แนะนำหนังสือ เกร็ดกรวด
[email protected]


บุญนิยม : นวัตกรรมสังคม
หนังสือชุดองค์กรบุญนิยม อันดับ ๑ ศาสนาและการสื่อสาร
บัวบูชา รักพงษ์ บรรณาธิการ
ศูนย์ข้อมูลองค์กรบุญนิยม จัดพิมพ์
ปีที่พิมพ์ : ตุลาคม ๒๕๔๖
๑๙๒ หน้า ๑๐๐ บาท (รวมค่าส่ง)

ท่านผู้อ่านที่สงสัยว่าคณะทำงานนิตยสาร "ดอกหญ้า" ทำงานได้อย่างไรโดยไม่มีค่าตอบแทน เอาเงินที่ไหน มาพิมพ์หนังสือ และอื่น ๆ นานาประการที่แสนสงสัย หนังสือชุด องค์กรบุญนิยม จะตอบข้อข้องใจทั้งปวง แถมจะทำให้ "รู้จัก" ทุกเสี้ยวส่วน ของชีวิตความเป็นอยู่ จะบอกเล่าว่า เราคิดอะไรและกำลังทำอะไร ที่สำคัญคือจะเปิดเผย นวัตกรรมสังคม ที่ชาวอโศก ร่วมกันสร้างสรรขึ้น ชื่อว่า "บุญนิยม"

สำหรับอันดับแรก ชื่อ "ศาสนาและการสื่อสาร" บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับงานเผยแพร่คำสอน ในพระพุทธศาสนา ที่สมณะโพธิรักษ์ นำมาอธิบาย และนำพาปฏิบัติ จนเกิดผลเปลี่ยนแปลง ชีวิตผู้คนนับร้อยนับพันคน ผู้คนเหล่านี้ ส่วนหนึ่ง ยังคงประกอบอาชีพอยู่ในสังคมเดิม แต่สละเวลาช่วยงานศาสนาได้บ้างตามกำลังของแต่ละคน อีกส่วนหนึ่ง ปลีกตัวออก จากสังคมเดิม ทุ่มเทชีวิตให้แก่งานพระศาสนา หนังสือชุดองค์กรบุญนิยม อันดับ ๑ ศาสนา และการสื่อสาร รวมเรื่องราว ตั้งแต่แรกเริ่มเกิดก่อจนถึงปัจจุบันของ "ชาวอโศก" ตั้งแต่เริ่มทำ หนังสือ เล่มแรกเมื่อเกือบสามสิบปีก่อน ที่ใช้พิมพ์ดีดพิมพ์ ออกมาได้ ทีละสามสำเนา จึงพิมพ์แจกกันอ่าน ได้ไม่กี่ฉบับ เดี๋ยวนี้ยอดพิมพ์เป็นหมื่น ต้องมีผู้ทำหน้าที่ จัดส่งหนังสือ ให้สมาชิกประจำ ซึ่งท่านได้เล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ หน้า ๑๒๗-๑๒๘ ว่า

"ทำงานตรงนี้ วันหนึ่งอ่านจดหมายหลายฉบับ จดหมายเข้าบางวันเป็นร้อย เราก็อ่าน บางทีคนต่างจังหวัด ได้รับหนังสือ ชาวอโศก ดีใจ วันๆ เขาก็รอแต่หนังสือ คนในโลกนี่ เขาต้องการธรรมะมาก เขาอยากอ่านหนังสือ ธรรมะของชาวอโศก จึงต้องพิมพ์ให้ท่วมโลก อาตมาประทับใจ ตรงที่ว่า มันเป็นงานที่ทำให้คนเขาดีขึ้น มันไม่น่าเบื่อหรอก เราก็ได้รับสื่อ ของชาวอโศกมาก่อน อ่านหนังสือ ฟังเท็ป สื่อทั้งนั้น สร้างเราให้มาถึงตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้น เราจะปฏิเสธได้อย่างไร เราก็ต้องทำต่อ คนรุ่นก่อนเขานำแล้ว ถ้าเขาไม่ทำ เราคนรุ่นหลัง ก็ไม่ได้รับประโยชน์ คลื่นลูกหลังได้รับแรงจากคลื่นลูกแรก ก็ควรจะส่งแรงให้คลื่นลูกต่อไป รับช่วงทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรง จนกว่าจะตาย จนกว่าจะถึงจุดที่ทำไม่ได้"

เนื้อหาในเล่มประกอบด้วยเรื่องราวของ ๕ องค์กรหลักของชาวอโศก คือ มูลนิธิธรรมสันติ กองทัพธรรมมูลนิธิ สมาคมผู้ปฏิบัติธรรม ธรรมทัศน์สมาคม และมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน และ หน่วยงาน ที่ทำงานด้านการสื่อสาร เช่น โรงพิมพ์มูลนิธิธรรมสันติ โครงงานถอดเท็ปธรรมะ ออกพิมพ์ให้ท่วมโลก เครือข่ายอินเตอร์เน็ต อโศก วิทยุชุมชน ฯลฯ

สั่งซื้อหนังสือ "บุญนิยม : นวัตกรรมสังคม" ได้ที่ธรรมทัศน์สมาคม ๖๗/๕๐ ถ.นวมินทร์ คลองกุ่ม บึงกุ่ม กทม. ๑๐๒๔๐ โดยธนาณัติเงินตามจำนวนหนังสือที่ต้องการ (เล่มละ ๑๐๐ บาท รวมค่าส่งแล้ว) สั่งจ่าย ธรรมทัศน์สมาคม ปณ.คลองกุ่ม



อนุปุพพิกถา
สมณะโพธิรักษ์ บรรยาย
รินธรรม อโศกตระกูล บรรณาธิการ
โครงการหิ่งห้อย จัดพิมพ์
ปีที่พิมพ์ : ธันวาคม ๒๕๔๖
๓๒ หน้า ๑๒ บาท (สั่งซื้อที่ธรรมทัศน์สมาคม เพิ่มค่าส่งเล่มละ ๓ บาท)

โครงการหิ่งห้อยเกิดขึ้นจากความสำนึกในคุณค่าของคำสอนของพ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์ ที่สามารถ เปลี่ยนแปลง ความคิดและพฤติกรรมของคนที่เคยคิดถึงแต่ตนเอง ให้รู้จักคิดถึงผู้อื่น กล้าขัดเกลาตนเองให้ขยันขันแข็งและเสียสละ กลุ่มคนที่มีความสำนึกดังกล่าว จึงคิดว่า น่าจะได้เผยแพร่คำสอนของท่านให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสแก่เพื่อนมนุษย์ ที่จะได้ศึกษา และทดลองลงมือปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงตนเอง ภารกิจหลักของโครงการหิ่งห้อย จึงคือการคัดเลือก พระธรรมเทศนาที่ถอดเท็ปไว้แล้ว มาเรียบเรียง และจัดพิมพ์เผยแพร่ ให้มากที่สุด ซึ่งในขั้นต้นนี้คาดว่าจะจัดพิมพ์ได้เดือนละ ๑ เรื่อง แต่ละเรื่อง หนาประมาณ ๓๒-๖๔ หน้า ราคา ๑๒-๒๐ บาท

เรื่องแรกที่โครงการหิ่งห้อยเลือกมาจัดพิมพ์คือ "อนุปุพพิกถา" ซึ่งพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ บรรยายไว้เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๓๖ ณ พุทธสถานสันติอโศก เนื้อหากล่าวถึงการปฏิบัติธรรม ตามลำดับ คือ ทาน ศีล สวรรค์ การพิจารณาโทษของกาม และการออกจากกาม

ขอยกตัวอย่างบางตอน จากหนังสือเล่มนี้ดังนี้

"เหมือนกับเรากินอาหารที่คนอื่นเขาอร่อย เราก็กินอย่างนั้นแหละ กินรสอย่างคนอื่นเขาก็ได้ แต่เขามีตัวอร่อย เราไม่ต้อง มีอร่อยนั้น แต่ได้กินรสเดียวกัน ถ้าของอย่างเดียวกัน คนอื่นกิน เขาก็ได้รสอย่างนั้น มันหวานก็หวาน มันเค็มก็เค็ม มันขมก็ขม มันเปรี้ยวก็เปรี้ยว เหมือนกัน รสนั้นมันไม่ประหลาดอะไร มันเป็นรส ของจริงตามความเป็นจริง แต่อัสสาทะ รสอร่อย ที่มันเป็นอุปาทาน มันเป็นรสโลกีย์ การมีของโลกียะ ของโลกๆ เรียกว่าโลกียรส เป็นสวรรค์ อย่างโลกียะ ที่จะต้องได้รับรสอร่อย แล้วก็ได้เกิด รสอร่อย นั่นคือสวรรค์โลกีย์"

ท่านที่สนใจจะติดตามหนังสือของโครงการหิ่งห้อยอย่างต่อเนื่อง สามารถสมัครเป็นสมาชิก โดยแจ้งชื่อและที่อยู่ ไปที่ธรรมทัศน์สมาคม ๖๗/๕๐ ถ.นวมินทร์ คลองกุ่ม บึงกุ่ม กทม. ๑๐๒๔๐ พร้อมธนาณัติค่าหนังสือ ๑๒ เล่ม (๑ ปี) จำนวน ๒๐๐ บาท สั่งจ่าย ธรรมทัศน์สมาคม ปณ.คลองกุ่ม ท่านจะได้รับหนังสือ เดือนละ ๑ เล่ม และหนังสือพิเศษ ที่ออกเฉพาะโอกาสพิเศษ อีกปีละ ๑ เล่ม (ราคาประมาณ ๕๐-๗๐ บาท)


สอนลูกให้คิดเป็น
เสรี พงศ์พิศ เขียน
สำนักพิมพ์ภูมิปัญญาไทย จัดพิมพ์
ปีที่พิมพ์ : สิงหาคม ๒๕๔๖
๒๕๖ หน้า ๑๘๐ บาท (สั่งซื้อที่ธรรมทัศน์สมาคม เพิ่มค่าส่งเล่มละ ๑๐ บาท)

ผศ.รัศมี กฤษณมิษ บอกว่า "สอนลูกให้คิดเป็น" เป็นหนังสือที่ดีมาก (ด้วยสารพัดเหตุผล ที่เธอยกมาเล่า แต่ถ่ายทอดไม่ได้ เพราะฟังไม่ทัน) จะซื้อให้ห้องสมุด แต่ไม่ยอมซื้อให้ใคร เป็นส่วนตัว ดิฉันก็เลยต้องไปหาซื้อมาอ่านเอง (อาจารย์รัศมี เธอมีวาทศิลป์ ใครได้ฟังแล้ว เหมือนต้องมนต์สะกด) ทั้งๆ ที่มีงานจะต้องทำ อีกมากมายมหาศาล ล้วนแต่งานด่วน ด่วนมาก และ ด่วนที่สุดทั้งสิ้น ซื้อมาแล้วจะไม่อ่านก็ใช่ที่ ชื่อเสรี พงศ์พิศ เป็นแรงดึงดูดใจ ให้ต้องเปิดดูว่า อาจารย์มีความคิดอะไรใหม่ ๆ มาให้เราเรียนรู้อีก

อ่านแล้ววางไม่ลง
อิ่มใจ

อาจเป็นเพราะชอบหนังสือเป็นทุนเดิม ใครมาเล่าเรื่องห้องสมุด เรื่องร้านหนังสือ เรื่องหนังสือ ก็จะตื่นเต้นตาโตทุกที หนังสือ "สอนลูกให้คิดเป็น" ใช้วิธีการเขียนจดหมาย จากพ่อถึงลูก ชายหญิง ๒ คน เล่าเรื่องหนังสือและหนังอย่างละ ๑๐ เรื่อง พร้อมทั้ง ชี้ประเด็นที่ควรขบคิด และใช้ดวงจิตซับซึมอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้เขียนสื่อผ่านอักษรและตัวละคร ก่อนจะยกตัวอย่าง มาให้ลองอ่าน ลองดูสารบัญ ๒๐ เรื่องในจดหมาย ๒๐ ฉบับกันก่อน ว่าด้วยหนังสือคือ เจ้าชายน้อย โจนาทานฯ ต้นส้มแสนรัก กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โลกของโซฟี นิกกับพิม ข้าพเจ้าทดลองความจริง จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ บันทึกเพื่อนชีวิตใหม่ คืนสู่รากเหง้า และว่าด้วยหนัง ได้แก่ Life is Beautiful, A Beautiful Mind, Contact, The Gift, The Hurricane, Traffic, Hero, My Life, From Mao to Mozart และ "ประชาชนนอก" เห็นภาษาอังกฤษแล้ว อย่าเพิ่งตกใจ ในเล่มผู้เขียน อาจจะใช้ภาษาอังกฤษบ้าง ถือว่าเป็นโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ถ้ามีเวลาไปค้นหา ความหมายเพิ่มเติมได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มีเวลา เพียงรับฟังไว้ทำนอง รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม
อย่างในหน้า ๑๕-๑๖ อาจารย์เสรี พงศ์พิศ เล่าเรื่องเจ้าชายน้อยไว้ว่า

เจ้าชายน้อยพบว่า มีสวนที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบ เขาผิดหวังมาก เพราะที่บ้าน (ดาว) ของตัวเอง มีดอกกุหลาบอยู่ดอกหนึ่ง และเคยเชื่อ มาตลอดว่าเป็นดอกเดียวในจักรวาล เพราะเป็นดอกที่ตนเองรัก ความรักทำให้สิ่งที่เรารัก หรือผู้ที่เรารักเป็นสิ่งพิเศษ เป็นคนพิเศษ เสมอ และความพิเศษนั้นมาจากใจ ไม่ได้มาจากเหตุผล หรือมาจากสิ่งที่ตาเห็น "A person can only see with the heart, for eyes are often blind of beauty"

สำหรับเรื่อง โจนาทาน ลิฟวิงสตัน นางนวล อาจารย์เสรี พงศ์พิศ แทรกเรื่องของตนเองไว้ดังนี้

พ่อเป็นคนในรุ่นนั้น และอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยความรู้สึกเหมือนคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ในยุคนั้นว่า ตัวเองคือ นางนวลโจนาทาน สัญลักษณ์แห่งวิญญาณเสรี ผู้แสวงหา เรียนรู้ และเข้าถึงความจริงแห่งชีวิต ความจริง ที่ทำให้คนเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง คิดได้ ตัดสินใจได้ รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร เดินไปทางไหน สู่จุดหมายใด

ไม่ใช่เดินทางเก่า ทางเดิมที่ใครๆ สร้างไว้และกำหนดให้เดิน โดยไม่รู้ว่า จุดหมายปลาย เป็นอะไรจริงๆ มีแต่ใครบอกให้เชื่อ ให้ฟังกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่สั่งสมเป็นภาระอันหนัก ที่ส่งต่อ จากคนรุ่นหนึ่ง สู่อีกรุ่นหนึ่ง รุ่นแล้วรุ่นเล่า เป็นโซ่ตรวน แห่งประวัติศาสตร์

หนังสือเล่มนี้มีส่วนสำคัญ ในการตัดสินใจ "แหกคอก" ของพ่อ คอกที่พ่อคิดว่า มีคนต้อน เข้าไปขังไว้ พ่อแหกคอก แหกกฎ ออกมาสู่เสรี ด้วยความเจ็บปวด และไม่เคยเสียใจ หรือ เสียดาย ที่ได้ตัดสินใจดังกล่าว และเข้าใจด้วยว่า ไม่มีเสรีภาพใด ได้มาโดยไม่เจ็บปวด

สำหรับหนัง เรื่อง Life is Beautiful ขอยกตอนที่ ผู้เขียนพูดคุยกับลูก หลังจากเล่าสาระ ที่ได้จาก หนังเรื่องนี้แล้ว
ในหน้า ๑๕๕ ว่า

พ่อย้ำอีกครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ว่าเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะอยู่อย่างมีความหมาย และ มีความสุขได้ หากเราเข้าใจ คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ เพื่อคนที่เรารัก เพื่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะ คนที่ทุกข์ทรมาน เพราะความอยุติธรรมในสังคม

ในความเป็นจริง เราอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์ได้ เราอาจจะไม่สามารถ หลีกเลี่ยง ความเจ็บปวด ความ เจ็บป่วย และความตายได้ แต่เราสามารถทำให้โลกนี้และชีวิตนี้ สวยงามได้

ช่วงนี้ลูกอยู่ในวัยรุ่น ลูกรู้ดีกว่าพ่อว่าจะสร้างโลกสวยงามด้วยคุณค่าอย่างไร สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะอายุ มากน้อยเพียงใด คือเราจะต้องสร้างโลกของเราเอง โดยไม่ยอมให้สังคม และ คนอื่น หยิบยื่นโลก แห่งความโหดร้ายเลวทราม แบบสำเร็จรูปให้

ขอให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง และกรองโลกเลวร้ายนั้นให้ใสสะอาด สดสวย ด้วยคุณค่า เป็นโลกที่ลูก สร้างด้วยตัวเอง โลกที่ลูกภูมิใจ

พ่อกับแม่จะร่วมกันสร้างโลกที่สวยงามนี้กับลูก สมัยที่จิตใจยังฟูๆ แฟบๆ ดิฉันอาศัยหนังสือดีๆ อย่างนี้แหละ เยียวยาจิตใจ หนังสือเป็นเพื่อน เป็นครู เป็นหมอ ทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วย "ดี" เดี๋ยวนี้ฟูแฟบน้อยลง คงที่มากขึ้น ก็ยังอาศัยหนังสือ เป็นเพื่อน เป็นครู เป็นหมอ เพื่อชีวิต ที่อบอุ่น ทรงปัญญาและแข็งแรง

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๐ พฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๕๔๖ -