> ดอกหญ้า

     
ปลอบใจเราเอง (๑)

ดอกหญ้า อันดับที่ 96
แม่น้ำ ลักขิตะ


ปลอบใจเราเอง... บทความสำหรับคนเศร้า และบาดเจ็บจากการเดินทางชีวิต เพื่อเป็นกำลังใจให้เริ่มต้นใหม่ เพื่อปลุกปลอบดวงใจ และจุดประกายความคิดอันงดงามคัมภีรภาพ

บทเส้นทางของชีวิตเราแต่ละคน มีได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอันสดสวย หรือราบเรียบ สมบูรณ์แบบ ไปเสียทุกอย่าง ทว่า ตลอดเส้นทาง กลับมากมีขวากหนาม อันแหลมคม และความพลิกผันของโชคชะตา ที่หาความแน่นอนไม่ได้

บ่อยครั้งที่เราพลาดพลั้งบาดเจ็บ... บ่อยครั้งที่เราต้องร่ำไห้สะอึกสะอื้น... บ่อยครั้งที่เราเศร้าซึมหงอยเหงา... บ่อยครั้ง ที่เราขมขื่นสุดทน... บ่อยครั้งที่เราต้องการใครสักคน... คอยปลอบประโลมดวงใจ ให้คลายหมองหม่น เป็นกำลังใจ ให้เราสู้ชีวิต

แต่จะมีสักกี่คน ที่เข้าใจความเจ็บปวดของเรา ได้อย่างลึกซึ้ง เข้าอกเข้าใจ ห้วงอารมณ์เรา ได้อย่างแท้จริง และจะมี สักกี่คน ที่ห่วงใยตัวเราได้อย่างไม่มีขีดจำกัด พอที่จะทุ่มเทความรัก และคอยเป็นกำลังใจให้เรา ตลอดเวลาได้... แทบไม่มีเลยใช่ไหม ด้วยว่าคนเรา มีทุกข์ในชีวิต ด้วยกันทั้งนั้น

บนโลกใบนี้ อ้อมกอดแห่งนักบุญหาได้น้อย บ่อยไปที่เราได้พบกับ รอยยิ้มของคนบาป ด้วยเหตุนี้ ในยามที่เราต้องเผชิญ ความทุกข์ระทม อาจบางทีไม่มีใครเลย... แสงสว่างใดๆ ก็ไม่มีปรากฏ ในโลก แห่งความเศร้า

ณ ห่วงเวลาแห่งความเจ็บปวด เปลี่ยวเหงาเศร้าเดียวดาย... เพราะบาดแผลแห่งชีวิตไม่มีหวัง ไม่มีใคร... ขอให้เรา ปลอบใจตัวเอง...

เพราะเราเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถึงบาดแผลแห่งชีวิตของตน เพราะเราห่วงใยตัวเองได้ อย่างไม่มีขีดจำกัด เพราะเรามีความรัก และเป็นกำลังใจ ให้ตัวเองได้ตลอดเวลา แม้ทุกข์นั้น ก็อยู่ในใจเรา เป็นส่วนหนึ่ง ที่ต้องคลี่คลาย บนเส้นทาง ชีวิตสายนี้

ในยามชีวิตไม่มีใคร ขอดวงใจอย่าได้ท้อแท้สิ้นหวัง จงสร้างขุมพลัง แห่งการต่อสู้ ขึ้นมาใหม่ ด้วยการปลอบใจเราเอง... เราซับน้ำตา ให้ตนเองได้ มิใช่หรือ...

ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนคนเศร้าของข้าพเจ้า ได้กลับมายิ้มอีกครั้ง

ปลอบใจเราเองเถิด... หากเหนื่อยหนักพักบ้างจะเป็นไร ชีวิตยังต้องเดินทาง อีกยาวไกล มิใช่หรือ ?

ชีวิตเรามิใช่เครื่องจักรที่ทำงานได้อย่างไม่ต้องผ่อนพัก และไม่ต้องประสบปัญหา อารมณ์ขุ่นข้อง จากความสับสน ในชีวิต มีเรื่องยุ่งยาก มากมาย หลั่งไหลเข้ามา ในชีวิตเรา เรื่องส่วนตัว เรื่องธุรกิจ เรื่องครอบครัว เรื่องคนรอบข้าง เรื่องญาติมิตร ฯลฯ

เมื่อสุดขีดแห่งการข่มฝืน เราจะรู้สึกว่า ภาระที่แบกไว้ มันหนักอึ้งเหลือแสน สุดที่เราจะทน... บางคนอาจปวดหัว อย่างรุนแรง คล้ายกระโหลกจะปริร้าว แตกออกเป็นเสี่ยงๆ บางรายเลือกหนีความวุ่นวาย ด้วยการ ซบหน้า กับอ้อมอก แห่งความตาย ลาโลกนี้ไปชั่วนิรันดร์

เราอาจบีบคั้นชีวิตตนเองมากไป... กับการมุ่งมั่นให้ชีวิต ประสบผลสำเร็จ ในเร็ววัน ทั้งในเรื่องงาน หรือเรื่องใดๆ ก็ตามที หากเป็นนักธุรกิจ ก็จมติดอยู่กับ ตัวเลขเก็งกำไร และเอกสาร ซื้อขายมากมาย กลายเป็น นักโทษธุรกิจ ที่ถูกจองจำ อยู่ในห้อง สี่เหลี่ยม หมดอิสรภาพ โดยไม่รู้ตัว

การทำอะไรมุ่งมั่นมากไป อาจส่งผลร้ายตามมา ทั้งผลกระทบ ต่อสภาพจิตใจ และร่างกาย

จะสังเกตได้ว่า... ทุกครั้งที่เราทำงานอย่างเร่งรีบ อารมณ์จะขุ่นมัว โกรธง่าย และตึงเครียด แม้สุขภาพกาย ก็ทรุดโทรม อย่างเห็นได้ชัด

การเดินทางไปสู่จุดหมายอย่างเร็วไว อาจทำให้เรา จากโลกนี้ไป อย่างเร็ววันเช่นกัน

เตือนตัวเราเองอยู่เสมอ...

เวลาทุกนาทีมีค่าก็จริง แต่หากเราต้องตายด้วยวัยกลางคน ออกจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง และการพุ่งเพ่ง ไปสู่จุดหมาย อย่างเดียว อาจทำให้เราเผินมอง บางแง่มุมของชีวิต

สัจจะอันสูงส่ง จะถูกเราทอดทิ้ง และมองข้าม เพียงเพราะเรามุ่งไปข้างหน้า แล้วทิ้งสิ่งดีงาม รอบกาย ไว้ข้างหลัง ใครเล่า จะบอกได้ว่า สิ่งอันเรามุ่งมั่นไปเองนั้น เป็นสาระสัจจะ หรือเพียง มายาโลก

ปลอบดวงใจเราเองเถิด...

กายหยุดพักมิใช่การล้มเลิก หากแต่เป็นการใช้ชีวิต อย่างสุขุมรอบคอบ ไม่รีบร้อน จนกลายเป็น ความประมาท ก้าวไปข้างหน้า อย่างมั่นคง

เส้นทางชีวิตยังอีกยาวไกล ควรที่เราจะก้าวไป ด้วยสุขภาพ ที่แข็งแรง


     

ปลอบใจเราเอง(๑) แม่น้ำ ลักขิตะ ดอกหญ้าอันดับที่ ๙๖ หน้า ๕๖ - ๕๙