- มะตูมแห้ง -


ฉบับนี้ขอเสนอวิธีรักษาสุขภาพแบบภูมิปัญญาไทย ซึ่งได้ใช้กันมาช้านาน ตามความเชื่อถือของไทยโบราณ ที่ใช้ได้ผลและสืบทอดกันมา

ยาแก้โรคลม โรคสมองเสื่อม มึนศีรษะ
-พริกไทยป่นชงน้ำร้อนครั้งละ ๑/๒ - ๑ ช้อนชา ก่อนเข้านอนทุกๆวัน
-พริกไทยรับประทานกับอาหารวันแรก ๑ เม็ด เพิ่มขึ้นถึง ๗ เม็ดแล้วตั้งต้นใหม่
-พริกไทยอ่อนรับประทานกับอาหารครั้งละ ครึ่งช่อ ทุกๆวัน

สรรพคุณ
-บำบัดโรคสมองมึนความจำเสื่อมได้ดี
-ป้องกันโรคลมในกระเพาะลำไส้ อาการปวด เมื่อย โรคซึ่งเกิดขึ้นเพราะลมเป็นต้นเหตุได้ดี

ยาทาแก้ปวดบั้นเอว
-เมล็ดในฝักต้นหางนกยูง ๑ กำมือ ตำแหลก ผสมน้ำมันก๊าดแช่ไว้ เอาน้ำมันก๊าดทาหาย
-ใบต้นเล็บครุฑ ๑ กำมือตำแหลก แช่เหล้า ใช้ทาบั้นเอว

ยารักษาเริม งูสวัด ขยุ้มตีนหมา
-ใบเสลดพังพอนตัวเมีย ตำแหลกผสมเหล้า พอกแผล
-หญ้าใต้ใบตำแหลกผสมเหล้าพอกแผล
-กำมะถันแดงฝนกับเหล้าใส่แผล
-กำมะถันแดง แป้งดินสอพอง ตำรวมกันละลายเหล้าพอกแผล
-เปลือกต้นมะกอก ยาดำฝนกับน้ำซาวข้าวใส่แผล

งดอาหารแสลงโรคเริมทุกชนิด
-ขนุน จำปาดะ ทุเรียน กล้วย กุ้ง แป้ง-ข้าวหมาก

ปวดหัวเข่า
-ขิงสด เม็ดพริกไทย ส่วนเท่ากันตำให้แหลก ห่อผ้าทำลูกประคบ จุ่มน้ำส้มสายชู ใช้ประคบที่ปวด ยาถอนพิษทุกชนิด
-ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักตำลึง ผักหวาน ใบย่านาง(หญ้านาง) ส่วนเท่าๆกัน ใส่น้ำ ๓ ส่วนให้ท่วมยา ต้มเหลือ ๑ ส่วน ดื่มครั้งละ ๑ ถ้วยกาแฟ ๓ เวลา
-รากมะพร้าว รากมะปราง รากมะกรูด รากมะนาว รากผักหวานใส่หม้อต้มน้ำ ๓ ส่วนเหลือ ๑ ส่วน รับประทาน

ยาแก้ปวดศีรษะ
-แป้งดินสอพอง ๑ ลูกเผาไฟให้สุกบดละเอียด ผสมพิมเสนบดเข้ากัน อัตราส่วน ๑ ส่วนต่อ ๕ ส่วน นัตถุ์เข้าทางจมูกทั้งสองข้างพอสมควร
-หัวขิง หัวข่า หัวเปราะ หัวกระชาย หัวหอม ผักชีลา ส่วนพอสมควร ตำเข้ากัน การบูรแทรกห่อผ้า สูดดม
-แก่นขี้เหล็ก ผักเสี้ยนผี ต้นแมงลัก ส่วนเท่าๆกันใส่หม้อต้ม เติมน้ำท่วมยา ๓ ส่วนเหลือ ๑ ส่วน รับประทานครั้งละ ๑/๒ ถ้วยกาแฟก่อนอาหารเช้า-เย็น
-ดอกกานพลู ๒ ดอก เคี้ยวแหลกละเอียด ดื่มน้ำชาจีนอุ่นๆตาม ๑ แก้ว

เสียงแหบแห้ง
-ตะไคร้หั่นเป็นชิ้นแช่น้ำเกลือทะเลให้เค็ม เอาตะไคร้เคี้ยวอมกลืนน้ำทั้งกากยาก็หาย

โรคภูมิแพ้ มีเสมหะในลำคอ ไอในเวลากลางคืน
-เถาบอระเพ็ดหั่นเป็นแว่น ตากลมให้ยางแห้ง แล้ว แช่น้ำผึ้ง รับประทานทั้งน้ำและเนื้อก่อนนอนครั้งละ ๑ ช้อนชา

โรคปวดท้องเป็นประจำ
-เปลือกลูกมะนาวที่คั้นน้ำออกแล้วหั่นเป็นชิ้น จิ้มน้ำพริก รับประทานทุกๆวัน
-ใบยอต้มกินน้ำ ใบจิ้มน้ำพริกกินเป็นอาหาร
-ขมิ้นขาวอ่อนๆจิ้มน้ำพริกกินเป็นอาหาร

เด็กเล็กๆไอ
-ใบกระเทียม(รอบเป็นจุกผูกเป็นช่อ) เผาเป็นถ่าน ๑ ช้อนแกง ละลายน้ำมะนาวกวาดคอ

ปัสสาวะขัด ร้อนในกระหายน้ำ
-ตะไคร้ ๓ ต้น ทุบพอแตกต้มดื่มน้ำ

เจ็บคอ
-อมเกลือชนิดเม็ด
-เถาบอระเพ็ดหั่นบางๆ แช่น้ำเกลือใช้อม
-ใบหนุมานประสานกายเคี้ยวแหลกอมไว้
-ตะไคร้หั่นเป็นชิ้นจิ้มเกลือ เคี้ยวอมกลืนน้ำและกากยา

ลมขึ้นหู หูอื้อ
-ผลสมอเทศ หนัก ๑๕๐ กรัม แก่นจันทน์แดง แก่นจันทน์ขาว ลูกกระดอม รากช้าพลู หนักอย่างละ ๓๐ กรัม ต้มรับประทาน ก่อนอาหารเช้า-เย็น ครั้งละครึ่งถ้วยกาแฟ

*** คลินิกบ้านหมอไทยไท แพทย์แผนไทย เหมือนพร อโศกตระกูล บ.ภ บ.ว บ.ผ


พิมเสนน้ำทำตาบอด

เป็นเรื่องที่ต้องหยิบมาเตือน มาบอกให้ระวังกันไว้ สำหรับผู้ที่นิยมใช้พิมเสนน้ำ ที่เขาเรียกกันว่าติด ชอบทา เอามาแตะนิ้ว แล้วทาไปเรื่อยเช่น ทาขมับ ทาปลายจมูก ซึ่งมักจะพบเห็นกันได้บ่อยๆ จนกระทั่งเกิดเหตุ เมื่อผู้บริโภครายหนึ่ง ซึ่งนิยมใช้เหมือนๆคนทั่วไป ติดมาหลายปี ทุกครั้งใช้ทาที่ปลายจมูกทาที่ขมับ และสุดท้าย ก็มาทาที่คิ้ว (ระหว่างคิ้ว) แต่เผอิญพิมเสนน้ำที่นำมาใช้เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เพียงแค่แตะปลายนิ้ว จิดเดียว ก็จะติดปลายนิ้ว มาเป็นน้ำ ซึ่งจะมากเกินความจำเป็น เหตุเกิดตอนครั้งสุดท้าย ที่ทาระหว่างคิ้ว น้ำพิมเสน ผสมกับน้ำเหงื่อ ที่จับอยู่ที่ปลายนิ้ว ไหลย้อนเข้าสู่ลูกตา ทำให้เกิดอาการเคืองตาทันที.....

จากนั้นแก้ไขด้วยการเริ่มขยี้ตา สักพักก็ยิ่งเริ่มแสบ ต่อด้วยการล้างน้ำเปล่า ก็ยิ่งแสบ รีบหาน้ำยาหยอดตา มาหยอด ตอนนี้เริ่มมีอาการปวด ตามมาด้วยทั้งแสบทั้งปวด ตาน่ะพร่ามัวตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากล้างน้ำเปล่า ตามด้วยยา หยอดตา ยิ่งเพิ่มความปวดแสบปวดร้อนมากขึ้น ตาเริ่มมองไม่เห็นมากขึ้น ต้องไปพบแพทย์ ซึ่งหมอบอกว่า อาการน่าเป็นห่วงมาก นัยน์ตาดำตรงกลางกลายเป็นสีเทาออกขาว มองภาพ เบลอพร่ามัวตลอด บอดไปประมาณ ๗๐ % ด้วยพิมเสนน้ำคือ น้ำมัน เมื่อเอายาหยอดตาหรือน้ำหยอดเข้าไป ทำให้พิมเสนกระจายไปทั่ว ลูกนัยน์ตา และยิ่งทำให้เกิดอาการดังกล่าว บอกเพื่อเป็นอุทาหรณ์เอาไว้บอกคนใกล้ตัวหรือคนรู้จัก ที่นิยมเอาพิมเสนน้ำ มาทาตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะบนใบหน้า จงโปรดระวัง

- (จากน.ส.พ.มติชน ฉบับวันพฤหัสบดีที่ ๘ มกราคม ๒๕๔๗) -

- สารอโศก อันดับที่ ๒๖๘ มกราคม ๒๕๔๗ -