หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร


หนึ่งตำบลหนึ่งกาสิโน
...เขาเหล่านั้นไม่รู้เลยหรือว่าการพนันเป็นอบายมุข เป็นช่องทางแห่งความเสื่อม ทำให้เกิด ปัญหาลูกโซ่ ตามมา หลายกระบวน ถ้าดีจริงอย่างว่า เปิดทั่วประเทศ หนึ่งตำบล หนึ่งกาสิโน เสียเลยซี การเอาอบายมุข มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจนนั้น ต่อให้เกิดตาย อีกร้อยชาติ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ มีทางเดียว เท่านั้น คือ ร่วมกันรณรงค์ ลดละเลิก อบายมุข ทุกชนิด ทั่วเมืองไทยให้ได้ แล้วไม่ต้อง ไปดิ้นรนอย่างอื่น เศรษฐกิจ และอะไรๆ จะดีวันดีคืน ขึ้นมาเอง อ้าว! จริงๆ ขอยืนยัน
* แก้วมูล เภตรา เชียงราย
- บัณฑิตแท้ย่อมรู้รอบถ้วนกระบวนการ ว่าการคิดอ่าน ตั้งกาสิโน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และ สังคมนั้น เป็น "สัมมาทิฏฐิ" หรือ "มิจฉาทิฏฐิ" พระบรมศาสดา ทรงชี้ขาด ให้เว้นห่างอบายมุข แต่ก็ยังมีคนดันทุรัง เห็นดีเห็นงาม จะตั้งกาสิโน พัฒนาชาติ ให้จงได้

เป็นไปแล้ว
ข่าวบัดสีหญิงผู้ต้องขังแทนค่าปรับที่ สน.บางมด หาว่าตำรวจสิบเวร ไขห้องขัง เอาตัวออกไป ข่มขืนชำเรา ๓-๔ ครั้ง ไม่น่าเชื่อ เพราะบนโรงพัก ไม่ได้มีตำรวจสิบเวร เพียงคนเดียว ทำไม ไม่โวยวาย บอกกล่าว ให้ช่วยเหลือ
* คนฟังหูไว้หู กทม.
- จริงด้วยซี มีทั้งยาม ร้อยเวร สารวัตรเวร รองผู้กำกับฯ ผู้กำกับฯ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า คนเหล่านั้น มีหูมีตา มีเลือดเนื้อ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พอจะเป็นที่พึ่งพาได้ ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง การที่สิบเวร บังอาจทำอย่างนั้นได้ แสดงว่า การปกครอง บังคับบัญชา ที่โรงพักนั้น ล้มเหลว สุดขีด ต้องไล่เบี้ย ทุกระดับ ยันหัวหน้าโรงพัก

อันความกรุณา
เนื่องในโอกาสครบรอบ ๘ ปี ของ "เราคิดอะไร" ขอแสดงความยินดีด้วย และ ขอสนับสนุน "โทษทันตา" ๕๐๐ ค่ะ เคยรู้มาว่า "เราคิดอะไร" จะต้องล้มเลิกไป ตั้งแต่ฉบับที่ ๑๒๐-๑๒๑ แต่ดิฉัน (อายุ ๗๕ ปี) ก็บุญมาวาสนาส่ง ได้อ่านตลอดมา จนถึงบัดนี้ จะเป็นสมาชิก จนกว่า... ว่าข้างใดข้างหนึ่ง จะล้มหายจากกันไป
* อำนวยพร อินทุวัต ลำปาง
- เพิ่ง ๗๕ ปีเท่านั้นเองน่า ยังเป็นสมาชิก"เราคิดอะไร" ได้อีกนานปี อย่าอยู่ให้ถึง ๑๐๐ ปี ก็แล้วกัน "เราคิดอะไร" ขอยก ธงขาวครับ ขอบคุณ...ขอบคุณครับ ที่ห่วงใย และเอื้อเฟื้อ

ขอคารวะ
คิดจะเป็นนักกลอนจะสอนให้ ต้องมีใจรู้แตกฉานการภาษา
ที่ยิ่งใหญ่เหนือใครในอุรา คือครูบาขอท่านดลสู่ผลงาน
จะแต่งโคลงกาพย์ฉันท์สรรคำกลอน คุณครูสอนสั่งไว้ใช้ประสาน
สัมผัสนอกสัมผัสในให้ตระการ ยามขับขานสำเนียงเพราะเสนาะยิน
อันนักกลอนที่ดีมีจรรยา อย่าข่มค่า ของคำกลอนค่อนติฉิน
จะเปลี่ยนแปลงควรแฝงไว้ใจประทิน ใช่เคยชินเพียงอยากเขื่องเรื่องคำกลอน
* แว่นฟ้า
- เป็นความปรารถนาดีจากผู้อ่าน ถึง "คำกรอง-กรองคำ" คุณน้อมคำ อิสรา น้อมรับไว้ ด้วยความขอบคุณ แม้จะยังงงงัน เป็นไก่ถูกเดือยแทงตาแตกว่า ได้พลาดพลั้ง ล่วงเกิน ท่านใดไป ยามไหนหนอ ฝาก "จากผู้อ่าน" ขออภัย หากเป็นไป เช่นนั้น บ.ก. ก็เลยฉวยโอกาส ริอ่าน แต่งกลอนเล่นๆ บ้าง ตามประสาคนซุกซน
... รับเต็มเต็ม "คำสอน" ครูกลอนเชี่ยว ต่างไม้เรียวลงก้นคนรุ่นใหม่
ขอบพระคุณเอื้ออารีมีน้ำใจ พบพลาดพลั้งครั้งใดโปรดติงเตือน

ภูมิแพ้
ขอระบายสักนิดเถอะค่ะ ดิฉันสลดหดหู่ใจเหลือทนกับข่าวงานวิจัยว่า นศ.สาว สถาบัน ราชภัฏบางส่วน ใจแตก ถึงกับขาย บริการทางเพศ หาเงินทองไปใช้สอย ฟุ้งเฟ้อ ตามสมัยนิยม บางคนถึงกับ จดสถิติไว้ได้สูง ตั้งร้อยกว่าคน เป็นนศ. ทำสถิติ ได้สูงแบบนี้ จบออกไปแล้ว จะมีอะไรเหลือหรือคะ นึกไม่ถึงจริงๆว่า สังคมยุคนี้ คนเสียผู้เสียคน ได้ง่ายดายเหลือเกิน ไม่ว่าเรื่องนี้ หรือ เรื่องยาบ้า การพนัน การทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง และอะไรต่อมิอะไร อีกสารพัด การแก้ปัญหา ที่ทำกันอยู่ ในขณะนี้ ดูๆ แล้วก็หวังได้ ริบหรี่ เหลือเกิน เพราะไม่ได้ เอาจริง เอาจังกันสักเท่าไร ไม่มีตัวอย่างดีๆ สักเท่าไร
* สมาชิกยืมอ่าน กทม.
- วันหน้าวันหลัง มีอะไรอัดอั้นก็ระบายมาอีกเถอะครับ รับได้ไม่มีวันเต็ม เรื่องที่ทำให้ สลดหดหู่ ทั้งหลายนั้น มันก็เป็นผลพวง ของแรงเหวี่ยง ทางสังคม ที่แปรไปจากแกนกลาง เดิมที เรามีศาสนธรรม เป็นที่ยึด ที่นำพาชีวิต แต่เดี๋ยวนี้ เรามีศาสนา เป็นเพียงไม้ประดับ เอาไว้โอ่อ้าง แต่มิได้ประพฤติ ยึดถือศาสนธรรม สักน้อย ขอศีลรับศีลกันตะพึด แต่ศีลห้า ยังแทบไม่มีสักข้อ สังคมจึงวิปริต เพราะคนส่วนใหญ่ วิปลาส เห็นผิดเป็นชอบ ทั้งบางองค์ประกอบ ของพระรัตนตรัย ก็ไม่สมประกอบนัก ไม่อาจสืบสาน พระธรรม ได้ตรงธรรม ตรงทาง เนื่องจากตัวเอง ก็มีแต่รูปแบบ ไม่มีเนื้อใน เพราะฉะนั้น คนจึงเป็นโรคภูมิแพ้ กันเต็มเมือง ไม่มีภูมิศีล ภูมิธรรม ภูมิชนะไว้เป็นยาง (อาย) คุ้มตัว มีแต่ภูมิแพ้ โรคอหิวาต์ (ห่า) สังคม จึงเล่นงาน จนล้มลุก คลุกคลาน จะเป็นจะตายกัน ถึงปานนี้ แล้วยังไม่วาย กระเสือก กระสน หาภูมิแพ้ มาใส่ตัว เพิ่มเข้าไปอีก จะโทษดาวเดือน ฟ้าดิน ที่ไหนได้ ก็ตัวเอ้ๆ น่ะยังนำพากัน งมงาย อยู่กับไสยศาสตร์ แบบนี้จะสัก กี่กระทรวงพระพุทธศาสนา และ วัฒนธรรมไทย ก็ยากที่จะพ้น รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ประเภท จอมไสยกรรม

บ่เป็นหยังดอก
ผมเป็นคนพิการ ป่วยเป็นอัมพาตท่อนล่าง เพราะอุบัติเหตุตกต้นลำไยตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ เดินไม่ได้ รักษาตัว จนหมดเงินออม ที่มีอยู่ ก็ไม่หาย ขณะนี้ยังชีพอยู่ได้ ด้วยเงินสงเคราะห์ จากราชการ เดือนละ ๓๐๐ บาท ๖ เดือนรับที จึงมีเงินทอง พอเจียด เป็นค่าแสตมป์ ส่งหนังสือ ให้อ่านบ้าง
* อุทัย ซ้ายสุพรรณ สกลนคร
- ตกต้นไม้กายพิการยากจนเงินทอง แต่ไม่ล้างผลาญสังคม ก็ยังดีกว่า พวกตกต่ำใจพิการ ยากจนหิริ - โอตตัปปะ ความละอายชั่ว กลัวบาป และตีหน้าตาย แอบแฝง เกาะกินแผ่นดินอยู่ ส่ง "เราคิดอะไร" ฉบับครบรอบ ๘ ปี พร้อมกับ "โทษทันตา" มาให้อ่าน ไม่ต้องส่งเงิน ค่าแสตมป์ ไปนะครับ บ่มีเงิน ก็บ่เป็นหยังดอก พ่อใหญ่เอ๊ย

ก็ได้
ดิฉัน ป้าเขียวหวาน ฉายเพ็ชร เป็นสมาชิก "เราคิดอะไร" มานาน พอดีเมื่อ ๒-๓ เดือนมานี้ ป้ามีงานยุ่งมาก เลยไม่ได้ส่งเงินมา ตอนนี้ พอมีเวลา ส่งมาแล้ว ๕๐๐ บาท ค่ะ
* ป้าเขียวหวาน นครสวรรค์
- ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ร้านอาหารเขายังให้กินก่อนแล้วจ่ายเงินทีหลังได้เลย อย่างของป้านี่ เขาเรียกว่า กินไปจ่ายไป ได้แบบนี้ ก็ดีถมไป แล้วละครับ เชิญสั่งอาหาร ตามสบายหายห่วง

บรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๗ ตุลาคม ๒๕๔๕