ด้วยความห่วงใยจากใจครู ...ฆวาลา

ฉันได้ไปเป็นวิทยากรบรรยายและพูดคุยกับนิสิต หน่วยจุฬา-ชนบท ในหัวข้อ เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เป็นเวลา ๓ ชั่วโมง ดิฉันได้ให้นิสิต ดูวีดีทัศน์ เรื่อง ครูบ้านนอกเกาหลี ซึ่งเป็นโครงการในยุคสมัยที่เกาหลีสร้างชาติ ด้วยการส่ง ครูที่มีอุดมการณ์ มีจิตใจเสียสละออกไปพัฒนาชนบทจนประสบผลสำเร็จ (วีดิทัศน์ม้วนนี้ ขอแนะนำให้ ครูบาอาจารย์ ทุกท่านดู จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อครูและศิษย์ ขอยืมหรือซื้อได้ในราคาม้วนละ ๑๐๐ บาท ที่แผนกธรรมโสต สันติอโศกค่ะ) จากนั้นจึงให้ทุกคนเขียนเรื่อง คุณครูในดวงใจ ใครจะเขียนถึงครูกี่คนก็ได้

หลังจากที่ดิฉันได้อ่านเรื่องราวของครูผู้เสียสละ และตั้งใจทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยของครูหลายๆ ท่าน รู้สึกเกิดปีติ และซาบซึ้งใจ ในความดีของบุคคลเหล่านั้น เป็นอย่างมาก

อยากให้ครูทุกท่านที่ได้รับการเอ่ยถึงจากศิษย์ได้อ่านสิ่งเหล่านี้ และเพื่อเป็นการเชิดชูอาชีพครู ซึ่งเป็นอาชีพ ที่สำคัญ ที่สุด อาชีพหนึ่ง ดิฉันจึงขอนำงานเขียน ของนิสิตเหล่านั้น มาลงเป็นตอนๆ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ และร่วมอนุโมทนา กับครูดีๆ ที่ควรยกย่องให้เป็นแบบอย่าง อีกทั้งควรช่วยกัน เป็นกำลังใจ ให้ครูเหล่านั้น ทำดีต่อไป เพราะ ณ ขณะนี้ เมล็ดพันธุ์ที่พวกท่าน ช่วยกันปลูก ด้วยความรัก และเสียสละ ได้เริ่มเจริญงอกงามแล้ว

ด้วยความชื่นชมจากใจจริง
แด่แม่พิมพ์ที่งดงามทุกท่าน
รัศมี กฤษณมิษ


ตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าได้เข้าศึกษา ก็เป็นเวลาที่ยาวนานมาก คุณครูแต่ละท่าน ที่ผ่านเข้ามา ในชีวิตของข้าพเจ้า ทุกท่านล้วนแต่ เป็นครูที่ข้าพเจ้า ประทับใจ และสำนึก ในพระคุณอยู่เสมอ ไม่มีพวกท่าน คงไม่มีข้าพเจ้าในวันนี้ อ.อำภา ศรีวรนาถ

แต่คุณครูในดวงใจของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้ามีโอกาสเรียนกับท่านแค่เพียง ๑ ปีเศษๆ ท่านสอนวิชาภาษาไทย และท่านอาจได้สอนข้าพเจ้าเป็นรุ่นสุดท้าย ในชั้น ม.๕ อาจารย์คนหนึ่งผิวดำ ตัวผอม ผมหยิก ได้เดินเข้ามาในห้อง ไม่ทันที่เวลาจะเลยผ่าน ท่านได้เปิดหนังสือ และรีบสอนข้าพเจ้า และเพื่อนๆ ทุกบททุกตอนที่สอน ละเอียดมากๆๆๆ มากเสียจน ข้าพเจ้าไม่อยากรับ แต่อยากจะหลับมากกว่า คำพูดที่ข้าพเจ้าเบื่อหน่าย และฟังซ้ำซาก ก็คือคำว่า ชลธิชาอย่าหลับ ชลธิชาอย่าง่วง แต่ข้าพเจ้าก็เฉย และ รู้สึกขบขันด้วยซ้ำ

แต่วินาทีนี้ นาทีนี้ ตอนนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้ยินคำเตือนเหล่านั้นอีกแล้ว จากการสอนเด็กโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย คาบซ่อมเสริมอย่าได้ว่าง อาจารย์จอง ยาวเหยียด ตะโกนสอนเสียงดัง ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ ทำไมต้องทุ่มเทถึงขนาดนั้น ข้าพเจ้าพอใจและภูมิใจกับเกรด ๔ ที่ได้ มันยากมาก แต่สิ่งที่อาจารย์ได้รับ กลับเป็นว่า ในตอนปิดเทอม อาจารย์อาเจียน ไอออกมาเป็นเลือด ทานอะไรก็อาเจียน ออกมาเป็นเลือดหมด อาจารย์เป็นอะไรคะ ครูเป็นมะเร็ง ในเม็ดเลือดขาว ขั้นสุดท้าย อยู่ได้ไม่เกิน ๕ เดือน คือคำตอบ ไม่มีอีกแล้ว ไม่เหลือเลย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ คนดีๆ ทำไม ถึงต้องทรมาน ไม่มีความยุติธรรมเลย ไม่...ไม่มี...

อาจารย์คะ นับตั้งแต่ตอนที่หมอบอกว่า ครูเหลือเพียงเวลา ๕ เดือน ถึงแม้ตอนนี้หนูยังมีครู เพราะครูจะอยู่ ในห้อง ปลอดเชื้อ ครูอาจไม่สามารถ สัมผัสกับคนอื่นได้ แต่ครูสัมผัสใจหนูได้นะคะ หนูรักครู หนูขอโทษ ในทุกสิ่งทุกอย่าง ที่หนูเคยผิดกับครู หนูไม่มีความดีอะไรที่พอจะทำให้ครูชื่นใจได้เลย ในตอนนั้น แต่ครูคะ ต่อไปนี้หนูสัญญาค่ะ หนูจะเป็นคนใหม่ หนูจะตั้งใจเรียน หนูจะไม่ทำให้ครูผิดหวัง หนูจะใช้วันเวลาทุกนาที ที่ครูและหนูยังมีร่วมกัน ให้คุ้มค่าที่สุด ครูเป็นกำลังใจให้ลูกศิษย์คนนี้ด้วยนะคะ

ชลธิชา เหลิมทอง โรงเรียนเบญจมอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี

(หนังสือ ดอกหญ้า เล่ม ๙๔ หน้า ๒๙-๓๑)