>สารอโศก.

...จุลดิน


ฉบับนี้ผู้เขียนได้นำข้อความมาจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ ๑๐ ก.ย.๔๔ มาถ่ายทอด แก่สมาชิก คอลัมน์นี้นะคะ และมีสมาชิกของคอลัมน์นี้ ได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้แล้ว เกิดความสน ใจ จึงได้ไปพบ บุคคลในข่าว และได้กรุณาถ่ายทอดมา ดังจะได้ติดตามต่อไปนี้ค่ะ

อดีตตชด.เผยสูตรดื่มฉี่ตัวแก้เอดส์
หนุ่มพิสดารดื่มฉี่ตัวเอง อ้างแก้โรคเอดส์ได้ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. วันที่ ๙ ก.ย. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์" จ.นครปฐมรับแจ้ง มีผู้อ้างว่าป่วยเป็นโรคเอดส์มานานว่า ๗ ปี แต่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะดื่มปัสสาวะตัวเองแล้ว บรรเทาอาการ ของโรคร้ายได้ จึงเดินทางไปพิสูจน์ ความจริงดังกล่าว

โดยเมื่อเดินทางไปถึงบ้านเลขที่ ๒๑ หมู่ ๙ ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ตามที่รับแจ้ง ก็พบกับนายสุชีพ เพียรมาก อายุ ๓๙ ปี เจ้าของบ้าน พร้อมด้วยนายสมพันธ์ โชคปมิตกุล กำนัน ต.นครปฐม และชาวบ้านหลายสิบคนร่วมเป็นสักขีพยาน

โดยนายสุชีพหนุ่มพิสดาร เริ่มต้นเล่าว่า ตนเคยรับราชการเป็น ตชด. ประจำอยู่ จ.กาญจนบุรี ต่อมาพบว่า ตนติดเชื้อเอชไอวี จึงเสียใจมาก และขอลาออกจากราชการ เมื่อปลายปี ๓๖ พร้อมพาภรรยา ย้ายมาอยู่บ้านที่ จ.นครปฐม อาศัยรับจ้าง ทำงานทั่วไป กระทั่งในที่สุด ภรรยาเสียชีวิตลง ด้วยโรคเอดส์ ทำให้ตนเริ่มประชดชีวิต ด้วยการเที่ยวเตร่ โดยไม่ป้องกันอะไรทั้งสิ้น

ในระยะต่อมา ตนเริ่มมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง เมื่อไปเจาะเลือด ตรวจที่ รพ.นครปฐม แพทย์ยืนยันว่า ยังพบเชื้อเหมือนเดิม จนกระทั่ง อาการปวดศีรษะ เริ่มรุนแรง มากยิ่งขึ้น แทบทนไม่ไหว ขณะเดียวกัน ตนเคยได้ยินว่า มีผู้ดื่มปัสสาวะตัวเองแก้โรคร้าย ได้หลายชนิด จึงตัดสินใจทดลองดื่มดู

ผลปรากฏว่า เมื่อดื่มไปได้ประมาณ ๓ ชั่วโมง อาการปวดศีรษะ ค่อยๆลดลง และหลังดื่มติด ต่อกันไปได้ ๓ วัน อาการปวดศีรษะ ก็หายปลิดทิ้ง ต่อมา เมื่อมีอาการ ปวดศีรษะอีกเมื่อใด ตนก็จะดื่ม ปัสสาวะตัวเองทุกครั้ง และดื่ม ติดต่อกันมา เป็นเวลากว่า ๗ ปีแล้ว ทั้งนี้ตนไม่เคย ไปพบแพทย์ เพื่อรักษา หรือกินยา รักษาเอดส์ชนิดใดเลย

นายสุชีพกล่าวต่อไปว่า ต่อมาในปี ๔๑ ตนพบรักกับภรรยา คนปัจจุบัน และอยู่กินด้วยกัน ครั้งแรก ตนบอกให้ภรรยา ไปทำหมัน และพยายามป้องกัน กระทั่งภรรยาปล่อยให้มีบุตร ๒ คน คนโตเป็นชาย อายุ ๓ ขวบ และ คนเล็กเป็นหญิงอายุ ๑ เดือน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนได้ให้ภรรยา และบุตรทั้งคู่ ไปตรวจเลือด ก็ไม่พบว่าติดเชื้อเอชไอวี

แต่สำหรับตน ยังคงพบเชื้ออยู่เช่นเดิม โดยครั้งล่าสุด ตนไปตรวจเลือดที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน นครปฐม ก็ยังพบเชื้ออยู่ พร้อมกันนี้นายสุชีพ ได้นำหลักฐาน การตรวจเลือด ของตัวเอง ภรรยาและบุตร ออกมาโชว์ ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย ซึ่งจากหลักฐานดังกล่าว ไม่ระบุว่า ภรรยาและ บุตรของนายสุชีพ ติดเชื้อเอชไอวีแต่อย่างใด

ผมได้อ่านข่าวนี้ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ ๑๐ เดือนกันยายน ๒๕๔๔ หน้า ๑๙ ผมสนใจต่อข่าวนี้มาก เคยอ่านหนังสือสารอโศก และหนังสืออื่นๆ พบว่าดื่มน้ำปัสสาวะ รักษาโรค ได้หลายอย่าง แต่ก็ยังไม่เคยพบว่า รักษาโรคเอดส์ได้ แต่ในใจ ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะใน พระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ นิสสัย ๔ แก่บรรพชิต (ปัจจัยเครื่องอาศัยของ บรรพชิต) ไว้ดังนี้
๑.อาหารที่ได้จากการบิณฑบาต
๒.จีวรที่ได้มาจากผ้าที่เขาทิ้งแล้ว มาปะติดปะต่อพอนุ่งห่ม
๓.ที่อยู่อื่นไม่มี ก็ใช้โคนไม้
๔.ยาอื่นไม่มี ก็ใช้ยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า ซึ่งปัจจุบันพบว่า เป็นยาปฏิชีวนะ (จากพระ ไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๒๑๘, สุชีพ ปุญญานุภาพ จัดทำ)

พอถึงงาน มหาปวารณา ผมจึงถือโอกาส ไปพบ ตชพ.คนดังกล่าว ผมได้ไปถามหา บ้านพักของเขา ปรากฏว่า เพื่อนบ้านที่อยู่ในตำบลนั้น รู้เรื่องนี้ดี เพราะคุณสุชีพ เพียรมาก เป็นคนเปิดเผย ไม่ปิดบังใคร แต่เพื่อนบ้าน อีกหลายคน ก็ไม่ค่อยจะเชื่อว่า เป็นเอดส์มาตั้ง ๗ ปีแล้ว จะยังมีชีวิตรอดมาได้

คุณสุชีพ เป็นหนุ่มร่างใหญ่ สูง ๑๗๘ เซนติเมตร น.น. ๘๔ กิโลกรัม แข็งแรง ไม่มีทีท่าว่า จะเป็นโรคเอดส์เลย จากการพูดคุยกัน คุณสุชีพบอกว่า

ปี'๓๗ ไปตรวจเลือดที่ ร.พ.นครปฐม พบว่ามีเชื้อเอดส์ แต่ก็ไม่แน่าใจ เลยไปตรวจ ที่ร.พ.ราชบุรี ก็พบว่า มีเชื้อเอดส์อีก

ปี'๔๐ มีอาการปวดศีรษะมาก จึงดื่มน้ำปัสสาวะ ดื่มไปประมาณ ๑ เดือน ก็ไปตรวจ ที่ร.พ.สนามจันทร์ ก็ยังพบเชื้อเอดส์อยู่

ต่อมาไปตรวจที่ ร.พ.เซนต์ปอล ก็ยังพบเชื้อเอดส์

ครั้งสุดท้ายไปตรวจเลือดที่ร.พ.กรุงเทพคริสเตียน นครปฐม ก็ยังพบเชื้อเหมือนเดิม คุณสุชีพบอกว่า ไม่ได้ดื่ม น้ำปัสสาวะประจำ จะดื่มต่อเมื่อ เกิดอาการปวดศีรษะเท่านั้น พออาการหายก็ไม่ดื่ม

ชีวิตประจำวัน สูบบุหรี่วันละ ๒ ซอง ชอบเล่นการพนัน บางคืนไม่ได้นอนทั้งคืน แต่สุขภาพ ก็ไม่ทรุดโทรม เป็นปกติทุกอย่าง

หลังจากนั้น คุณสุชีพ ได้พาไปที่บ้าน พบบุตรชายคนโต อายุ ๒ ขวบ คนเล็กเป็นหญิง อายุประ มาณ ๒ เดือน เด็กทั้ง ๒ คนสุขภาพแข็งแรงดี หน้าตาผิวพรรณสดใส สมบูรณ์ดีทุกอย่าง คุณ สุชีพบอกว่า ตอนที่ภรรยาไปฝากท้องลูกคนที่ ๒ ทางร.พ.ได้เจาะเลือด ของภรรยาตรวจดู ก็ไม่พบเชื้อเอดส์ แต่อย่างใด

เจริญธรรม
สมควร เพ็ญเสงี่ยม

(สารอโศก อันดับ ๒๔๓ ธันวาคม ๒๕๔๔)