ประกายธรรม ๖

"เมื่อใดคนจึงจะเป็นผู้มีประโยชน์ อย่างแท้จริง"

สมมุติ คนเช่น หมาไม่มีเจ้าของ เที่ยวเร่ร่อน หากินไปมื้อๆ วันๆ มันจะขยัน และรู้ว่าชีวิตคืออะไร ?

แต่ถ้า มันเกิดมีคนรับอุปการะเลี้ยงดู เป็นหมาในบ้าน มันก็จะกลายเป็น หมาหมดค่า ไม่รู้ว่า ชีวิตคืออะไร ? มันจะมีชีวิตอยู่ เพียงช่วยเจ้าของ ประจบเจ้าของ เพื่อเจ้าของจะได้รัก จะได้ขุนอาหารให้ดีๆ จะได้ความรัก จากเจ้าของมากๆ จะได้ยศ เมื่อซื่อสัตย์ และ เห่าดี หรือดุ จะได้สรรเสริญ เมื่อทำตนให้แสนรู้ คนอื่น โลกอื่น เป็นศัตรูหมด ใครๆ ก็ไม่สำคัญ เท่าเจ้าของ มันจึงหลงยึดเจ้าของ เป็นนายแห่งมัน

กลายเป็นผู้เต็มไปด้วยความหลง หมดบริสุทธิ์

คน ก็เช่นกัน ถ้าจิตหลงว่า ร่างกายนี้ เป็นนาย ก็จะเปรียบได้กับ หมาหลงเจ้าของ

ถ้ายังเป็นหมาไม่มีเจ้าของ มันจะไม่หลง และจะไม่ยึดอะไร มีชีวิตเพียงวันๆไป หากินใส่ปากใส่ท้อง อิ่มแล้วก็พอ ไม่ต้องทำตัวเอง เพื่อประจบประแจง ให้ใครรัก ไม่มีห่วง ชีวิตจะอยู่ก็เพียง อาหารเท่านั้น เป็นสำคัญ และสักแต่ว่า อาหารด้วย ไม่เลือกรูป เลือกกลิ่น เลือกรส ไม่เหมือนหมา ที่คนเลี้ยง ซึ่งได้รับ การขุนดีๆ เข้า ก็จะเลือกกินแม้อาหาร

หมาไม่มีเจ้าของ จะเต็มไปด้วยอิสระ ไม่มีภาระหน้าที่ใดๆ และจะไม่ทำอะไร เพื่อเห็นแก่อะไร มันจะไม่โลภ มันจะไม่ดุ (โกรธ) มันจะไม่หลง ในรูป ในรส ในกลิ่น ในเสียง ในสัมผัส

มันจะไม่อนาทรในการมุ่งอาศัย หรือยึดอะไร ให้เป็นเครื่องช่วยตนมากนัก หนาวหรือร้อน อ่อนหรือแข็ง ยุงจะกัด หมัดจะกิน มันก็จะไม่ลำบาก หรือมากเรื่อง เหมือนหมาเลี้ยง และจะไม่ตายง่ายๆ ด้วย "คนผู้หลง ร่างกายของตน หรือ หลงว่าตนมีชีวิต" ก็เช่นกัน จะต้องหาทุกสิ่ง มาให้ตน แต่จะไม่ทำตน ให้ง่าย เพื่อทุกๆสิ่ง คนผู้ฉลาดรู้ชีวิตแท้ รู้โลก หรือ รู้อริยสัจ ก็คือ ผู้ทำตนให้ง่ายที่สุด กับทุกๆสิ่ง ให้เป็นภาระ น้อยที่สุด กับทุกๆสิ่ง ให้เบียดเบียนน้อยที่สุด กับทุกๆสิ่ง เมื่อเขาผู้นี้ ไม่เห็นแก่ตน ไม่เบียดเบียนใครใด แรงกาย และแรงจิต (ปัญญา) ของเขาผู้นี้ ก็จะก่อประโยชน์ ให้แต่กับผู้อื่น และโลก ความเป็นผู้มีประโยชน์ ของคนผู้นี้ ก็จะเป็นปฏิภาคกลับ เป็นทวีคูณ ขึ้นมาเอง ตามความเป็นจริง นั่นคือ คนผู้นี้ เมื่อไม่อินังขังขอบ กับตัวเอง หรือไม่มัวหลง ประคบประหงม ฟูมฟักตัวเอง ก็จะเป็นประโยชน์ แก่ผู้อื่น หรือโลก แต่ถ่ายเดียว เท่านั้น.

๖ ตุลาคม ๒๕๑๓