ทำดังนี้...จะมีแต่กำไร

หลักใหญ่ในการปฏิบัติธรรม ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ของเรานั้น คืออะไรเอ่ย?

หลายคนอาจจะคิดไกล ไปจนถึง สติปัฏฐาน สมถะ และวิปัสสนา ซึ่งมันก็ถูก แต่ใครบ้างล่ะ ที่เริ่มต้นปฏิบัติธรรม ด้วยหัวข้อธรรม เหล่านั้น ได้ทันที แม้แต่ผู้สละเพศ ออกบวชแล้ว ก็ยังทำไม่ได้เลย

อย่าเพิ่งพากันไปคิด ให้มันยากลำบาก กับตัวเองเลย ถ้าแม้นว่า ผู้ใดใฝ่ดี มุ่งจะฝึกฝนตนเอง ให้เป็นผู้เจริญ หรือ เป็นคนดีแล้วละก็ ยังไม่ต้องไปนึกคิด ถึงขั้นอย่างนั้นหรอก เรามาคิดกัน ถึงแค่ขั้น "สังวร" และ "สำรวม" กันนี่ เสียก่อนเป็นไง

พระพุทธองค์ ทรงสอนธรรมะ เพื่อให้คนปฏิบัติกันไป เป็นลำดับขั้น ดังนี้
๑. ฟังธรรม แล้วจำหัวข้อธรรมเอาไว้
๒. แล้วนำมาพิจารณาดูให้เข้าใจ จนเกิดศรัทธา เห็นจริง เห็นจัง ในหัวข้อธรรมนั้น
๓. แล้วนำเอาหัวข้อธรรมนั้นๆ มาให้กำกับตน หรือมาเป็น ข้อเตือนใจ หรือจะยกขึ้น เป็นข้อกำหนด เป็นกฎห้าม เฉพาะตนเลยก็ได้
๔. ทีนี้ ก็พึงระวังตัว ปฏิบัติตนตามที่เราได้กำหนด หรือสร้างกฎให้ตนนั้น

เท่านี้เอง ถ้าเราพึงตั้งใจทำให้ได้ อะไรก็ได้ ที่เรากำหนดจะทำ หรือจะฝึกตนให้บรรลุ ซึ่งสิ่งนั้น เราจะประสบผล จะมีความสำเร็จ ได้โดยง่ายทันที ถ้าผู้ใด ได้ทำตามลำดับขั้น อย่างนี้จริงจัง ผู้ใด อยากจะประจักษ์ผลว่า จะจริงไหม ก็ลองดู ที่จริง ไม่จำเป็นจะต้อง เป็นเรื่องของธรรมะ อย่างเดียวก็ได้ แม้จะเป็นเรื่องานการอื่นๆ ใดๆ ที่พึงจะทำก็ได้ทั้งสิ้น แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง คือ:-

พึงกระทำให้เคร่งครัด จนได้ชื่อว่า ซื่อสัตย์กับตน อย่างที่สุด คือ ต้องตั้งใจระวังตัว ปฏิบัติตน ตามที่เราได้กำหนด หรือสร้างกฎ ให้แก่ตนนั้น ทุกเมื่อทุกยาม แม้เราจะอยู่คนเดียว ลับหลังผู้อื่น ไม่ว่าจะอยู่ ในที่เปิดเผย หรือที่ลับมิดชิด เท่าใดก็ตาม เราต้องทำทุกอย่าง เหมือนเราอยู่ ต่อหน้าผู้คนอื่น หรือ อยู่ในสถานที่ทุกแห่ง โดยไม่มีละเว้น จะละเว้น หรือ ละเมิด ข้อกำหนดของตน หรือ กฎห้าม ของตนจริงๆ ก็ต่อเมื่อได้ใช้สติ พิจารณาก่อนแล้วว่า ณ บัดนี้ ได้เหลียวมองรอบข้าง และได้ลั่นดาน หรือได้กระทำ อย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อเป็นการป้องกัน การละเมิด ข้อกำหนด ของตนนั้น ไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างเหมาะควร จึงจะลงมือละเมิด ข้อกำหนดของตนได้ ซึ่งกรณีนี้ จะพึงทำก็เพราะยามนั้น เป็นเหตุสุดวิสัย จะไม่ละเมิดนั้นไม่ได้ ยกตัวอย่าง เช่น ข้าพเจ้า ตั้งข้อกำหนดให้ตนว่า จะไม่เปลือยกาย แม้ส่วนบน (คือ แม้แต่ ไม่ใส่เสื้อ) ให้ได้ตลอดเวลา ดังนั้น แม้เราจะอยู่คนเดียว ในห้องอันมิดชิดของเรา เราก็ต้องระวัง ไม่เปลือยกาย ให้ได้ แต่เราก็จะต้อง เปลือยแน่ๆ เมื่อเราจะต้อง เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือ เมื่อเราจะอาบน้ำ เป็นต้น เพราะฉะนั้น เมื่อเราจำเป็นจะต้องละเมิด ข้อกำหนดของเรานี่แหละ เราจึงต้องตั้งใจให้มาก ต้องเหลียวดูรอบข้าง และได้ลั่นดาน อยู่เฉพาะตน จริงๆเสียก่อน จึงลงมือ ละเมิดข้อกำหนดนั้น แม้จะได้เหลียวดู รอบข้างแล้ว เห็นว่า เป็นการปลอดภัย ไม่มีใครเห็นแน่แล้วก็ตาม ก็ต้องไม่ประมาท เป็นอันขาด ต้องลั่นดานด้วย หรือ ต้องทำทุกอย่าง ให้รัดกุมที่สุด เท่าที่จะทำได้ ในสภาพของ สถานที่นั้น และ ตามปัญญาของเรา จะพึงระมัด ระวังได้ อย่างดีที่สุด ต้องไม่ให้ได้ชื่อว่า "ประมาท" เป็นอันขาด

เท่านี้เอง เป็นหลักการ อันจะพึงสร้างตน ให้เป็นผู้เจริญ หรือเป็นคนดี ได้อย่างถูกถ้วน บริบูรณ์ แม้จะเป็นพระอรหันต์ ก็จะต้องทำดังนี้ด้วย ผู้ใดยังไม่ได้ทำตามที่ว่านี้ คือผู้นั้น ยังไม่ได้ปฏิบัติตน ตามแบบแผน ที่ดีที่สุด และถูกต้องที่สุด อันจะส่งผลชะงัดยิ่ง เป็นไปได้อย่างดี และทีละมากๆ จนผู้ปฏิบัติเอง จะออกแปลกใจเอาเลยทีเดียว

ไม่เชื่อ ก็ลองนำไปปฏิบัติดูเถิด จะลองปฏิบัติ ทีละหัวข้อ กำหนดให้ตน ทีละเล็กละน้อยไปก่อน เมื่อหัวข้อใด ทำให้ตนได้คล่องแคล่ว จนเกิดผล เป็นความเคยชิน โดยไม่ต้องระมัดระวังแล้ว ก็ค่อยกำหนด หัวข้ออื่นๆ อีกไล่เรียงเพิ่มขึ้น ตามลำดับๆ นี่แหละ คือ การ"สังวร" และ การ"สำรวม" ที่ถูกต้อง ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล.

๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๓

ประกายธรรม ๑๑

******