แด่.. สัมพันธ์ อังกาพย์ละออง คนดีที่จากไป

หนังสือพิมพ์สารอโศก
อันดับที่ 234 มีนาคม 2544

สายฝนที่ซัดกระหน่ำในค่ำคืนวันพุธที่ ๒๑ มีนาคม ที่ผ่านมา เหมือนฟ้าร่ำไห้กับคนดีอีกคนที่จากไป เขาผู้นั้นคือ คุณ สัมพันธ์ อังกาพย์ละออง ซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขณะขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ตามเส้นทางสายใหม่ ไปสงขลา รถคุณสัมพันธ์ เสียหลักชน เข้ากับกิ่งไม้ข้างถนน จนร่างกระเด็น ศีรษะฟาดโคนต้นประดู่ บริเวณบ้านน้ำน้อย ใกล้โรงบำบัดน้ำเสีย เทศบาลหาดใหญ่

คุณสัมพันธ์ตายในหน้าที่ เพราะในบ่ายวันเดียวกัน เขาได้ไปหารือเรื่องงานกับผม ที่ "ครัวเพื่อนสุขภาพ" นัดหมายกันว่า เราจะไปเยี่ยมสมาชิก ชมรมกสิกรรมธรรมชาติสงขลา (ซึ่งปลูกผักไร้สารพิษ จำหน่ายอยู่ที่ตลาดนัดเกษตร ใกล้คณะ ทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) จากนั้นคุณสัมพันธ์ ก็ขอตัวไปดูแล รดน้ำแปลงผักสาธิต ในมหาวิทยาลัย

คุณสัมพันธ์คงทำงานในแปลงผักอยู่จนค่ำ จึงกลับบ้าน ไม่คิดเลยว่า นั่นเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย ผมอดใจหายไม่ได้ ที่ต้องสูญเสีย เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไปอีกหนึ่ง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า “ความตายเป็นสิ่งแน่แท้” ไม่วันหนึ่งวันใด ไม่ช้าก็เร็ว เราและเขา ก็ต้องลาจากกันไป แต่การที่เพื่อนร่วมงานใกล้ชิด ต้องมาตายจาก อย่างฉับพลันทันใด ทำให้เราอดรู้สึกไม่ได้ว่า ชีวิตคนดีที่เสียสละ เพื่อสังคมนั้น มีค่าเหลือเกิน เพราะเป้าหมายชีวิต เขาชัดเจน เขาอุทิศเวลาชีวิตที่เหลือ ให้กับการพัฒนาตน และเกื้อกูลช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อใบไม้แห่งความดี ปลิดปลิวลงสักใบ ดูประหนึ่งว่า แผ่นภูผาสั่นสะเทือน เลื่อนลั่นเลยทีเดียว

ศพของคุณสัมพันธ์ ตั้งที่วัดโรงวาส อ.เมือง จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ ๒๒ มีนาคม และเผาในวันอังคารที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๔๔ ผมปิดร้านอาหารเจ ครัวเพื่อนสุขภาพ เพื่อไปตั้งโรงครัว ปรุงอาหารเจ เลี้ยงแขกเหรื่อ ที่มาในงาน โดยมีญาติธรรม ชาวทักษิณอโศก ช่วยกันอย่างอบอุ่น นับได้ว่าเป็นงานรวมญาติ ครั้งสำคัญ ทั้งญาติธรรมรุ่นเก่าและใหม่ ทักทายเจริญธรรมกันถ้วนหน้า คุณไม้ร่ม เสนอว่า น่าจะจัดให้มี "วันทักษิณอโศกสัมพันธ์" ทุกวันที่ ๒๑ มีนาคมของทุกปี เพื่อรำลึกถึงคุณสัมพันธ์ อังกาพย์ละออง

อาหารเจในงาน เป็นที่ถูกปากถูกใจ ผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก หลายท่านขอตามไปดู การปรุงถึงในครัว โดยเฉพาะ แกงส้ม หรือแกงเหลืองปักษ์ใต้ เป็นที่ถูกใจกันนัก คุณไม้ร่มถึงขนาด ออกปากชมว่า "...รสดีมากแกง ส้มบ้านเรา ต้องรสชาติแบบนี้" พูดพลางก็ใช้มือเปิบพิสดาร

คุณจำรัส อังกาพย์ละออง อดีตรองอธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตร พี่ชายคนโต ของคุณสัมพันธ์ ถึงกับจับไมค์ ประกาศในงานศพว่า “ผมขอสนับสนุน การจัดงานศพแบบนี้ เราต้องช่วยกันเผยแพร่ วัฒนธรรม การจัดงานศพ ที่ถูกต้อง ตามหลักชาวพุทธให้มาก เพราะทุกวันนี้ งานศพทั่วไป เต็มไปด้วยอบายมุข ล้มวัว ล้มควาย ฆ่าสัตว์กัน แทนที่จะเป็นงานบุญ กลับเป็นงานบาป ขอให้งานศพ น้องสัมพันธ์ จงเป็นแบบอย่าง แก่คนทั่วไป...”

กล่าวได้ว่า ตระกูล อังกาพย์ละออง เป็นตัวอย่าง ในการจัดงานศพ ที่ถูกต้อง ตามอย่างที่ พ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์พาทำ เริ่มตั้งแต่งานศพ ของคุณแม่เคลื่อน อังกาพย์ละออง คุณแม่ของคุณประจำ อังกาพย์ละออง มีผลสะเทือน ทำให้ชาวเจดีย์งาม อ.ระโนด จ.สงขลา อยากจะทำตามกันบ้าง

เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น.ของทุกคืน จะมีสมณะชาวอโศก ผลัดเปลี่ยนกัน แสดงธรรมหน้าศพ ให้แขกเหรื่อ ได้ฟังธรรมะกัน ถ้วนหน้า ส่วนท่านจันทเสฏโฐ เดินทางไปถึงวันเผา และแสดงธรรม ร่วมกับพระดอกเตอร์มหาทวี วัดป่าลิไลย จ.พัทลุง พระชื่อดัง ของภาคใต้

ใครที่รู้จักคุณสัมพันธ์ มักจะประทับใจ ในความมีน้ำใจ ไมตรี ประกายตาอันสดใส ฉายฉานทุกครั้ง ที่เขาได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีศรัทธาต่อศาสนา อย่างเต็มเปี่ยม เขาเอาจริงเอาจัง กับการปฏิบัติธรรม ลดละความเห็นแก่ตัว จนดูเหมือนว่า "ธรรมะ" คือ ลมหายใจ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตเขา

ผู้คนมักคุ้นตา กับภาพคุณสัมพันธ์ ขับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ ตระเวนไปในหลายถิ่นที่ เขาแวะเวียนไปเยี่ยม ให้กำลังใจพี่น้อง เกษตรกร ไปพูดคุยโน้มน้าว และสาธิต การทำกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อชักชวน ให้เพื่อนเกษตรกร ได้เลิกละ การใช้สารเคมี ทางการเกษตร และหันกลับมาช่วยกันฟื้นฟู สิ่งแวดล้อม ด้วยการทำกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อฟ้าดิน และนี่คือ การงาน แห่งความรัก ที่เขามุ่งมั่น สร้างสรรค์ จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

ช่วงชีวิตในการเป็นข้าราชการ สำนักงานป่าไม้ เขตสงขลา จนกระทั่งลาออก ในเดือนตุลาคม ๒๕๔๒ เขารู้สึก สะเทือนใจกับ ป่าไม้ที่เหลือน้อยลงทุกที บ่อยครั้ง ที่เขาชักชวนผม ไปร่วมพูดคุย ปลุกสำนึก อนุรักษ์กับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตามพื้นที่ต่างๆ

คุณจำรัส อังกาพย์ละออง ผู้เป็นทั้งพี่ และเสมือนพ่อ ของคุณสัมพันธ์ ย้อนอดีตให้ฟังว่า เดิมคุณสัมพันธ์ เป็นคนเกเร มัวเมา ในอบายมุข แต่เมื่อได้พบกับชาวอโศก ได้ฟังธรรมะ จากท่านโพธิรักษ์ ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป จนพี่น้องแทบไม่เชื่อ

คุณจำรัสพูดถึงน้องชาย ด้วยความปีติว่า “...สัมพันธ์เป็นลูกคนเดียว ที่มีเวลาดูแลปรนนิบัติแม่ มากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ” เพราะหลังเลิกงาน เขาจะปรุงอาหารเจรสเลิศ ไปฝากแม่ คือกิจวัตรที่คุณสัมพันธ์ มีความสุขมาก

อุดมการณ์ ทางการเมือง ของคุณสัมพันธ์นั้น ปรารถนาที่จะเห็น การเมืองสีเขียว ที่ดูแลเอาใจใส่ ต่อการผลิตอาหาร ไร้สารพิษ เลี้ยงดูผู้คน เขาใฝ่ฝันที่จะเห็น พรรคการเมือง ที่ดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างจริงจัง ดังนั้น เขาจึงเป็นผู้หนึ่ง ที่ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง ชื่อ "พรรคเพื่อฟ้าดิน" (เดิมชื่อพรรคสหกรณ์) เมื่อเมษายน ๒๕๔๓ และรับใช้พรรค ในตำแหน่ง เลขานุการสาขาพรรค จ.สงขลา เขาเป็นแบบอย่าง ของสมาชิกพรรค ที่เข้าร่วมกิจกรรม ทางการเมืองของพรรค อย่างต่อเนื่อง เสียสละอุทิศตน เพื่อพรรค เพื่อรับใช้ประชาชน ทั้งที่ไม่มีเงินเดือน เพราะเขาศรัทธาใน "อุดมการณ์บุญนิยม" ชีวิตหลังราชการของเขา จึงมีสีสัน มีชีวิตชีวา มีคุณค่า เขาพูดเสมอว่า "ชีวิตที่เหลือ ขออุทิศให้กับการกู้ชาติ" แบบอย่างในชีวิตของเขา จึงควรค่า แก่การศึกษาอย่างยิ่ง

การไปไหนต่อไหน ด้วยกันบ่อยๆ การได้ร่วมงาน กันอย่างใกล้ชิด ทำให้คุณสัมพันธ์และผม รู้ใจกันมาก พอที่จะคุยกัน ได้ทุกเรื่อง เราสามารถติงเตือน ซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนชีวทัศน์-โลกทัศน์กันเสมอ แม้แต่เรื่องความตาย ที่คนทั่วไป มักไม่พูดถึง แต่เรา ฝากฝังวิธีปฏิบัติ ในงานศพของกันและกัน เอาไว้ว่า....เราจะตั้งศพไม่เกิน ๓ วัน ขอให้ทำอาหารเจ เลี้ยงผู้คน ที่มาในงาน โดยอย่าได้ เบียดเบียนฆ่าสัตว์ ให้เป็นบาปเลย นอกจากนั้น ก็ขออย่าให้มีการดื่มสุรา หรือ เล่นการพนัน ในงานศพ เครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่ทำลายสุขภาพ ผู้คนก็อย่าให้มี ขอให้เลี้ยงเครื่องดื่มสมุนไพร เพื่อสุขภาพ แบบไท และที่สำคัญคือ ขอให้พระผู้ปฏิบัติดี ได้แสดงธรรมหน้าศพทุกคืน

ในวันรดน้ำศพ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สภาพของคุณสัมพันธ์ เหมือนคนกำลังนอนหลับสบาย ใบหน้าอิ่มเอิบ ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก หลับตาพริ้ม... หลับให้สบายเถิดเพื่อน ความตาย มิใช่สิ่งน่าเกรงกลัวเลย สำหรับคนดี ความตาย คือการเปลี่ยนบ้านใหม่ ผมมั่นใจว่า คนดีมีศีลธรรม เช่นเพื่อน จะได้บ้านใหม่ ที่มั่นคงยิ่งกว่าเก่า เพื่อนจะได้กลับมาเกิด เป็นมนุษย์อีกเป็นแน่แท้ ขอให้เราได้เกิดมาพบกัน ทุกชาติภพ เพื่อได้ร่วมกันสร้างสรรค์ ความดีงามแก่โลก

ก่อนตายเพื่อนบอกว่า เป็นห่วงลูกๆ อยากจะบอกว่า อย่าห่วงเลย ลูกทุกคน รับปากว่า จะร่วมกันสืบสาน จัดงานโรงบุญฯ ในวันที่ ๕ ธันวาคมทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ในหลวง เป็นการสืบสาน จิตวิญญาณของพ่อ ด้วยจิตคารวะ

ภาณุ พิทักษ์เผ่า

     

(สารอโศก อันดับ ๒๓๔ มีนาคม ๒๕๔๔ หน้า ๓๘ -๔๑ แด่..คนดีที่จากไป)