สันดานหน้าด้าน(อุทปานทูสกชาดก)

๏ กิเลสร้ายเกินคาด
ไม่พลาดให้โลภหลง
หน้าด้านชั่วมั่นคง
ดำรงเป็นสันดาน.

ณ โรงธรรมสภา เหล่าภิกษุกำลังสนทนากัน

"ท่านทั้งหลาย ได้ยินมาว่า มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งมักนิสัยเสีย ชอบมาทำลายบ่อน้ำของสงฆ์ แล้วก็หลบ หลีกไป จนกระทั่งวันหนึ่งถูกพวกสามเณรขว้างปาด้วยก้อนดิน ได้รับความเจ็บปวดลำบาก มันจึงไม่กล้า เข้าใกล้บ่อน้ำ ไม่กล้าแม้จะมองดูบ่อน้ำ ยามเมื่อได้หวนกลับมาอีกในภายหลัง"

ขณะนั้นเอง พระศาสดาเสด็จมา ทรงได้รับฟังเรื่องราวนั้น จึงตรัสว่า

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สุนัขจิ้งจอกตัวนี้ทำน้ำในบ่อให้เสียหาย มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ก็ได้ทำ น้ำในบ่อให้เสียหายมาแล้วเหมือนกัน"

ทรงยกเอาเรื่องนั้นมาตรัสเล่า
_ _ _ _ _ _ _ _

ในอดีตกาล ณ ป่าอิสิปตนะใกล้เมืองพาราณสี อันเป็นที่พำนักของเหล่าฤาษี (นักบวชผู้แสวงธรรม อยู่ในป่า) ทั้งหลาย มีการขุดบ่อน้ำแห่งหนึ่งเอาไว้ใช้และดื่มกินในป่า

ต่อมาปรากฏว่า มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งพอดื่มกินน้ำแล้ว ก็ขี้เยี่ยวลงในบ่อน้ำ ทำให้น้ำนั้นดื่มกินไม่ได้ จากนั้น ก็แอบหนีไป รอสักระยะก็หวนกลับมาทำเช่นนี้อีก

จนกระทั่งวันหนึ่ง พวกฤาษีจึงใช้อุบายลวงสุนัขจิ้งจอก ล้อมจับตัวเอาไว้ได้ แล้วนำไปยังสำนักอาจารย์ ของเหล่าฤาษีนั้น

พระฤาษีผู้เป็นอาจารย์ จึงสอบถามสุนัขจิ้งจอกว่า

"ดูก่อนสหาย ทำไมเจ้าดื่มกินน้ำแล้ว ต้องขี้เยี่ยวรดบ่อน้ำด้วย ทั้งที่บ่อน้ำนี้ขุดได้แสนยากลำบาก และเป็น ของเหล่าฤาษีผู้อยู่ป่าแสวงหาตบะ (ความเพ่งเพียรเผาผลาญกิเลส) อีกด้วย"

สุนัขจิ้งจอกวางหน้าเฉย มองดูพระฤาษีแล้วตอบ

"เป็นสันดาน(นิสัยเคยชินที่มีมาแต่เกิด) ของพวกเรา หากดื่มกินน้ำในที่ใดแล้ว ต้องขี้เยี่ยวลงที่นั้น นั่นเป็น ธรรมดาของสุนัขจิ้งจอกทั้งหลาย ทั้งเป็นธรรมดาของบิดามารดาปู่ย่าตายายของเรา ฉะนั้น ท่านไม่ควร จะถือโกรธ เอาโทษกับสันดานนี้ของพวกเราเลย"

ได้ฟังคำตอบแบบหน้าด้านๆ ของสุนัขจิ้งจอกแล้ว พระฤาษีถึงกับส่ายหน้า กล่าวเตือนว่า

"สันดานเช่นนี้ยังเป็นเพียงธรรมดาของพวกเจ้า แล้วสันดานที่ไม่ธรรมดาของพวกเจ้าจะเป็นเช่นไร ขอให้พวกเรา อย่าได้เห็นสันดานธรรมดาหรือมิใช่ธรรมดาของพวกเจ้าในเวลาไหนๆ อีกเลย"

แล้วอบรมสั่งสอนสุนัขจิ้งจอก จนครู่ใหญ่ค่อยปล่อยตัวไป พร้อมกับกำชับว่า

"เจ้าจงอย่ามาที่บ่อน้ำนี้อีกต่อไป"

แต่แม้ถูกห้ามอย่างนี้ สุนัขจิ้งจอกก็ยังลอบกลับมาจนได้ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้บ่อน้ำนั้นอีกเลย
_ _ _ _ _ _ _ _

พระศาสดาทรงนำเรื่องราวมาตรัสเล่าจบแล้ว ก็เปิดเผยว่า

"สุนัขจิ้งจอกตัวที่ทำให้น้ำเสียในกาลก่อนนั้น ได้มาเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวนี้เอง ส่วนพระฤาษีผู้เป็นอาจารย์ ในครั้งนั้น ก็คือเราตถาคตในบัดนี้"

(พระไตรปิฎกเล่ม ๒๗ ข้อ ๔๑๒
อรรถกถาแปลเล่ม ๕๘ หน้า ๑๖๒)



*** ความอดทน สู้ฝืน และเด็ดเดี่ยวของจิต
ประกอบด้วยปัญญาที่ฉลาด
หาเชิงเอาชนะต่อกิเลสได้เสมอๆ เท่านั้น
ที่จะทำให้เราบรรลุธรรม
เพิ่มภูมิสูงขึ้นได้เรื่อยๆ โดยแท้จริง
หากอ่อนข้อ เหยาะแหยะ แพ้กิเลสอยู่เรื่อยๆ นั้น
คำว่า "บรรลุธรรม" หรือได้เพิ่มภูมิให้แก่ตนนั้น
ก็จะได้โดยยาก หรือไม่ได้เอาเลยตลอดกัปกัลป์

(๒๙ ส.ค.๒๐)
โศลกธรรม : สมณะโพธิรักษ์

-เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ -