พ่อหลวงคิดอะไร
- ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล - กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
๔ ก.ย. ๔๕ ณ ศาลากลาง จ.นครราชสีมา
ต่อจากฉบับที่ ๑๖๑ เรื่องอย่างนี้ต้องช่วยกันเผยแพร่


เศรษฐกิจพอเพียงโดยสรุปว่า เราต้องยึดมัชฌิมาปฏิปทา ดูฐานรากของเราที่จะรองรับ และ ขยับเคลื่อนไปข้างหน้าพระองค์ไม่ได้ให้ทุกคนกลับมาจนหมดนะ แต่ขยับไปข้างหน้า โดยมีฐาน รองรับ มั่นคงแข็งแรง จะเกิดวิกฤตที่ไหนนั้น ไม่มีปัญหาอะไร สำหรับชาวเกษตรกรนั้น ท่านแถมให้ด้วยวิธีการเข้าไปสู่เศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะเศรษฐกิจ พอเพียง สำหรับทุกคน จะเป็นข้าราชการ จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นทหาร จะเป็นใครๆ นั้น เป็นปรัชญาหลัก ตั้งอยู่บนความพอดี พยายามลดรายจ่ายลงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ พระองค์ท่านบอก เศษ ๑ ส่วน ๔ ก็อยู่แล้ว ลดอะไรที่ไม่จำเป็นลงเสีย ทุกคนไม่จำเป็นต้องขี่รถเบนซ์ ไม่จำเป็นต้อง คาดโรแหลก มันชี้เวลาเหมือนกันแหละ จ่ายแสนกว่า หรือผมจ่ายพันกว่า ชี้เวลา ตรงกัน คนหนึ่ง ลงทุน แสนกว่า เพื่อได้เวลาเหมือนกัน คนหนึ่งลงทุนพันหนึ่ง ได้เวลาเดียวกันน่ะ มันเรื่องอะไร ที่จะไปลงทุนอย่างนั้น ถ้าโรแหลกมันเดินช้ามาก วันหนึ่งคนอื่นเขาเดิน ๒๔ ชั่วโมง มันเดิน ๕๐ ชั่วโมง ทำให้อายุเรายืนขึ้น น่าซื้อ ไปบอกด้วยถ้ามีนาฬิกาชนิดนี้ที่ไหน ผมจะไปซื้อ อยากอายุยืน เหมือนกัน นี่มันกี่ตังค์ก็ชี้เวลาเดียวกัน ทำไมจะต้องไปทุ่มเท กินเข้าไปก็ไม่ได้ ฟันหัก เพราะฉะนั้น ฐานรากทุกคนต้องยึด

นักพัฒนาทั้งหลายจำไว้อันหนึ่ง ตั้งแต่คุณวิวัฒน์เป็นต้นไป ลูกศิษย์ก้นกุฏิผมนี่ สังเกตเห็น โดยเฉพาะข้าราชการ เพิ่มรายได้ ไปถึงปั๊บดูเลย แม่บ้านอย่านั่งเฉยๆ ทำหัตถกรรม แม่บ้านก็นึก เออฉันก็ถักเป็น แต่จะเอาไปขายที่ไหน อย่าอยู่เฉยๆ ทำโน่นทำนี่เพิ่มรายได้ ทุกคนเลยเกือบทั้งร้อย เป็นอย่างนั้น พยายามเพิ่มผลผลิต หัวสมองยังติดอยู่ที่เงิน ความจริงนักพัฒนาที่เก่งฉกาจจริงๆ ก้าวแรกที่สุดเลยคือ เมื่อไปที่ไหน ลดรายจ่ายก่อน อย่าเพิ่งดูผลผลิต เคยประชุมและเจอแม่บ้านบ่น ถามว่าทำไมต้องไปทำงานที่โรงงาน ได้เงินเยอะ ทำที่นี่ไม่พอกิน ถาม กลุ่มแม่บ้านไปจ่ายตลาด ตอนไหน ก็ไปเช้าๆ กลับมาสายๆ เดี๋ยวสายๆ ทุกคนหิ้วตะกร้ากลับมานี่ อย่าเพิ่งกลับบ้าน มาเจอกันก่อน

ตอนสายๆ เราก็ไปนั่งดู เขาหิ้วตะกร้ากลับมา เอาของในตะกร้ามาดูซิ เรียนรู้ด้วยตนเอง ร่วมกันเรียนรู้ ในตะกร้าผ้ามีอะไรบ้าง บอกมาซิ มีไข่ไก่ ถามเลี้ยงไก่ได้หรือเปล่า ไก่ปล่อยให้มันอยู่ ตามบ้านนี่เศษข้าวมี ผลเลี้ยงได้ ทำไมไม่เลี้ยง จริงซินะ มีผงชูรส ใส่ทำไม ไม่รู้ เป็นความเคยชิน น้ำตาลมีหรือเปล่า มี แถวจังหวัดเพชรบุรีบ้านผมน้ำตาลปึกทำเอง ซื้อมาทำไม ผงชูรส น้ำตาล หยอดไปนิด หอมหวาน ไม่เป็นอันตรายด้วย กินผงชูรสมากๆ เป็นหมัน ถ้าใครอยากเป็นหมัน กินไปเหอะ ไม่ว่าอะไร บางที อย่างลิโพ ซื้อมาทำไม กินแล้วมันกระชุ่มกระชวย ที่จังหวัดเชียงใหม่ หิ้วไข่ไปขายโหลหนึ่ง ไปขายมาได้สิบกว่าบาท ขากลับซื้อกระทิงแดง กลับมาขวดหนึ่ง เห็นแล้ว มึนจริงๆ นี่ไข่สิบใบมันเท่ากับลิโพหรือกระทิงแดงสิบขวดนะ เอาไปแลกกลับมาได้ขวดเดียว เรื่องอะไร

มาเทตะกร้าดูแล้วของไม่จำเป็นเลยแต่ว่าซื้อหาด้วยความเคยชินมากมายก่ายกอง เพราะฉะนั้น เริ่มลดรายจ่ายเสียก่อน ข้าวของที่จะทำอะไรต่างๆนั้น แท้จริงอยู่รอบตัวเรา

พอขั้นตอนที่ ๒ คราวนี้มาดูแล้วว่าจะทำยังไง พอขั้นตอนที่� ๒ คือทฤษฎีใหม่ที่พระองค์ท่านรับสั่ง จังหวัดโคราชใครอยากไปดู อำเภอปักธงชัยมีแปลงหนึ่ง กระจายไปทั่ว จังหวัดสกลนครก็มีที่ไหนก็มี ถ้าหาที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ ติดต่อมาที่ผมก็ได้หรือผ่านอาจารย์ยักษ์ ถามมา แล้วผมจะให้ที่อยู่หมดเลย ไปดูเหอะ เขามีคนอบรมให้ สอนให้

ทฤษฎีใหม่คืออะไร ขั้นแรกเอาตัวรอดก่อน พออยู่พอกินก่อน พอเพียงก่อน อย่าไปคิดถึงขาย อย่าไปคิดถึงเรื่องเงิน เอาตัวออกจากเงินไปโดยสิ้นเชิง และเป็นลักษณะของการบริหารจัดการ พื้นที่เกษตรเล็กๆ ของตัวเอง พระองค์ท่านยกตัวอย่างว่า ๑๕ ไร่ คราวนี้กระทรวงเกษตรฯ ก็สวัสดีสิ มีคุณป้าคนหนึ่งบอกฉันมี ๑๒ ไร่ ทำได้หรือเปล่า ไม่ได้ ท่านรับสั่งให้ทำ ๑๕ ไร่ เพราะฉะนั้น ๑๒ ไร่ ทฤษฎีใหม่ทำไม่ได้ บอกว่าบางทีก็ยัวะเหมือนกัน ไปบรรยายกระทรวงหลายหนหลายคราว เถรตรงอย่างนี้ พระองค์ท่านอุตส่าห์แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ คุณจะมีกี่ไร่ก็เชิญเถอะ ๑๗� ไร่ ๑๐ ไร่ ๑๕ ไร่ ๒๐ ไร่ แต่นี่พระองค์ท่านถัวเฉลี่ยออกมา ๑๕ ไร่ แล้วเพื่อความแน่นอน พระองค์ท่าน แบ่งออก เป็นเปอร์เซ็นต์ เมื่อเป็นเปอร์เซ็นต์ก็หมายความว่าจะกี่ไร่ก็แล้วแต่ เอาเปอร์เซ็นต์ เข้าไปจับก็แล้วกัน ผมเคยเห็นคนทำทฤษฎีใหม่ ๗ ไร่ อยู่กัน ๔ คน สบายมีเงินเหลือใช้ด้วย

ที่พูดเน้นเมื่อกี้คือการบริหารจัดการ แล้วเดี๋ยวค่อยดูความแยบยล ดูเรื่องง่ายๆ ผิวเผิน ดูด้วยสายตา ไม่มีอะไร แต่มีความลึกซึ้งซ่อนอยู่ในนั้น

ประการแรกที่สุด คุณมีปัจจัยทุกอย่างในพื้นที่ของตัวเอง ปัจจัยการผลิตคืออะไร มีน้ำ ไม่เช่นนั้น ชีวิตคุณแขวนไว้กับฝน ฝนทิ้งช่วงคุณก็พังแล้ว กำลังเพาะกล้าอยู่พังแล้ว มีน้ำ ๑ แปลงไว้ก่อน ทรงคำนวณอย่างละเอียด เนื้อที่เท่าไหร่ก็แล้วแต่ ต้องมีพื้นที่น้ำ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ทรงคำนวณว่า วันหนึ่งระเหยไปเท่าไหร่ จะเหลือน้ำเท่าไหร่ มันไม่เหลือเฟือนัก ยอมรับ เสี่ยงเหมือนกัน แต่ว่าดีกว่าไม่มี อย่างน้อยประทังไว้จนกระทั่งฝนหน้าใหม่ พอมีน้ำเสร็จ สิ่งที่ตามมาคือปลา โปรตีนราคาถูก ไปซื้อเขามานิดหน่อยปล่อยลงไป พรึบเดียว ก็เต็มบ่อ ถ้าขยันหน่อย มีเล้าไก่ เป็ด ได้ไข่ เนื้อ

อีกแปลงหนึ่งสำคัญที่สุด ข้าว ข้าวเป็นชีวิตของคนไทย ๓๐ เปอร์เซ็นต์ต้องมีข้าว ข้าวนี่ไม่ไปไหน อย่าไปคิดถึงขาย อย่าไปคิดถึงธุรกิจ ให้มีกินก่อน

อีก ๓๐ เปอร์เซ็นต์นั้น มีไม้ผล ไม้พลังงาน ไม้ครบถ้วน ไม้ ๓ อย่าง เพื่อประโยชน์อย่างที่รับสั่งไว้ ไม้กิน ไม้ใช้ ไม้พลังงาน หมดใน ๓๐ เปอร์เซ็นต์นี่ ผักหญ้า

อีก ๑๐ เปอร์เซ็นต์ก็เป็นที่ปลูกบ้าน อาจจะทำโรงเห็ด โรงเพาะ นี่คือหลักการ ส่วนท่านจะมีที่เท่าไหร่ ก็แล้วแต่ จะมีที่เป็น ๑๐๐ ไร่ ก็ไม่จำเป็น ทำแค่ ๑๕ ไร่ พอ เดี๋ยวจะบอกว่าที่เหลือทำอะไร

พอทำครบถ้วนกระบวนความแล้ว มีอะไรอยู่หลังบ้าน คุณมีเซเว่น-อีเลฟเวน อยู่หลังบ้าน เวลาไปซื้อไม่ต้องพกเงินไป ของคุณทั้งนั้น คุณอยากได้ปลา ได้ข้าว ได้ผัก ได้อะไรไม่ต้องห่วง มีบ่อน้ำมีมะพร้าว ครบถ้วน ของหวานของคาวมีหมด มีบางรายไปไกลถึงขนาดว่าไม่ยอมซื้ออะไร ปลูกต้นข่อยไว้ ไม่ยอมซื้อแม้กระทั่งยาสีฟัน แปรงสีฟัน ตื่นเช้า ข่อย ยาปลูกไว้หมด ปวดท้อง ไปเด็ดต้นนี่ ปวดหัวไปเด็ดต้นนี่ ท้องเสียไปเอาใบฝรั่งมาต้มกินขบเคี้ยว เหม็นปากไปเอาตะไคร้มา เคี้ยวๆ หน่อย ใช้สะระแหน่ปากหอมกว่าชาวกรุงอีก ชาวกรุงปากเหม็นเพราะกินของสกปรก มีหมดในแปลง ไม่ต้องพกเงินสักบาท

ขั้นต้น เศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปถึง ไม่แคร์ใคร ชีวิตอยู่รอด ครอบครัวอยู่รอด มีอยู่รายหนึ่งมี ๗ ไร่ ที่อำเภอชะอำผมไปนั่งคุยด้วย ผมชอบเพราะว่าธรรมชาติมาก เชื่อไหม แย้มันวิ่งมาบนหน้าอกผม ทุกอย่างมันธรรมชาติประสานกันหมด ผมชอบแก แกมีแคร่อยู่ตัวหนึ่งไปนอนเล่นคุยกัน ชื่อลุงมาณ อาจารย์ยักษ์รู้จัก ได้ยินเสียงมะพร้าวหล่นตุ๊บอาจารย์ เงินมันตกจากฟ้า ถาม ทำไมล่ะ เมื่อกี้ตุ๊บหนึ่งไง มะพร้าวหล่นมาลูกหนึ่ง ถ้าผมวางขาย ๕ บาท นี่ถ้าผมปาดหัว เอาไปวางที่ข้างบ่อ เอาน้ำวิดๆ ไป อีก ๒ วันมันงอกต้นขึ้นมา ขาย ๑๕ บาท ของแถม

ไอ้ส่วนเกินนี่ ถ้านั่งเก็บรอบไปหมดมีสมุนไพรเก็บขายได้หมด ขายอย่างไม่แคร์ด้วย ใครซื้อไม่ซื้อ ไม่สนใจ วางไว้ขอบถนน ใครจะแวะซื้อก็ซื้อใครจะขโมยก็หิ้วไปบ้าง ผมก็ให้มันไม่ว่าอะไร แล้วเงินนั้น เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่าย ก็เป็นเงินออมทั้งสิ้น เพราะตัดค่าใช้จ่าย ฉะนั้นทางที่ดี อย่าไปมุ่ง การเพิ่มรายได้ นั่นไม่ฉลาด ถ้าใครทำแล้ว เบื้องต้นนะ แต่ขั้นต่อไปทำได้ แต่ขั้นแรก ต้องงดรายจ่ายก่อน พอลดรายจ่ายช่วยตัวเองได้แล้ว ส่วนที่เหลือก็...ตะไคร้ใครจะไปกินหมดกอ ส่วนเหลือขาย บ้านนี้ก็เหลือ บ้านนี้ก็เหลือ ขั้น ๒ ตามมา

ขั้น ๒ ก็แทนที่ทุกคนจะหิ้วไปขายที่ตลาด รวมกลุ่มกัน วันนี้เวรคนนี้ไปส่งตลาดได้ไหม รวบรวม กอใครกอมันนับให้ดีแล้วไป การรวมกลุ่มเกิดขึ้น ยังไม่ต้องพูดถึงสหกรณ์มันยุ่งยาก เอาแค่กลุ่ม ผลิตผล ลดค่าใช้จ่ายไปทีเดียวพอ คนเดียวพอไม่ใช่ ๒๐ บ้าน ไป ๒๐ คน นี่ค่อยๆ เกิดขึ้น ทีนี้ก็เขยิบไปอีกขั้นตอนหนึ่ง พอรู้เรื่องบัญชี รู้เรื่องการผลิตก็เป็นการลงทุนได้

พระองค์ท่านรับสั่งว่า ข้อที่ ๓ นี้ จะกู้นิดหน่อยก็ได้ ไม่ใช่เอะอะก็ ธ.ก.ส. กู้มาทำอะไรก็ไม่เป็น บางทีไปจ้างเขา เงินเจ๊งหมด ให้เป็นขั้นเป็นตอนไป ก็รวยขึ้นเรื่อยๆ ชุมชนแข็งแรงด้วย เพราะมีการ จัดการตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อความเข้มแข็งเป็นลำดับขั้นไป สุดท้ายก็เป็นบริษัทธุรกิจ ระดับชาวบ้าน จัดการเป็นเครือข่าย

ที่บ้านราช ที่จังหวัดเพชรบุรีนี่ สังเกตดูทุกคนไปปลูกหลังบ้านมีมะนาว มะกรูด หอม กระเทียม ทุกคนปลูกเหมือนกัน ทุกคนก็หิ้วไป กลับมาได้เงินนิดเดียว เขาลงทุนสร้างเป็นตัวอาคารเล็กๆ ติดมุ้งลวด ซื้อเครื่องบดมาอันหนึ่ง ทำน้ำพริกแกง ไม่ต้องไปตลาด เอาวัตถุดิบของหมู่บ้าน มาตกอยู่ตรงนี้ แล้วบดเป็นน้ำพริกต่างๆ แกงแดง แกงเขียวหวาน ห่อส่ง อย. มีป้าย อย.ด้วย มีชื่อ ใส่หมวกสีขาว ใครมาซื้อจะได้ศรัทธา ทุนไม่กี่สตางค์หรอก ผลิตที่ไหนก็ได้ เอาถุงแป้ง มาซักให้สะอาดกันเปื้อนหน่อย ดูแล้วดี่ แต่คนเขาชอบก็ต้องสนองเขาหน่อย ใส่หมวก เพื่อไม่ให้ผม ตกลงไปในนั้น ปิดป้ายชื่อ บ้านผมก็ไป เอาซื้อกิโลซิป้า ตักกิโลให้ เราก็รอรับ เดี๋ยวๆ ขอติดชื่อก่อน บอกไม่ต้องหรอก กันเองไม่ต้องหรอก ไม่ได้ๆเดี๋ยวใครขโมยแฟรนไชส์ไป นี่ชาวบ้านพูดนะ การบินไทยตอนแข่งขันเอเชียนเกมส์ ผมเลยติดต่อประสานงาน เอาเครื่องแกงนี้ ไปเลี้ยงนักกีฬา ตอนนี้ทำธุรกิจค่อยๆ ใหญ่ จากเล็กไปหาใหญ่ อย่ารวยพรวดพราด เหมือนที่เราพัง มาคราวที่แล้ว ไม่ก่อประโยชน์อะไร เหมือนการสร้างบ้าน พระองค์ท่านบอกให้สร้างตั้งแต่ฐานขึ้นไป อันนี้สำหรับ เศรษฐกิจพอเพียง ของเกษตรกรก็แถมทฤษฎีใหม่ให้

และมีอีกอันหนึ่งคือว่า เนื่องจากเป็นกระบวนการธรรมชาติ เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง หมุนเวียน อยู่ในนั้นหมด ใบไม้ใบไร่จะไม่เผา จะมีบ่อสำหรับหมักเศษไม้เศษไร่ เศษไม้โตหน่อย ก็อาจจะเผาถ่านได้ จะไม่มีขยะออกไปจากพื้นที่แม้กระทั่งชิ้นเดียว ทุกอย่างโคจรอยู่ในนั้นหมด

คราวนี้พื้นที่ที่เหลือ นั่งไขว่ห้าง ใครจะให้ฉันปลูกอะไร ซีพีจะเอาข้าวโพดอ่อนไหม มา เป็นเงิน ใครจะเอาขิงไหม มา เป็นเงิน พื้นที่ที่เหลือเป็นเชิงธุรกิจได้ แต่ว่าเราไม่ต้องห่วงแล้ว ราคาจะขึ้น จะลง จะตกอะไร ๑๕ ไร่ หรือ ๗ ไร่ ของเรามีกินรองรับอยู่ มีข้าวมีอาหารพร้อม เพราะฉะนั้น ที่เหลือ ขาดทุนกำไร เรื่องเล็ก เป็นของที่มาแถมเท่านั้นเอง มันก็เรื่องง่ายๆ แต่ผมขอเรียนว่า วิถีชีวิต ดังกล่าวนี้ จะต้องกำหนดขึ้นมาจากจิตของเราเสียก่อน ถ้าจิตใจของเรา ต้องการเดินไปอย่างนั้น ด้วยความอดทน ด้วยความใจเย็น และก็มองเห็น บรรลุธรรมถึงคำว่า ความสุขโดยแท้ อันนั้นแหละครับผมคิดว่าเดินตามรอยพระยุคลบาท ความสุขนั้น มันจะจีรัง ถาวรตลอดไป

คนเราใฝ่ฝันว่าเป็นที่ ๑ ในโลก ตัวอย่างง่ายๆว่า มีอะไรไหมที่เป็นที่ ๑ ในโลก มี มวยไง เรามีแชมป์โลก ตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ก็มี แต่คำถามที่จะต้องตามมาคือว่า เราเป็นแชมป์โลกนั้น เราเป็นแชมป์รุ่นไหน อันนี้สำคัญ รุ่นน้อยๆ รุ่นเล็กๆ ใช่หรือเปล่า เกินแบนตั้มเวทนี่ไม่มีแล้ว นี่เราเก่งตรงนี้ เราเป็นหนึ่งของโลกตรงนี้ เพราะฉะนั้นต้องเลือกให้ดี เรามีคนที่มีน้ำหนักเท่าไมค์ ไทค์สัน ไหม มี ส่งไปชกกับไมค์ ไทค์สันได้ไหม ก็ได้ แล้วปอเต๊กตึ๊งตามไปด้วย จะได้ขนศพกลับมา

เพราะฉะนั้นเรื่องตรงนี้ต้องสำคัญ เราตอนนี้ก็เริ่มแล้ว แต่เริ่มค่อยๆ คลาน อาหารไทย เวลานี้ ฝรั่งกินอาหารไทย คนไทยกันเองกลับไม่ค่อยสนใจ เห็นไหม แม็คโดนัลด์เอาข้าวเหนียวหมูปิ้ง ไปขายแล้ว ของเรานะ ส้มตำเชค มันใส่กล้วย ของเรานะ สูญไปแล้ว เรากันเองกลับไม่นิยม พวกคนไทยยุคนี้กลับนิยมบริโภคแฮมเบอร์เกอร์ ไม่ชอบกินข้าวแกง บางคนบอก แหม ด็อกเตอร์ สุเมธ บรรยายแล้วพูดจาหยาบคาย ไม่ได้หยาบคายเลย ภาษาไทยเป็นภาษา ที่สมบูรณ์ที่สุด ผมเรียนมากี่ภาษาต่อกี่ภาษา ทาบภาษาไทย ไม่ได้สักภาษา คำว่ากินคำเดียว มีกี่คำ เห็นหรือเปล่า แดก ยัด สวาปาม กระเดือก เขมือบ สะวาบ กิน รับประทาน เยอะแยะไปหมด แต่ละคำ ก็แสดงอากัปกิริยา ว่าหมายความว่าอะไร แฮมเบอร์เกอร์ดุ้นแค่นี้ เพราะฉะนั้น เวลากินต้องงาบ สับลงไป แล้วก็ไม่มีอะไรมีแต่ไขมัน ฝรั่งเองเขายังเรียกว่าขยะ อาหารขยะ junk food

มาดูอาหารไทยของเรา ๕ หมู่อยู่ครบ มีสมุนไพรอยู่ด้วย รสชาติเป็นเลิศ เรากลับไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ แต่ว่ามันจะไปได้สักกี่น้ำก็ไม่รู้ ของดีๆ ในตัวเรามีเยอะแต่เราไม่งัดออกมา เรามัวแต่เอาของฝรั่ง ไปสู้กับฝรั่ง มันไม่ไหว เหมือนเอาฝรั่งไปต่อยมวยไทย ที่มันชนะเพราะแบกน้ำหนักเท่าไหร่ไม่รู้ ลองน้ำหนักเท่ากันสิ ไม่มีทางชนะเราได้หรอก เพราะมันฝังอยู่ในสายเลือด

เพราะฉะนั้นเราต้องเลือก ผมคิดว่าคำว่ารากแก้ว น่าจะเป็นคำเรียกที่ถูกต้อง ไม่ใช่รากหญ้า ผมรังเกียจคำนี้ที่เรียกท่านทั้งหลายว่ารากหญ้า ผมรำคาญและด่านักวิชาการทุกที เอะอะอะไร ก็รากหญ้า หญ้าบ้านท่านน่ะสิ รากแก้วผมว่าสิ่งนี้อยู่บนภูมิ บนแผ่นดินไทย ต้นไม้นั้นเป็นต้นไม้ไทย รากแก้วนี้หยั่งลงไปในดินเพื่อจะสูบเอาแร่ธาตุของแผ่นดินนี้มาเลี้ยงประโยชน์ ส่วนกิ่งก้าน จะออกดอกออกผลนั้น เอากิ่งฝรั่งมาติดบ้างอะไรบ้าง เชิญเถอะไม่เป็นไร ผสมผสานอะไรดีๆ ก็มาต่อกิ่ง กิ่งนี้จะออกเป็นไม้ฝรั่งบ้างแล้วแต่ ถ้ามันเหมาะสม แต่ว่าอย่าลืมว่า ต้นกับรากนั้น จะต้องเป็นต้นไทย ให้มีความภูมิใจอันนี้ และสมบัติของไทยนั่นแหละเอาเสียก่อน อย่าเพิ่ง ไปเอื้อมมือคว้าสมบัติพัสถานจากเมืองนอกมา เดี๋ยวก็อิเลกทรอนิกส์ ใช้ความภูมิใจ ใช้ปัญญา ให้มากๆ แล้วปัญญาอยู่รอบตัวนี่แหละครับ แล้วศึกษาจากที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแนะไว้ สร้างความพอดี เดินไปอย่างช้าๆ ก่อเป็นฐานขึ้นไป ให้มั่นคงแข็งแรง ยืนยาว และมุ่งไปสู่ความสุข อย่ามุ่งไปสู่ความสนุก เชื่อผมเถอะครับ ความสนุก มันทุกข์ เพราะมัน ประเดี๋ยวเดียว แต่ความสุขนั้นมันไปจีรังถาวร พระบอกว่าความสุขนั้น ไม่ต้องใช้เงิน สักอีแปะ ทำไมต้องแต่งตัวอย่างนี้ ทำไมต้องใส่ไอ้โน่น ทำไมต้องนั่งรถอย่างนี้ มันเรื่องไร้ประโยชน์ มันเรื่องเหลวไหล ไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น

(อ่านต่อฉบับหน้า)

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๒ มกราคม ๒๕๔๗ -