> ดอกหญ้า

     
พี่น้องไทยร่วมใจ
ยุติการใช้ความรุนแรง
แก่เด็กและ สตรี
เพื่อเป็นศรีแก่แผ่นดิน

ดอกหญ้า อันดับที่ 96
ชินะกานต์ แสงอำนาจ


หลายครั้งที่เราได้รับทราบข่าวการทารุณกรรมเด็ก และ สตรี ทั้งการทำร้ายร่างกาย การทำร้ายจิตใจ และการล่วงละเมิดทางเทศ นับวันปัญหาเหล่านี้ ก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคมที่ตกต่ำ การแก้ไขป้องกันและยุติความรุนแรง จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะต้องกระทำอย่างเร่งด่วน เพราะมหันตภัยร้ายนี้ พร้อมที่จะคุกคาม เข้าสู่ครอบครัว ของเราทุกขณะ

การแสดงออกของการนิยมความรุนแรง หรือการชอบใช้กำลังนั้น จะแสดงออกในลักษณะ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในเด็ก จะมีกิริยาก้าวร้าว เอาแต่ใจตัวเอง ส่วนวัยรุ่นและผู้ใหญ่ จะแสดงออก โดยการด่าทอ ตบตี ใช้อาวุธ ตลอดจนทำ อนาจารทางเพศ ซึ่งไม่ว่าพฤติกรรม นิยมความรุนแรงเหล่านี้ จะแสดงออก ในรูปแบบใดก็ตาม ล้วนเป็นการปั่นทอน สุขภาพจิต ทั้งผู้ที่กระทำ ผู้ถูกกระทำ และผู้พบเห็น โดยมากนั้น เหยื่อที่ถูกทารุณกรรม มักเป็นเด็กและสตรี เพราะอยู่ในสถานภาพ ที่อ่อนแอกว่า และไม่สามารถ ป้องกันตนเองได้ ยิ่งถ้าผู้กระทำนั้น เป็นบุคคลในครอบครัว ก็ยิ่งยากแก่การป้องกัน และขัดขืน เพราะมีโอกาส ให้กระทำได้มาก ผู้ถูกกระทำ อาจเกิดความอาย และไม่มีความรู้ ทางด้านกฎหมาย จึงไม่สามารถหาทางออก ให้กับตนเองได้ ทำให้ต้องตก อยู่ในสภาวะ จำยอม ทำให้ผู้กระทำผิด ยิ่งได้ใจ กระทำการใช้ความรุนแรง ในลักษณะเดิมซ้ำๆ และ ทวีความรุนแรง มากขึ้น

ผลกระทบที่ตามมา ต่อภาพรวมก็คือ ความเสียหาย อันยิ่งใหญ่ของชาติ ของระบบเศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงการขัดแย้ง ต่อภาพพจน์ที่ดี ของสังคมไทย ที่มีพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ ยิ่งคนในสังคม ได้รับการใช้ความรุนแรง มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งส่งผล ให้มีความหวาดระแวงมากขึ้น มองโลกในแง่ร้าย บางรายอาจพยายาม คิดกระทำความรุนแรงกับผู้อื่นบ้าง เพื่อเป็นการ แก้แค้น บางรายอาจทำลาย ทรัพย์สินของส่วนรวม อันเป็นสาธารณะประโยชน์ หรือบางราย อาจมีโรคประสาทแทรกซ้อน พยายาม ทำร้ายตนเอง และผู้อื่น แต่ที่แน่นอน คือ สมรรถภาพในการทำงานลดลง สภาพสังคม ถูกบีบบังคับ ให้เกิดความกดดันมากขึ้น

ในสภาวะที่ประเทศไทยของเรา พยายามมุ่งเน้น การพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อแก้ปัญหา ในทุกด้าน ที่เข้ามารุมล้อม ปัญหาการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะกับเด็กและสตรี เป็นอุปสรรคสำคัญ ที่ขวางกั้น การเจริญก้าวหน้าของชาติ บดบังอนาคต อันสดใส และลบเลือนภาพพจน์ อันดีงาม ของสังคมไทย ในสายตาประชมคมโลก เราทุกคน จึงต้องหันมา ให้ความสนใจ เกี่ยวกับการยุติ การใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะ แก่เด็กและสตรี โดยเร็วที่สุด โดยทุกฝ่าย ต้องให้ความร่วมมือ เพื่อแก้ปัญหา อย่างจริงจัง ทั้งทางภาครัฐ เอกชน และ ประชาชนทุกคน

การแก้ปัญหานั้นควรเริ่มต้นที่สถาบันครอบครัว เพราะเป็นสถาบันแรก ที่มีความใกล้ชิด และมีผลต่อสภาพจิตใจ เป็นอย่างมาก สมาชิก ในครอบครัว ต้องแบ่งเวลา ให้กันและกัน เพื่อสมานความสัมพันธ์ ในครอบครัว ให้เป็นไปด้วยดี และเริ่มขยาย ความสัมพันธ์ให้มากขึ้น จนเกิดเป็นความสามัคคี ในชุมชน และในสังคม เพื่อลดและยุติการให้ความรุนแรง ให้หมดไป ผู้ใหญ่ ต้องให้ความรู้ที่ถูกต้อง และปฏิบัติตน เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เด็กก็ต้องมี ความอ่อนน้อมถ่อมตน และเชื่อฟังผู้ใหญ่ ในสิ่งที่ถูกต้อง

สื่อมวลชนต้องให้ความร่วมมือ ในการกลั่นกรอง และตรวจสอบข่าวสาร ไม่ให้เป็นการชี้ชวน หรือมีพฤติกรรม ที่นิยมใช้ความรุนแรง อันเป็นตัวอย่าง ที่ไม่ดีแก่เด็ก และเยาวชนได้

ความสามารถในการยุติพฤติกรรมการนิยมความรุนแรง โดยเฉพาะ กับเด็และสตรี ของสังคมไทยนั้น ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับ น้ำใจและจิตสำนึก ในความเป็นคน ของเราชาวไทย ทุกคน ที่จะแสดง ศักยภาพของเรา ให้เป็นที่ปรากฏ เราต้องการความร่วมมือ อย่างจริงจัง และจริงใจ

ยุติความรุนแรง แสดงเมตตา ช่วยแก้ปัญหาเด็กและสตรี.


ชินะกานต์ แสงอำนาจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต จ.กาญจนบุรี
[
บทความนี้ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ในการประกวดเรียงความ รณรงค์ยุติความรุนแรง ต่อเด็กและสตรี จากสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมและประสานงาน สตรีแห่งชาติ (กสส.) ปี ๒๕๔๓]


     

รับเชิญ ดอกหญ้าอันดับที่ ๙๖ หน้า ๗๘ - ๘๑