คุยนิดคิดหน่อย - บรรณาธิการ -

ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปใน ๖ กุมภาพันธ์ ทั้งนักการเมืองนักกินเมืองโกงเมือง สัประยุทธ์กันดุเดือด เลือดนอง สมรภูมิ ซุ่มโจมตี วางกับระเบิด ก่อวินาศกรรมกันเละ ทั้งบนดินใต้ดิน ในน่านน้ำ เหนือน่านฟ้า

ถ้าต่อตีรุกรบกันตามกติกาธรรมาภิบาล จะบาดเจ็บ ดิ้นทุรนทุราย เดี้ยง ดับก่ายกองเกลื่อนกลาด แผ่นดิน ก็เป็นเรื่องธรรมด๊า...ธรรมดาของไพร่พลขุนศึก ทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ล้วนสมควรเชิดชู เป็นวีรชน ประชาธิปไตย

แต่นี่เล่นเกมแปรญัตติล้มกติกา ยึดกติกูเป็นใหญ่ กกต. (คณะกรรมการเก็บตก) ก็ได้แต่งึมงำงี่เง่า งุ่มง่าม บื้อใบ้ อยู่ริมรอบๆ ริมๆ สมรภูมิ

หากกติกาไร้ความหมาย...ก็หมายความว่าไร้กติกาไง

การเลือกตั้งกับการแต่งตั้งจะต่างกันตรงไหนเอ่ย

ขอถามสักนิดเหอะ พรรคการเมืองที่ครองอำนาจรัฐ และข้าราชการสอพลอทาสรับใช้นักการเมือง ไม่รู้เลยหรือ ว่าความเป็นธรรม ความชอบธรรม คุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองนั้นเป็นฉันใด ?

การเมืองที่เสมอภาคและเป็นธรรมย่อมเป็นฐานรากการพัฒนาชาติที่มั่นคงและยั่งยืน เป็นการเมือง การปกครอง "ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน" ขนานแท้ ส่วนการเมืองเฉโก ที่ผกผัน ตามกระแส อภิโลภาภิบาล ย่อมเป็นฐานรากการบ่อนทำลายชาติอย่างเลือดเย็น และเกินจะควบคุม ขัดขวางได้ หากโลกธรรมเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน

มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่อาจหาญ นั่นคือ พลัง "สึนามิ"ทางการเมือง... พลังรวมของมวลชน เจ้าของแผ่นดินไทย ตัวจริง ถล่มทลายให้ราบเป็นหน้ากลอง ให้ทุกพรรคคืนสู่สามัญเสมอภาค เท่าเทียมกันแล้วเริ่มต้นกันใหม่ พรรคเล็ก พรรคใหญ่ พรรคนายทุนใหญ่นายทุนน้อย พรรคกระยาจก วณิพก ฯลฯ เริ่มต้นจากมือเปล่า ไร้อำนาจรัฐ เท่าเทียมกัน

เหมือนกับผู้ประสบภัย "สึนามิ" คนหนึ่งที่ศูนย์บางม่วง ตะกั่วป่า พังงา รำพึงในขณะที่ผมตัดผมให้ "ธรรมชาตินี่ เป็นธรรมนัก จัดสรรให้ทุกคนเท่าเทียมกันทั่วหน้า ไม่ว่าคนมั่งมีคนจนยาก หมดตัว เหมือนกัน คนมีมากหมดมาก คนมีน้อยหมดน้อย คนจนอย่างผมไม่ทุกข์หรอก เพราะก็ไม่ได้จน กว่าเดิม" ตัดผมเสร็จแล้วเขาก็เดินอมยิ้มจากไป

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด พี่น้องเอ๋ย

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๕ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ -