ปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ '๔๘ ครั้งที่ ๒๙

วันที่ ๓ - ๙ เมษายน ๒๕๔๘ ณ พุทธสถานศีรษะอโศก
ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ก่อนเริ่มงาน ๑ สัปดาห์ นักเรียนชั้น ม.๒ จากโรงเรียนสัมมาสิกขา เข้าห้องเรียนบูรณาการการเตรียมงานปลุกเสกฯ ประกอบด้วย ปฐมฯ, สันติฯ, ศีรษะฯ, ศาลีฯ, สีมาฯ, ราชธานีฯ, ภูผาฯ, หินผาฯ, ดินหนองแดนเหนือ, เลไลย์ฯ
ในปีนี้ มีสมณะ ๔๕ รูป สิกขมาตุ ๑๗ รูป ทำการปลุกเสกฯผู้มาร่วมงานด้วยอนุศาสนี-ปาฏิหาริย์ ให้เป็นพระแท้ๆ ของพุทธ แบบ อเทวนิยม เชื่อมั่นในกัมมสัทธา กรรม ๓ ของเรานี่แหละจะเป็นที่พึ่งของเราที่แท้จริง

รายการในแต่ละวัน มีดังนี้

เวลา ๐๓.๓๐-๐๕.๓๐ น. ทำวัตรเช้า และหลังทำวัตรเช้า วันที่ ๔, ๕, ๖, ๗ และ ๘ เป็นการประชุมขององค์กรต่างๆ ตามลำดับ คือ ประชุมเตรียมงาน"เพื่อฟ้าดิน", ประชุมพาณิชย์บุญนิยม+ อุตสาหกิจบุญนิยม, ประชุมสาธารณสุข บุญนิยม, ประชุมวิทยุชุมชน, ประชุมพรรคเพื่อฟ้าดิน, ประชุมสถาบันบุญนิยม ปีนี้มีการคำนึงถึงสุขภาพ กำหนดให้มี การออกกำลังกายหลังทำวัตรเช้าเวลา ๐๖.๐๐-๐๖.๓๐ น. หลายรูปแบบให้เลือกตามใจชอบ เช่น ออกกำลังกาย ตามธาตุเจ้าเรือน, ฟ้อนเจิง, โยคะ ที่บริเวณลานขวนขวาย และที่ศาลาบุญถ่วม มีญาติธรรม ให้ความสนใจ ไปร่วมกันคับคั่ง

ทำวัตรเช้า พ่อท่านแสดงธรรมหัวข้อเรื่อง "พุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้" ต่อจากงานพุทธาภิเษกฯ โดยอธิบาย ขยายความ ประกอบหนังสือพุทธเป็นอเทวนิยมอย่างนี้ จนจบเล่ม

เวลา ๐๙.๐๐-๑๐.๐๐ น. ธรรมะก่อนฉัน

เวลา ๑๒.๐๐-๑๓.๔๕ น. ธรรมะทางเลือก ประกอบด้วย ธรรมะกระดานดำ สำหรับผู้มีพื้นฐานการปฏิบัติมาแล้ว บริเวณ ด้านหน้า พุทธสถาน ข้างที่ล้างจาน, ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ บริเวณลานขวนขวาย, ธรรมะจากสิกขมาตุ บริเวณศาลา ธรรมทายาท, สำหรับผู้ต้องการเจาะลึกเป็นการส่วนตัว สามารถพูดคุยสนทนาได้ ที่บริเวณเขตสมณะเกจิฯ -สิกขมาตุเกจิฯ และ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เป็นครั้งแรกในงานนี้คือ การฝึกเจโตสมถะให้จิตเกิดพลังนิ่งสงบ โดย สมณะกอบชัย ธัมมาวุโธ บริเวณ ด้านขวามือ ลานขวนขวาย เป็นการฝึกเจโตสมถะอย่างวิทยาศาสตร์ ที่พญานาคก็ต้องเลื้อยหนีไป

เวลา ๑๔.๐๐-๑๖.๐๐ น. ปลุกเสกฯภาคบ่าย
เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. รายการภาคค่ำ

รายการในแต่ละวัน มีรายละเอียดดังนี้

๓ เม.ย.
เวลา ๐๙.๐๐ น. พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ แสดงธรรมเปิดงาน เนื่องจากผู้ว่าฯ จ.ศรีสะเกษ ติดราชการที่ประเทศเวียดนาม และได้มาร่วมงานและพูดคุยกับญาติธรรมในวันที่ ๕ เม.ย. สำหรับพ่อท่านได้แสดงธรรมว่า

"ตอนนี้เราจะต้องมาเร่งพัฒนาภายใน หรือว่าความเป็นในของเราให้แน่น ให้จริง ให้สะอาด ให้ไพบูลย์รุ่งเรืองขึ้นให้ดี เพราะการสัมพันธ์ กับภายนอกทุกวันนี้มากขึ้น ซึ่งเราก็พยายามที่จะรับภายนอกอย่างเหมาะสม อาตมาระมัดระวังมาก การที่จะขยาย ออกไปเชื่อมกับภายนอก เพราะการจะขยายงานให้ได้รับความนิยมชมชอบ และคนอื่น ก็เข้ามาเชื่อมต่อ กับของเรา เมื่อมาเชื่อมต่อก็จะมารับให้เราไปขยายงานกับเขา เราก็จะหลงตัว จะทะเลทะลักออกจากส่วนกลาง ออกจากแก่น ออกจากภายใน ไปสู่ภายนอก ถ้าปล่อยกันอย่างโง่ๆไม่รู้ตัว ไม่เหลือ! ชาวอโศกเรากลุ่มนิดเดียว

ทุกวันนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้นๆ ก็ต้องระมัดระวัง ต้องจัดสรรอย่างพอเหมาะให้ดี อย่าผลีผลาม อย่าเห็นแก่ใหญ่ อย่าเห็นแก่มาก อย่าเห็นแก่โด่งดัง อย่าเห็นความกรูเกรียว ซึ่งดูเขื่องดูหรูข้างนอกเป็นอันขาด ถ้าหลงแล้วก็ไม่เหลือแก่น ข้างในจะถูกดึงออกไปหมดเลย แล้วสามัญโลกีย์ก็ชอบธรรมใดวินัยใดเป็นไปเพื่อความมักใหญ่มักมาก ธรรมนั้นวินัยนั้น ไม่ใช่ของเราตถาคต ฟังความนี้ให้ซึ้งดีๆของพระพุทธเจ้านั้น ธรรมใดวินัยใดเป็นไปเพื่อความมักน้อย ธรรมนั้นวินัยนั้น เป็นของเราตถาคต"

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงว่า "เราจะไม่ใช้คำว่าเครือข่าย แต่ใช้คำว่าเครือแห(Pylamidal wave), ตอนนี้ที่ปักษ์ใต้ มีทักษิณอโศก จ.ตรัง, ธรรมชาติอโศก อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร, ธรรมราชอโศก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช, ชะเลขวัญ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา, กลุ่มชนของเราเริ่มจากจุลภาค

ตั้งระดับเอาไว้เรียกเป็น ๔ ขนาด คือ ๑. ชมรม ๒. กลุ่มชน ๓. ชุมชน ๔. หมู่บ้าน แล้วเชื่อมต่อกันเป็นเครือแห Pylamidal wave เป็นมหภาค หรือเป็นชาวอโศก เป็นมนุษย์บุญนิยม มีจุดมุ่งหมายคือนิพพาน"

และสุดท้ายพ่อท่านฝากว่า "ขอแต่เพียงว่า ๑. พัฒนาตนให้เจริญยิ่งๆขึ้น ๒. อย่าดังแล้วแยกวงหรืออย่าทำให้เกิดสังฆเภท อย่าแตกแยกกัน อย่างไรก็อดทน อย่างไรก็ผสมผสานกัน สัมพันธ์กันอยู่ให้ได้ให้ดี จะทุกข์จะร้อนยังไงก็พยายามอดทน พยายามปล่อยวาง มีวิธีการปล่อยวางเพื่อไม่ให้เจ็บไม่ให้ปวด วิธีการก็สอนก็แนะนำกันอยู่แล้ว"

เพราะฉะนั้นมารวมกันให้ได้ ทุกวันนี้ต้องการมวลเพิ่มขึ้น ต้องการคณะที่มาร่วมมารังสรรค์ พ่อท่านเชื่อมั่นว่าพวกเราเข้าใจ แต่มันเหลือแต่กิเลสเราเท่านั้นเอง ไม่ช้าไม่นานเดี๋ยวตายก่อนนะ อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง เพี้ยนไปเพี้ยนมา ผัดไปผัดมา ไม่ดี ตอนนี้ต้องการพวก โดยเฉพาะปักษ์ใต้เอาให้ดีๆ ยังไงๆลดตัวลดตนให้มาก อย่าเอาแต่ตัวเป็นหลัก ในสมมติสัจจะ ไม่มีผิด ไม่มีถูก หัดล้างตัวตนเอาตามหมู่ เอาให้ดีๆ" หลังจากนั้นพ่อท่านนำกล่าวปฏิญาณอุโบสถศีล

ธรรมะทางเลือก
ธรรมะกระดานดำ เรื่อง "อยากรู้อะไรถามได้" โดย สมณะพอแล้ว สมาหิโต
ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ เรื่อง "พูดคุยกับหลวงตา" โดย สมณะแดนเดิม พรหมจริโย
ธรรมะจากสิกขมาตุ เรื่อง "ธรรมะทำใจให้สบาย" โดย สิกขมาตุจินดา ตั้งเผ่า

ปลุกเสกภาคบ่าย
ปฐมนิเทศ เรื่อง "หวนรำลึกถึงงานปลุกเสกฯ(เตวิชโช)" ร่วมกันสนทนาโดย สมณะกอบชัย ธัมมาวุโธ, สมณะซาบซึ้ง สิริเตโช, สมณะกล้าตาย ปพโล, สิกขมาตุจินดา ตั้งเผ่า และ น.ส.ขวัญดิน สิงห์คำ

เป็นการชี้แจงเบื้องต้นก่อนที่พวกเราจะอยู่ร่วมกันตลอดงาน ในการฝึกฝนปฏิบัติเรื่องการกินอยู่หลับนอน แต่ละท่าน ได้พูดถึง งานปลุกเสกฯ ในอดีตว่า การใช้น้ำใช้ไฟเป็นไปอย่างประหยัด น้ำก็ตักมาจากบ่อ บางคนตั้งตบะ ไม่อาบน้ำ หรืออาบน้ำ ไม่เกิน ๕ ขัน ไม่มีการแบ่งงานกันทำ ทุกคนเอาภาระขวนขวาย ไม่นอนกลางวัน แม้จะง่วงเพียงใด สมณะ เทศน์ไม่เก่ง เหมือนสมัยนี้ โยมฟังไปลุ้นไปเลยไม่ง่วง ไม่หลับ มีหลวงพ่อบูด ตั้งสัจจะทิ้งกิเลส แต่ละคน ตั้งใจมา ฝึกฝนตนเอง ในงานนี้โดยเฉพาะ จนสามารถเปลี่ยนแปลง หันมาเคร่งครัดปฏิบัติตน จนเป็นปกติ ในทุกวันนี้

ปัจจุบันมีทั้งเด็กนักเรียน ผู้มาใหม่ ความเคร่งครัดลดน้อยลงไป อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มีเด็กนักเรียนมาช่วยเป็นหลัก ทำให้ผู้ใหญ่หายไปหลายจุด อยากให้ผู้ใหญ่ร่วมทำงานและช่วยดูแลเด็กไปด้วย จะทำให้งานสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเด็กมีกำลังใจ เพิ่มขึ้น

ปีนี้โรงครัวพยายามใช้แก๊สน้อยที่สุด ใช้ฟืนใช้ถ่านทดแทน จากข่าวว่าปีนี้ศีรษะอโศกแล้งมาก ปรากฏว่าแต่ละแห่ง ขนวัตถุดิบ พืชผักผลไม้มาช่วยมากมายกว่าทุกปี

และสรุปสุดท้ายว่า มางานปลุกเสกฯเราได้ประโยชน์อะไรบ้าง เราสามารถฝึกตน-ฝึกใจจนถึงโลกุตระ จนพ้นทุกข์ ได้เพียงใด สามารถปลุกเสกตนจนเป็นพระแท้ๆของพุทธได้หรือไม่

รายการภาคค่ำ สัมภาษณ์ปฏิบัติกร เรื่อง "ให้ทั้งชาติได้เลย" ดำเนินรายการโดย สมณะกล้าจริง ตถภาโว ผู้ร่วมรายการ ประกอบด้วย นาวาอากาศตรีไสว สุรนิคม อายุ ๘๗ ปี, นางย้ำยืน(ไปล่) บุตรพริ้ง, นางน้ำทิพย์ เกษมเศรษฐ์ อายุ ๘๒ ปี, นายหนึ่งเดียว ชาวหินฟ้า, อุบาสิกาเย็นฟ้า ประมาณ อายุ ๘๔ ปี

เป็นเรื่องราวของผู้อายุยาว ที่ปฏิบัติธรรมอยู่บนเส้นทางโลกุตระอย่างมั่นคงและไม่ท้อถอย พร้อมจะอยู่กับหมู่มิตรดีสหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมอย่างอโศก ไปตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

๔ เม.ย.
ธรรมะก่อนฉัน
"โพธิกิจ ตอน ขูดขัดอัตตา" โดย สมณะบินบน ถิรจิตโต และ สมณะแน่วแน่ สีลวัณโณ การแสดงธรรมที่สื่อจาก ภาพเหตุการณ์ ต่างๆ ของพ่อท่าน เช่น การขูดพิษทางผิวหนัง การขัดฟัน การเขี่ยตา การทำโยคะ และการเทศน์สั่งสอน เรื่องอัตตา พฤติกรรมของคนยุคนี้ ขาดความละอาย ที่จะแสดงอัตตา ท่านได้ให้ข้อคิดว่า อะไรที่เกิดขึ้น สิ่งแรก ที่ต้องกระทำ คือ การมองเข้ามาหาตัวเอง และปรับปรุงวจีกรรม พฤติกรรมต่างๆ ทุกกิจกรรมจะต้องสลายตัวตนให้มาก การที่เราจะเป็นคนที่ยอมได้ เพราะเรามีสติและเป็นคนที่เล็กๆน้อยๆ

ธรรมะทางเลือก
ธรรมะกระดานดำ เรื่อง"พลังจิตจากการปฏิบัติธรรมอันเป็นสัมมาทิฐิ" โดย สมณะร่มเมือง ยุทธวโร
ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ "เส้นทางบุญเป็นแบบนี้" โดย สมณะร่มบุญ ฉัตตปุญโญ
ธรรมะจากสิกขมาตุ เรื่อง "ผู้หญิงบรรลุธรรมได้จริงๆ" โดย สิกขมาตุจินดา ตั้งเผ่า

ปลุกเสกภาคบ่าย
ระดมสมอง "เหลียวหลัง แลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว" ดร.บัญชร แก้วส่อง นำเสนอผลงานการประเมิน โครงการ พลังกู้ดินฟ้า ประชาเป็นสุข เมื่อตุลาคม ปี ๒๕๔๗ ของ ๒๖ ศูนย์อบรมเครือข่ายชาวอโศก ซึ่งได้นำเสนอ ทั้งจุดเด่น และจุดด้อย ในการทำงานในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละศูนย์ ควรอย่างยิ่งที่จะนำไปฟัง เพื่อปรับปรุงศูนย์อบรมฯ ของแต่ละศูนย์

และยังมีอีก ๒ รายการให้เลือก คือ
"ฝึกเจโตสมถะ"
ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ณ บริเวณลานขวนขวาย โดยสมณะกอบชัย ธัมมาวุโธ,
"ออกจากภพมาพบกัน"
โดยสิกขมาตุจินดา ตั้งเผ่า ณ ศาลาบุญถ่วม

รายการภาคค่ำ
สัมภาษณ์ปฏิบัติกร เรื่อง "ทายาทบุญนิยม" ดำเนินรายการโดย สิกขมาตุผาแก้ว ชาวหินฟ้า ผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ลูกหลาน ชาวอโศก ที่ผ่านการฝึกอบรมจากพุทธสถานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนพุทธธรรม หรือ นักเรียนสัมมาสิกขา ที่เรียนจบ ม.๖ ไปแล้ว

นายกระบี่พุทธ(จืด) แก้วคำ อายุ ๒๘ ปี ศิษย์เก่ารุ่นแรกที่ยังเป็นการศึกษานอกโรงเรียนศีรษะอโศก ใช้ชีวิตที่ศีรษะฯ มาเกือบ ๑๐ ปี ซึ่งนับเป็นรากฐานชีวิตที่ดีที่ทำให้ชีวิตในปัจจุบันอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม เป็นผู้ริเริ่ม จนเกิด สมาคม ศิษย์เก่า สัมมาสิกขา ปัจจุบันเรียนปริญญาโทที่ ม.รามคำแหง ทางด้านบริหารรัฐกิจ และรัฐประศาสนศาสตร์, เป็นลูกจ้างประจำ ทางด้านคอมพิวเตอร์ และเปิดบริษัทส่วนตัว

นายคมธรรม(กอล์ฟ) ยัพราช ศิษย์เก่ารุ่นแรกสัมมาฯปฐมอโศก ที่เปลี่ยนจาก กศน.มาเป็นสัมมาสิกขา ประทับใจ ที่พ่อท่าน ให้โอกาสพบทุก ๒ สัปดาห์สมัยที่เป็นนักเรียน สมัยเป็นนักเรียนก็หลับๆตื่นไม่ค่อยสนใจ เรียนจบ จึงตอบแทน พ่อท่าน โดยเอาตัวเองเข้ามาทำงานที่วัด ๑ ปี แล้วไปช่วยงานที่บ้านราชฯเกือบ ๓ ปี แล้วออกไปหา ประสบการณ์ ทำงาน กับกองถ่าย และสุดท้ายเป็นช่างไฟในโรงถ่ายหนัง ๑ ปี ปัจจุบัน กลับมาช่วยงาน อยู่ที่ปฐมอโศก เพราะเห็นว่า สบายใจกว่า ทำงานอยู่ข้างนอก และภูมิใจว่า เราคิดถูกต้องแล้ว เพราะที่นี่ สอนให้เรารู้ว่า เป้าหมายของชีวิตที่แท้จริง คืออะไร บางครั้งเราจะรู้คุณค่าสวรรค์อาจต้องไปเรียนรู้นรกบ้าง

น.ส.ศศิธร(ดาว) จเร ศิษย์เก่าพุทธธรรมสันติอโศก มาเรียนพุทธธรรมตั้งแต่ ๔ ขวบ ประทับใจครูที่นี่อ่อนโยน และเข้าใจ เด็กๆ จึงทำให้เรียนวิชาครู ได้มาช่วยสอนสัมมาสิกขาตั้งแต่เรียนปี ๒ ได้เรียนรู้วิชาครู จาก ม.ล.ดุษฎี บริพัฒน์ ณ อยุธยา ได้รับการถ่ายทอดวิชาครูมามากมาย ปัจจุบันมาช่วยสอนเด็กๆ ที่สันติอโศก

นายสู้จริง(โมมิ) แสนมหามงคล อายุ ๒๐ ปี ม.วช.ศาลีอโศก ศิษย์เก่าสัมมาสิกขาศาลีอโศก เป็นคน อ.พบพระ จ.ตาก เผ่าปกากะญอ ตอนเรียนก็เบื่อเซ็งบ้าง แต่ตอนนี้ได้เห็นตัวอย่างที่ดีจากรุ่นพี่ และผู้ใหญ่ ทำให้ชัดเจนในเป้าหมายชีวิต และมีกำลังใจ มากขึ้น รู้สึกผูกพันกับที่นี่มากเพราะได้รับความเมตตา กำลังใจ และได้รับคำสั่งสอน จากท่านสมณะ ทำให้ชัดเจน ในชีวิต ฝากว่าอยากให้น้องๆจบ ม.๖ ให้ได้ เราจะมีความภาคภูมิใจ ในความลำบาก ที่เราผ่านมาได้ เราจะรู้สึกภูมิใจ ที่จบมาได้ เพราะที่นี่ไม่ได้จบง่ายๆ

นายปรีชา(ดุลย์) สมนึก ม.วช.ศีรษะฯ เป็นศิษย์เก่าสัมมาฯศีรษะอโศก อยากเรียน ม.วช.ไปเรื่อยๆ ยังไม่อยากจบ ประทับใจ สถาบันที่นี่ ทำเราเติบโตและมีความเปลี่ยนแปลงจากคนที่เอาแต่ใจ งอแง ที่นี่สอนให้เราคิดอะไรกว้างไกล เป็นผู้ประสานงาน ปลุกเสกฯมาเป็นปีที่ ๓ แล้ว อยากบอกว่าเด็กก็ต้องการกำลังใจ ต้องการคำชื่นชมจากผู้ใหญ่ มากกว่า คำดุว่า ฝากว่าอยู่วัดให้มีความสุขแล้ว เราจะแก้ปัญหาได้ เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ

น.ส.เรืองตะวัน(ตาล) วงศ์แสนสาน ม.วช.ราชธานีฯ ศิษย์เก่าสัมมาสิกขาราชธานีอโศก พ่อแม่ย้ายมาอยู่บ้านราชฯ และ ให้ลูกๆ มาเรียนที่นี่ด้วย ตอนแรกๆก็ไม่เข้าใจ แต่เห็นว่าคนที่นี่มีจิตใจที่ดี สิ่งแวดล้อมก็ดี วิถีชีวิตที่นี่ ก็ไม่แตกต่าง กับที่บ้าน จบ ม.๖ แล้วช่วยงานอยู่ที่ฐานโรงสีและสอนหนังสือสัมมาสิกขาฯ

นายเต็มบาตร(เอก) ทัศโน ม.วช.สันติอโศก ศิษย์เก่าสัมมาฯ สันติฯ คุณแม่พามาเรียนพุทธธรรมตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ได้เรียนต่อ สัมมาสิกขา สันติอโศกจนจบ ปัจจุบันเป็นนิสิตสัมมาสิกขาลัยวังชีวิต ชีวิตที่นี่สามารถตัดความกังวล เรื่องต่างๆ ออกไปได้มากมาย ได้อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เป็นบุญและได้สั่งสมบุญที่นี่

น.ส.ชิดตะวัน(หนุ่ย) ชนะกุล อายุ ๒๕ ปี ศิษย์เก่าพุทธธรรมสันติอโศก รุ่นแรก ปี ๒๕๒๕ คุณแม่พามาเรียนพุทธธรรม ตั้งแต่อายุ ๓ ขวบ ขณะนี้เรียนปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่เยอรมัน มีความรู้สึกว่า สันติอโศก เหมือนเป็นบ้าน อีกหลังหนึ่ง ของตนเอง คำอบรมสั่งสอนที่ได้รับมาตั้งแต่วัยเด็กได้นำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน แม้ชีวิตจะผ่านมา หลายประเทศ แต่ก็อยู่รอดปลอดภัย

๕ เม.ย.
ธรรมะก่อนฉัน
"ตามบาทพระศาสดา" โดย สมณะดวงดี ฐิติปุญโญ การอ่านประวัติของพระพุทธเจ้าที่ทิ้งสิ่งต่างๆเพื่อหาทางพ้นทุกข์ และแก้ทุกข์ของมวลมนุษย์ โดยค้นหาวิธีล้างกิเลสของตนเองก่อน จนค้นพบหลักโพชฌงค์ ๗ มรรคองค์ ๘ จนกำจัดกิเลส แก้ทุกข์ให้กับตนได้ แล้วจึงสั่งสอนให้มนุษย์รู้วิธีการลดละ การจะเดินตามรอยบาทพระศาสดา ต้องเดินตามขั้นตอน อย่าหยุดอยู่ ในศาสนาพุทธมี ๓ ชนชั้น คือ ปุถุชน กัลยาณชน และอาริยชน จะเข้าสู่อาริยชนได้ ต้องชัดเจนในญาณ ๗
ของพระโสดาบัน

"You are what you eat" โดย สมณะกลางดิน โสรัจโจ การกินอาหารที่ผิดวิธีของชาวอโศก คือต้นเหตุของการเจ็บป่วย นักมังสวิรัติต้องกินถั่ว แต่ต้องกินให้ถูกวิธี คือกินถั่วใส่เครื่องเทศ กินให้เป็นอาหาร กินอาหารให้เป็นยาทุกวันให้ได้ เพื่อสุขภาพที่ดี

หลังจากสมณะเทศน์เสร็จ ช่วงเลื่อนอาหาร ท่านผู้ว่าฯ จ.ศรีสะเกษ นายถนอม ส่งเสริม มาร่วมงาน และได้กล่าวพูดคุย เล็กน้อย ก่อนจะเดินชมบริเวณงาน และรับประทานอาหาร

ธรรมะทางเลือก
ธรรมะกระดานดำ "ความสงบเย็นจากการปฏิบัติธรรมเป็นเช่นนี้" โดย สมณะซาบซึ้ง สิริเตโช
ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ "จิตที่นิ่งสงบมีพลังจริงๆ" โดย สมณะผืนฟ้า อนุตตโร
ธรรมะจากสิกขมาตุ "เหตุปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงพ้นทุกข์" โดย สิกขมาตุหยาดพลี อโศกตระกูล

ปลุกเสกภาคบ่าย
สัมมนากลุ่มย่อย ระดมสมอง "เหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่เครือแห ภาค ๒" การแบ่งกลุ่มสัมมนา, ธรรมะจาก สิกขมาตุรินฟ้า นาวาบุญนิยม เรื่องขั้นตอนการปฏิบัติธรรมของฝ่ายหญิง", ฝึกเจโตสมถะที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ณ บริเวณ ลานขวนขวาย โดยสมณะกอบชัย ธัมมาวุโธ

รายการภาคค่ำ
"สะสมบุญต้องประณีต สร้างจารีตต้องประหยัด" ดำเนินรายการ โดย สมณะฟ้าไท สมชาติโก ชุมชนต่างๆของชาวอโศก มีผู้คน มาอยู่มากขึ้น ปัญหาในเรื่องของวัตถุข้าวของถูกทิ้งขว้าง ท่านต่างๆต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง ในการเก็บงำดูแลข้าวของ อย่างประณีต-ประหยัด รวมถึงการแยกขยะ ก่อนทิ้งเสมอ ให้เป็นนิสัย

นางวันดี เจริญสอน อายุ ๖๒ ปี ช่วยงานอยู่ที่ ร.ร.ผู้นำ จ.กาญจนบุรี เป็นนักมังสวิริตมา ๒๐ ปี สอนลูกๆ หลานๆ ในเรื่องของการประณีต-ประหยัด ต้องกินข้าวให้หมดจานไม่ให้เหลือทิ้ง เสื้อผ้าขาดก็ปะชุน ถุงเท้าเก่าๆ ขาดๆ ก็นำมา ทำไม้ถูบ้าน ทำขนมไทยๆให้กินมากกว่าให้เงินไปซื้อขนมนอกบ้าน ใช้ฟืนแทนแก๊ส แก๊สจะใช้ในกรณี ที่จำเป็นจริงๆ เพราะขี้เถ้า เอามาทำน้ำด่างทำน้ำยาซักผ้าได้อีก ฝากว่าของทุกอย่าง ต้องใช้เงินซื้อมา ทั้งนั้น ต้องใช้ของให้คุ้มค่าเงิน อย่าใช้ของ สุรุ่ยสุร่าย อะไรที่ประหยัดได้ก็ให้ประหยัด น้ำไฟก็ต้อง ช่วยกันดูแล

น.ส.บุญทองใบ พรสุธรรม อายุ ๕๑ ปี ช่วยงานอยู่ฐานขยะที่สันติฯ เก็บขยะในชุมชน อันไหนดี ก็เก็บมาล้าง นำมาขาย ตลาดนัดวันอาทิตย์ รายได้ตกเดือนละหมื่นกว่าบาทนำมาเข้าส่วนกลาง พ่อท่านเน้นเรื่อง ขยะ เพราะเป็นจุดที่ คนเขา ไม่ทำกัน ได้ลดอัตตาตัวเองเพราะเป็นคนติดสะอาด ฝากทุกคน ช่วยแยกขยะด้วย

นางนันทา สุวรรณ อายุ ๗๑ ปี โยมแม่ของสมณะมือมั่น ปูรณกโร กินมังสวิรัติเมื่อไปเยี่ยมลูกชาย สมัยเป็นนักศึกษา รามคำแหง ได้แนะนำว่าหากกินเนื้อสัตว์จะไม่แข็งแรง ตอนนั้นอายุ ๕๘ ปี ก็กินมาได้สิบกว่าปี ทำแบบง่ายๆ เอาผักมาลวก หรือผัด เอาเต้าหู้มาต้มเค็ม และข้าวเหนียว ๕ บาท

ได้เล่าเรื่องราวต่างๆของคนเวียดนามให้ฟัง เช่น อาหารหลักของเวียดนามคือผักบุ้งลวก คนไหนรวยก็มีเต้าหู้ต้มเค็ม คนจน ก็มีผักบุ้งลวก และผักดอง น้ำลวกผักบุ้งก็เอามาทำน้ำซุป โดยบีบน้ำมะนาวหรือใส่มะเขือเทศและเกลือ ลุงโฮจิมินห์ ก็กินแบบนี้ กินกับข้าวไม่มาก กินข้าวเยอะ จะแข็งแรง กินกับเยอะเปลืองตังค์และไม่แข็งแรง

น้ำล้างเท้าเขาไม่ทิ้ง เอามารดผัก เมื่อก่อน ๕ โมงเย็นรัฐจะปิดไฟ ๑ ชั่วโมงเพราะเป็นเวลาที่จะใช้ไฟเยอะ คนทำนา ทำสวน ก็ไม่ใส่รองเท้า มีแต่คนในเมืองที่ใส่รองเท้า สมัยเด็กๆเขาสร้างบ้านดินด้วยไม้ไผ่+ดินเหนียว+ฟาง แล้วเอาฟาง มาปูเป็นที่นอน

ข้าราชการได้เงินน้อย เช่น ครูใหญ่ทำงานมา ๔๕ ปี ได้เดือน ๔,๐๐๐ บาท ข้าวก็ซื้อจากรัฐบาล เมื่อก่อนรัฐให้ซื้อเนื้อหมู ได้เดือนละ กิโลกรัมต่อครอบครัว

กรรมกรได้เงินเดือนมากกว่าหมอ เพราะเหนื่อยกว่า แต่หมอนั่งอยู่กับโต๊ะงานสบายกว่า หมอขี่มอเตอร์ไซค์ แต่หมอเมืองไทย ขี่รถเก๋ง กรรมกรเมื่อปลดเกษียณแล้วได้บำนาญเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท คนที่ไม่มีบ้าน รัฐบาลก็ให้บ้าน กว้าง ๔ เมตร ยาว ๒๐ เมตร ก่อบ้านด้วยอิฐ เพราะรัฐไม่สนับสนุนให้สร้างด้วยไม้

ตื่นตี ๕ ไปช่วยงานชมร.เชียงใหม่วันจันทร์-ศุกร์ ทำเปาะเปี๊ยะทอด, เปาะเปี๊ยะสด ไปขายที่ชมร.ฯ โดยลงทุนเองทั้งหมด ผักก็ล้างที่บ้าน เงินที่ได้ก็เข้าส่วนกลาง วันไหนเจอผักไร้สารพิษก็ซื้อเข้าร้าน ที่ไปช่วยชมร.ฯ เพราะเมื่อเรายังสาว มัวแต่ทำงาน หาเลี้ยงลูก แก่มาก็ต้องหากำไรเข้าตัวเรา การทำบุญคือกำไรชีวิต ที่จะติดตัวเราไป

สามีเสียชีวิตไป ๒ ปี ก็ไม่ร้องไห้ เพราะน้ำตาช่วยอะไรไม่ได้ ต้องทำทุกอย่างทำให้เราไม่อ่อนแอ ความขยันและ ความประหยัด ต้องคู่กันไป เวลาแก่มาเราจะได้สบาย

นายวิเชียร เรืองศรี อายุ ๕๐ ปี ตัวอย่างชีวิตของอดีตนักบวชชาวอโศก เคยฝึกชีวิตอย่างประหยัดบวกกับอุปนิสัยขยัน เมื่อต้องออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็เริ่มจากกิจการเล็กๆ มีวิถีชีวิตด้วยความขยัน ประหยัด ค้าขายแบบบุญนิยม มีน้อย ก็กินน้อยทำให้มีเงินเหลือเก็บ ค่อยๆเก็บหอมรอมริบจนถึงจุดอิ่มตัว ปัจจุบันช่วยงานอยู่ที่ชุมชนปฐมอโศก

ท.ญ.ฟากฟ้าหนึ่ง อโศกตระกูล อายุ ๕๑ ปี อยู่ช่วยงานที่ปฐมฯมา ๑๗ ปี รู้จักอโศกตั้งแต่ปี ๒๕๑๙ ตั้งเป้าหมายชีวิตว่า จะไปอยู่ในชุมชนของอโศก ที่ไม่มีเงินเดือน จะทำยังไงที่ชีวิตของเราจะใช้เงินน้อยที่สุด จึงคิดว่าทำอย่างไร จะสามารถ พึ่งตนเอง ได้มากที่สุด อยู่อย่างเรียบง่าย ประหยัด หลักในการใช้ข้าวของเครื่องใช้ จะคำนึงถึงว่าได้มา อย่างยากลำบาก ต้องใช้ให้คุ้มค่า คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะพลาสติกย่อยสลายได้ยากควรใช้ให้คุ้มค่าก่อนจะทิ้ง คิดถึงบุญคุณ ของคน ที่เขาอุตส่าห์สร้างขึ้นมา เช่น เสื้อผ้าที่ใช้นานที่สุด ๑๓ ปี สบู่ไม่เคยใช้ยกเว้นล้างมือ ร่วมคิดค้น ทำแชมพูสระผม น้ำยาล้างจาน-ซักผ้า ยาสีฟันจากสมุนไพร ยาสมุนไพรต่างๆ จนกลายเป็นสินค้า ออกวางจำหน่าย เวลาเดินทาง หากไป คนเดียว ก็ใช้รถเมล์หรือรถไฟมากกว่าใช้รถวัด ปัจจุบันประจำอยู่ที่ ศาลาเจาะวิจัย ปฐมอโศก

๖ เม.ย.
ธรรมะก่อนฉัน
"ธรรมทัวร์" โดย สมณะเพื่อพุทธ ชินธโร นำเสนอธรรมะจากสิ่งที่ได้ไปประสบมา จากการไปฝึกอบรมที่โรงเรียนคานาอาน ประเทศ เกาหลี ได้แง่คิดเรื่องกรอบของระเบียบวินัย สังคมที่มีระเบียบวินัยจะพัฒนา เพราะคนมีระเบียบวินัย จะไม่เอา แต่ใจตนเอง นึกถึงคนอื่นและส่วนรวม ความเข้มแข็งต้องมีความเมตตา มีความสุภาพ การนำศาสนาให้เข้าถึง วิถีชีวิต ชุมชน และเคล็ดลับพิเศษที่น่าจะฟังจากเท็ปคือประสบการณ์จริงจาก "ฟ้าผ่ากลางใจรอดตายปาฏิหาริย์" เมื่อเจอปัญหา และอุปสรรค จะเอาชนะใจตนเองได้ แม้เหตุผลของเราถูก แต่ถ้าหมู่ไม่เห็นด้วย เราก็ต้องยอม

ธรรมะทางเลือก
ธรรมะกระดานดำ "ปฏิบัติอย่ามั่วต้องมีหลักการนะ" โดย สมณะเก้าก้าว สรณีโย
ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ "ผญาพาไปถึงโลกุตระได้นะ" โดย สมณะนึกนบ ฉันทโส
ธรรมะจากสิกขมาตุ "ตั้งใจทนสู้เพื่อไปให้ถึงโลกุตระเถอะ" โดย สิกขมาตุบุญจริง พุทธพงษ์อโศก

ปลุกเสกภาคบ่าย
สัมมนากลุ่มย่อย แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่ม
๑. "การปฏิบัติธรรมแบบองค์รวม" โดย สมณะบินบน ถิรจิตโต และคณะ ที่ศาลาปลุกเสก
๒. ฝึกเจโตสมถะแบบตื่น เดินจงกรม โดย สมณะผืนฟ้า อนุตตโร ที่ลานขวนขวาย
๓. "ปฏิบัติธรรมกับการงานได้ผลเร็วมากจริงๆ" โดย สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน อโศกตระกูล ที่ศาลาธรรมทายาท
๔. เจาะลึกปัญหาส่วนตัว ที่คุ้มสมณะเกจิฯ และสิกขมาตุเกจิฯ

สัมมาอาชีพตามความสนใจ ประกอบด้วย
๑. กสิกรรมธรรมชาติ โดย อ.ข้าดิน ศรีเชียงสา ที่ใต้โบสถ์
๒. ปุ๋ยสูตรเด็ด โดย อ.ขวัญดิน สิงห์คำ ที่โรงปุ๋ย
๓. น้ำส้มควันไม้ โดย อ.แก่นฟ้า แสนเมือง ที่โรงน้ำส้มควันไม้
๔. อาหารเพื่อสุขภาพ โดย หมอใจเพชรและคณะ ที่อโรคยา
๕. อาหารมังสวิรัติต้นฉบับดั้งเดิม นายห้างมาเอง มีสมณะกลางดินเป็นที่ปรึกษา ที่โรงกี่

รายการภาคค่ำ
"กสิกรรมนำโชค" ดำเนินรายการโดย สมณะเดินดิน ติกขวีโร พูดเรื่องกสิกรรมใกล้ตัวที่สามารถนำโชคได้ ผู้ร่วมรายการประกอบด้วย

นายไพโรจน์ อัครสีวร สนับสนุนให้ปลูกพืชตระกูลถั่วเพราะจะเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญในอนาคต แข็งแรงและใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวฟ่างหางช้าง ลำต้นสูง ๕ เมตร แก้ปวดหลัง ทำให้ผมดำ ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแล รอเก็บเกี่ยวอย่างเดียว ตัดแล้ว สามารถงอก ติดต่ออีก ๓ ปี ชี้โทษของโปรตีนเกษตรว่ามาจากพืชที่อ่อนแอ อายุสั้น และมีจีเอ็มโอ กินไปนานๆ เซลล์จะพัฒนา เป็นเนื้องอก หรือมะเร็ง แนะให้นำเมล็ดถั่วต่างๆมาเพาะให้งอกแล้วนำมาปรุงอาหารทั้งผัด ลาบ แกง สนับสนุน ปลูกพืชที่แข็งแรง ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ใส่จุลินทรีย์ รอกินอย่างเดียว เช่น ถั่ว งา มัน ขมิ้นขาว ขมิ้นเหลือง ล้วนเป็นพืชที่มีพลังชีวิต มีสารอาหาร เปรียบเทียบการปลูกแครอทกับขมิ้น ยาก-ง่ายต่างกัน แต่พวกเรา กลับหันไปปลูกแครอทมากกว่า ขณะที่ปลูกขมิ้นช่วยทำให้ระบบนิเวศสมดุล เชิญชวนให้พวกเราช่วยกัน หาพันธุ์พืช ซึ่งเป็นอาหาร ที่แข็งแรง มาต่อพันธุ์พืชเพื่ออนาคต ฝักของต้นหางนกยูงมีโปรตีนกลูติน ทำให้กระดูก และเซลเหนียว เอามาแช่น้ำ ๑ วัน ๑ คืน แล้วต้ม ลวกเปลือก ทำแหนม ทำเป็นขนม หาได้ทั่วไปในประเทศไทย ไม่ต้องเสียเงิน เม็ดมะขาม เม็ดมะค่าโมง เม็ดมะค่าแต้ เอามาฝังดินทำเป็นถั่วงอก เอาฟางกลบ รดน้ำ ๑๕ วันงอกราก ก็เอามาปรุงอาหาร พืชตระกูลถั่ว ปลูกง่าย กินง่าย ได้ประโยชน์

นายแดง และแม่บ้าน เคยค้าขาย ทำฟาร์มเลี้ยงไก่ ทำบ่อเลี้ยงปลา เผลอไปสูดดมยาบ้าแค่ลมหายใจเข้า ทำให้ติดอยู่ ประมาณปีกว่า มีผลให้กระดูกฟันกรามไม่เข้าที่ กระดูกนิ้วโปนออกมา ขาดสติจนทำร้ายแม่บ้าน แต่เมื่อได้ฟังธรรม ที่ภูผาฟ้าน้ำ เลิกยา เลิกฟาร์มไก่ บ่อปลา เพราะเห็นว่าเป็นบาป กลับตัวกลับใจหันมาทำพืชน้ำผำ โดยบังเอิญ ถือว่าได้โชค ซึ่งทำได้ไม่ยาก จนประสบความสำเร็จในที่สุด มีรายได้เป็นเรือนหมื่นต่อเดือน ชีวิตและครอบครัว กลับมามีความอบอุ่น อีกครั้ง มีเวลาว่างก็มาช่วยงานในชุมชน

คุณยายใจเนียร สายยศ คิดที่จะช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมให้แก่ปฐมอโศก ทำกสิกรรมที่ปฐมอโศก โดยเฉพาะต้นกุ๊ยช่าย จนประสบ ความสำเร็จ มีกินได้ตลอดปี ปลูกง่าย ขายง่าย

คุณทองธรรมดา หมอดิน ที่รู้ปัญหาของดิน พูดพร้อมกับมีภาพประกอบให้ดูของจริง เคยปลูกองุ่นปลอดสารพิษ จนประสบความสำเร็จ สามารถกำหนดวันออกลูกขององุ่นได้ แต่ไม่สามารถกำหนดดินฟ้าอากาศได้ มีประสบการณ์ และความรู้ ในด้านกสิกรรมอีกหลายๆด้าน ทุกวันนี้ขวนขวายหาความรู้ด้านกสิกรรมอยู่เสมอ มีองค์ความรู้มากมาย ที่จะให้แก่แผ่นดิน ยินดีที่จะให้คำปรึกษา ถ่ายทอดแก่ทุกท่านฟรี

๗ เม.ย.
ธรรมะก่อนฉัน
"ปฏิบัติธรรม ไม่ต่ำต้อยน้อยหน้า" โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง การอยู่ระหว่างทางโลก-ทางธรรม บางช่วงที่เกิดความลังเล สงสัย เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงออกจากเส้นทางธรรม ในการปฏิบัติธรรมถ้ายอมรับความจริง จะทำให้เดินหน้าได้เต็มที่ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และทบทวนอดีตเพื่อแก้ไข ปัจจุบันชาวพุทธทั่วไปไม่เชื่อเรื่องตายแล้วเกิด และกฎแห่งกรรม จึงทำ สิ่งที่เลวร้าย แก่ตนและสังคม ท่านได้เล่าเหตุการณ์ต่างๆที่ยืนยันว่า การปฏิบัติธรรมไม่ต่ำต้อยน้อยหน้า เป็นความโชคดี ของชีวิต ที่ได้มาพบหมู่กลุ่ม ที่ปฏิบัติตรง ตามพุทธศาสนา

ธรรมะภาคพิเศษ
ธรรมะกระดานดำ "อ๋อ! บทบาทของอัตตาน่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ!" โดย สมณะร่มเมือง ยุทธวโร
ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ "คนคือคนจริงๆเช่นนี้" โดย สมณะหม่อน มุทุกันโต
ธรรมะจากสิกขมาตุ "ลีลาตัวตนของอิตถีภาวะในผู้หญิง" โดย สิกขมาตุมาลินี โภคาพันธ์

ปลุกเสกภาคบ่าย
พ่อท่านตอบปัญหา หัวข้อ "ตอบสุดสุดจนหลุดเทวนิยม"

รายการภาคค่ำ
สัมภาษณ์ปฏิบัติกร เรื่อง "วิสาขบูชารำลึก" ดำเนินรายการโดย สมณะเสียงศีล ชาตวโร เรื่องราวของวันวิสาขบูชาเมื่อปี ๒๕๒๔ เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้หลายคน ได้เปลี่ยนมาเป็น ญาติธรรม คนวัด นักบวชหญิง นักบวชชาย ผู้ร่วมรายการ ประกอบ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, สิกขมาตุรินฟ้า นาวาบุญนิยม, สมณะเด่นตะวัน นรวีโร และ สมณะกลางดิน โสรัจโจ

๘ เม.ย.
ธรรมะก่อนฉัน
"ล้างอวิชชา เข้าหาแก่นแท้" โดย สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน อโศกตระกูล การปฏิบัติธรรมที่มีวิมุติจะทำให้มีพลัง การทำงาน ต้องจับจิต อ่านจิต เข้าใจให้ชัด แล้วปฏิบัติ ตัวรู้และตัวละต้องทำพร้อมๆกัน การฟังธรรมอาจจะเข้าใจ แต่ถ้าไม่จับ สักกายะ จะไม่บรรลุธรรม

ศีลเปรียบดังสะเก็ด, สมาธิเปรียบดังเปลือก, ปัญญาเปรียบดังกระพี้ และวิมุติเปรียบดังแก่น ท่านฝากให้ญาติธรรม เปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อฉลอง ๗๒ ปีของพ่อท่าน ให้ถือศีลเพื่อความหลุดพ้น ทำความสงบเพื่อละหน่ายคลาย ทำความฉลาด มีปัญญาเพื่อพิจารณาให้จบสิ้น หมดตัวหมดตน ทุกอย่างมุ่งสู่แก่น คือวิมุติ

ธรรมะทางเลือก
ธรรมะกระดานดำ "ไฟชีวิตในการปฏิบัติธรรม" โดย สมณะกลางดิน โสรัจโจ
ธรรมะสำหรับผู้มาใหม่ "เบิกบานในการปฏิบัติ" โดย สมณะร้อยดาว ปัญญาวุฒโฑ
ธรรมะจากสิกขมาตุ "ผู้หญิงเราก็เจริญทางธรรมได้นะ" โดย สิกขมาตุพูนเพียร ชาวหินฟ้า

ปลุกเสกภาคบ่าย
พ่อท่านตอบปัญหา หัวข้อ "ตอบสุดสุดจนหลุดเทวนิยม"

รายการภาคค่ำ
"๒ นาทีทองพระเกจิฯ" สมณะเกจิฯ, สิกขมาตุเกจิฯ ให้ข้อคิด คติธรรม หลักธรรม เป็นกำลังใจในการนำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อถวาย เป็นปฏิบัติบูชา แด่พ่อท่าน ในวาระครบรอบอายุ ๗๒ ปี

๙ เม.ย.
วันสุดท้ายของงาน หลังทำวัตรเช้านักเรียนสัมมาสิกขาพร้อมญาติธรรมช่วยกันเก็บบุญ ก่อนฉัน ทีมงาน ตัวแทน ม.วช., ทีมประสาน น.ร.สัมมาสิกขาชั้น ม.๔ และ ม.๖, ชาวชุมชน กล่าวสรุปงานด้านต่างๆ กว่าจะมาเป็นงานปลุกเสกฯได้ ต้องใช้ แรงงานแรงใจจากเด็กและผู้ใหญ่เข้ามาช่วยกันดูแล เช่น โรงครัว, ศาลา, ถ่ายบาตร, โดยเฉพาะน้ำ แม้จะไม่ เพียงพอบ้าง แต่พวกเราก็อดทนไม่บ่นกัน

ค่าอาหารของแต่ละคนของผู้ที่มาร่วมงาน ตกคนละ ๒๖ บาทต่อวัน ตลอดงานคนละ ๑๘๒ บาท ถัวเฉลี่ยต่อ จำนวนทั้งหมด ๑,๕๐๐ คน ทั้งนักบวช และฆราวาส

สมณะเดินดิน ฝากว่า "การเดินตามรอยพระอรหันต์ก็คือการที่เราจะสมาทานศีลแต่ละข้อให้บริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า พระอรหันต์จะไม่ฆ่าสัตว์ตลอดชีวิต แม้เรามีความตั้งใจไม่ฆ่าสัตว์ให้ได้คืนหนึ่ง วันหนึ่ง ก็ได้ชื่อเดินตามรอยพระอรหันต์ ถ้าเราสามารถทำได้ตลอดชีวิตก็เป็นการเดินตามรอยพระอรหันต์ตลอดชีวิต ผู้ใดที่ชัดเจน เข้าใจในสิกขาบท ที่เราได้ สมาทาน ประพฤติปฏิบัติ ที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว ก็พึงรักษาสิ่งดีนั้นไว้ให้ได้ตลอดไป"

แม้อากาศจะร้อนแล้งไปทั่วทุกภาค แต่อาหารการกินพืชผักผลไม้ในงานกลับอุดมสมบูรณ์

แม้อากาศจะร้อน แต่อากาศภายในงานปลุกเสกฯกลับเย็นสบาย

ชาวอเทวนิยมควรมีลักษณะ, พฤติกรรม, ความคิด ดังนี้
๑. มีความคิดในเรื่องของการพึ่งตนเอง ในเรื่องของการดูแลสุขภาพตนเอง
๒. คอยเผากิเลสของตนเองอยู่ตลอดเวลา
๓. เชื่อในกัมมสัทธา(เชื่อกรรม), วิปากสัทธา(เชื่อผลของกรรม), กัมมัสสกตาสัทธา (เชื่อในผลของกรรม ที่เราทำอยู่ ทุกขณะ เสมอๆ), ตถาคตโพธิสัทธา(เชื่อปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า)

สุดท้ายขอจบด้วยคำกล่าวในช่วงอธิษฐานของพ่อท่าน เมื่อวันที่ ๙ เม.ย. ว่า

"ลูกๆทั้งหลายเอ๋ย พ่อนี้อายุยาว อายุมากขึ้นแล้ว ชีวิตของเราเกิดมาแต่ละคน ช่วงชีวิตหนึ่งได้พบพระพุทธศาสนา ได้พบธรรมะ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทานก็ดี ศีลก็ดี ภาวนาก็ดี เป็นหลักที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานเอาไว้ให้ ให้เราได้เรียนรู้ ศึกษาปฏิบัติ เพื่อพัฒนาตนเองให้สู่จุดที่สูงที่สุด ประเสริฐที่สุดในความเป็นคน ทุกคนเดินทาง ไปสู่ที่สุด คือตาย ที่ยังไม่ตายก็ดีนักหนาแล้ว แต่ไม่แน่ การตายเรารู้ไม่ได้ล่วงหน้า อย่าช้าอยู่เลยทุกคน ทานก็ดี ศีลก็ดี ภาวนาก็ดีนั้น เราได้ทำ เราได้เรียน เราได้ปฏิบัติประพฤติ ถึงที่สุดแห่งทาน ถึงที่สุดแห่งศีล ถึงที่สุดแห่งภาวนาแล้วหรือ ถ้าเผื่อเป็นไปได้ ทุกคนควรเร่งรัด พัฒนาตนเอง ควรจะต้องทำให้ตนเองเดินทางเข้าสู่จุดสุดจุดสูงให้ได้เร็ว ให้ได้สัมบูรณ์ ถ้วนทุกคนเทอญ"

- ทีมขวนขวาย -

- สารอโศก อันดับที่ ๒๘๑ มีนาคม ๒๕๔๘ -