>เราคิดอะไร

หน้าต่างความคิด ศิวกานต์ ปทุมสูติ

๕. กระจกในกระจก
คุณเคยสังเกตกระจกสองบานในร้านตัดผมมาแล้วใช่ไหม กระจกบานใหญ่ จะอยู่เบื้องหน้าของคุณ ขณะเมื่อคุณนั่ง อยู่บนเก้าอี้ตัดผม กระจกอีกบานหนึ่ง (โดยทั่วไป) จะเป็นบานเล็กอยู่ข้างหลังคุณ กระจกสองบานต่างหันเข้าหากัน ส่องสะท้อนเงาของกันและกัน และมันทำให้คุณสามารถ มองเห็นท้ายทอย ของตัวเอง อีกทั้งมองเห็นอะไรๆ ที่อยู่ข้างหลังของคุณ ซึ่งโดยปกติ ถ้าคุณไม่มีกระจก บานข้างหลัง ดังกล่าว คุณไม่เคยมีโอกาส มองเห็นได้เลย

เมื่อคุณยิ่งมองล้วงลึกเข้าไปในเงาของกระจกบานเล็ก (ที่อยู่ในกระจกบานใหญ่) คุณก็จะยิ่งเห็นเงา ของกระจกบานใหญ่ และเงาของกระจกบานเล็ก ส่องสะท้อนกันและกันไม่รู้จบ จนกระทั่ง สุดระยะ การมองเห็น ด้วยสายตาของคุณ

คุณได้ความคิดอะไรจากกระจกสองบานนี้บ้าง ลองคิดดูให้ดีสิครับ...

นั่นอย่างไร คุณเริ่มเห็นคุณค่าของกระจกบานข้างหลังนั้นมากขึ้นแล้วใช่ใหม ทั้งที่บ้านของคุณ (โดยทั่วๆไป) ก็มักจะมี จะใช้หรือให้ความสำคัญ กับกระจก เพียงบานเดียว ไม่ว่าจะใช้ส่องหน้า หรือส่องตัว (หัวจรดเท้า) คล้ายๆ เหมือนว่า ปรกติแล้วคุณจะใส่ใจกันแต่เพียงบุคลิกภาพเฉพาะข้างหน้าของคุณเท่านั้น คุณมักไม่ค่อย จะได้คิดคำนึงถึง บุคลิกภาพ ส่วนที่เป็นข้างหลังของคุณ สักเท่าไรนัก

แต่ช่างตัดผมให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ เขาพร้อมแสดงฝีมือการตัดผมของเขา (ในส่วนที่คุณมองไม่เห็น -ให้คุณเห็น) ผ่าน กระจกบานเล็กนั้น......

ผมเชื่อว่าคุณเองก็ใส่ใจกับฝีมือของช่างตัดผม ยิ่งเป็นช่างคนใหม่ ที่เพิ่งมีโอกาส ประเดิมฝีมือ ลงบนหัวของคุณด้วยแล้ว คุณยิ่งมักแอบแฝง ความไม่วางใจ ผ่านทะลุ กระจกบานใหญ่เบื้องหน้า ครั้งแล้วครั้งเล่า....ผมเคยเห็น

ถ้ามิใช่กรณีของการตัดผมล่ะ คุณเคยให้ความใส่ใจกับกระจก (แห่งความจริงใจ) บานที่เผยให้คุณเห็น สิ่งที่คุณไม่เคย เห็นในตัวตนของคุณบ้างไหม คุณอาจจะบอกว่าเคย หรือ พร้อมที่จะรับรู้รับฟัง ...ตามฟอร์มไว้ก่อน แต่โดยความเป็นจริง ผมก็อยากจะถามคุณว่า

คุณมักเชื่อกระจกในกระจก
หรือมักยกเหตุผลว่ามิใช่
ถ้ามีสิ่งไม่งามทิ่มตำใจ
คำตอบเป็นเช่นไรคุณก็รู้