- ฝั่งฟ้าฝัน -


สมัยเรียนหนังสือ ดิฉันเป็นนักเรียนสถาบันเดียวกันกับพ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์ พ่อท่านอยู่ปีที่ ๕ ดิฉันอยู่ปีที่ ๑ ตอนนั้นมีการหาเสียงเลือกตั้ง ประธานนักศึกษา ดิฉัน ไม่ได้เลือกพ่อท่านหรอก เพราะไม่รู้จัก และรู้สึกเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ดิฉันเป็นเพื่อน ลูกสาวอาจารย์ใหญ่ เลือกอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ปรากฏว่าพ่อท่าน ได้รับเลือกตั้ง เป็นประธานนักศึกษา ดิฉันยังแปลกใจ เอ๊ะ ม้ามืดมาจากไหน จำได้ว่าพ่อท่าน แต่งชุดขาว รูปร่างดี ถือไม้ค้ำรักแร้ขึ้นมาพูดเป็นประธานรุ่น และรู้ต่อมาว่าคนนี้แหละ เป็นผู้ปฏิวัติ ระเบียบการ ของโรงเรียน และจัดงานใหญ่ให้กับ "เพาะช่าง"

ไม่คิดฝันว่าจะมาเป็นลูกศิษย์ทางธรรม เพราะไม่เคยสนใจติดตามเรื่องราวของ พ่อท่านเลย จนเรียนจบไปเป็นครูสอนศิลปะ ๘ ปี จึงเข้ารับราชการ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในปี ๒๕๑๒ เป็นนายช่างศิลปตรี เป็นเจ้าพนักงานฝึกอบรม และ สอบเลื่อนตำแหน่ง เป็นหัวหน้าศูนย์จัดเก็บเอกสาร และห้องสมุด อยู่กองวิชาการ มีโอกาส จัดรายการพิเศษ เกี่ยวกับการบริหาร การพัฒนา และศาสนา

ยุคหนึ่งกระทรวงมหาดไทย กำลังฮือฮาเรื่อง "โครงการแซมาเอิลอุนดอง" ที่เหมือน การลงแขกบ้านเรา เพียงแต่เขาจัดรูปแบบ มีการถือธงนำแถว ร่วมมือกัน พัฒนาท้องถิ่น ตอนนั้น ดิฉันรู้จักกับนักพัฒนาหลายคน เช่น ร.ต.อ. ภาณุ พินเนียม พันตำรวจเอกพิเศษ ประกิต เปมกิติ อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ พวกเราจะคุยกัน สรรหาเรื่องราว ที่เป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนางาน และคนไปเผยแพร่ ดิฉันตามรองผู้การประกิต มายืมวิดีโอเท็ป เรื่อง ครูบ้านนอก ที่สันติอโศก ประมาณปี ๒๕๒๕

และได้เริ่มรู้จักมักคุ้นกับสันติอโศก จนได้เคยนิมนต์ท่าน สิริจันโท สมณะชาวอโศก ไปบรรยายธรรม ที่กรมการปกครอง ตอนนั้น นิมนต์ท่านไปองค์เดียว ท่านบอกว่า จะมีผู้ติดตามไปด้วย ดิฉันคิดว่า คงตามไปไม่เกิน ๒ รูป พอวันจริง โอ้โฮ ท่านนำพระไป เป็น ๑๐ รูป เดินเป็นแถว เข้ากรมการปกครอง คนแตกตื่นกันใหญ่ ดิฉันผู้จัด ก็โกลาหลเหมือนกัน เพราะจัดในห้องประชุมใหญ่ ต้องจัดที่รับรองใหม่ พอขึ้นต้นเทศน์ ดิฉันก็ตกใจอีกแล้ว ท่านขึ้นต้นว่า "วันนี้อาตมาจะมาปฏิวัติ" อุ๊ย! ดิฉันนึกในใจ ตายแน่ ข้าพเจ้าตายแน่ นิมนต์พระวัดนี้มาพูด "จะมาปฏิวัติ" เรื่องปฏิวัติพูดในกรมการปกครอง ดูเป็นเรื่องแรง แต่อ๋อ พูดไปพูดไป ปฏิวัติของท่าน คือการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมของคน ให้ดีขึ้นนั่นเอง พอท่าน เทศน์จบแล้ว แจกหนังสือแสงสูญเล่มใหญ่ น่าอ่าน คนก็แห่กันมาฟัง เต็มห้อง เป็นที่ฮือฮา กันทีเดียว รายการที่ดิฉันจัด จะต้องสรรหา ที่เจ๋งจริงๆ จัดทีไร คนต้องเต็มห้องประชุม ไม่มีการเกณฑ์คนมาฟัง เป็นรายการเปิดที่ท้าทาย ถ้าไม่มีคนมาฟัง ก็แปลว่าล้มเหลวไม่ได้เรื่อง

ตั้งแต่นั้นมาดิฉันก็เริ่มติดตามมาวัดมากขึ้น แรกๆ กันแบกอัตตามาเยอะ ฉันอยู่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยนะ ฉันไม่ใช่ตาสีตาสา ชาวนายากจน โอ้โฮ ! ความคิดนี้ น่าเขกหัวจริงๆ พอมักคุ้นกับชาวอโศก ที่ใส่เสื้อม่อฮ่อมมอซอ คนนี้เป็นหมอ คนนี้ทันตแพทย์ คนนี้นายตำรวจ คนนี้ ผอ. คนโน้นนายแบ็งค์ เอ๊ะ! ไม่ธรรมดา อัตตาฉัน สลายลงราบคาบ แม้คนไม่มียศตำแหน่ง ก็ต้องเคารพเขา เพราะเขามีธรรมะ เขาเสียสละ เขาซื่อสัตย์ เขาขยัน น่าชื่นชมจริงหนอ

เมื่อก่อนดิฉันต้องขับรถออกจากบ้านตลิ่งชัน บางขุนนนท์ มาวัดตั้งแต่ตี ๕ ทุกเสาร์ อาทิตย์ เพื่อมา ทำบุญ ตักบาตร กวาดใบไม้ เรียงหนังสือ และเริ่มไปร่วมงานปลุกเสก พุทธาภิเษก ดิฉันจำได้ว่า ไปร่วมงานครั้งแรก คือ งานพุทธาภิเษก สุดยอดปาฏิหาริย์ ไปนอนเอาเสื่อปูกางมุ้ง กับพื้นดิน นอนกับ ลูกสาว ๒ คน พอตกดึกรู้สึกตัวตื่น รู้สึกว่ามีสายพาดขา ๒ ข้าง นึกในใจอยู่ว่า สายอะไรนะ ทำไมเย็นๆ โอ๊ย! มันเคลื่อนที่ได้ งูแน่ๆ เลย ดิฉันเคยมีวิบากกับงู เคยตีงูตายหลายตัว จะทำยังไงดี ทีแรก นึกจะนอนอยู่นิ่งๆ เหมือนพวกอยู่กับแมงป่อง แต่ถ้ามันเลื้อยมาตรงหน้า แล้วมัน ฉกกัดเอาล่ะ จะไหวหรือ ไม่เอาแล้ว เตะสะบัด ๒ ขาเลย รีบลุกขึ้นดึงลูก ลูกออกมา เจ้างูตกไปอยู่ มุมมุ้ง ตัวเล็ก แต่แผ่แม่เบี้ยหัวแบน แลบลิ้นแปล๊บๆ แสดงว่าเป็นงูมีพิษ ไม่เลื้อยหนี พอดีคุณชุติมา มาช่วยเขี่ยงู เข้าถุง เอาไปปล่อยนอกชุมชน

เรื่องงูนี้ก็แปลก ดิฉันเป็นเด็กกรุงเทพฯ ย้ายไปอยู่อยุธยา กลัวงูที่สุด แต่ก็เจองูทีไร ตีตายทุกที ตอนนั้น ไม่รู้บาป รู้แต่ว่าเขาเป็นสัตว์อันตราย ยิ่งตียิ่งเจอ ตีตัวสุดท้าย เป็นงูแสงอาทิตย์ตัวโต มีเลือดออกมาด้วย ดิฉันก็กลัวมากเลยเลิกตีงู รู้สึกบาป และชีวิตไม่ดี เลิกตีเด็ดขาด พอตั้งใจไม่ตีงูอีก ก็ไม่ค่อยเจองู เคยเจอ งูเขียวหางไหม้ หน้าชนกันเลย เขาก็ไม่กัดเรา เราก็ไม่ทำเขา เราต่างเป็นสัตว์ร่วมโลกเดียวกัน

ดิฉันเริ่มกินมังสวิรัติปี ๒๕๒๖ เหตุเพราะพาลูกมาเรียนพุทธธรรมที่สันติอโศก ลูกเป็นลูกศิษย์ ท่านปุณณะ ท่านให้ทิ้ง "บูด" ลูกก็ทิ้งบูดจะไม่กินเนื้อสัตว์ จะกินมังสวิรัติ เธอมาบอกแม่ ดิฉันก็เลย ตกกระไดพลอยโจนไปกับลูกด้วย เริ่มกินมังสวิรัติ ล้มลุก คลุกคลาน ยิ่งอยู่แถวบางขุนนนท์ อาหารอร่อย เยอะแยะ ไก่ย่าง หมูแดงอบน้ำผึ้ง เป็ดตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวปลา มีชื่อทั้งนั้น เวลาขับรถกลับบ้าน กลิ่นไก่ย่าง เตะจมูกต้องกลืนน้ำลายอยากไว้ สุดท้ายเลิกยากที่สุดคือ น้ำพริกปลาทูทอด โธ่ ! มันเลิกยาก จริงๆนะ แต่ในที่สุดก็เลิกได้แข็งแรงแกร่งกล้าขึ้น

จากการปฏิบัติตามแนวทางของชาวอโศก เกิดผลดีกับตัวดิฉันมาก ธรรมะสอนให้เรา ลดละอบายมุขการแต่งกาย เล่นแชร์ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไร้สาระน้อยลง เริ่มมีความสุข ในชีวิตมั่นคงขึ้น โดยนิสัยเป็นคนรักความยุติธรรม รักความซื่อสัตย์ จึงชื่นชมคุณจำลอง ศรีเมือง เคยพาลูกหลานตั้งแต่ตัวเล็กๆ ไปแจกใบปลิวช่วยหาเสียง โดนหมาไล่กวด สนุกสนาน

เมื่อมาอยู่ที่ทำงาน ดิฉันเปิดเผยชัดเจนที่โต๊ะทำงานจะติดคำขวัญ "สังคมเลว เพราะคนดีท้อแท้" ในที่ทำงานดิฉันถูกหมายหัวว่าเป็นไส้ศึก เพราะตอนนั้น พลังธรรม เสนอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า พวกมหาดไทยไม่ชอบเลย มีการประชุมระดับผู้ใหญ่ หาแนวทาง ต่อต้านความคิดนี้ ดิฉันเองไม่มีความเห็นกับเรื่องนี้ แต่ก็คิดในใจ เอ๊ะ กลัวอะไร กับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ก็อยู่ในตำแหน่งกำไรอยู่แล้วกับการหาเสียง ทำความดี กับประชาชน ช่วยเหลือดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แท้จริง ถ้ามีการเลือกตั้ง จะไปไหนเสีย ทำดีประชาชนก็ต้องเลือก แต่เมื่อดิฉันได้พบกับเจ้านายเก่า ท่านเป็นรัฐมนตรีช่วย มหาดไทย ดิฉันถามท่านว่า ท่านคะ เลือกตั้งผู้ว่า ทำได้ไหม! ท่านบอกว่า "อันตราย" มันอาจมีการแทรกแซง ของผู้มีอิทธิพล ที่ไม่หวังดี เข้ามาเป็นผู้ว่า แล้วเรื่อง มันจะบานปลาย แก้ไขยาก ดิฉันก็วางตัวเป็นกลาง แล้วแต่เรื่องจะเป็นไป เพราะดิฉัน ก็รักบ้านเมืองไม่ยุ่งดีกว่า

ในการจัดบอร์ดแสดงผลงานของกระทรวงมหาดไทยกับการเมืองท้องถิ่น คือ กทม.ยุคนั้นคุณจำลอง เป็นผู้ว่า กทม. มีผลงานมากมาย ดิฉันจัดบอร์ดคู่กันชื่อว่า "หน้าต่างกทม." กับ "บัญชรมหาดไทย" ปรากฏว่าผลงานทาง กทม. มีการเคลื่อนไหว ก้าวหน้าตลอดเวลา ดิฉันก็ถูกเพ่งเล็งอีก ผู้อำนวยการกอง มาว่าดิฉันเรื่องจัดบอร์ดว่า "ทำไมคุณทำเปรียบเทียบแบบนี้ คุณเล่นการเมืองนี่ ให้เอาออก ให้เลิกจัด ก็ได้ เลิกก็เลิกแปลกจริงๆ ก็ข่าวที่จัดนี่ มาจากหนังสือพิมพ์ทั้งนั้น ไม่ใช่ดิฉันเขียนเอง สักหน่อย

และในที่สุดความจริงก็พิสูจน์ตัวของมันเอง ผอ.คนนี้จับภูตผีได้ มาขอโทษดิฉัน ดิฉันยอมนับถือนาย ที่มาขอโทษ ถือว่าเป็นคนมีคุณธรรม

พูดถึงความทุกข์สุข ชีวิตทุกคนมีทุกข์ต่างกัน ทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจ ทุกข์ของการ มีครอบครัว ฝันไว้อย่างจะเป็นอีกอย่างเสมอ โชคดีที่ได้ฟังธรรมพ่อท่าน เรื่องของดิฉัน ก็เป็นที่เฮฮา ในกรมฯ สามีดิฉันเป็นคนดีนะ แต่เป็นลูกของแม่ ทำตามที่แม่บอกทุกอย่าง ดิฉันมีแต่ลูกหญิง คุณแม่สามี อยากได้ลูกชาย (หลาน) ดิฉันอายุมากแล้ว ไม่อยากมีลูกอีก อายเขา ดิฉันเลยส่งคืนสามี ให้คุณแม่ เอาไปทำลูก (หลาน) ให้ท่าน นี่เป็นเรื่องฮือฮามาก ในกรม เพราะตอนแต่งงานของดิฉัน มีทั้งอดีตอธิบดี อธิบดี รองอธิบดี ท่านกรุณา ไปเป็นสักขีพยานกันพรั่งพร้อม ต่อมาเลิกกัน เพราะเรื่องอย่างนี้ ก็จริง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ซักหน่อย แต่ก็แย่เหมือนกัน พวกที่ไม่ยอมแล้วฆ่ากันตาย ไม่เอาด้วย เสียเวลาเกิดมา ชาตินี้

ดิฉันโชคดีที่ได้ฟังธรรมพ่อท่าน "ยังมีเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อโลก อย่ามัวทุกข์โศก อยู่กับแค่เรื่องคู่ของตนเลย" เรื่องทุกข์เหรอ kick it out เตะมันออกไปเลย ข้อธรรมนี้ช่วยให้ดิฉัน คลายทุกข์ได้อย่างมาก ดิฉันจะไม่ยอมเป็นกบในกะลาครอบ แน่นอน เปิดกะลาออก เราจะเห็นทุกข์ ของคนอื่นๆ ที่ทุกข์ยากมากกว่าเราอีกเยอะแยะ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นเรื่องใหญ่ ดิฉันทุ่มเท ทำงาน มากขึ้น ได้ ๒ ขั้น ได้เรียนจบ รัฐศาสตร์ และจะพึ่งเท็ปธรรมะเพิ่มกำลังใจ ทุกวัน ดีไปเลย

อยู่มาวันหนึ่ง มีหมาข้างบ้านชื่อ เจ้าทอง ดิฉันเคยตีเขา เมื่อเขามากัดดอกไม้เสียหาย แต่เขาไม่โกรธ เขาชอบมาเฝ้าบ้านให้ และจงรักภักดี ลูกจะรักหมาตัวนี้มาก ดิฉันก็พลอยเมตตา แพ้น้ำใจหมาไปด้วย ต่อมาเจ้าทองป่วย กัดกับหมาข้างนอก เกิดป่วยเป็นเหมือนท้องมาร ท้องโตเดินไม่ไหว ดิฉันกับลูกช่วยกันอุ้มไปหาหมอสองครั้ง หมอบอกว่ามีหนองในท้อง อาการเจ้าทองแย่ลง ครั้งที่ ๓ อุ้มไปหาหมอไม่ได้ เขาเจ็บมาก จนทำท่าจะกัด รุ่งขึ้นดิฉันกำลังยืนตากผ้า ได้ยินเสียงเหมือนหมา งับแมลงวัน เวลามาตอมตัว เสียงดังกั๊กๆๆๆ ดิฉันหันไปดู อนิจจา! เจ้าทองกัดขาตัวเอง หลุดกระเด็น ออกมา มองเห็นกระดูกเส้นเอ็น มันร้องครางเจ็บปวด ดิฉันตกใจมาก รู้สึกทุกขเวทนา จับใจ พลันคิดถึงพระพุทธเจ้า ตอนที่เสด็จออกจากวัง ไปได้เห็น ทุกขเวทนา ๔ อย่าง คือทุกข์การแก่ เจ็บ ตาย และสมณะ จนเป็นเหตุให้พระองค์ท่านคิดออกบวช

ดิฉันพูดกับเจ้าทองว่า "ทองเอ๋ย ตายเสียเถิดลูก ! อย่าอยู่ให้ทุกข์ทรมานมากเลย" ดิฉันรู้สึก สะเทือนใจมาก เพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรทุกขเวทนาแบบนี้ ดิฉันมีความรู้สึก อยากทิ้งบ้าน ที่เคยรักที่สุด ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่อยากได้ อยากไปอยู่ใกล้วัดแล้ว ดิฉันเรียกช่าง ที่เคยมาทำบ้าน ให้ช่วยฝังเจ้าทองอย่างดี ทำความสะอาดบ้าน และยกของ ที่อยู่ชั้นล่างของบ้านให้ทั้งหมด แล้วเริ่ม เก็บของไปเรื่อยๆ เตรียมตัวย้ายบ้าน

ดิฉันเข้าพบท่านอธิบดี ขอย้ายไปอยู่ วิทยาลัยการปกครอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และมาพักอยู่กับลูก ที่อาคารตะวันงาย ๑ จนถึงปัจจุบัน ความแตกต่างที่เคยอยู่บ้าน กับมาอยู่คอนโด ใกล้วัด มีความสุข ต่างกันมาก อันดับแรก โอ้โฮ อาหารการกิน แบบมังสวิรัติ มีให้รับประทานมากมาย สะดวกสบาย เรื่องการกิน ที่อยู่ก็สงบสุข เพราะมีแต่ผู้ปฏิบัติธรรม ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ประการสำคัญ ได้ฟังธรรม จากพ่อท่าน สมณะ สิกขมาตุ ได้คบคุ้นกับคนที่มาทำงานเสียสละ ขยันขันแข็ง บางคน มาทำงานฟรี ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ แต่เขาก็เบิกบานแจ่มใส

ถึงปี'๔๒ ดิฉันก็ขอลาออกจากงานก่อนเกษียณอายุ ๑ ปี ให้กำไรชีวิต หลุดจากวงจร ราชการ มาทำงาน ที่วัดดีกว่า อยู่นานเข้าก็ได้รับความไว้วางใจจากคนในชุมชน ให้ดิฉันมีโอกาสรับใช้หลายตำแหน่ง หน้าที่ เช่น เป็นกรรมการ ต.อ. เป็นกรรมการ สัจจะออมทรัพย์ เป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อฟ้าดิน เป็นผู้อำนวยการ ศูนย์ฝึกอบรม ของชุมชนสันติอโศก เป็นรองประธานชุมชน ขำจัง เกือบงงแล้ว แต่ก็ยอมรับว่า มีความสุข มีความอบอุ่นในความเป็นพี่น้องในชุมชน รู้สึกมีชีวิตปลอดภัย และโชคดี ที่อยู่ในหมู่มวล ชาวอโศก ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีตกต่ำลงเลย

ดิฉันภูมิใจ และเชื่อมั่นชาวอโศก และแนวทางที่พ่อท่านพาทำ เป็นทางเลือกของคน ช่วยให้พ้นทุกข์ ได้จริง มีทุกข์น้อยลง และมีความสุขเพิ่มขึ้น แต่ก็พยายาม ไม่ติดสุขอย่างใด เพราะกลัวเป็นทุกข์อีก ดิฉันสำนึก ในพระคุณของพ่อท่านโพธิรักษ์เสมอ

ดิฉันอายุปูนนี้ (๖๕ ปี) แล้วก็จะพยายามทำตัวให้แข็งแรง เพื่อให้ได้มีโอกาส ทำงาน บูชาพ่อท่าน อย่างเต็มที่ จะพยายามลดอัตตาตัวตนของดิฉันให้เล็กลง เล็กลงที่สุด และ เพิ่มเมตตากรุณา ในจิตตน ให้มาก เพื่อความผาสุกของการอยู่ร่วมกัน ในสังคมของเรา ซึ่งเป็นการตอบแทนพระคุณ พ่อท่าน อย่างหนึ่ง

* ทอธรรม วิชัยดิษฐ์ *


เส้นทาง
มีเส้นทางมากสายให้เลือกเดิน
เพลิดเพลินเสพสุขสนุกสนาน
ต่อเติมเสริมสร้างอลังการ
ทะเยอทะยานให้ถึงซึ่งหลักชัย
เหน็ดเหนื่อยหนักหนามานานนับ
กี่กัลป์กี่กัปก็ทนไหว
วนแล้วเวียนเล่าเกินเข้าใจ
ที่สุดเหลือสิ่งใดให้ชีวี
จึงแม้มีเส้นทางให้เลือกมาก
ก็จะทนลำบากอยู่ที่นี่
ด้วยซาบซึ้งคุณงามและความดี
ขอพลีใจกายถวายธรรม

- อิสรา -

- สารอโศก อันดับที่ ๒๗๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ -