แนะนำหนังสือ
เกร็ดกรวด [email protected]


กินให้ดี
นายแพทย์แอนดรู ไวล์ เขียน
"คทายุธ", กานต์รวี ทองพูล
และ อนันต์ ทองทา แปล
บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จัดพิมพ์
มิถุนายน ๒๕๔๕
๓๕๐ หน้า ๒๕๐ บาท

หน้าปกหนังสือเล่มนี้ นอกจากชื่อหนังสือและผู้แต่งแล้ว ยังมีข้อความที่น่าสนใจอีก ๒ ข้อความ คือ
- eating well for optimum health
คิดก่อนว่ากินอย่างไรให้อายุยืน
- คู่มืออาหาร-การกิน และโภชนาการจากพ่อมดแห่งวงการแพทย์ผสมผสาน
ข้อความดังกล่าว ทำให้รู้ใจความสรุปของหนังสือเล่มนี้ว่า อายุจะยืนได้ถ้ารู้จักเลือกอาหาร แล้วก็รู้ว่า ผู้เขียน เป็นแพทย์ ผู้รอบรู้แนวทางการแพทย์ที่หลากหลาย

สารบัญของหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างนี้
๑. หลักการกินให้ดี
คนเราต้องกินเพื่ออยู่
การกินคือการเสพสุนทรียรส
"อาหารที่เราชอบ" กับ "อาหารเพื่อสุขภาพ" ไปด้วยกันได้
การกินคือศูนย์กลางของกิจกรรมต่างๆ ทางสังคม
วิถีการกินสะท้อนตัวตนและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนเรา
วิถีการกินคือดัชนีตัวหนึ่งด้านสุขภาพ
การปรับอาหารและนิสัยการกินเป็นหนึ่งยุทธวิธีเพื่อจัดการโรคและฟื้นฟูสุขภาพ
เรื่องจริงจากประสบการณ์ :
กินกะหล่ำปลีดีกว่าเฟรนช์ฟราย
เรื่องจริงจากประสบการณ์ :
มีดและส้อม-เครื่องมือแพทย์ส่วนตัว
๒. ความรู้พื้นฐานเรื่องอาหารการกิน
อารัมภบท : แมคโครนิวเทรียนต์
ย้อนรอยคาร์โบไฮเดรต :
อาหารประทังชีวิตหรือของแสลง
คุยกันเรื่องไขมัน : ยอดเยี่ยมหรือย่ำแย่กันแน่ ?
คุยกันเรื่องโปรตีน : กินแค่ไหนถึงจะพอ
ไมโครนิวเทรียนต์
เรื่องจริงจากประสบการณ์ :
การเผชิญหน้ากับการแพทย์องค์รวม
เรื่องจริงจากประสบการณ์ :
เอาชนะภูมิแพ้ได้เสียที
๓. อาหารยอดแย่
๔. อาหารยอดเยี่ยม
๕. เรื่องของน้ำหนักตัว
๖. การซื้ออาหารมาทำกินเอง และการออกไปกินอาหารนอกบ้าน
๗. ยอดนักมายากลประจำครัว
๘. ตำรับอาหารสุขภาพ

ภาคผนวก ๑ คุณลักษณะ "อาหารดีมีประโยชน์"
ภาคผนวก ๒ คำแนะนำพิเศษ ว่าด้วยอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคต่าง ๆ
ภาคผนวก ๓ ตอบข้อสงสัยทั่วๆ ไปเกี่ยวกับอาหารการกิน
ภาคผนวก ๔ ดัลนีไกลซีมิก

หัวข้อที่ไม่มีข้อย่อยนั้นเป็นเพราะเกรงว่าจะยาวเกินไปจึงไม่ได้นำมาพิมพ์ ที่จริงแล้วมีข้อย่อยทุกข้อ ล้วนเป็น เรื่องที่น่าสนใจทั้งสิ้น แต่ละหัวข้อก็สั้นๆ อย่างที่จะยกมาสักสองสามหัวข้อดังนี้

"อาหารที่เราชอบ" กับ "อาหารเพื่อสุขภาพ" ไปด้วยกันได้

คำเปรยที่ได้ยินจากคนไข้บ่อยมากคือ เขามักจะบ่นๆ กันว่า "อาหารที่หมอว่าไม่ดีน่ะ ของชอบทั้งนั้นเลย" และแล้วจะต้องมีอีกคำถามหนึ่งตามมาติดๆ ว่า "เอ...ถ้าอาหารนั้นไม่ดี แล้วทำไมอร่อยจังเลย" แล้วผม ก็ต้องอธิบายถึงเหตุผลนานัปการที่ไม่มีใครเถียงได้เลยว่า เหตุใดความรู้สึกของเรา จึงได้นำพาเรา เข้าไปหา ของมันๆ หวานๆ หรือเนื้อย่างก้อนโตๆ กระทั่งอาหาร จานด่วนทั้งหลาย ที่เดี๋ยวนี้ เรานิยมกันมาก ในนามของ อาหารขยะ เรื่องนี้เราอย่าไปโทษรสนิยมเลยครับ แต่อยู่ที่เราได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อม จากที่เคยหา อาหารกินไม่ง่ายนัก มาเป็นความสะดวกรวดเร็วต่างหาก

คำถามที่ชวนงงยิ่งกว่านั้นก็คือ "ทำไมอาหารสุขภาพถึงไม่น่ากินเล่า" ถ้าถามผมส่วนตัว ผมจะตอบว่า เป็นเพราะ คนที่เป็นแกนนำเรื่องอาหารสุขภาพทั้งหลาย เขาไม่ใช่นักกินอยู่แล้ว คล้ายๆ ว่าไม่ได้ถูก โปรแกรมเคมี ระบบประสาท มาให้เปิดรับความพึงใจ จากอาหารการกิน ได้มากเท่าไร นักเขียน เรื่องการจำกัด อาหารส่วนมากก็เป็นอย่างนี้ ไม่ต่างกับ โภชนาการ นักวิชาการ ด้านอาหาร หรือผู้เชี่ยวชาญ ด้านสุขภาพ ที่คอยบอกว่าใครควรกินอาหารอะไรบ้าง พวกนี้ ไม่ค่อยชอบกินอะไร เป็นทุนอยู่แล้วครับ
..........
หลายปีก่อน ช่วงที่ผมหัดทำอาหารมังสวิรัติกินใหม่ ๆ ก็พอดีมีเพื่อนสามีภรรยาชาวอังกฤษ มาเป็นแขก ค้างที่บ้าน ผมเลยทำอาหารจากธัญพืช ครบรูปหลายอย่าง เสิร์ฟกับอาหารผักที่ผมคิดเอาว่า ปรุงมา อย่างสุดฝีมือ ทั้งสอง ก็อุตส่าห์ค่อยๆ ลองกินด้วยความ อยากรู้อยากลอง ตกถึงเช้าวันรุ่งขึ้น คนสามี ลงมากินมื้อเช้า ด้วยหน้าตาแหยๆ ลูบท้องพลางถามผมว่า "อาหารมังสวิรัตินี่กินแล้วท้องอืดละมัง"
..........
ผมเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า อาหารเพื่อสุขภาพกับอาหารที่เรากินได้อย่างเอร็ดอร่อยเพลินใจนั้น แยกกัน ไม่ออกครับ การกินเพื่อ สุขภาพนั้น หมายรวมถึงสุขภาพกายใจที่สมบูรณ์แข็งแรง และการได้กินอาหาร ทรงคุณค่า อย่างเต็มอิ่ม นี่คือปรัชญาหลักของหนังสือเล่มนี้ครับ ถ้าคุณเคยกิน อาหารเพื่อสุขภาพ ชนิดใดๆ ก็ตาม แล้วเคยรู้สึกว่า ไม่น่าพิสมัย เช่น อาจทำให้คุณเกิดท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด หรือ อาการอื่นๆ แล้ว ผมมั่นใจมากว่า จะสามารถโน้มนำ และบอกวิธีให้คุณเปลี่ยน มากินอาหาร เพื่อสุขภาพได้ จนตลอดไป เพื่อสุขภาพ ปลายทางของคุณเอง โดยไม่ต้องเลิกร้าง อาหารโปรด ไปเสียทุกอย่าง (หน้า ๑๕-๑๗)
..........
เรื่องจริงจากประสบการณ์ :
"เพราะอะไรหนูจึงรู้จักกินดี"
หนูเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ร่างกาย เพราะว่ามันทำให้หนูไม่ป่วย
และหนูพนันเลยว่า พ่อจะมีอายุยืนยาวกว่าเดิม
ถ้าพ่อกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
และออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
..........
หนูสนใจกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ก็เพราะคุณพ่อ เมื่อหนูยังเล็กๆ หนูเคยกินเนื้อ แต่ครั้งหนึ่ง มีคนยื่น ฮ็อตด็อกร้อนๆ ให้หนูอันหนึ่ง แล้วพูดว่า "เอ้า นี่แซนด์วิชไส้หมูของหนูจ้ะ" หนูไม่เคยรู้ มาก่อน เลยว่า เนื้อได้มาจากพวกสัตว์ จนกระทั่งตอนนั้นเอง พอหนูรู้ หนูก็เลิกเลย หนูคิดว่า หนูเป็นคนเดียว ที่กินอาหารมังสวิรัติในห้องเรียน เพื่อนของหนูประมาณครึ่งหนึ่ง สนใจที่จะกินอาหาร ที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพเหมือนกัน แต่หนูไม่รู้จริงๆ ว่าจะแนะนำเพื่อนๆ อย่างไรดี แต่ถ้าหนูรู้ หนูจะสอน เพื่อนแน่ๆ อย่างน้อยที่สุด หนูจะสอน ถ้าไม่ทำร้ายความรู้สึกของใจ หรือทำให้เพื่อนบางคนไม่พอใจ

ที่หนูไม่ชอบเลยก็คือพวกที่บอกว่าตัวเองเป็นมังสวิรัติ แต่กลับกินเนื้อไก่หรือฮ็อตด็อก

หนูมีความสุขมากที่ได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายแบบนี้ แต่...หนูก็ยังชอบกิน
ช็อกโกแลต ขนมคุกกี้ พวกลูกอม หรืออมยิ้มบ้างนิดหน่อย (หน้า ๒๓๘-๒๓๙)

ขอย้ำ หนังสือเล่มนี้น่าอ่านจริง ๆ แล้วก็น่าปฏิบัติตามด้วยแหละ

(หนังสือดอกหญ็า อันดับที่ ๑๐๘ กรกฎาคม - สิงหาคม ๒๕๔๖)