ธรรมดาของโลกจะได้ไม้ต้อง โศกสลด ...สมพงษ์ ฟังเจริญจิตต์

ให้คุณให้โทษ
เป็นปัจจุบันธรรม

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับที่ 130 เดือน พฤษภาคม 2544
หน้า 1/1

การจัดการ การบริหาร เป็นเรื่องสำคัญอย่าบอกใคร พิสูจน์ได้จากทุกมหา'ลัย ต้องบรรจุเข้าหลักสูตร การเรียนการสอน เป็นหน้าตา เป็นความจำเป็น เป็นพ็อคเก็ตมันนีใบโตของครูบาอาจารย์ ภารโรง!

บริหารจัดการดีเป็นศรีแก่ตัว จัดการชั่วอัปราชัย! วันนี้ ปริญญาตรี ว่ารู้น้อยไป โทก็พอได้ ต้องเอกถึงจะใช้ได้เลย แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง 'เอก' กว่าครึ่งค่อนเป็นได้แค่ "เถรส่องบาตร" "เต่าตัวใหญ่แบกตำรา" และที่สุด... "ปีศาจ คาบคัมภีร์!" รู้มากก็ยากนาน รู้มากก็อาจฉลาด ล้วงตับ กินไส้ ฉลาดหลอกใช้ระดับเบอร์ ๕ !

เรียนมาแทบตาย ข้ามน้ำข้ามทะเลก็เยอะ แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ เรียนมาใช่ว่าจะเป็นปลื้ม ประสบการณ์จะทำให้แจ่มชัด ทฤษฎีฤาจะสู้ภาคปฏิบัติ เพราะเราคือนาย เราคือผู้บังคับบัญชา เราคือผู้บริหาร เป็นผู้นำ

ต้องมีลูกเล่น มีเทคนิคการจัดการ ที่จะต้องให้งานเดินอย่างมีคุณภาพ คนเดินอย่างมีความสุข ผู้ใหญ่บางคนเลือกงาน บางคนเลือกคน ก็สอบตกไปคนละด้าน แต่ผู้ใหญ่อีกเยอะ เลือก "เงิน" เป็นคำตอบสุดท้าย!

ดีกับเก่งต้องเดินด้วยกัน แต่สถานการณ์ของบ้านเมือง ยุคดารากลายเป็น ผู้นำทางจริยธรรม เมืองไทยกี่สิบปีมาแล้ว อ้างกันนัก มีแต่คนเก่งทั้งนั้น แล้วผลเป็นเช่นไร?

วันนี้ประชาชนเรียกร้อง คนดี-คนเสียสละ เก่งจนอ้วกน่ะ ลูกช้างเข็ดจริงๆ ให้ดิ้นตาย!

ปกครองคนเป็นสูตรอันยิ่งใหญ่ คนเรียนมาก็เป็นปลื้มตัวเอง หากจะเปรียบเทียบ แบบถ่อมตน ก็ต้องบอก การบริหารจัดการ ก็ไม่ต่างไปจากการฝึกละครสัตว์ ทำให้ถูกใจก็ให้รางวัล ไม่ถูกใจก็ต้องลงโทษ เอ้า! อ้าปาก เอาน้ำตาลไปกิน ๑ ก้อน ดีมาก!

ภูมิปัญญาชาวบ้าน มีให้ฝึกฝนทุกเรื่อง จะกินจะอยู่ จะป่วยจะไข้ แม้เรื่องของเทคนิค การจัดการบริหาร หลักการมีอยู่เป็นร้อยเป็นพันปี ก็ยังไม่เปลี่ยน แต่คนซิเปลี่ยน! เอาตะกั่วมาดูแล บังคับบัญชา เครื่องยนต์ที่ไหนจะทำงาน!

ทำดี ดีส่งให้เห็นผล ทำชั่ว ชั่วก็ดลบาปให้ ยมบาลคิดไม่ถึง มนุษย์อุบาทว์จะด้านชา กฎแห่งกรรม ย่ามใจทำชั่วอย่างคึกคะนอง ต้นไม้แห่งความชั่ว ก็ต้องให้เวลา ฟูมฟัก มีหรือจะโตแบบถั่วงอก!

ช่วงรอคอย "ผลกรรม" ต่างก็หลงใหลได้ปลื้ม กรรมนี้ไม่มีผล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่จริงหรอก ภูมิปัญญาชาวบ้าน โบราณพรรค์นี้ ขู่ได้แต่พวกอีเดียต เราเป็นใคร ปริญญามีกี่ใบรู้มั้ย?

นรก-สวรรค์ หลังความตาย จึงเป็นปริศนาชีวิตคิดไม่ออก คนเชื่อก็เดินทางอย่างมีสติ คนไม่เชื่อก็ย่ามใจใช้ชีวิตอย่างมัวเมา นักบริหาร นักจัดการที่มือถึง เขาจึงเก่ง ท้านรกสวรรค์ในที่ทำงานให้เป็นระบบฮิตาชิ รวดเร็วดั่งกามนิตก็ปานนั้น ทำดี ให้สวรรค์ให้รางวัลให้โบนัส ทำชั่ว....ออกไปเลย ใส่ซองขาว แค่นี้ใครจะหือ! ทีวีช่องนี้ก็ของผม พวกคุณยังอุตส่าห์เอาเจ้านายผมไปประจาน ออกอากาศไม่หยุด เงินก็เงินของเจ้านายผม แล้วจะให้ผมทำอย่างไร...

รางวัลชีวิต รางวัลแห่งการทำงานหนัก นายหลายคนมีประสบการณ์เชี่ยวชาญ -ขึ้นเงินเดือน -ให้เบี้ยขยัน ให้โบนัส -ทิปบ่อยๆ จะมีปัญหาก็ตรงที่รางวัลมีน้อย ตัวไหนไม่ได้ก็โกรธ ก็น้อยใจ อาจจะกัดกันเองอุตลุด วันดีคืนดีมาแว้งกัดเราผู้เป็นนาย ก็ กล้าทำ!

ก่อนเดือนตุลา จึงมีเหตุการณ์มหัศจรรย์ ไม่ใช่เรื่องวีรชน แต่เป็นบัตรสนเท่ห์ ปลิวให้ว่อน ในหน่วยราชการ ฟ้องประจานกันให้ทั่ว อย่าหวังเลยว่าชาตินี้จะได้ ๒ ขั้น อย่างสุขสงบ รัฐบาลยุคคิดใหม่ ทำใหม่ สร้างปรากฏการณ์ "ให้คุณ" เพิ่มขึ้น ให้รางวัลทุกครึ่งปี กระตุ้นต่อมหิว จะได้มีแรงโขยกกับงาน

ก่อนเดือน เม.ย. ทำนายได้ บัตรสนเท่ห์จะปลิวว่อนอีกวาระ เมื่อของไม่พอกิน ก็ต้องปัดแข้งปัดขากันบ้าง ราชการ บริษัทห้างร้าน ก็ใช้วิธีนี้มาตลอด หากมีบรรทัดฐาน ทรงความเป็นธรรม หน่วยงานก็สงบเรียบร้อยพอได้ ชีวิต กำลังใจ ก็ยังพออยู่

แต่ที่น่าสงสารก็เห็นแต่พรรคการเมืองเท่านั้น อยู่ฝ่ายค้านก็สามัคคีกลมเกลียว อดก็อดด้วยกัน แต่พอเป็นรัฐบาล... ถ้าโควต้าเยอะก็แบ่งกันปากเป็นมัน ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์ ตามคาราโอเกะอย่างสนุกสนาน ตัวไหนจะเห่า ก็โยนเข้าปาก กระดูกมีแยะ เหตุการณ์ก็สุขสงบ! ถ้าโควต้าน้อย ของไม่พอ แม่งก็เริ่มกัดกัน!

แต่ที่น่าสงสารที่สุด ก็เห็นจะเป็นพรรคที่เคยเป็นรัฐบาลแล้ว ไม่ได้เป็น! ของเคยกิน ก็ไม่ได้กิน เคยนอนก็ไม่ได้นอน อารมณ์จึงเสียง่าย ทะเลาะกันบ่อย

มาคุยเรื่องมงคล ๆ กันดีกว่า สุดยอดของนาย เขาไม่ให้วัตถุ ไม่ให้โลกธรรม แต่จะให้นามธรรม ให้ความว่างเปล่า!

บ้างก็ปลุกระดมอุดมการณ์ บ้างก็ชี้ให้เห็นเป็นคุณงามความดี บ้างก็ชี้ให้เห็นเป็นงานบุญ บ้างก็ชี้ให้เห็นเป็นงานของแผ่นดิน! แบบนี้ก็เรียกนายระดับ ๔ ดาว งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข ชิดซ้ายไปเลย

วิธีการนี้ ต้องตาถึง (ตาใน = ตาที่ ๓ ) และมือถึง หายากเหมือนงมเข็มในคลอง แต่ก็พอมีหวัง ระดับ "เข็มในคลอง" เมืองไทยก็มีเยอะ ใช่จะหาไม่ได้ มิเช่นนั้น ชาติบ้านเมือง จะยืนยงมาถึงวันนี้ได้อย่างไร

ยกตัวอย่างบุคคลที่ไม่อยู่ ก็แล้วกัน หลวงปู่พุทธทาส, หลวงปู่มั่น, สมเด็จพระราชชนนี, อาจารย์ป๋วย ฯลฯ และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งที่ไม่มีชื่อ เสียงที่เราไม่รู้จัก

ขั้วบวกผ่านไป ก็มาถึงขั้วลบ พระเดชต้องคู่กับพระคุณ ให้รางวัลต้องคู่ให้ลงโทษ! ภาคประชาชน เมื่อเริ่มแข็งแรง ก็เริ่มมีอำนาจตรวจสอบข้าราชการ มีสิทธิ์ มีเสียง ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป ประชาชนวันนี้ ถ้าย้อนอดีตไปสัก ๔๐-๕๐ ปี เรื่องคอมมิวนิสต์ ก็คงไม่ใหญ่โต กลายเป็นแผลเน่า แผลร้ายของสังคมสมัยนั้น

ความผิดเมื่อปรากฏชัด ต้องตัดสินต้องลงโทษ บางคดีก็แค่ปาหี่ ตั้งกรรมการสอบสวน สุดท้ายก็พ้นผิด เพราะกรรมการก็รู้จักจำเลย เพราะเบื้องบนสั่งลงมา เพราะแม่ค้าส้มตำขอร้อง! ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก กฎเหล็กถูกละเลย คนชั่วย่อมย่ามใจ ทำงานมาหลายปี มาสายกลับก่อน ใช้สิทธิ์วันลา วันหยุด วันพักร้อนเต็ม ๑๐๐ % ทำงานไม่ตั้งใจ ทำงานเฉื่อยชา ช้า งานประจำซังกะตาย ทำงานจร ยิ่งทำหน้าเหมือนกินอุจจาระ

๓ ปีมาแล้ว ไม่เคยเลื่อนขั้น เพราะวันหยุดวันลาเกินกำหนด ฯลฯ กรณีต่างๆ มีมากมาย แต่บุคคลเหล่านี้ ก็อยู่กันอย่างสุขสบาย

บางประเทศ ข้าราชการ ต้องต่อสัญญาทุกปี ไม่มีประสิทธิภาพ คัดออก! ในโรงเรียน นักเรียนเรียนอ่อน สิ่งแวดล้อมมอซอ โรงเรียนสกปรก แต่ตัวอาจารย์ ใหญ่นี้สวยพริ้ง หล่อเฟี้ยว ก็อยู่กันอย่าง สุขสบาย บางโรงเรียนในชนบทห่างไกล อาจารย์ใหญ่ ยังเมาไม่ตื่นอยู่เลย! สถานที่ราชการเป็นวิมาน เป็นสถานสิงสถิตของใครบางคน ที่แอบแฝงเหมือนกาฝาก! อยู่อย่างมีความสุข อยู่อย่างย่ามใจ คึกคะนอง

บุคคลที่มีชีวิตบนพื้นฐาน การเอารัดเอาเปรียบประชาชน ก็ยังสุขสบาย ป่วยการ กล่าวถึงประชาชนแบกะดิน ว่าจะได้รับการดูแล เอาใจใส่แค่ไหน! แค่ขอความถูกต้อง ขอความเป็นธรรม คนไม่มีประสิทธิภาพ ต้องได้รับการประเมิน ตรวจสอบ ขอแค่นี้แหละ!

หลักการให้คุณให้โทษ ไม่ใช่เรื่องลึกซึ้ง แต่เป็นเรื่อง -ความกล้าหาญของผู้บังคับบัญชา -ความขยันในการลงพื้นที่ เพียง ๒ ข้อ โลกพระศรีอาริย์ ก็ไม่ไปไหน เรื่องอะไรจะรออนาคต ขอวันนี้เดี๋ยวนี้เลย ดีที่ซู้ด

วันนี้ไม่ถึง ๑๘ ปี อย่าเข้าเธค วันนี้ สต็อคข้าวของโรงสี ก็จะไม่เป็นแค่สต๊อกลม วันนี้ การเอารัดเอาเปรียบ ในสังคมหลายๆ เรื่อง ก็จะหายไป แค่กวดขันให้จริงจัง

เมืองไทย คนไทย เล่นกันมานาน มองอะไรเป็นเรื่องเล่นๆ ทั้งๆ ที่บางเรื่อง ควรจะจริงจังเอาจริง เป็นไปได้ไง มีบ่อนมีซ่อง อยู่ในตำบล อำเภอต่างๆ เป็นไปได้ไง มีสิ่งผิดกฎหมายมากมาย มียาบ้า ระบาดทุกหย่อมหญ้า

"กวดขัน" เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ที่สังคมไทยขาดหายมานาน พุทธองค์ตรัส สอนสาวกให้คุณ-ให้โทษตัวเอง อย่าปล่อย ใจระเริงชล เตือนตนด้วยความตาย เป็นมรณานุสติ มิใช่ทุกนาที แต่ทุกลมหายใจ

ปุถุชนคนธรรมดา เมื่อเตือนตนไม่เป็น ก็ต้องหากลไก สังคมมาช่วยเตือน แค่รื้อฟื้นของเก่าที่ละเลย แค่หมั่นเยี่ยมเยือน ตรวจสอบ สังคมไทยก็จะสว่างไสว

อย่าห่วง IMF อย่าห่วงเงินดอลล์จะขึ้น เพราะยังมีเรื่องคอขาดบาดตาย มากกว่านั้น ทำผิดต้องประจาน ทำผิดต้องรีบจัดการ เป็นคุณธรรมของผู้นำ ที่ขาดหายไปนาน สื่อมวลชนเคลื่อนไหวอยู่แล้ว พร้อมหากินบนความฉิบหายของผู้อื่น แต่ส่วนที่ดีก็คือ พร้อมขุดคุ้ยประจานสิ่งชั่วร้าย

ประชาชน มีการศึกษาสนใจกิจกรรมของบ้านเมือง เริ่มตื่นตัว นักศึกษาวันนี้ คงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ พานำให้สนใจกิจกรรมนอกหลักสูตร ไม่ใช่เรียนอย่างเดียว หรือเที่ยวเตร่ เฮฮาไป วันๆ ทีวีรัฐบาลน่ะ เพิ่มงบมากกว่านี้ได้แล้ว เป็นผู้นำทางความคิดกันบ้าง ไม่ใช่ให้ทำเหมือน "แก้บน"

เราจะขยับสังคมให้พัฒนาไปพร้อมๆ กัน เราจะไม่ถามสังคมให้อะไรพวกเรา แต่พวกเราจะให้อะไรแก่สังคม เราจะไม่อิจฉาพวก ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ได้เป็น ส.ส. โดยไม่เหนื่อยยาก เพราะเป็นครรลองกำหนดไว้ตามระบอบกฎหมาย ต่างคนต่างถนัดคนละด้าน เราจะตรวจสอบการทำงานให้มากขึ้น คนทำผิดต้องมีมาตรการการลงโทษ รวดเร็ว นักเรียนติดยา ตรวจปัสสาวะต้องรู้ ผลไม่กี่นาที สวรรค์ต้องมี นรกก็ต้องมี คนผิดต้องตกนรกวันนี้ ไม่ใช่ชาติหน้า!

เสน่ห์ของคอมพิวเตอร์ คือความรวดเร็ว ดึงอะไรที่อีกหลายชั่วโมงหลายวัน ถึงจะมีคำตอบ ให้ออกมาไม่ถึงหนึ่งนาที!

ความชักช้า ผมยังไม่รู้ ยังไม่ได้รับรายงาน หมดสมัย พอกันที ต้องรวดเร็ว ฉับไว

ดึงอนาคตของลูกหลาน ดึงทรัพยากรมาต้มยำล้างผลาญ เป็นเรื่องอุบาทว์
แต่การดึงเรื่องไม่ถูกต้อง ให้คุณให้โทษอย่างรวดเร็วไม่แช่แป้ง
เป็นสิริมงคล ของการทำงาน ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกผู้ทุกคน ทุกชีวิต ทุกจักรวาล!

 
อ่านฉบับ 129   อ่านฉบับ 131

ธรรมดาของโลก จะได้ไม่ต้องโศกสลด ( เราคิดอะไร ฉบับ ๑๓๐ พ.ค. ๔๔ หน้า ๖๗ - ๗๐)