รอบบ้าน รอบตัว - อุบาสก ชอบทำทาน -
พัฒนาชาติ ภาษาแม่ต้องแข็งแรง

คุณครูระดับชาติเคยบอกไว้ว่า เด็กจะเก่ง ต้องเก่งภาษาไทยก่อน

แต่บางคนฟังแล้ว คิดเอาเองว่า ต่างคนก็ต่างเชียร์ของตัวเอง เป็นครูบาอาจารย์ก็ต้องเชียร์วิชาการอยู่แล้ว

ครับ เป็นความคิดหมวกสีดำ คือ ระแวง-ระวังไว้ก่อน ก็ดีครับ แต่ความเป็นจริงก็ถูกของท่าน และถูกมานานแล้ว

การที่เราไม่ได้สำเหนียก ก็เพราะเราโง่มานานต่างหาก ขาดวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้

คล้ายๆ กับอะไรดีครับ ทำนองการขายรัฐวิสาหกิจ ที่เป็นสาธารณูปโภคให้เอกชน

คนไม่รู้เรื่อง เขาก็ต้องหนุนให้ขาย!

อิทัปปัจจยตา เพราะสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ การพัฒนาประเทศชาติของเราให้แข็งแกร่ง หลายๆท่านคงมองไปที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจ การมีรายได้ การมีเงินออม ฯลฯ

แต่ลึกซึ้งกว่านั้น คงจะหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ถ้ามีผู้ทะลุกลางปล้องขึ้นมาว่า "ต้องเก่งภาษาไทย"

นี่แหละครับ สมุทัยของสมุทัยขนานแท้!

ความอ่อนแอภาษาไทย เป็นสิ่งที่คาดกันไม่ถึงว่าจะเกิดผลร้ายอย่างไร

ความจริงแล้ว ประการที่หนึ่ง เมื่ออ่อนภาษาไทย ผลที่ตามมาก็คือ วิชาอื่นๆ จะพลอยอ่อนตามไปด้วย ไม่ว่าจะวิทย์ คณิต อังกฤษ ฯลฯ

เหตุผลก็คือ เมื่อจับใจความไม่เป็น จะตีโจทย์ให้แตกได้อย่างไร

ประการที่ ๒ ความอ่อนแอภาษาไทย ก่อเกิดความสับสนในการสื่อความหมายต่อกันและกัน

ผลที่ตามจึงเลวร้ายใหญ่หลวง เพราะเขาคนนั้นจะมีปัญหากับครอบครัว กับเพื่อนในที่ทำงาน สุดท้ายแม้กระทั่งกับสังคม

เป็นบุคคลที่น่าเบื่อหน่าย ที่ไม่น่าสนทนา และขาดความเข้าใจในตัวเอง รวมทั้งกับผู้อื่น

เหมือนคุยกับคนโง่
เหมือนคุยกับคนที่อยู่คนละโลก
เหมือนอยู่บนรางรถไฟคนละข้าง!

การสื่อสารที่ดี เราจะต้องเข้าใจความหมาย ของถ้อยคำเหล่านั้น

ในคณะนิติศาสตร์ จะมีการเรียนวิชากฎหมาย ที่ว่าด้วยการให้คำจำกัดความ (definition)

เมื่อจำกัดความตรงเป้า การตีความก็จะแม่น การประยุกต์ใช้ก็จะไม่ผิดพลาด

การสื่อภาษาของมนุษย์เรานั้น มีความละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง

ภาษาท่าทางเป็นพื้นฐานการสื่อสารทั่วไป

แต่ภาษาหนังสือ หรือภาษาคำพูด จะทำให้การสื่อสารลึกซึ้งขึ้น

และสุดยอดแห่งสุดยอดการสื่อสารก็จะกลับมาเป็น "ภาพ" เข้าทำนองคำอธิบายหมื่นคำ ก็ไม่ซึ้ง เท่ามองเพียง ๑ ครั้ง!

เรื่องของการใช้ภาษานั้น นับวันจะกลายเป็นแขกแปลกหน้าเข้าไปทุกที

ความแตกฉานในภาษา จะมีผู้ถนัดหรือเชี่ยวชาญลดน้อยลง

ภาษาไทยของเราวันนี้ หลายคนจึงเป็นเพียง "ผู้อาศัย" อยู่ไปวันๆ

หากเปรียบเป็นต้นไม้ ก็จะเรียกว่า เป็นกิ่งตอนทั้งสิ้น ดูเหมือนมีดอกผล แต่ไม่มีรากแก้วสักต้น

ในฤดูน้ำหลาก หลายสวนจมอยู่ใต้น้ำ ต้นไม้ ใหญ่ๆ ที่ดูแข็งแรงยืนแห้งตาย เข้าทำนอง ระยะทาง พิสูจน์ม้า! กาลเวลาพิสูจน์คน!

การเข้าใจภาษาของตัวเอง รู้ความหมาย รู้ไวยากรณ์ จะทำให้เราใช้ภาษาได้สละสลวย เหมาะเจาะตรงเป้าและถูกต้อง

คนที่ใช้ภาษาเป็น ถือว่าเป็นคนเก่ง และประสบความสำเร็จในการสื่อสาร

การศึกษาของเราที่ผลิตช้างเผือกหรือเด็กอัจฉริยะไปสอบแข่งขันได้เหรียญทองกลับมา จึงไม่ใช่ เรื่องน่าตื่นเต้นหรือยินดี

แล้วเด็กส่วนใหญ่ล่ะครับ อยู่ที่ไหน?

เศรษฐกิจที่ดี ชีวิตต้องอุดรูรั่ว ประกอบกันไปกับการหารายได้เพิ่ม

ประเทศที่จะพัฒนาให้ยิ่งใหญ่ หากอ่อนแอภาษาไทยคือภาษาแม่ของตัว คิดหรือว่าจะก้าวไปไกล

พัฒนาไปเท่าไหร่ก็ไม่ก้าวหน้า กระตุ้นอย่างไร ก็ไม่ค่อยเดินกัน

คำดุด่าที่ว่า "พูดไม่รู้ภาษา!" นับว่าน่าคิดทีเดียวนะครับ

เพราะอ่อนภาษาไทยจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง!

พ่อแม่สอนลูก ทำไมลูกไม่ฟัง

ส.ส.ผู้ทรงเกียรติพูดกันน้ำไหลไฟดับ เสียเวลาทั้งวัน แต่ไม่ค่อยตรงเป้า ฯลฯ

น่าคิดนะครับว่า คนไทยอ่อนภาษาไทยจึงอ่อนแอในทุกๆ เรื่อง

อุตส่าห์มีภาพยนตร์ "โหมโรง" กระตุ้นสำนึกรักวัฒนธรรมไทยกันกระหึ่ม

ใครก็ได้มากระตุ้นให้เก่งภาษาไทยกันเถอะครับ อย่าไปเน้นภาษานานาชาติกันนักเลย

- หนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๒ มีนาคม - เมษายน ๒๕๔๗ -