รับเชิญ -อัตถ์ พึ่งประยูร -
หญ้าปากคอก

"หญ้าปากคอก" คือ การออกกำลังกายง่ายๆ ที่เรานำมาเป็นชื่อเรื่องหญ้าปากคอก หมายถึง กิจกรรมง่ายๆ ที่ทุกคนยิ้มรับ สมองสั่งมาว่า "ไม่ยาก" ถ้าจะทำมันลงไป

กิจกรรมง่ายที่สุด มนุษย์ทุกรูปถูกธรรมชาติ บังคับให้ทำนั่นคือ "การเดิน"

การเดินเกิดขึ้นหลังมนุษย์เลยความเป็น "ทารก" ไม่นานนัก

เดินไปทำไม ก็เดินไปหาสิ่งที่เราประสงค์...ไงล่ะ

มีมนุษย์บางท่านที่น่าสงสารเท่านั้น ท่านไม่สามารถเดินได้ เพราะความพิการเป็นต้นเหตุ

คุณหลวงวิจิตรวาทการ ศิลปินนักแต่งเพลงสมัยโน้นประพันธ์เพลง "เดิน" เนื้อร้องเท่าที่พอจำได้มีว่า

"เดิน เดิน เดิน อย่ายอมแพ้ใคร ชาติไทยต้องเดิน
เดิน เดิน เดิน ถ้าหวังก้าวหน้า เราต้องพากันเดิน..."
จำได้แค่นี้ครับ ร่วมกันร้องเพลงนี้เมื่อ ๕๐ ปีเศษมาแล้ว

การเดินคู่มากับชีวิตแต่เล็กจนใหญ่ ขาเป๋ ขาด้วน ยังต้องอาศัยเทคนิคการทำขาเทียมเพื่อ
ให้เดินได้

ธรรมชาติพูดไม่ได้ แต่เลียบเคียงให้มนุษย์รู้ว่าให้หาสิ่งทดแทนการเดินเสียเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่

วันนี้และเดี๋ยวนี้ ผู้เขียนขอชวนให้ท่านเดิน เดินไปสู่หนทางแห่งความสุขที่จะชุบชีวิตให้สดชื่นเหมือนใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ แต่ไม่ใช่เดินเพื่อไปเบิกเงินมาซื้อของ ไม่ใช่เดินคุยกับแฟนจากบางลำพูถึงสนามหลวงแบบชมนกชมไม้

เป็นการเดินที่มีระยะทาง ๑-๒-๓-๔-๕ กิโลเมตร ต่อการออกเดินหนึ่งครั้ง

เรียกหากำลังใจซะ เพราะรู้แล้วว่าการเดินแบบง่ายๆ ที่เรียกว่าหญ้าปากคอกนั้น สามารถเดินได้ (แต่ปาก) หากไม่ก้าวเดินเสียในวันนี้ อย่างช้าพรุ่งนี้ แล้วเมื่อไหร่จะทำได้ เวลาไม่คอยใคร รอจนเข่าหมดกำลังไปกับความแก่เสียก่อนใช่ไหม แล้วมาแก้ตัวว่า ปวดขา ปวดเข่า

ต้องเริ่มลงมือแล้วละนะ เพราะเวลาไม่คอยใคร (ต้องเดินทุกวันครับ)

อาทิตย์นี้เดินให้ได้ระยะทางหนึ่งรอบสนามกีฬา (๔๐๐ เมตร) จดไว้เริ่มวันไหน

อาทิตย์ต่อมาเดินให้ได้ระยะทางรอบครึ่งของสนามกีฬา (๖๐๐ เมตร) แน่ะ! เดินได้สองอาทิตย์แล้ว ปรบมือให้ตัวเองสักหน่อย

อาทิตย์ต่อมาเดินให้ได้ระยะทาง ๘๐๐ เมตร เท่ากับสองรอบสนามกีฬา (เพิ่มขึ้นเรื่อย)

โธ่! เขาวิ่งกัน ๔๒ กิโลเมตรโดยใช้เวลา ๒ ชั่วโมงเศษยังทำได้ กะอีแค่ ๘๐๐ เมตรแค่นั้น ร้องไม่ไหว ขาข้างเดียว อีกข้างหนึ่งเทียม พ่อยังวิ่งกันแน่บ ไม่เห็นบ่นเหนื่อย ที่ท้อแท้เพราะ ๑. ขี้เกียจ ๒. ทำอะไร หยิบหย่ง ๓. กลัวเหนื่อย อีกแยะ จาระไนไม่หมด คนไม่รักตัวเอง

หากเอาชนะใจตนได้ เพียงน้อยเดียวมัน สมใจนึก ด้วยการเพิ่มระยะทาง เพิ่มเวลาให้มากขึ้น เป็นลำดับๆ ไป อ้อ! ลืมบอกไปว่ารองเท้าก็สำคัญสำหรับการเดินออกกำลังกาย เลือกรองเท้า ที่พอเหมาะ สวมสบาย มีลวดลายนิดหน่อย (เอาความหนุ่มใส่ลงไปในรองเท้า) สวมเสื้อผ้า ที่เหมาะแก่การออกกำลังกาย

ความสมบูรณ์จะเกิด เพราะได้รับเลือดหมุนเวียนมาหล่อเลี้ยงร่างกายมากขึ้น (ในคนปกติ เลือดมา หล่อเลี้ยงร่างกายแบบเช้าชามเย็นชามก็มี) ดังนั้นการเดินให้ได้ระยะพอดี หรือการออกกำลังกาย จะช่วยให้เราพ้นจากการเป็นโรคหัวใจ โรคความดัน เส้นเลือดอุดตัน โรคอื่นก็ยากที่จะเกิด

คนขี้เกียจเข้าข้างตัวเองจะบอกว่า ยังไม่เห็นเป็นอะไร หัวใจไม่มีโรค ความดันก็ไม่มี เพราะไปใช้ดัน อย่างอื่น เส้นเลือดก็มีเลือดวิ่งฉิว พลางหงายข้อมือชี้ตรงข้อให้ดู เห็นไหม เส้นเลือดเป่งเลย มันซื่อสัตย์ ต่อนาย พุ่งแรงน่า ไม่ต้องห่วง หนำซ้ำพูดเอาใจคนขยันอย่างเราอีกว่า ขอบใจที่อุตส่าห์ เตือน กำลังหาเวลาอยู่

โทษของการไม่ออกกำลังกายมีหนักนะจะบอกให้
๑. กล้ามเนื้อจะไม่แข็งแรง เหี่ยวเหมือน ตาแก่ ยายแก่ ทั้งที่อายุยังไม่ถึง ๖๐
๒. สมรรถภาพทางกายต่ำ เมื่อสมรรถภาพต่ำ อะไรๆ ก็ดูต่ำไปหมด
๓. บุคลิกภาพไม่ค่อยดี ถามว่าไม่ดียังไง ตอบ ดูเอาเองซี
๔. ผลทางจิตใจและพฤติกรรมที่มีต่อสังคม ลบครับ ไม่ใช่บวก ถามว่าลบยังไง ตอบ ลบคือตัวตั้ง ๑๐ ลบ ๖ เหลือ ๔ คะแนนเต็มทางจิตใจ ๑๐ แต่เหลือ ๔ คิดเองว่าดีเรอะ
๕. น้ำหนักตัวมากขึ้น ไม่ก็ผอมไปเลย แบบผอมแห้งแรงน้อย ขาดความแจ่มใสที่เคยมี เมื่อครั้ง ยังเยาว์
๖. เหนื่อยง่าย หายใจหอบ (ซี่โครงบาน) แม้ว่าในช่วงนั้นไม่ได้ออกแรงมากมายแต่ประการใด
๗. เกิดโรคได้ง่าย ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน หรือไม่แข็งแรงพอที่จะรับการกระแทก การเหวี่ยง การยืด หรือหดตัวโดยเร็ว แม้กระทั่งเมื่อเกิดอาการซวนเซก็ไม่สามารถประคองตัวไว้ เสียหลัก หกล้ม หัวทิ่ม ง่ายกว่าคนที่แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายแบบ "หญ้าปากคอก"

บ้านที่อยู่อาศัย แน่นอน มีโต๊ะ เก้าอี้ มีข้างฝาเป็นที่ยึดเหนี่ยว อาศัยเป็นเครื่องมือประกอบ การออกกำลังได้ คิดดูเถอะ

ฮึดขึ้นมา ยกมือ ยกขา บิดตัว ก้มตัว หมุนแขน หมุนข้อ หมุนคอ หรือโหนตัว ลองจะทำเสียอย่าง ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องไปโรงยิม (คนเยอะ) ไม่ต้องไปฟิตเนส (แพง) หรือต้องเดินทางไปตามสวน ที่รัฐสร้างขึ้นมากมายให้เสียเวลาเดินทาง เสียค่าน้ำมันรถ แต่ถ้าไปแล้วสบายใจก็ดี เพราะอากาศ โปร่งกว่าในที่พักอาศัย ก็ไปเลย ไปเหอะ ไปสะสมความแข็งแรงให้ร่างกาย ให้หัวใจ ให้ปอด จะกลาย เป็นมวลหนึ่ง ที่กระโจน (แน่ะ! ใช้คำกระโจนเพื่อให้ดูขลัง) เข้าสู่ร่างกายเรา เรียกรวมๆ ว่า "พลังชีวิต"

พลังชีวิตนี้เกิดขึ้นกับคนฉลาดที่รู้จักสละเวลา "ออกกำลังกาย" แม้ในบ้าน

พลังชีวิตนี้ชี้ให้เห็นว่าไม่ต้องร้องขอชีวิตด้วยการนอน ๒๔ ชั่วโมงไม่ร้องขอข้าวขอน้ำ ขอให้ พาไปห้องน้ำ (หลายขอ) เพราะเรามี "พลังชีวิต" ที่หามาได้ง่ายเหมือน "หญ้าปากคอก"

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๓ พ.ค. - มิ.ย. ๒๕๔๗ -