>สารอโศก

แม่เราเอง


พระองค์แรกผู้แสนดีให้ชีวิต
ครูคนแรกผู้ประสิทธิ์การศึกษา
หมอคนแรกผู้ถือช้อนคอยป้อนยา
รวมคุณค่านี้ได้แก่แม่เราเอง


นี้คือคำขวัญที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชทานเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ ปลาบปลื้ม ของพสกนิกร เมื่อได้รับฟังคำขวัญนี้ เพราะเป็นการตอกย้ำ ให้ผู้เป็นลูกทั้งหลาย สำนึกในพระคุณ ของแม่ให้มากยิ่งขึ้น ว่าบุญคุณของแม่นั้นใหญ่หลวงนัก ยากที่จะทดแทน ให้หมดได้

ดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า "บุญคุณของบิดามารดานั้น แม้เราจะเลี้ยงดูท่านอย่างดี แบกท่านไว้ บนบ่าทั้งสอง ให้ท่านอุจจาระ -ปัสสาวะใส่ ก็ยังทดแทนบุญคุณไม่หมด"

ด้วยเหตุนี้ ชาวอโศกทั้งหลาย จึงได้จัดงานเทิดพระคุณแม่ขึ้น โดยจัดทุกพุทธสถาน เพื่อให้เยาวชน สัมมาสิกขา ได้แสดงออก ถึงความกตัญญูกตเวที ในรูปแบบต่างๆ และเป็นการปลุกจิตสำนึก ของพวกเรา ให้รู้ซึ้ง ถึงคุณค่า ของบุพการี

งานวันแม่ที่สันติอโศก กรุงเทพฯ จัดงาน ๒ วัน คือวันที่ ๑๐-๑๑ ส.ค.๒๕๔๕
วันที่ ๑๐ ส.ค. จัดเฉพาะส่วน ของนักเรียนสัมมาสิกขาฯ และชาวชุมชน โดยได้เชิญผู้ปกครอง นักเรียน สัมมาสิกขาฯ มาร่วมงานด้วย และในวันเดียวกันนี้ประมาณ เวลา ๑๒.๐๐ น. มีการรวมตัว ของศิษย์เก่า สัมมาสิกขา แบบเฉพาะกิจประมาณ ๔๐ คน มาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยน ประสบการณ์กัน หลายคน เรียนจบปริญญา และทำงานแล้ว หลายคนทำงาน ด้วยเรียนไปด้วย หลายคนเรียนจบม.๖ แล้ว ก็อยู่วัดช่วยอาๆดูแลน้องๆต่อ และที่ไปมีครอบครัวแล้วก็มี ได้พาลูกสาวลูกชาย มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักด้วย มีรุ่นพี่คนหนึ่ง มีครอบครัวแล้วบอกว่า "มีอาชีพเป็นแม่บ้านอย่างเดียว ใครที่คิดว่า ยังทุกข์ไม่พอ จะไปมีครอบครัว เพิ่มทุกข์อีกก็เอานะ" นับเป็นคำพูด ที่ชวนคิดทีเดียว

สุดท้ายของการพบปะกัน สมณะ สิกขมาตุให้โอวาท ฝากให้พวกเขาแต่ละคน หมั่นมาวัดกันบ้าง ให้นำสิ่งดีๆ ที่ได้เรียนรู้จากที่นี่ไปทำด้วย จะเป็นประโยชน์กับตัวเขาเอง และวันนี้ศิษย์เก่าฯ ได้ช่วยกัน โชว์ฝีมือ ทำอาหารเลี้ยงน้องๆ สัมมาสิกขากับผู้ปกครอง และชาวชุมชนฯ บรรยากาศอบอุ่น และ เฮฮามาก เพราะพี่ๆ ศิษย์เก่า มาเยอะเกินคาดหมาย

สำหรับงานวันแม่ในช่วงเย็น จัดงานที่เวทีธรรมชาติ (ลานทรายข้างตึกแดง) เวลา ๑๗.๓๐ น. สมณะปพโล กล่าวเปิดงาน นอกจาก จะเลี้ยงอาหารเย็นกันแล้ว ก็มีการแสดง ของนักเรียน สัมมาสิกขา แต่ละชั้นปี มีทั้งร้องเพลง รีวิวประกอบเพลง และละคร พี่ๆศิษย์เก่าก็ได้รวมตัวกัน ขึ้นไปร้องเพลง บนเวทีด้วย และ ได้พูด ให้กำลังใจน้องๆ "ให้อดทน ต่อสู้ต่อไป อย่าท้อแท้ท้อถอย เพราะโรงเรียนที่นี่ เป็นโรงเรียนที่ดี"

นอกจากนี้ก็มี พ่อ-แม่ ผู้ปกครองขึ้นไปร่วมร้องเพลง และให้โอวาทแก่ลูกๆ จากนั้นเป็นพิธีการให้ลูกๆ ไปกราบพ่อแม่ ผู้ปกครองของตนเอง ผู้ปกครองของเพื่อนๆ และผู้ใหญ่ในชุมชน เพื่อเป็นการขอบคุณ และเป็นการแสดง ความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ สร้างความประทับใจ แก่บรรดาพ่อ-แม่-ลูก เป็นอย่างมาก ปิดงาน เวลา ๒๑.๐๐ น.

วันที่ ๑๑ ส.ค.๒๕๔๕ ณ บริเวณใต้คลังเสียง นักเรียนสัมมาสิกขา และ นักเรียนพุทธธรรมวันอาทิตย์ ร่วมกันจัด งานวันแม่ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้เด็กๆ มีความกตัญญ ูต่อผู้มีพระคุณ และช่วยกัน สืบสาน คุณธรรม ประเพณีอันดีงามนี้เอาไว้ งานเริ่มเวลา ๑๒.๑๕ น. โดยสมณะเมืองแก้ว ติสสวโร กล่าวเปิดงาน จากนั้น เป็นการอ่านเรียงความ ที่ชนะการประกวด ของนักเรียนพุทธธรรม คือ ด.ญ.พิมพ์ธรรม กล่อมอำภา ส่วนของนักเรียนสัมมาสิกขาคือ ด.ญ.นันทนา สุขสวัสดิ์ เธอเขียน และอ่าน ได้ดีมาก อ่านไปน้ำตาก็ไหลไป ทำเอาผู้ฟังน้ำตาไหล ไปตามๆกัน ด้วยความซาบซึ้งใจ ยิ่งเห็นเธอไปกราบ และกอดแม่ ตอนอ่าน เรียงความจบ เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ทำเอาผู้เขียนกลั้นน้ำตา ไว้แทบไม่อยู่

จากนั้นนักเรียนทุกคน กล่าวคำสรรเสริญ พระคุณบิดา-มารดาพร้อมกัน แล้วขึ้นไปกราบแม่ บนเวที ในโอกาสนี้ลูกๆ ได้กราบขอขมาแม่ ขอบพระคุณแม่ และ มอบของขวัญให้แม่ บรรยากาศ เต็มไปด้วย ความอบอุ่น จนแม่ลูกหลายคู่ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ กับภาพของลูกๆ จำนวนกว่า ๑๓๐ คน กราบแม่พร้อมๆกัน

จบพิธีกรรมที่สำคัญ ก็เป็นการแสดงของลูกๆพุทธธรรม และสัมมาสิกขาฯ ผู้ปกครอง พุทธธรรม ก็มีละครเรื่อง "แม่ของแม่" มาแสดงให้ลูกๆได้ชมกัน แถมร่วมกันร้องเพลง "ใครหนอ" ฝากลูกๆอีก ๑ เพลง ก่อนจบ นักเรียนทุกคน ร่วมกันร้องเพลง "อิ่มอุ่น" เป็นการตอกย้ำ ให้ตนเอง สำนึกในพระคุณ ของแม่อีกครั้ง กล่าวปิดงาน โดย สมณะซาบซึ้ง สิริเตโช

งานวันแม่ที่สีมาอโศก จัด ๒ วัน คือวันที่ ๑๑-๑๒ ส.ค. วันที่ ๑๑ ส.ค. เริ่มงานตอน ๙.๐๐ น. เป็นรายการบันเทิง (กินข้าวหิน) มีการแสดงต่างๆ รวมถึงการประกวด ร้องเพลงด้วย บรรยากาศ เต็มไปด้วย ความสนุกสนาน ทานข้าวไป ดูการแสดงไป ส่วนภาคบ่าย จัดกิจกรรมสัมพันธ์แม่-ลูก มีการเล่นเกมต่างๆ ระหว่างแม่กับลูก ภาคเย็น รายการแม่เปิดใจ ลูกๆฟังแล้ว รักแม่มากขึ้นอีก เป็นกองทีเดียว

วันที่ ๑๒ ส.ค. หลังทำวัตรเช้า แม่-ลูก ร่วมกันปลูกต้นไม้ สร้างสีเขียวให้กับโลก จากนั้น ทำบุญ ตักบาตร ร่วมกัน ฟังธรรมะ ก่อนฉันร่วมกัน และจัดให้มีพิธีกรรม กราบแม่ ซึ่งต่างก็ซาบซึ้ง ประทับใจ ซึ่งกันและกัน ส่วนภาคบ่าย เป็นการสัมมนาผู้ปกครอง

ศาลีอโศก จัดงานในวันที่ ๑๒ ส.ค. เริ่มงานตั้งแต่ช่วงทำวัตรเช้า (ตี ๓.๓๐ น.) เป็นรายการแม่เปิดใจ และ ลูกๆทุกคนเปิดใจ เรียกว่างานนี้ ต่างก็ประทับใจ และได้ใจซึ่งกันและกัน เพิ่มมากขึ้น อีกเยอะทีเดียว

จากนั้นก็ให้แม่-ลูกไปทำงานร่วมกันตามฐานงานต่างๆ เสร็จแล้วทำบุญตักบาตร ร่วมกัน ฟังธรรมะ ก่อนฉันร่วมกัน ตามด้วยพิธีกรรมกราบแม่ และในช่วงเวลา ๑๐.๓๐-๑๒.๐๐ น. มีการแสดงต่างๆ ของนักเรียน สัมมาสิกขาแต่ละชั้นปี เวลา ๑๒.๐๐ น.เป็นรายการ ประกวดร้องเพลง, การแต่งกลอน, เรียงความ และ วาดภาพ เนื่องในวันแม่ รายการต่างๆ ได้ออกอากาศ ถ่ายทอดสด ทางวิทยุชุมชน ศาลีอโศกด้วย มีผู้ร่วมงานประมาณ ๓๐๐ คน

ราชธานีอโศก ช่วงเย็นของวันที่ ๑๑ ส.ค.เป็นรายการปฐมนิเทศผู้ปกครอง วันที่ ๑๒ ส.ค. ช่วงทำวัตรเช้า ผู้ปกครองร่วมฟังธรรม จากนั้นแม่-ลูก ออกกำลังกายร่วมกัน ทำบุญตักบาตรร่วมกัน ก่อนฉัน เป็นพิธีกรรม กราบแม่ แล้วทานอาหารร่วมกัน

ภาคบ่ายเป็นกิจกรรมสาธิตสัมมาอาชีวะให้แม่ ๓ ฐานงานคือ ทำน้ำยาอเนกประสงค์ เพาะถั่วงอก และ ทำอาหาร มังสวิรัติ เสร็จแล้วเปิดโอกาส ให้คุณแม่ ไปฝึกงาน ตามฐานงานต่างๆ ที่สนใจ

ภาคเย็น รายการม่วนซื่น มีการแสดงชุดใหญ่ให้แม่ชม และการแสดงต่างๆ ของนักเรียน ตั้งแต่นักเรียน สมุนพระราม ระดับประถม และ นักเรียนสัมมาสิกขา ระดับมัธยม มีรุ่นพี่ศิษย์เก่า ที่จบแล้ว มาร่วมเป็น พิธีกรด้วย เรียกว่า แม้จะเรียนจบแล้ว ก็ยังมาช่วยน้องๆต่อ สาธุ!

ปฐมอโศก จัดงานวันที่ ๑๒ ส.ค. ผู้ปกครองนักเรียนสัมมาสิกขา มาร่วมทำวัตรเช้า จากนั้น ทำบุญ ตักบาตร ร่วมกับลูกๆ มีพ่อท่านนำหมู่สมณะ สิกขมาตุบิณฑบาต ในชุมชน ช่วงก่อนฉัน เป็นพิธีกรรม กราบแม่ เสร็จแล้วแม่ลูกเปิดใจ ว่ามีความรู้สึก นึกคิดอย่างไร เสร็จแล้ว ฟังธรรมต่อจากพ่อท่าน

ภาคบ่าย ประชุมผู้ปกครอง เย็นเป็นรายการแสดงของลูกๆสัมมาสิกขา ซึ่งแสดงได้ดี น่าประทับใจ มากทีเดียว

ทักษิณอโศก ยังไม่มีโรงเรียนสัมมาสิกขา มีเพียงนักเรียนพุทธธรรมวันอาทิตย์ และเป็นปีแรก ของการจัด งานวันแม่ ในวันที่ ๑๑ ส.ค. มีผู้มาร่วมงานประมาณ ๕๐ คน โดยจัดกิจกรรมในช่วงเช้า เป็นรายการ สัมภาษณ์แม่-ลูก

จากนั้นเป็นพิธีกรรมกราบแม่ ตามด้วยการแสดง มีการร้องเพลง การประกวด บทกลอน มีการมอบรางวัล ให้แก่ ผู้ชนะเลิศด้วย งานนี้แม้จะมี ผู้มาร่วมงาน ไม่มากนัก แต่บรรยากาศ ของงาน ก็เต็มไปด้วย ความอบอุ่น และประทับใจ

ภูผาฟ้าน้ำ แม้จะอยู่บนดอย แต่สายสัมพันธ์แม่ลูกก็ไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้ ลูกๆจัดนิทรรศการ ระลึกถึง พระคุณของแม่ ไว้ต้อนรับ เตรียมการแสดงต่างๆ ไว้ให้ชม และเปิดซุ้มอาหาร ไว้บริการแก่แม่ ผู้ใหญ่ ในชุมชน และทุกคน ที่มาร่วมงาน แถมไปรอรับแม่ ที่สะพานแขวน หรือ สะพานเชื่อมใจ (ตีนดอย) เพื่อช่วยแม่ ถือข้าวของต่างๆ ไปยังที่พัก (บนดอย) เป็นภาพที่น่าประทับใจ มากทีเดียว

ช่วงทำวัตรเช้าของวันที่ ๑๒ ส.ค. แม่และลูกไปฟังธรรมร่วมกัน และจัดให้มีพิธีกรรม กราบแม่ ในช่วงก่อนฉัน บรรยากาศอบอุ่น ทุกคนมีแต่รอยยิ้มให้กัน สมกับที่เป็น เขตปลอดถือสาจริงๆ

 

หินผาฟ้าน้ำ จัดงานวันแม่ ในวันที่ ๑๒ ส.ค.๔๕ เริ่มรายการตั้งแต่เช้า ให้แม่-ลูก ทำบุญตักบาตร ร่วมกัน ฟังธรรมะ ก่อนฉัน ร่วมกัน ต่อด้วยนักเรียน อ่านเรียงความ ที่ชนะการประกวด และนักเรียนขับเสภา ตามด้วยพิธีกรรม กราบแม่ สร้างความประทับใจ แก่แม่-ลูก เป็นอย่างมาก ซึ่งบรรยากาศ เริ่มซึ้งมาตั้งแต่ ตอนนักเรียน อ่านเรียงความ จนถึงตอนกราบแม่ หลายคนถึงกับ น้ำตาไหลทีเดียว

จากนั้นให้แม่-ลูกเปิดใจบอกความรู้สึกต่อกันและกัน สิ่งที่แม่หวัง ไม่มีอะไรมากเพียง "ขอให้ลูก เป็นคนดี มีศีลธรรม" แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว

ภาคบ่าย มีกิจกรรมการแสดงต่างๆของลูก และมีเกมสนุกๆให้แม่และลูก ได้ร่วมสนุกกัน เพื่อเป็นการ เสริมสร้าง ความสัมพันธ์ อันดีให้เกิดมีมากยิ่งๆขึ้น บรรยากาศ สนุกสนาน และเป็นที่ประทับใจ ของทุกๆคน

ศีรษะอโศก
อุ่นไอรัก-อุ่นไอธรรม งานวันแม่ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ ส.ค. มีผู้ปกครองมาร่วมงาน ๑๐๐ กว่าชีวิต เข้าค่าย อบรมสัมมนา ตลอด ๓ วัน มีคุรุเป็นพี่เลี้ยง แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม สนทนากับ สมณะสิกขมาตุ ลงฐานงาน ร่วมกับลูกๆ กิจกรรมเต็มเอี๊ยด ตั้งแต่เช้า จนถึงแยกย้ายไปนอน เพื่อให้ผู้ปกครอง ทั้งเก่าและใหม่ รับรู้วิถีทาง ฝึกอบรมของลูกๆ โดยเน้นธรรมะเป็นหลัก เพื่อให้เกิดทิฐิเดียวกัน ในการร่วมมือ แก้ไขปัญหาลูกๆ และช่วยให้ลูกๆ เกิดความมั่นใจ ไม่สับสน เวลาที่กลับไปบ้าน ผู้ปกครองให้ความร่วมมือ - ร่วมใจเป็นอย่างดี เพราะมีผู้ปกครองเก่า เป็นแกนหลัก แข็งแรง

เป็นการประยุกต์กิจวัตร-กิจกรรม ให้เหมาะสมกับงานวันแม่ ซึ่งได้ทั้งสาระและบันเทิง ความประทับใจ ทำวัตรเช้า ฟังธรรมจากสมณะ-สิกขมาตุ ก่อนฉันล้อมวง กินข้าวพ่อแม่ลูก พร้อมดูการแสดง ที่พ่อแม่ มอบให้ลูกๆ และลูกๆมอบให้พ่อแม่ ภาคค่ำ เป็นรายการ ลูกกราบแม่ พร้อมข้อคิด สะกิดใจ ของสมณะ- สิกขมาตุ อ่านเรียงความเรื่อง แม่ และลูกๆกราบแม่ ทั้งทางสายเลือด และทางธรรม บรรยากาศ เต็มตื้น และตื้นตัน

ผลพลอยได้ จัดตั้งกลุ่มผู้ปกครอง รวมทั้งเครือข่ายได้ ๑๑ กลุ่ม มีคุณเหมือนหล้า พวงแก้ว จากจ.เชียงใหม่ ได้รับเลือก เป็นประธาน และก่อตั้ง กองบุญสวัสดิการ เพื่อลูก ไว้เพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อลูกร่วมกัน เป็นเสมือนกำแพงบุญ โอบล้อม และ รองรับลูก และมีการรวมกลุ่ม เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ และผลิตผล ในผู้ปกครองกันเอง และ จากลูกๆ ที่ร่วมกันผลิต ในพุทธสถาน เพื่อไปขาย ในงานตลาดอาริยะ รวมทั้งเตรียม การจัดงานวันแม่ ในปีต่อไป และระดม ภูมิปัญญาชาวบ้านต่างๆ มาบอกสอนลูกๆ

ทั้งหมดนี้ คืองานวันแม่แบบชาวอโศก ซึ่งแต่ละที่อาจมีรูปแบบ การจัดแตกต่างกันบ้าง เพราะวิถีชีวิต และ สภาพแวดล้อม ที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ "ความดี" ที่แต่ละแห่ง พยายามที่จะปลูกฝัง ให้กับทุกๆคน ให้เขาเหล่านั้น เป็นคนดี มีความกตัญญูกตเวที

งานวันแม่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว คงเหลือไว้แต่ความทรงจำที่ดีๆ ที่พวกเราลูกๆ ทั้งหลายต้องสำนึก ในพระคุณ และ กระทำการตอบแทน

"คิดดี นั้นดีแล้ว แต่ลงมือทำดีได้นั้นดีกว่า และจะดียิ่ง หากกระทำต่อเนื่อง และ ทำตลอดไป"

- ผาแก้ว -

(สารอโศก อันดับที่ ๒๕๐ กรกฎาคม ๒๕๔๕)