.สุขภาพดี มีความสุขใจสงบ. หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับ 119
หน้า 1/2

ภาษิตเกาหลีบอกว่า
เสียทรัพย์สมบัติ เป็นการเสียเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต
เสียชื่อเสียง เป็นการเสียครึ่งหนึ่งของชีวิต
เสียสุขภาพ ถือว่าเป็นการเสียทั้งหมดของชีวิต

เรื่องสุขภาพจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า หรือล้มเหลวได้
ทำอย่างไร เราถึงจะมีสุขภาพที่ดีกว่า
หลักสุขภาพ ๓ ข้อ ง่ายๆ คือ

๑. อยู่กินอย่างง่ายๆ กฎนี้มีอยู่ว่า กินน้อยตายยาก กินมากตายง่าย

๒. สมดุลทางกายและใจ ต้องสร้างให้เกิดขึ้น หลักมีอยู่ว่า กายเคลื่อนไหว ใจนิ่ง

๓. อย่ารับสารพิษเข้ามา

จากพ.ศ. ๒๕๒๘ จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา ๑๕ ปี มีการสำรวจผู้สูงอายุ ที่อายุเกิน ๑๐๐ ปี ทั่วประเทศไทยที่มีหลักฐานแน่ชัดคือ จำเรื่องราวได้และยังมีสุขภาพดีอยู่ เดินเหินคล่องตัว ในประเทศไทยมี ๑๖ คนเท่านั้น และเป็นคนนอกเขตเมืองทั้งสิ้น มี ๔ คน อยู่จ.ยโสธร คนเกิน ๑๑๔ ปี อยู่ จ.นราธิวาส

พ.ศ๒๕๔๐ มีข่าวเด่น ๑ ใน ๑๐ ข่าว จากหนังสือพิมพ์มติชน คนที่เมืองจีนในมณฑลกวางสี ตอนใต้ของประเทศจีน คนส่วนใหญ่อายุยืนถึง ๑๐๕-๑๑๐ ปี

คนแต่กตื่นไปสำรวจว่า เขาอยู่กันอย่างไร ปรากฏว่า เป็นคนจน อยู่อย่างจนๆทั้งสิ้น ไม่ค่อยมีเงิน อยู่ในชนบท

และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ชนเผ่าฮุนซ่า(Hunza) หรือเรียกเป็นไทยๆว่า ชนเผ่าหรรษา อยู่ที่เทือกเขาหิมาลัย มีอายุระหว่าง ๑๑๐-๑๓๐ ปี หลัก ๔ ข้อที่เขาปฏิบัติกัน

๑. อยู่กินอย่างง่าย เหมือนพ่อ แม่ ปู่ย่าตายายเราพากันกิน

๒. ไม่เครียด ไม่อยากได้ในสิ่งที่ไม่ควรจะได้ ไม่แย่งชิงกัน ไม่มีความโลภ ไม่มีโทสะ โมหะ อย่างที่เรารู้กัน อยู่กันอย่างบ้านนอก

๓. อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ในหุบเขาไม่มีมลภาวะ

๔-๕ ปีที่แล้ว ดู ITV มีตำรวจจราจรท่านหนึ่งอยู่แถวราชเทวี อายุ ๔๐ ปีเศษ เสียชีวิตด้วยโรคระเร็งปอด แพทย์ผ่าปอดดู ปรากฏว่าปอดดำมืดเลย เต็มไปด้วยน้ำมันเครื่อง ไอพิษ สารพิษ

ตอนเป็นผู้อำนวยการอยู่รพ.ยโสธร สังเกตเห็นเสารั้วทาสีขาว ไม่ถึงเดือนดำมืดเลย และที่ร้านเสาวลักษณ์ จ.อุบลฯ ผมผ่านบ่อยๆ มีกระถางดอกไม้ทาสีใหม่ๆ อยู่ไม่ถึงเดือน ดำปี๋เลย ขนาดวางอยู่ไกลๆ สีน้ำมันเครื่องยังจับ

ตอนอยู่ยโสธรก็คิดว่าทาใหม่ไม่นานก็ดำ แล้วก็ทาใหม่อีกอย่างนี้ไม่ไหว

ช่างบอกให้ทาสีกันสนิม เวลาล้างจะล้างออกง่ายไม่จับพวกน้ำมันเครื่องดำๆ เข้ามา แต่ปอดคน ไม่มีโอกาสได้ล้างสารพิษ เมื่อจับเข้าแล้วก็อยู่อย่างนั้น จับนานเข้าถึงล้างออกก็กลายเป็นมะเร็งปอด ฉะนั้นคนกรุงเทพฯ อยู่เมืองใหญ่ อายุไม่ยืนเด็ดขาด เพราะหายใจเอาควันพิษเข้าไป

หลวงปู่มา อายุ ๘๗ ปี วันสันติวิเวก เวลาอยู่ในหมู่บ้าน จะเป็นโรคแพ้ทั้งปี ไอหน้าตาไม่ดีเลย หลวงตาพวง วัดศรีธรรม จ.ยโสธร ก็เหมือนกัน ถูกธูปก็ไม่ได้ กลิ่นเข้าไปมันเป็นควัน มันเป็นพิษ ลองไปดูโบสถ์ใหญ่ๆ ที่จุดธูปอยู่ตลอดเวลา หายใจไม่ได้เลย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ว่า หากเรารับสารพิษเข้าไปมาก อายุสั้นแน่ คนที่อยู่เทือกเขาหรรษา จึงอายุยืน หลวงปู่มาเลยไปอยู่ริมน้ำที่วัดสันติวิเวก ตอนนี้อายุยืนมาก

ช่วงหนึ่ง ผมไปอยู่บุรีรัมย์ ส.ส.ท่านหนึ่ง มีโรงโม่หินทำรายได้ดีมาก ผมเลยไปดูฝุ่นคลุ้งไปหมด เขาใช้วิธีพ่นน้ำขึ้นไปจับเอาฝุ่นลงมา เขาก็อยู่ได้ คนที่อยู่ริมน้ำ อายุยืนเพราะอะไร? น้ำระเหยขึ้นไปวันละ ๑ ซ.ม. บ่อน้ำใดลึกไม่ถึง ๓ เมตร แห้งแน่ในหน้าแล้ง เพราะ ๓๐๐ วัน วันละ ๑ เซนติเมตร เราไปตากผ้าดูก็แล้วกัน ผ้าแห้ง เราเคยมองเห็นไหมว่า มันระเหยออกไปอย่างไร ไอน้ำระเหยออกไปก็ไปจับกับควันพิษ สารพิษตกลงมา เมื่อเราหายใจเข้าไปมันก็ออกมาคืน เพราะเป็นเหมือนเครื่องช่วยหายใจที่โรงพยาบาล จะต้องมีน้ำเดือดปุดๆ เมื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ ต้องเอาละอองไอน้ำเข้าไปจับสารพิษในปอด คนไข้ก็จะไอๆ ขากเสลดออกมา นั่นคือ วิธีการขับสารพิษออกมา ต้องมีไอน้ำละอองน้ำ และมีลมพัด ฉะนั้น ถ้าอยากอายุยืน ต้องอยู่มณฑลกวางสี บ้านนอกริมน้ำ หรือเทือกเขา หรรษา กลุ่มเหล่านี้อายุยืนทั้งสิ้น

ที่หลวงพระบาง คนจะอายุยืน เพราะเขาไม่ให้รถเข้าไปเพิ่ม มีเท่าไหร่ก็อยู่เท่านั้น คนเหล่านั้นจะอายุยืนเพราะอากาศบริสุทธิ์ คนอายุยืนใช้หลัก ๕ อ.

๑.อาหาร ๒.อากาศ ๓.อารมณ์ ๔. (งาน) อดิเรก ๕.อุจจาระ

๔. ที่เทือกเขาหรรษา ฝรั่งไปสำรวจ ทุกคนจะกินน้ำผึ้งวันละ ๑ ช้อน เหมือนกันหมด แต่ข้อนี้ไม่ยืนยันว่าจะช่วยอะไรหรือเปล่า แต่ทุกคนกินแบบนี้เหมือนกัน

มาถึงเรื่องอุจจาระ

มีคนสังเกตชาวอัฟริกา ไม่มีใครเป็นมะเร็งลำไส้ ไม่มีใครเป็นโรคหัวใจ ต้องไปผ่าตัด เพราะไขมันในเส้นเลือดอุดตัน บางครั้งไม่มีใครเป็นแม้กระทั่งไส้ติ่ง ถ้าเป็นชาวอัฟริกาจริงๆ โรคหัวใจไม่มี เบาหวานก็ไม่มี คนไทยก่อนปี ๒๕๐๐ โรงพยาบาลมิชชั่นเก็บข้อมูลมาตลอด ปรากฏว่าก่อนหน้านั้นคนไทยไม่มีใครเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันสูง เริ่มมาเป็นตั้งแต่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ ถนนเข้าไปตัดหมู่บ้าน ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ เป็นต้นมา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ความเจริญเข้าไป เดี๋ยวนี้ทุกหมู่บ้านมีคนเป็นเบาหวาน ความดันสูง ไม่น่าเชื่อ เพราะอาหารการกินจากตลาดที่เป็นไขมัน มันย่องก็เข้าไปสู่หมู่บ้านแล้ว แต่ก่อนฆ่าวัว ๑ ตัว กินทั้งหมู่บ้าน ปีหนึ่งสัก ๑๐ กว่าครั้งเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้มีอาหารเข้าไปขายถึงหมู่บ้าน เด็กๆ ก็เริ่มเป็นโรคตั้งแต่อายุน้อยๆแล้ว โดยเฉพาะเด็กในเมือง อ้วน ไขมันอุดตัน ตั้งแต่อายุน้อยๆ น้ำหนักเกิน ตั้งแต่อายุน้อยๆแล้ว ในอนาคตพวกนี้ไม่มีทางอายุยืนได้เลย

สำรวจดูอุจจาระ คนอัฟริกาที่ไม่เป็นเบาหวาน หัวใจ มะเร็ง ความดัน ปรากฏว่า อุจจาระของคนอัฟริกาวันหนึ่งถ่าย ๑ กก. อัฟริกากินดิบๆสดๆ อุจอาระที่ดีต้องออกมา เป็นรูปเหมือนเจดีย์หมุนๆหยาบ ไม่เหม็น

แต่มาดู คนฝรั่ง วันหนึ่งอุจจาระออกมา ๑ ขีด แบนเหมือนตังเม และเหม็นมาก เหตุใดถึงเหม็น เพราะเป็นอุจจาระที่ค้างอยู่เมื่อ ๗ วันที่แล้ว ๖ วัน ๕ วัน ๔-๓-๒-๑ วัน เรียงคิวรออยู่ ออกไม่ได้ เพราะไม่พอจะออก ทำไมถึงไม่ออก ลำไส้จะทำงานได้ต้องบีบตัว แต่ถ้ากินแต่ขนมปัง มีแต่แป้งไม่มีอะไรอยู่ข้างใน ลำไส้ก็ไม่มีแรงบีบ ฉะนั้น คุณต้องเอาอะไรไปอยู่ในนั้น สิ่งนั้นก็คือเส้นใย หรือ Fiber เมื่อคนอัฟริกาหรือชาวบ้าน กินข้าววันนี้ตอนเย็น ตอนเช้าถ่ายออกมาแล้ว ครั้งละ ๑ กก. นั่นคือเส้นใยของมันบีบออกมา แต่ทีนี้มาดูฝรั่งกินข้าว ไปทำเป็นแป้งเล็กๆ จะกินน้ำส้มก็ต้องคั้นให้เหลือแต่น้ำอย่างเดียว ไม่มีอะไรหยาบเลย ทุกอย่างสำเร็จรูปจัดอยู่ในกระป๋องวางอยู่อย่างนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไม่มีอะไรที่จะบีบตัวได้ เหม็นอัดอยู่อย่างนี้ เหม็นมาก

ผมขอยกตัวอย่างความเหม็น ผมเคยรักษาโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งหมอปัจจุบันรักษาไม่ค่อยเป็น ก็คืออุจจาระไม่ออก เนื่องจากไปกินเล็บเหยี่ยว กินมะแงว ลูกหัวช้าง กินแล้วมันก็อัด อัด อัด ออกไม่ได้ วิธีการรักษาโรคนี้ก็ง่ายๆ ใส่ถุงมือยาวๆ แล้วก็ไปล้วงออกมาทีละเม็ดๆ คิดดูมันเมื่อ ๗-๘ วันที่แล้ว เหม็นมาก เสร็จแล้ว เมื่อผมกลับบ้านก็สระผม ล้างหน้า ล้างตาอย่างดี ยกมือขึ้นมาดม ก็ยังเหม็นตลอด ขนาดว่าใส่ถุงมือแล้วนะ ไส้ติ่งแตกก็เหมือนกัน ชัดเจน เมื่อหมอผ่าตัดแผล หมอต้องใส่ถุงมือ ๒ ชั้นเลยนะ ล้างลำไส้ให้ดี เอาหนองในท้องออก ปิดแผลกลับ สระผมอย่างดี แต่ดมมือเมื่อไหร่เหม็นทุกทีเลย เพราะอะไร มันหายใจเข้าไป แล้วไปอยู่ในเซลล์ต่างๆของเราเรียบร้อยแล้ว เมื่อออกมามันก็ยังเหม็นอยู่ตลอด

คนที่ไม่ถ่าย เพราะกินของละเอียดก็เช่นเดียวกัน เมื่อกินไว้แล้วไม่ถ่ายออกมา มันก็อยู่ในตัวเรา ขนาดมันเพิ่งถ่ายออกมา ๗ วันนี้ เหมือนอยู่ในตัวเราก็ต้องเหม็นเหมือนกัน คล้ายไส้ติ่งแตก ที่ผมเล่าเหม็นอยู่ ทำอย่างไร ร่างกายก็พยายามขับออกมาต่อสู้อย่างนี้ตลอด ส่วนหนึ่งเป็นแก๊ส ก็ซึมเข้าไปในร่างกาย ตามรูขุมขนต่างๆ ถ้าผมนั่งติดใครมีกลิ่นเหม็น บอกได้เลยว่าคนนี้อายุไม่ยืนเด็ดขาด เพราะรู้เลยว่า ๑.คนนี้กินของสกปรก ๒.ไม่ออกกำลังกาย เหงื่อไม่ออก นั่งใกล้ๆมีกลิ่นเหม็น หายใจออกมาเหม็น ออกมาเป็นเหงื่อเหม็น

กลับมาดูเรื่องลำไส้ที่เกี่ยวกับการกิน กฎข้อนี้มีอยู่ว่า เราเป็นตามสิ่งที่เรากิน ลำไส้ของมนุษย์มีลักษณะเป็นหลืบ เป็นซอกเหมือนรูปนิ้วมือเล็กๆ มองไม่เห็นต้องส่องกล้องดู ถ้าเคยเรียนมาเขาเรียกว่า วินไลน์

วินไลน์ คือ รูปนิ้วมือ เล็กลงไปอีกเรียกว่า ไมโคร แปลว่าเล็กๆ ไมโครวินไลท์เป็นหลืบเป็นซอก เหมือนที่เราเห็นลำไส้ของหมู ที่เราตัดออกมาเห็นเป็นเส้นเล็กๆ ลำไส้ของมนุษย์ ๑ คน เอามาตีแผ่เต็มที่ได้ ๑ สนามฟุตบอลที่เราเล่น และจับมารวมกันขยุบๆเล็กๆ เคยเห็นไหม น้ำมันที่เรากินเราใช้นี้ ไปดูน้ำมันตามร้านค้าได้เลย ตกถูกซีเมนต์ยังขัดไม่ออกเลย มันจะหลบเข้าไปเกาะอยู่ตามหลืบตามซอก เช็ดไม่ออก ต้องหาเบนซินมาเช็ดออก แต่ในมนุษย์ คุณจะเอาเบนซินที่ไหนไปเช็ดในหลืบในซอก มันก็หมักหมม เป็นตะกรันอยู่ตามหลืบตามซอกเป็นปีๆ มันก็หายใจและทำงานไม่ได้ เพราะจะต้องมีน้ำย่อยออกมาย่อยอาหาร คนพวกนี้ก็ท้องอืด ท้องเฟ้อ ก็เกิดสะสมเหม็นอยู่อย่างนี้ตลอด นี่คือปัญหาของคนที่กินไขมันมาก ถึงได้เป็นมะเร็งกันอยู่ในชาวตะวันตกทุกวันนี้ และชาวไทยก็เริ่มเป็นเช่นกัน แล้วคนก็ตายด้วยโรคมะเร็งในลำไส้ ในปอด มะเร็งอะไรต่างๆ เพราะว่ามันอยู่ในกระแสโลหิตตลอดเวลา

ทำอย่างไรจึงจะเอาขยะเหล่านี้ออกได้ ไปทำแผลที่โรงพยาบาล ปกติแล้วเขาใช้อะไรทำแผล ขาวๆน่ะ สำลีครับ ต้องเอาสำลีไปเช็ด ไปทำความสะอาดตามผนังลำไส้เหมือนกัน แต่ใครเคยกินสำลีเข้าไปบ้างไหมครับ สำลีนั้นก็คือเส้นใย ๑๐๐ % เราก็หากินอาหาร ข้าวมีเส้นใย ๑๓% แต่คนไทยฉลาดมาก เวลามีแกงกะทิจะใส่มะเขือพวงไปด้วย มะเขือพวงมีเส้นใยมากถึง ๑๓% ปลูกไว้ได้เลย ที่มีเส้นใยมากที่สุดคือ ถั่วทุกชนิด ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนอินเดียกินไขมันมากเหลือเกิน แต่ก็กินถั่วเยอะ ถั่วมีไฟเบอร์ ๒๖ เปอร์เซ็นต์ มีเส้นใยมากเหมือนข้าวกล้อง แต่ข้าวขาวที่มาจากโรงสีนี้มีเส้นใยไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้คนปัจจุบันนี้ก็ฉลาด รู้ว่าเส้นใยนี้มีอยู่ในรำข้าวสีออกไปแล้ว แต่กินข้าวขาวชินแล้ว ก็ไปซื้อรำข้าวมากินต่อ วันละ ๔ ช้อน ๓ เวลา หลังอาหาร เหมือนหมูไม่มีผิด รำข้าวนี้ก็มีขาย ทีนี้รำอย่างอื่นก็มีขาย เช่น หัวบุก คอนยัคกี้ แพงด้วย พอกินเส้นใยเข้าไป เป็นผักสด ผลไม้ต่างๆ นี่ก็เอาสำลีไปครูดตามหลืบตามซอก

คุณเป็นเหมือนสิ่งที่คุณกิน You are what you eat. เรากินให้เป็นมะเร็ง เราก็จะเป็นมะเร็ง เรากินให้แข็งแรงมันก็แข็งแรง เรากินไขมันไปมากก็เป็นโรคหัวใจ กินแป้งไปมากก็ไปเปลี่ยนเป็นไขมัน หลักมีอยู่อย่างนี้ ถามว่าจะกินอะไรดีที่สุด ตอบว่า จงกินสิ่งที่ใหม่ๆสดๆ จงกินสิ่งที่ผ่านขบวนการปรุงแต่งอาหารให้น้อยที่สุด ผมชอบกินมะเขือ ไม่ได้ผ่านสารพิษ กินสดๆ อยากมีชีวิตก็กินพืชผักสดๆ กินของสดๆ

ในการกิน ผมมีตัวอย่าง ในการกินของคนที่กินเนื้อ สัตว์ที่กินเนื้อทุกชนิดอายุสั้นทั้งหมดเลย เช่น เสือ สิงโต แมว สัตว์พวกนี้อายุมากสุดแค่สามสิบปี ช้างไม่ได้กินเนื้อ ช้างตัวใหญ่เบ้อเริ่ม กินผัก อายุ ๗๐ ปีเท่าคน เต่าอายุยืน ที่เราเรียกว่าเต่ากินผักบุ้ง สัตว์ที่กินผักอายุยืน สัตว์กินเนื้ออายุสั้น คนกินเนื้อก็อายุสั้น อย่างชาวเอสกิโมที่อยู่ขั้วโลก เนื่องจากหนาวเขาต้องกินเนื้อ กินไขมัน กินปลา กินสัตว์ตลอด คนเอสกิโมอายุสั้น เฉลี่ยอายุ ๒๗ ปีครึ่งตาย

ในช่วงเกิดสงครามโลกที่สอง ญี่ปุ่นตื่นตัวกันมาก คิดว่าทำไมในช่วงอดอยากหลังสงคราม ไม่มีคนเป็นโรคมะเร็งมากเหมือนกับที่คิดไว้ พวกที่โดนรังสีโคบอลต์ รังสีระเบิดปรมาณู อดอยากทำไมไม่มีคนเป็นโรคมาก เหมือนที่คิดไว้ ไม่มีคนเป็นโรคหัวใจ เบาหวานเหมือนกับปัจจุบันนี้ เขาสนใจ ก็มีหมอสองคนจากมหาวิทยาลัยในโตเกียว ก็ไปลองกินแบบอยู่ในค่ายเชลย ไฟไม่มี ก็กินดิบๆ กินผักดิบๆ กินของสดๆเลย และกินเท่ากับเชลย คือ ๑ ใน ๓ ของที่พวกเรากินอยู่ทุกวันนี้ ผู้ใหญ่กิน ๒.๕๐๐ แคลอรี ฝรั่งนี่ ๓,๐๐๐ หมอญี่ปุ่นที่ผมเล่าเขาลองกินแค่ ๘๐๐ แคลอรี่ และเมียที่เป็นหมอด้วยกันนั้นให้นมลูกด้วย กินอย่างสดๆ อย่างนี้แค่ ๘๐๐ แคลอรี ๑ ใน ๓ ของคนปกติกิน ปรากฏว่า แข็งแรงกระฉับกระเฉง มีนมให้ลูกด้วย ก็เป็นเรื่องน่าคิดอย่างหนึ่ง เช่น พระที่ฉันเจ ฉันมื้อเดียว ฉันผักสดๆ พระที่อยู่ในป่า ก็มีอาหารถวาย เป็นผลไม้เป็นผักสดเพราะหมอสองคนนี้พิสูจน์แล้ว

ลองเอาผักสด ผลไม้มาต้ม มานึ่งมาทำอะไรต่างๆ แค่อาทิตย์เดียว บวมทั้งตัว ขาดวิตามินบี ก็บวมแล้ว ฉะนั้นคนที่กินมังสวิรัติ คือ ไม่กินเนื้อ แต่กินของทอดที่มันไม่มีชีวิตแล้ว ก็มีสิทธิขาดวิตามินเหมือนกัน เพราะวิตามินตายในความร้อน ฉะนั้น ต้องกินของสดๆ กินของที่เก็บมาใหม่ๆสดๆให้มากที่สุด วิตามินก็ไม่ขาด

ฉะนั้น ผมไม่แปลกใจ ว่าทำไมคนกินมังสวิรัติหน้าตาซีดเซียว เพราะว่ากินของตายไปเยอะพอสมควร คือของสดๆ ก็นำไปนึ่ง ไปทอด ไปผัดค้างคืน ที่ผมเห็นเขากินแกงจับฉ่าย ผมไม่กินเลย ไม่รู้ตายมากี่วัน

ถัดมาก็ของที่ไม่น่ากินมากที่สุดก็คือ ของทอด ทำไมคนอีสานถึงเป็นมะเร็งมาก ก็เนื่องจากไปกินพวกที่มีพยาธิในตับ ใช่ไหม แต่ส่วนหนึ่งกินของที่ปิ้งที่ย่างเป็นน้ำมัน เช่น เอาปลาส้มมาปิ้ง มาย่าง มาทอด เอาเนื้อมาทำเสือร้องไห้ ในทางการแพทย์ ทุกคนที่เรียนมาจะรู้ เวลาที่จะให้เนื้อเป็นสีแดงที่ขายในตลาด ก็ต้องใส่ดินประสิวลงไป หนึ่งทั้งกรอบ ทั้งแดง ดูดีนะครับ กุนเชียงก็ดี ไส้กรอกก็ดี ที่ชอบกินกันนัก ถึงอายุสั้น เพราะเหตุนี้ สารเหล่านี้ทุกคนก็รู้ว่าสารไนเตรท เวลาไปถูกความร้อน เวลานำไปทอดไปย่าง จะเกิดสารที่ไปก่อมะเร็ง เรียกสารไนไตรซามีน เพราะงั้นคนที่กินทอดกินย่างอะไรต่างๆ นี้ถึงได้เกิดมะเร็งง่าย ในภาคอีสาน ไม่ต้องไปแปลกใจ เดี๋ยวนี้คนอายุสามสิบปีกว่าๆ ก็เป็นกันแล้ว โรคมะเร็ง