ความรักเจ้ากรรม - รักขวัญ

หากขึ้นต้นเรื่องว่าความรักเจ้าเอย มันคงจะหวานชื่นและอบอวลไปด้วยความสุข ความสมหวัง ทว่า เมื่อมันไม่เป็นไปอย่างนั้น มันจึงกลายเป็น ความรักเจ้ากรรม นำทุกข์โศกมาให้

เวลาที่คนเราต้องสูญเสียคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นการจากเป็นหรือจากตาย ล้วนแล้วแต่ นำความเจ็บปวด มาให้ทั้งสิ้น ส่วนจะหนักหนาสากรรจ์แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับดีกรีความรัก ที่เรามีให้คน ที่จากเราไป ซึ่งก็เป็นเรื่อง น่ามหัศจรรย์ที่ "ความรัก" ช่างเป็นพลังมหาศาล ทั้งในแง่บวก และลบ ที่จะผลักดันให้คนเรา เป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ได้

และเวลาที่เราเจ็บปวดที่สุด เราก็จะตั้งคำถามว่า "ทำไมถึงต้องเป็นเรา" คนที่ต้องเผชิญ กับความทุกข์ อันแสนสาหัสนี้ "ทำไมเหตุการณ์นี้ถึงต้องจำเพาะเจาะจงมาเกิดกับเรา ทั้งๆ ที่เราก็ทำแต่ความดี ช่วยเหลือ ผู้อื่น มาตลอด" "ทำไมคนที่สมควรตายอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรกลับไม่ตาย ส่วนคนที่ตาย ไม่น่า จะต้องมาตาย ในวัยอันไม่สมควรนี้เลย" คำถามมากมายที่ขึ้นต้นว่า 'ทำไม ทำไม ทำไม' ดูเหมือนจะ ไม่ต้องการคำตอบ เพราะไม่ว่าคำตอบใด ก็ไม่อาจจะทำให้ผู้สูญเสียทางใจ รู้สึกดีขึ้นได้ เพราะสิ่งที่เขา ต้องการคือ เอาคนที่เขารัก กลับคืนมา ยิ่งถ้าผู้สูญเสีย ไม่มีศาสนาเป็นที่พึ่ง ก็จะยิ่งเจ็บปวด สับสน ทุรนทุราย เพราะไม่มีคำปลอบประโลม หรือยาขนานใด รักษาแผลแห่งความรักได้ แต่หากเราเชื่อเรื่อง 'กรรม' แม้จะไม่อยาก รับกรรมอันนั้น ทว่าอย่างน้อย มันยังมีคำอธิบายบางอย่าง ให้เรายอมรับ 'ชะตากรรม' แต่ไม่ใช่ 'ยอมแพ้ต่อชะตากรรม' เราต้องยอมรับ ความจริงที่เกิดขึ้นก่อน และตั้งหลักต่อสู้ อย่ายอมแพ้ และ เปลี่ยนความทุกข์โศก อันเนื่องมาแต่ความรัก ให้เป็นพลังสร้างสรรค์ พลังบวกที่จะดำรงชีวิตต่อไป อย่างมีประโยชน์ ทั้งต่อตนเอง และต่อผู้อื่น ขยายความรักให้กว้างขึ้น อย่าจำกัดอยู่แค่คนๆ เดียวหรือ จำนวนเดียว แล้วเราจะพบว่า ความรักอย่างหลังนี้มีปริมาณมาก มีพลังมหาศาล ไม่สิ้นสุด และไม่ต้องการ สิ่งตอบแทน เป็นความยิ่งใหญ่ แห่งรักอย่างแท้จริง

(ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๐๒ ก.ค. - ส.ค. ๒๕๔๕)