตัญญูต่อชาติ ประเทศที่เราได้อาศัยเกิดมา ใต้พระบรมโพธิสมภาร ตั้งแต่เราอยู่ ยังไม่ตาย จะกตัญญูต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ บ้างได้ไหม ผู้ที่ยังไม่มา ก็มาเลย ขอไขข้อข้องใจ ว่าทำไม พล.อ.ปรีชา ถึงได้ประกาศว่า ปฏิวัติ

        ก็ต้องประกาศสิ หากปฏิวัติแล้วไม่ประกาศ ประชาชนจะรู้ได้อย่างไร ที่ประกาศนี้ ไม่ได้พูดเล่นๆนะ แล้วทำไมต้องประกาศ เหมือนไม่ให้รู้ตัว ในโลกไหน เขามีล่ะ จะประกาศ ปฏิวัติแล้ว จะต้องบอกให้รู้ก่อน มันต้องไม่ให้รู้ตัวสิ จึงเป็นของจริง ของแท้ แล้วสงบ จนคนเห็นแล้ว ก็ยังไม่รู้อีกว่า นี่ปฏิวัติหรือ เอ๊ะ ไม่เคยเห็น อย่างเคยเห็น มีแต่ เอารถถัง เอาทหาร เอาปืน ไปยึดจุดสำคัญ ของประเทศ และต่อสู้ ระหว่าง อำนาจเก่า กับอำนาจใหม่ สู้กันจนตายไป ประชาชนที่ถูกทำร้าย ด้วยอำนาจรัฐ ก็รัฐมีอาวุธ หรือ แม้แต่ประชาชน จะปฏิวัติอย่างไม่มีอาวุธ เขาทำไม่ได้ แต่ประเทศไทยทำได้ ไม่ต้องมีอาวุธ ไม่ต้องไปยึดที่ใด มาแสดงอำนาจอธิปไตย ของประชาชน เท่านั้น ขณะนี้ ประกาศแล้ว รู้แจ้งไปทั่วโลกแล้ว ยุคนี้โลก ฟ้าบ่กั้น ลาวเขาแปลว่า ฟ้า บ่ กั้น คือ ไม่มีอะไรขัดขวาง สื่อสารสนเทศน์ มันเร็วไว ปธน.ตดที่นี่ รู้กันทั่วโลกแล้ว

        ความจริงอันนี้ประกาศรู้ไปทั่วโลกแล้ว มันกาลก่อนที่ศาลโลก จะอ่านประกาศ ตัดสินคดี เขาจะอ่าน ๑๖.๐๐ น. พล.อ.ปรีชา จึงจำเป็นต้องประกาศก่อน เพื่อให้รู้ว่า ประเทศไทย ได้เปลี่ยนอำนาจแล้วนะ ถ้าเหตุการณ์คืนนี้ ไม่มีอำนาจอื่น ที่จะมาทำ ให้เกิดความไม่สงบ ในหมู่ประชาชน ที่ปฏิวัตินี้ เมืองไทย จะเป็นที่ๆปฏิวัติ โดยสวยงาม ที่สุดในโลก เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในโลก ก็ขอความร่วมมือ จากผู้มีอำนาจ ทหาร ตำรวจ ก็ตาม อย่าทำให้สิ่งสวยงาม มหัศจรรย์นี้ล้มเลย

        ความถูกต้อง คือนิติรัฐ นิติธรรม ใครผิดคือผิด ถูกคือถูก แล้วที่เราทำนี่ ถูกนิติรัฐ นิติธรรม สุดยอด Ultimate แล้ว ถ้าท่านผู้มีอำนาจปืน อำนาจอาวุธ หรืออำนาจอะไร แม้แต่กำลัง ของประชาชนที่เป็นมวลหมู่ประเทศ แต่ท่านไม่ทันแล้วล่ะ ตอนนี้ เราประกาศ ปฏิวัติแล้ว และเราก็มีมวล มากกว่าด้วย แต่ความถูกต้อง เราจริงแล้ว เหลือแต่ ให้มันชัดขึ้น คือมวลประชาชน คะแนนเสียงสวรรค์ ออกมา ให้เต็มราชดำเนิน ทั้งนอก และในเลย สัก ๕ ล้านคนเลย

        เสียสละ ไม่นอนสักคืนได้ไหม รอรับประชาชน ที่จะมาได้ไหม จะทำอย่างไร ให้อยู่กัน ทั้งคืน ก็มีร้องรำบ้าง พูดกันบ้าง แล้วพรุ่งนี้ ก็จะปฏิบัติตามครรลอง นิติรัฐ นิติธรรม เราอยู่ในสภาวะ สบายใจเพราะเราถูก มาตลอดทางเลย เราไม่ได้ออก นอกแถว นอกคู นอกทางเลย ช่างสวยงามอะไร ปานนั้น
        ก็ขอขอบคุณ สยามเทวาธิราชิทธิ ขอบคุณหลวงปู่ วิชิตอวิชชา

        นิติธรรม หรือหลักธรรมะ พูดไปเป็นเรื่องลึก เมื่อวานก็บรรยาย เชิงสังคม การเมือง และ สำคัญคือ เชิงลึกอจินไตย ยากแต่คนก็รู้ได้บ้าง มันเป็นเรื่องลึก ที่วางแผนไม่ได้ ถ้าวางแผน แล้วรู้ทัน ทุกอย่าง เกิดตามปัจจัย ผู้ทำเอง ยังงง ไม่คิดว่า มันจะเป็นอย่างนี้ มันยังไม่เคย มีที่ไหน ในโลกเลย การปฏิวัติโดย มหาประชาชน มันเป็นเรื่องของ ธรรมะ ที่ต้องเป็น เช่นนี้เอง คือ ตถตา

        ทำอะไร หน้าต่างมีหู ประตูมีตา ทำอะไร เขาก็กันไว้หมดเลย แต่นี่ผู้ทำ ยังไม่รู้ว่า จะทำอย่างไรก่อนเลย คนจะป้องกัน ก็เลยทำไม่ได้ จึงสำเร็จ มันต้องเป็นเช่นนั้น ยกตัวอย่าง อาตมาไม่รู้มาก่อนว่า  จะต้องมา ทำหน้าที่โพธิสัตว์ ตั้งแต่เกิดมา ก็ไม่มี หมอดูใหญ่ๆมาว่า จะเป็นโพธิสัตว์นะ เหมือนพระพุทธเจ้า มีคนทำนายว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าได้

        อาตมาเป็นโพธิสัตว์ จึงรู้เรื่องเหล่านี้ แต่ก่อนถือว่า อินเดียเป็น ชมพูทวีป เพราะว่า มีคนที่มี โลกุตรธรรมอยู่มาก แต่ตอนนี้ อยู่ที่ประเทศไทยแล้ว ที่ใดมีคน มีเนื้อแท้ธรรม โลกุตรธรรม อยู่มาก ก็คือชมพูทวีป เมืองอื่น ประเทศอื่น เขาไม่มีที่จะประกาศ ชัดเจนว่า มีอาริยบุคคลอยู่ ไม่มีแล้ว โสดาฯสกิทาฯ อนาคาฯ อรหันต์

        โลกียะคือ ผู้ตกใต้อำนาจโลกธรรมนั่นเอง คนดีก็แค่ รวยลาภยศ สรรเสริญ อย่างสุจริต เป็นกัลยาณชน เท่านั้น แต่ไม่ใช่โลกุตรธรรม เขาถือว่า ประสพผลสำเร็จ ในชีวิต คือมี รวยสุด อำนาจมากสุด สรรเสริญสูงสุด พรั่งพร้อมด้วย เบญจกามคุณ เป็นต้น ส่วนโลกุตระนั้น เป็นภาวะ สัจจะย้อนสภาพ ทวนกระแส ปฏิโสตัง โลกุตระคือ ผู้ไม่หลง ลาภยศ สรรเสริญ สุขเลย ผู้มีคุณสมบัติสูงส่ง คือไม่รวย และไม่มอมเมา ให้คนรวยด้วย อย่างพระโพธิสัตว์ของไทย คือในหลวง ที่ตรัสสอน แบบคนจน ไม่ต้องไปรวย เราไม่เอาก้าวหน้าอย่างโลกๆ ท่านตรัสไม่ยาว แต่กินความสมบูรณ์แบบ คือธรรมะโลกุตระ

        การทวนกระแสโลกีย์ ไม่ติดยึดโลกธรรม เช่น คานธี ในหลวง ทรงประหยัด มัธยัสต์ แต่ทรงอยู่ ในฐานะกษัตริย์ ทรงสืบทอดมา ไม่ได้เป็นของท่าน แต่เป็นตาม ฐานานุฐานะ ของพระองค์ ไม่ใช่อย่างที่ คอมมิวนิสต์ว่า ต้องเสมอภาค เหมือนกันหมด สิ่งสองสิ่ง ไม่มีทางเสมอกัน อนุปรมาณู ละเอียดเท่าใด สองสิ่งก็ไม่เท่ากัน

        สิ่งโลกุตระอีกประเด็นคือ ทวนกระแส ไม่ใช่ติดหลง ในโลกธรรม เอามาตัดสิน
        อีกประเด็นหลัก ที่ตัดสินโลกุตรบุคคล จะต้องเป็นผู้เข้าถึงจิต รู้จักจิต รู้จักทิศทาง ของนิพพาน นิพพานคือ กิเลสสูญ ไม่ใช่ตัวตน ร่างกายสูญ กิเลสไม่ใช่ร่างกาย แต่นิพพาน เป็นปริโยสาน คือแห่งที่สุดแล้ว อวสานอย่างสิ้นรอบ สูญอย่างสัมบูณร์ อย่างหมดสิ้น ทุกอย่าง หมดแม้แต่วิบาก หมดบาปหมดบุญ ตั้งแต่เป็นอรหันต์ ส่วนหมดวิบาก หรือ หมดผลของบาปบุญ คือ ต้องปรินิพพาน เท่านั้น

        ผู้ปฏิบัติถูกพุทธ จะมีสติปัญญา ไปถึงวิมุติ แล้วจึงถึงนิพพาน ในมูลสูตรข้อ ๕ ถึง ๑๐
๖.  มีสติ เป็นใหญ่ (อธิปไตย = พลังอำนาจ)
๗.  มีปัญญา เป็นยิ่ง (อุตระ = เหนือ) 
๘.  มีวิมุติ เป็นแก่น (สาระ)  สุดยอดที่จะรู้ยิ่ง
๙.  มีอมตะ เป็นที่หยั่งลง (โอคธา)
๑๐. มีนิพพาน เป็นที่สุด (ปริโยสาน)

        สรุปคือโลกุตระบุคคลจะมี
        ๑.จิตทวนกระแสโลก แต่ไม่ได้หมายถึง ท่านไม่มีโลกธรรม แต่ว่าท่านไม่ติดยึด มีก็ไม่หลง แม้ไม่มี ก็ทำงานได้ ในพระพุทธเจ้าบางองค์ ไม่ต้องออกจากวังเลย พอออกบวช ๗ วันก็บรรลุ มีทรัพย์สมบัติ แต่ก็ไม่หลงติด ต่างกับพระสมณโคดม เป็นยุคที่คนหลงติด โลกธรรมมาก ท่านก็ต้องใช้ ไตรจีวร มีบาตร ไม่ใส่รองเท้า ใช้ผ้าบังสุกุล เป็นสัจจะย้อนสภาพ

        ๒.ต้องมีภูมิธรรม ขนาดจับจิตได้ รู้จัก กายในกาย เวทนาในเวทนา เวทนาเจตสิก คุณต้องมีญาณ อ่านรู้อารมณ์ว่า นี่โกรธนะ สัมผัสรู้เลยว่า อาการนี้ แล้วเหตุของอาการ ก็วิเคราะห์วิจัย ของตนเอง จับเหตุที่พาโกรธ นี่คือโลกุตระ ต้องหยั่งถึงจิต เป็นนามธรรม ไม่มีรูป เสียงกลิ่นรส อสรีรัง ไม่มีตัวตนรูปร่าง รู้นามรูปได้ จิตวิญญาณ มีอาการเท่านั้น ซ้อนอยู่ในกายวิญญัติ วจีวิญญัติ ในการแสดงออกนั้น

        ผู้ศึกษาโลกุตระ จะรู้จิตตน สามารถกำจัดกิเลสเกลี้ยงจริง จนดับสนิท ไม่เกิดอีก ที่พูดนี้ บางคนรำคาญ แต่ผู้ชอบ จะชื่นใจ ที่อาตมาพูดนี้ อย่าง นิจจัง ธุวัง สัสสตัง อวิปริณามธัมมัง อสังหิรัง อสังกุปปัง     

        การเข้าถึง จิต เจตสิก รูป นิพพานได้คือ โลกุตรบุคคล พ้นสักกายทิฏฐิ คือสังโยชน์ ข้อที่ ๑ ไม่ลังเลสงสัยเลย หมดวิจิกิจฉา พ้นศีลพรต ที่จับตัวตนกิเลสได้ แต่ไม่ใช่แค่ ลูบๆ คลำๆ เล่นๆ หัวๆ แต่ต้องฆ่ากิเลสจริงเลย ทำได้จริง จึงพ้นศีลพตปรามาส

        กิเลสไปเลี้ยงดู ลูบคลำเล่นหัว ไม่ได้ ต้องปหาน ต้องกำจัดเลย อย่าไปเล่นหัว เลี้ยงดูมัน จะบ้าหรือ แม้คุณจะสัมมาทิฏฐิ พ้นสักกายะทิฏฐิ พ้นวิจิกิจฉา เลี้ยงโจร เลี้ยงเชื้อโรค ประมาท ก็ตายกับเชื้อโรคได้ เมื่อมีสุขด้วยความสงบ ก็ปราบกิเลส ให้สิ้นอนุสัยอาสวะ เป็นอรหันต์จ้อย

        วันนี้เป็นวันปฏิวัติ แต่อาตมาเทศน์โลกุตระ แยกโลกียะโลกุตระ ใครฟังไม่ทัน ก็ติดตามจาก FMTV อาตมายังมีเรี่ยวแรง ยังหนุ่มแน่นอยู่

        อาตมาทำงานใหญ่ ไม่ได้ทำงานเล็ก มาร่วมมือกัน เพื่อปฏิรูปประเทศ คำว่า ปฏิรูปนั้น มีสภาพค่อยเป็นค่อยไป ทำตามลำดับ ส่วนปฏิวัตินั้น หักดิบเลย ไม่มีขั้นตอนมาก ไม่ต้องรู้ตัวเลย ปฏิวัติแล้วหรือนี่ เราถือว่าปฏิวัติ แล้วจะปฏิรูป ประเทศไทย นี่คือ การเปลี่ยนแปลง การบริหารปกครองต่อไป ที่เราทำอยู่นี่ ไม่ได้ออกนอก นิติรัฐนิติธรรมเลย อยู่ในครรลองครองธรรม ใครละเมิดผิด เป็นความสวยงาม เหมือนเพชร เพชรนี่ใสสวยเหลือเกิน อย่าให้มี รอยหม่นเลย ผู้ที่มีอำนาจ ช่วยรักษากันด้วย ไม่เคยเกิดเลยในโลก ช่วยทำให้เกิด ในไทยด้วยเถิด

        ประชาชนมาๆๆๆ คืนนี้มาให้เป็นล้านเลย เพื่อยืนยันว่า นี่คือ มหาประชาธิปไตย เป็นอำนาจ ประชาชนที่มาก เรียกว่า มหาประชาธิปไตย ไม่ต้องหนักแรงอะไร อาจไม่สะดวก เหมือนที่บ้าน แต่เสียสละหน่อย เพราะตอนนี้ ไทยเราเสื่อมมาก โดยเฉพาะ ทางศีลธรรม การณ์ครั้งนี้ อาตมาจะหวังว่า... อย่ามาหวังนี่

        อาตมาเคยพูดว่า พยายามจะทำ ปรากฏการณ์พิเศษ ให้คนตาบอดเห็นได้ คนตาบอด คือคนอวิชชา ถ้ามีสิ่งที่ประเสริฐสุด สามารถทำให้คนตาบอดเห็นได้ คนเห็นได้ในที่มืด จุดไฟในที่มืด คิดว่าคนไทยมีปัญญา เป็นแต่เพียง หลงลืมไปชั่วคราว มาช่วยประเทศไทย หน่อยเถอะ โดยเฉพาะ ผู้ที่รู้แล้วว่า อะไรถูกผิด มาร่วมกันยืนยันว่า อะไรผิด อะไรถูก เป็นปรากฏการณ์ ของประเทศไทย ที่กำลังเกิดนี้  หายากมาก

        แต่ก็ได้บังเกิดแล้วที่นี่ ณ ๑๕.๓๐ น. อุบัติขึ้นเวลานั้น จนตอนนี้ เห็นผลแล้ว ยิ่งประชาชน ออกมามากๆ จะเป็น สยามเทวาธิราชิท เป็นอิทธิของ พระสยามเทวาธิราช ถ้าประชาชน มามาก ใครจะทำอะไรประชาชน จำนวนมาก ไม่มีใคร คิดทำอะไรหรอก มีมวลมากมาย หนาแน่น ก็เป็นนิติรัฐ นิติธรรมอยู่แล้ว ใครอยู่ที่บ้าน ก็มาเลย มีพาหนะอะไรก็มา เหาะมาได้เอง ก็เหาะมาเลย

        มารวมตัวกัน เพื่อส่งเสริมความสวยงามประเสริฐ อาตมาดีใจมากเลย มีคนให้ ข้อมูลมาว่า มติจากเวที อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ข้างหลังเรานี่ให้ “สู้แบบอาริยะขัดขืน” แล้ว สุเทพ และพวกอีก ๗ คนลาออก มาต่อสู้แล้ว

        ๑.ขอให้หยุดงานกันวันที่ ๑๓ ถึง ๑๕ หยุดเรียน หยุดทำงาน ออกมายืนยันว่า นี่คือ เสียงของ มหาประชาชน นี่คือรัฐาธิปัตย์ ที่แท้จริง ยังไงก็หยุดงานมา เชื่อว่าเบ็ดเสร็จ แน่เลย ไม่ว่าจะการงาน หรือ มหาวิทยาลัย
        ๒.ขอให้ประชาชน ชะลอการจ่ายภาษี พร้อมกัน
        ๓.ให้ติดสัญลักษณ์นกหวีด และธงชาติ พร้อมกันทุกบ้าน
        ๔.หากเจอนายกฯ และบรรดาลิ่วล้อรัฐบาลที่ไหนไม่ต้องไปพูดจาอะไร ให้เป่านกหวีด อย่างเดียว

        การชุมนุมประท้วง พศ.๒๕๓๕ เขาเรียกว่า ม็อบมือถือ แต่การชุมนุมประท้วง ครั้งนี้ คงเป็นม็อบ นกหวีดนะ ถ้าพรุ่งนี้ ถึงล้านคน แน่นเลยไปถึง สนามหลวง ไปถึง ปากคลองตลาด เลยจากนั้น ลงน้ำเลย

        ยังรอน้ำใจของคนไทยที่เหลือ ว่าท่านจะทำให้เกิด ความรุนแรงไหมหนอ ถ้าไม่เกิดได้ จนถึงวันที่ ๑๕ พอถึงวันนี้ ฉลองที่ไหนดีนะ ก็ที่ราชดำเนินก็ดีนะ

        จะพิสูจน์กันในอีกไม่กี่วัน ดูน้ำใจคนไทยที่เหลือ ผู้ที่คิดจะทำให้เกิด ความรุนแรง ขอร้องว่า อย่าทำเลย เห็นแก่ประเทศชาติ ได้ไหม หรือรอให้ทูลเกล้าถวาย แล้วในหลวง ไม่ลงพระปรมาภิไธย ก็ค่อยว่ากัน แต่ถ้าในหลวง ลงพระปรมาภิไธย คุณก็ต้องยอม เพราะท่านอยู่ในฐานะที่มี Supreme law เป็นความมั่งคง สูงสุดของชาติ  ขอบคุณทุกคน ที่ตั้งใจฟัง …. พอเข้าใจกันบ้างไหม... เอวัง       

 

 
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่ เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กทม.