ใต้ร่มอโศก
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต ๑๔ เรื่องมีดังนี้
ศัตรูที่น่ากลัวที่สุด....ตัวเรา
ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด....ความอวดดี
การกระทำที่โง่เขลาที่สุด....การหลอกลวง
สิ่งที่แสนสาหัสของชีวิต....ความอิจฉาริษยา
ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่....การยอมแพ้ตัวเอง
สิ่งที่เป็นอกุศลมากที่สุด....การหลอกตัวเอง
สิ่งที่น่าสังเวชที่สุด....การถดถอยตัวเอง
สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุด....ความอุตสาหะ
ทรัพย์สมบัติอันมีค่าล้ำเลิศ....สุขภาพที่สมบูรณ์
หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด....หนี้บุญคุณ
ของขวัญที่ดีสุด....การให้อภัย
ข้อบกพร่องที่แสนสาหัส....การมองโลกในแง่ร้าย และไร้เหตุผล
ความอิ่มอกอิ่มใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต....การให้ทาน.


อโศกสร้างคน คนสร้างเมือง
ระยะเวลา ๑๐ กว่าปีที่ได้รับมา ทำให้ดิฉันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้หลายอย่าง เช่น เลิกอบายมุขทุกชนิดได้ ใจเย็นขึ้น มีความอดทนในปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ รู้จักปล่อยวางได้ในบางเรื่อง ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เบาสบายขึ้น
+ สุขศรี สุวรรณะ (อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา)

ธนาคารสายพันธุ์พืชบุญนิยม

การประชุมพาณิชย์บุญนิยม เมื่อวันที่ ๒ ก.พ. ๒๕๔๗ ณ พุทธสถานสันติอโศก ท่านสมณะติกขวีโรได้พูดถึงโครงการเก็บคัดเมล็ดพันธุ์พืชสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อจะได้สายพันธุ์ที่แข็งแรง
วันนี้ มีแต่ไปซื้อเมล็ดพันธุ์ที่บริษัทผลิต ซึ่งนับวันก็จะอ่อนแอ ความอ่อนแอทำให้ต้องให้ปุ๋ยให้ยามากมายและเป็นพิษ
ระบบเกษตรธรรมชาติ จะต้องโยงไปถึงการคัดสายพันธุ์ด้วย เพื่อที่จะได้แข็งแกร่ง มีภูมิต้านทานสูง
อโศกจึงเริ่มตั้ง"ธนาคารสายพันธุ์พืชบุญนิยม" ตั้งตามชุมชนต่างๆ ต่อไปก็จะต้องทำสมุดฝากด้วย เอาบัญชีมาโชว์ใครรวยเมล็ดพันธุ์มากกว่ากัน แล้วเราจะแลกเปลี่ยนกัน ให้เป็นที่สนุกสนาน!
งานนี้ ญาติธรรมไพโรจน์ อรรคสีวร ยืนกอดอกหัวเราะชอบใจ ความฝันเป็นจริงแล้ว ณ วันนี้ จุ๊ย์ๆๆ

ข่าวดีถึงพ่อท่าน !

"พบแล้วครับ แผ่นเสียงรุ่นเก่าๆ ที่มีเพลงผู้แพ้ ผลงานของ รัก รักพงษ์ ตามที่สารอโศกเคยประกาศไว้ พบที่ร้านขายของเก่าริมถนน บนถนนเสือป่า เขามีแผ่นเสียงเก่าๆอยู่ประมาณ ๒๐ กว่าแผ่น ไปเลือกดูมี เพลงผู้แพ้ อยู่ ๑ แผ่น ขอซื้อเขามาในราคา ๑๐ บาท ถ้าไปสันติฯเมื่อไร จะนำไปฝากไว้ที่ห้องเท็ป"
ญาติธรรมฉลวย วิฆเนศ แจ้งข่าวดีมาจากบางปะอิน (จ.อยุธยา)

มีความรู้สึกอย่างนี้บ้างมั้ย?

"เล่มนี้เราเป็นเจ้าของเล่มแรกในชีวิตอย่างแท้จริง ก็เลยใช้เวลาเต็มที่ อ่านทุกเรื่อง ทุกตอน เรียกได้ว่า อ่านทั้งเล่มจริงๆ มีหลายคอลัมน์ที่เราไม่เคยสนใจ แต่พอลองอ่านแล้ว กลับมีความน่าสนใจอย่างบอกไม่ถูก บางเรื่องเราคิดว่าจะหนักไป แต่พออ่านแล้วก็พอรับไหว
อย่างรายละเอียด เรื่องราวในแต่ละพุทธสถาน บอกเล่าความเคลื่อนไหวต่างๆในกิจกรรม ทำให้เราเหมือนประหนึ่งว่าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย......"

*** ประทับใจ ความรู้สึกของ ญาติธรรมปราณี อินดา (อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย)

หลายๆคนก็รู้สึกอย่างนี้ แต่ก็มีบางคนที่ได้หนังสือ ก็ทำหน้ามุ่ย "หนังสือโหลมาอีกแล้ว...เบี่ยย์ จริงๆ!"
ดูถูกพระอานนท์ ไม่มีโอกาสบรรลุธรรมนะเออ! จุ๊ย์ๆๆ

การตัดอารมณ์โกรธ

จากญาติธรรมจิตราภรณ์ แก้วทะชาติ (ราชเทวี กทม.)
"พยายามตามดูตามรู้กิเลสของตัวเองในเรื่องความโกรธ ก็มีบ้างที่ตามไม่ทัน เกิดในใจก่อน แต่ไม่ออกทางกายและทางวาจา ก็จะพยายามตามให้ทันมากขึ้น
ในเรื่องอารมณ์ ก็ควบคุมได้ พยายามเป็นคนที่เข้าใจคนอื่น มากกว่าที่จะให้คนอื่นมาเข้าใจเรา....."

*** ความโกรธที่ต้องเอาชนะให้ได้

๑. อย่าแสดงโทสะทางกาย ทางวจี
๒. การไม่แสดงออก ก่อเกิดแรงกดดันภายใน จึงต้องมีการฝึกธัมมวิจัยบ่อยๆ อารมณ์โกรธจะเกิดการตกผลึก จึงจะช้อนเอาออกง่ายขึ้น
๓. สัมมาทิฐิของความโกรธต้องเข้าใจว่า คนรอบตัวเป็นแค่เด็กแหย่เสือ เสือร้ายอยู่ในตัวกลายเป็นตัวเรานานแล้ว
๔. เราจึงไม่ตำหนิใครที่มาทำให้เราโกรธ โกรธทุกครั้ง นึกขอบคุณเด็กแหย่เสือ!
๕. ขอบคุณที่มายั่วให้โกรธ ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงไปนิพพานไม่ได้! จุ๊ย์ๆๆ

ล้มต้องมีเทคนิค !

จากญาติธรรมสุมาลี แสงอำนาจ (อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี)
"การปฏิบัติที่ว่ากิน ๒ มื้อก็มีเหตุปัจจัยให้เปลี่ยนไป บางครั้งทำไม่ได้(แต่ถ้าจะทำจริงๆก็คงได้) คือ เรียกว่า เรายังไม่มั่นคงเองดีกว่านะคะ ที่ทำให้ความตั้งใจต้องเปลี่ยนไป ทำไม่ได้อย่างที่เคยพูด ก็เลยเกิดความละอายมั้ง เลยไม่กล้าเขียนมา ครึ่งปีกว่าที่ปฏิบัติมาได้ รับประทาน ๒ มื้อ แต่หลังๆมามีบ้าง บางทีทำงานมากแล้วหิว ก็กินอื่นๆเสริม แต่ก็ไม่ถึงกับ ๓ มื้อเหมือนเดิมหรอกค่ะ......"

*** แม้ล้มก็อย่าลุกขึ้นมามือเปล่า หยิบอะไรที่พื้นติดไม้ติดมือขึ้นมาก็ยังดี

กิเลสบางตัว ปัญญาชัด-เจโตอ่อน บางตัวปัญญาก็อ่อน-เจโตก็อ่อน สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ
"ปฏิบัติจริง"ด้วยการตั้งตบะ จึงเป็นวิธีการที่สักวันเราจะชนะ
แต่ช่วงล้มลุกคลุกคลาน เราได้ลดละกิเลสตัวอื่นบ้างไหม อย่าตื่นเต้น เป้าหมายสุดท้ายแท้จริงยังมีสิ่งที่เป็นประโยชน์ตามข้างทางมากมาย ต้องรู้จักหยิบกิน!
แล้วสักวันจะพบว่า เป้าหมายที่มุ่งหวังเป็นเพียงตัวล่อ แต่อารมณ์จิตใจความคิดที่เกิดขณะปฏิบัติ ล้มแล้วลุก ลุกแล้วล้ม กลับทรงคุณค่ามหาศาล จุ๊ย์ๆๆ

แด่วัวงานตัวใหม่

มุกดา สิงอุปโป....จากแหนมเห็ดมังสวิรัติเพียง ๑ โล เอ๊ย ๑ อัน ที่น้าบัวแก้ว คำชนะ เอามาฝาก แถมสำทับว่า "นี่ เป็นอาหารมังสวิรัติอร่อยน้อยที่สุด!"
มุกดา นึกในใจ "คุณน้าโกหกหรือเปล่า" เพราะอร่อยดีออก จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ครบ ๕ ปีของการกินมังสวิรัติ และปฏิบัติธรรมตามกำลัง
วันนี้"มุกดา"มั่นใจแล้วว่า "งานศาสนา"น่าทุ่มเทมากกว่างานนักวิชาการพยาบาลกองโรคเอดส์ของ กทม.
หัวหน้านึกว่า เธอคงไม่ชอบ จึงเสนอเปลี่ยนงานให้
"ไม่ต้องหรอกค่ะ" เจ้าตัวยิ้ม
พบเธอได้ในรูปแบบ อาคันตุกะจร อยากรู้จักเธอมากกว่านี้ โทร ๐๒-๓๗๔๕๒๓๐
อนุโมทนา แด่วัวงานตัวใหม่ ของชาวอโศก จุ๊ย์ๆๆ

อโศกกับการตั้งชื่อใหม่

ญาติธรรมสุรสิน นาคำแพง (อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ) ฝากถามมา "และบางคนที่พอจะรู้แนวทางของชาวอโศกบ้างพอสมควร สงสัยและถามกันเองระหว่างคนนอกด้วยกันว่า ทำไมชาวอโศกเห่อฮิตการตั้งชื่อต่างๆ เพราะบางคนยังสงสัยความเป็นมาอยู่ บางคนเคยอ่านหนังสือพ่อท่านที่พิมพ์เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๗-๓๘ ในชื่อเรื่องว่า ชื่อนั้นสำคัญไฉน ในเนื้อหาพอจำได้นิดหน่อยเกี่ยวกับการตรงข้ามกันระหว่างชื่อกับสถานะของคนนั้นๆ แนวทางที่พอจะจำได้คงจะเหมือนเพลงๆหนึ่ง ชื่อว่า 'มันบ่แน่ดอกนาย' ซึ่งคนกับชื่อตรงข้ามกันคนละเรื่องกันเลย......"

*** การตั้งชื่อ ก็เป็นส่วนประกอบ ให้เราได้ตรึกในธรรม ใครเรียกเราก็จะได้ "เตือนตน-เตือนจิต"

ชื่อไม่ได้เปลี่ยนเรา แต่เราต้องเปลี่ยนตัวเอง
การปฏิบัติธรรมวันนี้ มีอาวุธอะไร ชักออกมาให้หมดเลย การตั้งชื่อมีเหตุด้วยประการฉะนี้ จุ๊ย์ๆๆ

กรรมนี้มีผลด้วย

บันทึกหน้านี้มอบไว้กับ"กองทัพธรรม" สมัยที่ยาตราปักกลดในวิทยาลัยครูสมัยโน้น ตอนที่พลตรี จำลอง ศรีเมือง เป็นเลขาฯนายกรัฐมนตรี
"...คิดว่ากระผมโชคดีมากในชีวิต ที่ได้รู้จัก'ชาวอโศก' หรือ 'กองทัพธรรม' ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๑ เมื่อครั้งพระโพธิรักษ์และคณะญาติธรรมไปเผยแพร่ธรรมะ ณ โรงเรียนเบ็ญจมมหาราช จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนั้นกระผมยังเป็นนักเรียนอยู่ชั้น ม.ศ.๒ และสนใจติดตามจนถึงปัจจุบัน... ณ ปัจจุบันและตลอดไป ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งของชาวอโศก เป็นญาติธรรม ที่ประพฤติธรรม เป็นพุทธศาสนิกชน ของพุทธศาสนาสืบไป"

จิ้งจกส์ชวนชิม

วันนี้ ขอแนะนำ ร้านฮุ่นกวง ไชน่าทาวน์ เป็นร้านตึกแถวห้องแอร์ ปิดป้ายหน้าร้าน "ไม่ใส่ผงชูรส" มีเมนูอาหารมังสวิรัติให้ด้วย
อยู่ด้านถนนเยาวราช(ติดกับร้านทองเลี่ยงเซ่งเฮง) เลขที่ ๓๘๑ สำหรับที่จอดรถ คงต้องไปขออาศัย โรงหนังเท็กซัสเก่าหรือโรงแรมไวท์ออคิด (ต้องเสียค่าจอดรถ)
โทรศัพท์ ๐-๒๖๒๓-๐๖๔๐, ๐-๒๒๒๑-๕๔๑๐ จุ๊ย์ๆๆ

กิเลสหยาบ-กลาง-ละเอียด

ญาติธรรมทองคำ สุดตาชาติ (อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม) รายงานมาจากสนามรบชีวิต "การต่อสู้กับกิเลสของตนเอง ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดขึ้น คือ ทนกระทบได้ดีกว่าเก่า เวลาโดนจะไม่ตอบโต้ทันควันเหมือนเมื่อก่อน มีสติมากขึ้น โกรธน้อยลง......"

*** การต่อสู้กับกิเลสเป็นฐานต้น ส่วนกิเลสอารมณ์เป็นฐานกลาง แต่ทั้งสองฐานก็ต้องลุยไปพร้อมกัน จะบอกว่าเอาไว้ก่อน เอาไว้ทีหลังไม่ได้

หลักสูตรมหัศจรรย์จากภูผาฯ ท่านสอนว่า ถ้าถูกใจแปลว่ากินบุญเก่า ถ้าขัดใจแปลว่ากำลังสร้างบารมีใหม่ คิดอย่างนี้ จะวางใจได้อีกพะเรอ จุ๊ย์ๆๆ

มองตนต้องมองเข้าตัว

"สำหรับสารอโศกอันดับ ๒๖๑ ขออนุญาตใช้คำว่า 'สะใจ' ตนเอง ตั้งแต่หน้าแรกคือ 'คนแก่วัด' ของพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ ช่างเป็นกระจกวิเศษส่องให้เห็น 'กำพืด' ตนเองได้สะใจ โจ่งแจ้งดีแท้ ทุกถ้อยคำใน ๘ บรรทัด ทำให้ถึงกับรำพึงออกมาอย่างหน้าชาว่า 'โอ้!เรานี่ เป็นไปได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ...'...."

*** ญาติธรรมประกาศิต จันทรศร เล่าความรู้สึก เมื่ออ่านบทธรรมะ แหม!ว่าเราคนเดียว

นี่แหละๆ เขาเรียกว่า"ฟังเป็น" ส่วนคนฟังไม่เป็นนั้น อ่านไป ฟังไป ก็คิดไปเรื่อย คนนั้นแหงเลย คนนู้นแน่ๆ ลืมมองตัวเองไป น่าเสียดายจริงๆ
ฟังธรรมให้ลึกซึ้ง จึงต้องฟังแล้ว เจอตัวเองเป็น"จำเลย!" จุ๊ย์ๆๆ

คิดก่อนทำหรือทำก่อนคิด

จิ้งจกเกาะอยู่ข้างต้นเสา ฟังที่มาแม่ครัว ทำไปก็คุยกัน
"บางคนดีแต่คิด คิดเก่ง แต่ทำอะไรไม่เป็น!"
"ใช่ เหมือนท่านติกขฯบอก ปลูกผักให้งามด้วยปาก....."
"แต่ฉันคิดด้วย ทำด้วยนะ!" แม่ครัวอีกรายคุยยกตัว
"ฉันทำลูกเดียว!" แม่ครัวอีกรายคุยข่ม
แม่ครัวคนสุดท้าย อดรนทนไม่ได้ ขอคุยชมตัวเองบ้าง
"แต่ฉันนี่แหละแน่กว่าเธอ ทำแล้วค่อยคิด!"
วงแม่ครัว แตกกระเจิง!

ฝึกจิตอนุโมทนา

+ ถือศีลได้เกิน ๕ ข้อค่ะ เพราะนอกจากจะละอบายมุขได้ทุกอย่าง ดิฉันยังลดมื้ออาหารด้วยค่ะ คือ งดอาหารเย็น สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนและตื่นนอนเสมอ (วิไลวรรณ ทับสาร อ.เมือง จ.ชัยภูมิ)
+ ผมลดละอะไรที่ไม่ดีกับตัวเองลงไปได้เยอะมาก โดยเฉพาะอบายมุข ทำตัวให้อยู่อย่างง่าย กินง่าย นอนง่าย และละเรื่องความโกรธ ใจร้อนไปได้มาก (ไพศาล ชะเอม หนองจอก กทม.)
+ ไม่เข้าห้างสรรพสินค้าเป็นเวลา ๓-๔ เดือนแล้ว... บางเดือนไป ๓-๔ ครั้ง... ตอนนี้ดิฉันไปตลาดใกล้บ้าน เมื่อจำเป็นต้องซื้อ... (อำพร เชื้อเจ็ดตน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่)
+ ทานมังสวิรัติมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ ตอนที่แข็งแรงก็ไปร่วมงานของอโศกทุกๆงาน (กาบแก้ว บัวลอย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่)

* จิ้งจกส์


คติประจำฉบับนี้ ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ "เสียกำลังใจ"

- สารอโศก อันดับที่ ๒๖๘ มกราคม ๒๕๔๗ -