1 15กย57
Paisal Puechmongkol
รัฐบาลเพิ่งแถลงนโยบายเสร็จ ยังไม่ทันได้ประชุม คณะรัฐมนตรี เป็นทางการเลย

พวกนักการเมือง ก็เปรี้ยวปาก แสดงฤทธิ์ เป็นปรมาจารย์ แนะโน่น ห่วงนี้ ที่ถ้ามองลึกๆ ก็แค่ลีลา ด่าล่วงหน้า

หุบปาก ดีกว่านะท่าน 80 ปีที่ละเลงชาติ หากทำถูกทำดี บ้านเมือง คงดีกว่านี้แน่

2 15กย57

พรุ่งนี้ ครม ประชุมเป็นทางการครั้งแรก คาดว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตั้ง

1. ผู้ช่วยรัฐมนตรี
2. เลขานายก รองนายก รัฐมนตรี
3. ที่ปรึกษานายก รองนายก รัฐมนตรี
4. ขรก การเมืองตำแหน่งประจำสำนักนายก

ตำแหน่งเหล่านี้ เป็นตำแหน่ง ที่ช่วยการทำงาน ของรัฐบาล

ในยุคนักการเมือง จะตั้งโดย ไม่ทันแถลงนโยบาย

ยุคนี้ ถวายสัตย์ และแถลงนโยบายแล้ว จึงทำหน้าที่ครับ

3 15กย57

คลื่นใต้น้ำก่อตัวและท่าทางจะลำพอง

คงลืมไปว่า คสช. ยังอยู่
กฎอัยการศึกยังอยู่
คิดบ้างสิว่า บ้านเมืองที่เป็นอยู่นี้ ดีกว่าหรือแย่กว่า ก่อนยึดอำนาจ
ถ้าดีกว่า จะก่อปัญหาทำไม
เสือแม้หมอบอยู่ อย่าได้หมายความว่า เสือตาย
ข้อยบอกได้ อย่างนี้แหละ พระคุณท่าน

4 15กย57

ก็แปลกดี

เทศกาลนี้เป็นเทศกาลฝน
กรีดยางได้น้อยหรือไม่ได้
ไฉนจึงเกิดคลื่นยาง
ไม่ค่อยเนียนมั๊ง
ทว่าราคายางตกนั้นต้องแก้
ปมหลัก ต้องทำลาย การผูกขาด ของบริษัทจีน

ต้องรีบตั้งศูนย์แปรรูปยางโลก ที่ภาคตะวันออก แล้วส่งเสริมการลงทุน ในการแปรูปยาง ให้เต็มที่ กุมอำนาจต่อรอง ตลาดยาง เสียเอง ก็จะแก้ปัญหายาง ถาวรได้

5 16กย57

บ้านเมืองนี้เป็นของเราทุกคน

แต่บางคนไม่ต้องการให้สงบสุข ปล่อยข่าวจังเลย ว่าจะปฏิวัติซ้อน อย่าตื่นตาม การปล่อยข่าวเลย

ครับ ทหารเขาใจถึงใจ รุ่นพี่รุ่นน้องโยงใย

เขาไม่เหมือน นักการเมืองหรอกครับ

6 16กย57

สนช. 4 คน ที่มีข่าวว่า ปปช. แถลงว่า ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น

น่าจะลาออกนะครับ อยู่ไปก็อายเขา และยังทำให้คนอื่น เสียหน้าด้วย

หนอยแน่ะ เป็นคนตรากฎหมาย แต่ไม่ทำตามกฎหมาย จะได้หรือ ปปช. เขาคงจัดการแน่

ลาออกเถิดครับ แต่ถึงลาออก ก็ถูกเพิกถอนสิทธิ์ เลือกตั้งอยู่ดี

7 16กย57

นักการเมือง ยังฉวยใช้ ข้าราชการจิ้งจก บางคนได้ เพราะอะไร

ก็เพราะสร้างความเชื่อว่า ไม่กี่เดือนก็ต้องเลือกตั้ง แล้วอั๊วก็จะกลับมา มีอำนาจอีก

ถ้าเมื่อใด ที่ข้าราชการเชื่อว่า รัฐบาลนี้จะอยู่ยาว นักการเมือง ก็แอบสั่งใคร ไม่ได้หรอก

8 16กย57

เมื่อวานน ี้ประชุมกับ นักวิจัยอาวุโส ในสังกัด กระทรวงพาณิชย์จีน ทั้งวัน

เขาบอกว่า จีนพร้อม ร่วมมือกับไทย ในทุกด้าน และหวังว่า ในโอกาสที่ นายกไทยไปจีน จะมีความร่วมมือ สำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์ แก่ทั้งสองฝ่าย

เขายังเตือน ให้ระวัง พวกแอบอ้าง รัฐบาลจีน ผมก็เตือนเขา ให้ระวัง พวกแอบอ้าง รัฐบาลไทย เหมือนกัน

9 16กย57

ต้องเร่งจัดการทรัพย์สินส่วนพระพุทธศาสนา
โดย สิริอัญญา
วันอังคารที่ 16 กันยายน 2557

เรื่องราวอันเป็นที่น่าสลดใจ ของชาวพุทธ ในห้วงเวลานี้ ประดังเข้ามา หลายเรื่อง ที่สำคัญคือ เรื่องพระราชาคณะผู้ใหญ่ ที่มีความสนิทชิดเชื้อ เป็นพิเศษ กับอดีตสมเด็จ พระราชาคณะ รูปหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องโยงใย เป็นเถาเทือกกับ การจัดการผลประโยชน์ ของวัด โสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ ชาวพุทธเป็นอันมาก มีความเลื่อมใส ศรัทธา

มีการโจษขาน ถึงความร่ำรวย ผิดปกติ ของพระภิกษุ ว่ามีความร่ำรวย นับพันล้านบาท และมีการนำเงิน อันเกี่ยวเนื่องด้วย การพระศาสนา ไปบำรุงญาติพี่น้อง นับร้อยล้านบาท

มีการโจษขาน ถึงการใช้ อำนาจหน้าที่ ของเจ้าคณะ ในการปลด รองเจ้าอาวาส เกือบสิบรูป เพื่อจัดส่งพระสงฆ์ ซึ่งเป็นพวกพ้องของตนเอง เข้าไปจัดการ ผลประโยชน์ ซึ่งมีมูลค่าปีละ หลายร้อยล้านบาท

นี่เป็นปรากฏการณ์ ยอดภูเขาน้ำแข็ง เพียงส่วนน้อยๆ ที่มีภูเขา แห่งผลประโยชน์ เทือกมหึมา ซ่อนอยู่ใต้น้ำ และมีอยู่ ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งยังไม่ต้องพูดถึง วัดบางวัด ที่ตั้งองค์กรอื่น ขึ้นมาถือครอง ทรัพย์สิน อันเป็นสมบัติของ พระศาสนา ซึ่งเป็นการตั้งท่า ยักยอกสมบัติ ของพระศาสนา ให้เห็นตั้งแต่ต้นแล้ว

ชาวพุทธไทยนี้ มีเวรมีกรรม ที่ได้รู้ได้เห็นสิ่งทั้งหลาย ที่กระทบกระเทือนใจ และบั่นทอน ความศรัทธา กระทั่ง เกิดการก่นด่า ให้เป็นบาป ด้วยน้ำใจ ทะนุถนอม และมุ่งบำรุง พระศาสนา เป็นความกระทบกระเทือนใจ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีใคร คิดอ่านแก้ไข เอาจริงเอาจัง กันเสียที

จึงทำให้เหล่าบรรดา อลัชชีและเดียรถีย์ ก่อกรรม ทำร้าย ทำลาย พระพุทธศาสนา ทำลายจิตใจ ชาวพุทธ ไม่หยุด ไม่หย่อน และด้วยความฮึกเหิม ลำพอง ดังนั้น จึงต้องเร่งรัด ให้มีการจัดการ แก้ไขปัญหาสำคัญ เสียชั้นหนึ่งก่อน

นั่นคือต้องเร่งจัดการ ทรัพย์สินส่วน พระพุทธศาสนา ให้เป็นเรื่อง เป็นราว เป็นการทำบุญกุศล ไว้กับพระศาสนา อันจะมีผล ทำให้ใครก็ตาม มีอายุยืนยาว สามารถอยู่ ในตำแหน่ง ได้ยาวนาน เพื่อการอันเป็นคุณ แก่ประเทศชาติ ศาสนา และประชาชน

จะต้องรีบจัดตั้ง สำนักงาน จัดการทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนา ในลักษณะเดียวกันกับ สำนักงานจัดการ ทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ แต่ต้องไม่ให้เป็น หน่วยงาน อยู่ครึ่งวัด ครึ่งบ้าน จนวัดก็ดูไม่ได้ บ้านก็จับไม่ได้ แล้วปล่อย ให้คนครึ่งทาง ทำมาหากิน เป็นประโยชน์ ส่วนตน ซึ่งเป็นอันตราย ไม่ต่างกัน

อันทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับ พระพุทธศาสนานั้น มีทั้ง ทรัพย์สินของวัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่กัลปนา ที่ศาสนสมบัติกลาง ที่วัดร้าง และ ทรัพย์สินของพระสงฆ์

พอกันที เลิกกันที ที่จะให้ทรัพย์สินของวัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่กัลปนา อยู่ในอำนาจ การจัดการดูแล ของสมภาร หรือหลวงตาแก่ ๆ หรือมัคนายก ที่งก ๆ เงิ่น ๆ ซึ่งมีแต่จะสร้าง ความเสียหาย และไม่ได้ประโยชน์ แก่พระพุทธศาสนา เพราะถึงแม้ว่า จะมีบทบัญญัติคุ้มครอง ในเรื่องอายุความ ที่ไม่ให้ผู้ใด ถือครอง เอาเป็นเจ้าของได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกัน ผลประโยชน์ของ พระพุทธศาสนาได้ ทรัพย์สินประเภท ดังกล่าวนี้ ทั้งหมด จะต้องโอนไป เป็นทรัพย์สินของ สำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนา และบริหารจัดการ โดยสำนักงาน ทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนา โดยตรง

สำหรับที่ศาสนสมบัติกลาง และที่วัดร้าง ซึ่งปัจจุบัน อยู่ในความรับผิดชอบดูแล ของกรมการศาสนานั้น ได้เป็นบ่อเกิด ให้ข้าราชการ ที่เกี่ยวข้อง ตกนรกหมกไหม้ เพราะยักยอกของ พระพุทธศาสนา มานับไม่ถ้วนแล้ว จึงสมควร ต้องโอนไป เป็นทรัพย์สินของ สำนักงาน ทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกัน

ทีนี้ก็เหลือ ทรัพย์สินของพระสงฆ์ ซึ่งมีอยู่ สองประเภท คือประเภทที่เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของพระสงฆ์รูปนั้น อันสามารถตกทอด เป็นมรดกได้ ตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ กับอีกประเภทหนึ่ง คือทรัพย์สินที่ถือว่า เป็นของสงฆ์ เมื่อตายแล้ว ต้องตกเป็นของวัด

ทว่าทรัพย์สิน ทั้งสองประเภทนี้ ยากจำแนก จึงเกิดเป็นปัญหา ให้เป็นข้อวิวาท ฟ้องร้องกัน ระหว่าง ทายาทกับวัด เป็นเนืองนิตย์ ซึ่งไม่เป็นผลดี แก่ใครเลย ดังนั้น ต้องตัดปัญหานี้เสีย นั่นคือ บรรดาทรัพย์สิน ของพระสงฆ์ นอกจาก ที่ขึ้นทะเบียน หรือลงบัญชีว่า มีอยู่ก่อนอุปสมบท ให้ตกเป็นของ พระศาสนา ทั้งหมด และเมื่อตาย ต้องโอน เป็นทรัพย์สินของ สำนักงาน จัดการทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนา

แค่นั้นก็ยังไม่พอ จะต้องมีบทกฎหมาย ห้ามมิให้พระสงฆ์ ถือครองทรัพย์สิน หรือเงิน มีมูลค่า รวมกัน เกินกว่า 200,000 บาท นอกนั้น ต้องโอนเป็นทรัพย์สิน ของสำนักงาน จัดการทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนา ทั้งสิ้น

ข้อนี้จะสอดคล้องกับ พระวินัย ซึ่งอย่าว่าแต่ จะถือครอง ทรัพย์สิน มากมาย ก่ายกอง เช่นนั้นเลย แม้ของขบฉัน โดยทั่วไป ก็มิให้ถืออยู่ ข้ามวันข้ามคืน ยกเว้นบางอย่าง ที่ให้ถือครองได้ 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง ยกเว้น จำพวกยา ที่อาจครอง และฉันได ้ตามที่มี พุทธานุญาตไว้

ในส่วนการบริหารทรัพย์สิน ส่วนพระพุทธศาสนานั้น ก็ต้องมีคณะกรรมการบริหาร ที่เป็น ผู้ซื่อสัตย์ สุจริต และมีความรู้เชี่ยวชาญ ในการบริหาร จัดการทรัพย์สิน และต้องจัดทำ บัญชีงบดุล ให้เป็นไป อย่างถูกต้อง เคร่งครัด และเปิดเผย

ต้องแถลง ผลประกอบการ เป็นราย 6 เดือน และผลกำไร จะต้องจัดสรร ไปบำรุงวัดวาอาราม และการพระศาสนา ส่วนพระสงฆ์ ก็ปฏิบัติพระธรรมวินัย และประกาศ พระธรรม คำสอนไป โดยไม่ต้อง ห่วงหน้า พะวงหลัง ในเรื่อง การจัดการทรัพย์สิน อันเป็นมลทิน และขัดขวาง ทางแห่งพรหมจรรย์ ดังนี้ ก็จะตัดเหตุของ ความเศร้าหมอง ของพระสงฆ์ ไปได้ไม่น้อยเลย.

http://www.paisalvision.com/content/88-features/12124----qq-16-57.html

10 16กย57

ความเสียหายกรณี แอร์พอร์ตลิ้ง ปิดไม่อยู่แล้ว เพราะต้องหยุด เดินรถแล้ว

บทเรียนคือ

1. ลงทุนนับแสนล้านบาท แต่ใช้ไม่เป็น บริหารไม่เป็น ต้องจ้างบริษัทมาเลย์บริหาร และหลายร้อยล้านบาท และขาดทุนเจ็งบ๊ง

2. ใช้รถไม่เป็น เสียหายจนต้อง หยุดเดินรถ

แล้วจะลงทุน รถไฟความเร็วสูงเอง มันลงทุนมากกว่า ทำยากกว่า หลายสิบเท่า และเสี่ยงเสียหาย ขาดทุนหลายเท่า

จะเสี่ยงซ้ำหนัก หรือว่าจะให้สัมปทาน ดีละครับ ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องก่อหนี้ และไม่มีขาดทุน

11 16กย57

ค่อยๆก้าวไปทีละก้าว จัดระบบการบริหารบ้านเมือง

นายก สั่งห้าม ขึ้นป้ายโฆษณาตัวเอง หรือมีภาพบุคคล

แต่ถ้าส่วนราชการ จะโฆษณาผลงาน ของหน่วยงาน ก็ให้ทำได้

ที่ขึ้นป้ายเลอะเทอะ ให้เอาลง

12 16กย57

นี่ก็ดี

นายก สั่งห้ามข้าราชการ จัดทัวร์ไปเที่ยวกัน

ถ้าไปราชการ ต้องมีผลงาน และต้องทำรายงาน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง

ความดีความงาม กำลังบังเกิดขึ้น เป็นลำดับๆไปหละครับ