กัณฑ์ลูกทุ่ง โดย สมณะหม่อน มุทุกันโต ตอน...
เสียดายชีวิตที่น่ารัก

หน้า 2/2

พระพุทธเจ้าท่านมาทำให้เห็น เอาตัวเองมาพิสูจน์ ช้าอยู่ทำไม ไปมัวหาเงินหาทอง โค้งจะตาย หาไปทำอะไร ก็มาซื้อกิน ซื้อเสื้อผ้า ก็ทำกินเอาซี ไปขโมยของเขาทำไม เขาทำลำบากนะ เวลาเราทำใครมาขโมยของเรา เราชอบไหมล่ะ เราอยู่ไป มีคนมาตีมาด่าเรา เราชอบไหมล่ะ ไม่ชอบ ก็เขาอยากเป็นอย่างเรา อยากมีชีวิตอยู่เหมือนเรา อยากให้ชีวิตอยู่ผาสุกสบายอย่างเรา มาเรียนรู้อย่างนี้ ว่าทุกชีวิตอยากมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เอ็งเป็นสัตว์ เอ็งเป็นคนโง่ คุณมาพูดเอาเองนะ คุณเอาเปรียบ เป็นคนย่ำยีเพื่อนร่วมโลก ย่ำยีชีวะทั้งหลาย คือคุณย่ำยีคุณเองนั่นแหละ คุณทำร้ายผู้อื่น เอาเปรียบผู้อื่น คือคุณทำลายความเป็นมนุษย์ของคุณเอง คุณทำลายความประเสริฐของคุณเอง มาเข้าใจสิ แม้คุณให้คนอื่นช่วย ก็ทำลายความประเสริฐของคุณเอง ทำไมคุณไม่ช่วยตัวเอง ไปยินดีอะไรในการที่ให้ผู้อื่นช่วย

แม้คนจะไปช่วยคนอื่นก็คิดให้ดี การไปช่วยคนอื่นทำให้เขาอ่อนแอก็ได้ ทำให้เขาพึ่งตนเองไม่ได้ก็ได้ หัดช่วยอย่างพระพุทธเจ้าสิ ให้ปัญญา ให้แล้วก็ไปหาวิธี "อยู่"เอง ถ้าเข้าใจแล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลาไปแย่งใคร ไม่เอาเปรียบใคร ไม่ทำลายชีวิตใคร เพราะเห็นว่าชีวิตน่าเอ็นดู น่ารัก น่าสงสาร มันทุกข์ลำบากด้วยกัน ช่วยกันสิ มาเป็นแบบอย่างของคนที่ไม่เบียดเบียน วางทัณฑะ วางศาสตรา มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณาหวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ นี่ความหมายศีล ข้อ ๑ ภาษามีแค่นั้น แต่จริงๆแล้ว ชีวะทั้งหมด คนเจริญอย่างพระพุทธเจ้าหมาย ไม่ให้ทำร้าย ไม่ให้เบียดเบียนแม้แต่ยอดหญ้าถึงปานนั้น เอ็นดูชีวะทั้งหลาย ตฤณชาติทั้งหลายโน่น ท่านเคารพชีวิตถึงปานนั้น

ทุกวันนี้ ชีวิตชาวไร่ชาวนาที่ประเสริฐ มีการทักทายปราศรัย หาบข้าว หาบน้ำ มันหายไปหมด น่าเสียดายไหมชีวิตอย่างนั้น ชีวิตแบบนั้นดีไหม ทำไมไม่ตามเอา มีใครสักคนไหม แม้จะยังมาไม่ได้ จะกลับไปบ้านไปปลูกข้าว ไปตำข้าวกินเอง เมื่อรู้ว่าดี มันไม่เอาง่ายๆนะ มันถูกยัดเยียดให้ว่า ชีวิตแบบนั้นเป็นความต่ำ เราเข้าใจว่าการไปตำข้าวเป็นความทุกข์ยากเสียแล้ว ทั้งที่เป็นความประเสริฐ นั่นคือเราถูกยัดเยียด ถูกบังคับเคี่ยวเข็ญให้กลายเป็นคนไม่ดี ทั้งที่เราดี เพราะเราไม่รู้สัจจะ เราจึงเห็นเป็นไม่ดีไปตามเขา

ทำอย่างไรคนจึงจะเข้าใจความจริง ว่าการตำข้าว หุงข้าวกินเอง เป็นความประเสริฐของชีวิต ใครจะมาหลอกก็ไม่หวั่นไหว จะภาคภูมิใจตรงนี้ได้อย่างไร

เวลาผ่านบ้านญาติธรรมที่อยู่ตามทางที่อยู่ในรัศมี ๔-๕ กิโล หรือ ๑๐ กิโล ก็จะพยายาม จะไปให้กำลังว่าดีแล้ว แต่อาตมาก็เศร้าใจทุกครั้งเมื่อไปถึงบ้าน ก็วิ่งไปซื้อผักดอง ไปซื้อผักกาดที่ตลาด ไปซื้อแอปเปิ้ล ซื้อส้มโอ.. อาตมาเศร้าใจ เขาถือว่า เป็นความภูมิใจที่ได้ไปซื้อของตลาดในห้าง มันโก้ เวลาสิ้นเดือน ซื้ออะไรอีรุงตุงนังห้อยแฮนด์มอเตอร์ไซค์ผ่านบ้านต้องอ้อมบ้านหลายๆรอบ คนจะได้เห็นชีวิตประเสริฐเป็นอย่างนี้ กลับมาบ้านก็รกบ้านรกช่อง ตู้กับข้าวชั้นนั้นชั้นนี้ต้องมีผงชูรส มีน้ำปลา น้ำซอส แม่นี่วุ่นวาย ตายแล้วกูกินกับมึงไม่ได้ ก็ว่าตามประสา เราก็แกง ผัด ว่ามันอร่อยยอดเยี่ยม แม่ก็ไม่กิน เอาผักมาลวกกิน เราก็อยากจะเททิ้ง แม่นี่ ทำไม้…เราพยายามจะเลี้ยงดูอย่างนี้ทำไมไม่เอา โง่อยู่ได้ มาเป็นครูย้ายไปโรงเรียนบ้านนอกบ้านนา เขาไม่กินผงชูรส อาตมาก็หอบไป คนเจริญต้องเป็นอย่างนี้ ต้องมีน้ำปลา ต้องมีผงชูรส เวลาเข้าป่าล่าสัตว์ ก็ต้องเตรียมข้าวคั่ว เตรียมเหล้ายี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ผงชูรส น้ำปลา ชาวบ้านติดจนได้ โอ… แซบหหลายครู สุดท้ายน้องๆติดผงชูรสตามอาตมากันจนหมด เศร้าใจ ไม่อยากกลับไปบ้าน อาตมาได้มอมเมาน้องตัวเองเสียแล้ว แม้แต่ชาวบ้านอยากได้มอเตอร์ไซค์ อยากมีเสื้อผ้ามียี่ห้อ เศร้าใจ ไม่มีปัญญาจะไปเปลี่ยนความเห็นเขาได้ อาตมาได้เป็นคนเนรคุณความดีความงามในโลกเสียแล้ว

ทุกวันนี้ อาตมาอธิษฐานในใจ เกิดชาติไหนๆ พระพุทธเจ้าข้า ขอให้ได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า สาวกของพระพุทธเจ้า ขอให้ยินดีบาตรและจีวร ได้ฟังธรรมตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ อย่าได้แย่งทรัพย์สมบัติใดๆ อย่าให้มีทรัพย์สมบัติใดๆ ติดตัวเกินกว่าบาตรและจีวรนี้เลยทุกชาติไป ใครๆอย่าได้เอาอย่างอาตมาในส่วนที่เกินกว่าสิ่งที่จำเป็นนี้ สิ่งที่เกินความจำเป็น อย่าได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ใครเลย ขอโทษ..ที่ผ่านมาไม่เข้าใจ ยอมรับสารภาพผิด เป็นความโง่เป็นความเขลา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะพยายามไม่ให้อะไรเป็นส่วนเกิน จะพยายามไม่เบียดเบียนใครในโลก จะไปไหนมาไหนจะงามอย่างพระพุทธเจ้า ไม่รีบไม่ร้อน ใครเดินตามพระตามเจ้าไม่เป็นพิษไม่เป็นภัย ไม่สะดุ้งสะเทือน ไม่ตระหนกตกใจ ไม่ให้ใครต้องมาด่า มึงจะรีบร้อนไปตายโหงตายห่าที่ไหน อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย อย่าให้ใครตกใจเพราะการไปการมาของเรา ขอให้เราดำเนินตามแบบของพระพุทธเจ้านี้เถิด ทำไมชีวิตง่ายๆอย่างนี้ เมื่อก่อนเราทำไมไม่เข้าใจ คนในโลกทำไมไม่เข้าใจ ว่าชีวิตมันง่ายๆ ชีวิตประเสริฐ แต่ทุกวันนี้กำลังจะหมดไป

แม้แต่พระธุดงค์ก็เถิด ท่านทำไมไม่ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ไปเจอบางแห่ง พระธุดงค์แท้ๆ เอาหมาไปด้วย เวลาไปบิณฑบาตก็ผูกหมาติดกลดเอาไว้ เราถามว่าทำไมล่ะ ท่านว่าสมัยนี้เผลอไม่ได้ มันมาลักกลด ลักบาตร ก็สมน้ำหน้าแล้วนี่ …เราพูดในใจ ไม่อยากว่ากัน ก็เพราะ มี น่ะซี มันถึงมาปล้น ผมไม่มี ไม่ต้องกังวล โอ…ขนาดพระธุดงค์ลูกศิษย์พระพุทธเจ้าแท้ๆ อาชีพสูงสุดยอดเยี่ยมจริงๆ มันน่าเสียดายไหม อาตมาเสียดายชีวิตอย่างนี้ อาชีพอย่างนี้ มันจะหายไปจากโลก

ตัวพฤติกรรม อาชีวะ อาคือทั่วทั้งหมด ชีวะก็ชีวิต ทั้งหมดของชีวิต เมื่อมีชีวิตต้องมีการอยู่ จะหาวิธีอยู่อย่างไร ถ้าคนโง่ๆ ก็จะไปปล้นเขา โกงเขา ระดับหยาบที่สุด กูจะอยู่ มึงตายก็ช่าง คนฉลาดขึ้นมา ก็หาวิธีหลอกลวงตลบแตลงอย่างยอดเยี่ยม สูงขึ้นมาก็มอบตัวในทางผิดอย่างยอดเยี่ยม สูงขึ้นมาก็หาลาภแลกลาภอย่างยอดเยี่ยม เสียสละเป็นครูอุดมการณ์และเขาได้ค่าตอบแทนได้ลาภได้ยศ ได้หมู่ได้กลุ่ม ก็เป็นการเอาลาภแลกลาภอย่างยอดเยี่ยม หาวิธีการฝึกหัดจนเชี่วชาญ เรียกว่า ศิลป ผู้ใช้ศิลปะในการเลี้ยงชีพทั้งหมดในโลกไม่พ้นไปจากนี้ คุณจะสุขสบายยอดเยี่ยมอย่างไรก็ตาม ถึงขั้นจอมจักรพรรดิก็ไม่พ้นไปจาก นี้ แม้จะสุขสบาย มีชีวิตอยู่เป็นหมื่นเป็นแสน ตายไปสู่พรหมโลก มันก็ไม่ประเสริฐ การมีชีวิตอยู่อย่างร่ำรวยมหาศาล สุขยอดเยี่ยมอย่างไรก็ตาม ไม่รู้อริยสัจอย่างเดียว ไม่ใช่ความประเสริฐของชีวิต แต่มีชีวิตอยู่วันเดียว คืนเดียว รู้อาริยสัจ นี่คือความประเสริฐ รู้อาริยสัจต้องมายืนยันทั้งรูปทั้งนาม เป็นผู้ไม่มีศิลปะเลี้ยงชีพ ใครจะคิดออก ไม่ต้องใช้ความชำนาญใดๆ ในโลก น่าอาย น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง มันแย่งมันชิง เอารัดเอาเปรียบ ลงทุนลงแรง ไม่เรียบไม่ง่าย พระพุทธเจ้าประณามเหยีดหยาม ชี้โทษชี้ภัยของการมีมาก เอารัดเอาเปรียบ เป็นตัวอย่างไม่ดี ยิ่งมีมากยิ่งทำลายตัวเอง

ชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ มันดีนะ เริ่มตั้งแต่ทิ้งอบายมุข สูงขึ้นมา ทิ้งศาสตราอาวุธ ศีลข้อ ๑ ข้อ ๒ ศีลทุกข้อคือ เว้นจากการเบียดเบียน ที่ละเอียดสูงขึ้นๆ ทำไมศีลที่สูงขึ้นๆ คนจึงทำได้ยาก เพราะมันเข้าใจไม่ได้ว่าเป็นการเบียดเบียนที่ซับซ้อนสูงขึ้นๆ ศีลข้อ ๑ ไม่ฆ่ามันก็ง่าย แต่ศีลข้อ ๒ คุณไปหาทรัพย์สมบัติสิ่งของมา แล้วมีใครมาขโมย คุณรู้สึกอย่างไร เจ็บปวดทรมานเคียดแค้น จะเอาเงินไปเสียค่าเล่าเรียน เสียค่าโน่นค่านี่ แล้วมีคนมาขโมย แบบนี้ฆ่าฉันตายดีกว่า… แสดงว่าเรื่องการฆ่าการตายเป็นเรื่องเบากว่า แต่การขโมยเป็นความทุกข์ทรมานที่สูงกว่า ผูกอาฆาตจองเวร เจ็บปวดหัวใจ มันร้ายกาจกว่า แต่ดูเหมือนมันเบากว่า

เทียบอย่างนี้จนไล่สูงขึ้นมาถึงศีล ข้อ ๖ ใครจะเห็นว่า การกินหลาย เป็นการเบียดเบียนตัวเอง ยิ่งศีลข้อ ๘ ที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ มันน่ากลัว เบียดเบียนตัวเอง ทำให้ขี้เกียจขี้คร้าน ใครจะเห็นได้ง่ายๆ นอนแล้วไม่อยากลุก อ้วนตุ๊ ทำลายความเป็นมนุษย์ ความประเสริฐของตัวเอง ดีดสีตีเป่า ทำให้หนวกหู แค่ฟ้าร้องฟ้าผ่าก็จะตายกันอยู่แล้ว ทำไมต้องมาทำอะไรเพิ่มขึ้นอีก

ยิ่งหาเงินทองมีการเอารัดเอาเปรียบ เมื่อมาเข้าใจเห็นโทษเห็นภัย มันไม่เอานะ เหมือนเด็กน้อยโตเป็นผู้ใหญ่ ให้ไปเล่นของเล่น มันไม่เอา คนเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างแจ่มแจ้งแล้วก็…บวชให้ผมหน่อย พระเจ้าข้า เพราะเห็นว่าชีวิตอย่างนี้เยี่ยมยอดจริงๆ เป็นแบบอย่างของความประเสริฐของมนุษยชาติ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มาแสดงมาบอก แล้วก็เอาตัวเองมายืนหยัด ยืนยันเป็นแบบอย่างเป้าหมายของชีวิตทุกคน ต้องเห็นว่าชีวิตอย่างพระพุทธเจ้ายอดเยี่ยม อยากจะเป็นอย่างท่าน น่าอิจฉา ถ้าใครมาเห็นอย่างนี้ พูดอย่างไร ลากคอกลับไป ก็กลับมาเหมือนเดิม

อาชีพอย่างนี้ กำลังจะหายไปจากโลก ตั้งแต่ความเป็นคนธรรมดาที่เลี้ยงชีพไม่เป็น เกิดมาเป็นคนแล้วก็ไปทำโง่ๆ ไปหาเหล้าบุหรี่ อบายมุข ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ผิดศีล ๕ มานั่นแหละ เพราะไม่เข้าใจ ชีวิต เราก็มาช่วยกัน มาเข้าใจชีวิต ตั้งแต่เริ่มเป็นชาวไร่ชาวนา อาหารการกิน ไม่ต้องพึ่งนายทุน อะไรๆต่างๆเป็นการปูพื้นฐานใหม่ เพราะพวกคนในโลก ไม่รู้ทิศทางการดำเนินชีวิต ไม่รู้ว่าชีวิตประเสริฐเป็นอย่างไร จะมาเริ่มต้นกันที่ตรงไหน

แต่ถ้าใครรู้เร็วพรวดพราด เหมือนนักเรียนที่ข้ามชั้นพรวดๆ ไม่ต้องรีรอ โลกขาดแคลนสิ่งเหล่านี้มาก เป็นชีวิตอย่างพระพุทธเจ้าพาเป็นสุขสูงสุด พยายามไปให้เร็วที่สุด จะได้เป็นแบบอย่าง เพราะแต่ละคนก็คอยว่าใครจะทำก่อน เพราะทุกคนกลัวตายรักชีวิต จริงๆ คนรักชีวิตต้องทำก่อน เหมือนเราอยู่ในห้องขัง ถ้าพูดว่าคนนั้น คนนี้สิ เอาหัวชนกำแพงออกไปก่อน ถ้าเราไม่ชนใครจะกล้าออกล่ะ เขาจะเห็นทางได้อย่างไร เขาก็รอเรา

สุดท้าย ถ้าใครไม่ชน ก็หมายความว่าตายด้วยกันหมดนั่นแหละ แต่ถ้าเราชน โอกาสกำแพงทะลุยังมี นั่นคือเราได้ช่วยตัวเอง ถ้าเรารอดไปได้ ก็รอดกันหมด ถ้าเรารอดไม่ได้ ก็เราพยามแล้ว ดีกว่าไม่มีความหวัง นอนตายอยู่ในคุกด้วยกัน ไม่มีทางออก หมดหวัง เราต้องรู้ว่าในโลก จะบอกว่าเหมือนมหาสมุทร เหมือนกำแพง เหมือนโซ่ตรวน ก็เราจะตายอยู่แล้วใช่ไหม แล้วยังไม่ยอดสลัด ติดบ่วงทิพย์ กันอยู่ใช่ไหม เอาดีๆ ศึกษาดีๆ สุดท้ายพึ่งตนเองให้ได้ทุกคน ชีวิตประเสริฐจะเอาใครเป็นตัวอย่าง คิดดีๆ

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ปีที่ 7 ฉบับ 124 เดือนพฤศจิกายน 2543