สายเกินไปไหมที่จะกล่าวคำ "สำนึกดีปีใหม่" ในเดือนกุมภาพันธ์

เดือนที่ดอกไม้ในหัวใจใครต่อใครคล้ายจะบานสะพรั่ง

เห็นชื่อฉบับนี้แล้ว อย่าเพิ่งตกอกตกใจว่า ดอกหญ้าจะชวนไปรบทัพจับศึกหรือก่อการร้ายที่ไหน

แต่แรกจะชื่อ "สู้เพื่อรัก" แต่คุณสมพงษ์บอกว่า 'เชย' แถมคุณรินธรรมบอกว่า 'เบื่อ' และใครอีกบางคนบอกว่า 'เอียน' (คณะนี้เขาพูดกันคนละคำอย่างนี้แหละ)

อ๊ะ...อ๊ะ โปรดอย่าคิดว่า กอง บก.ดอกหญ้าช่างโหดร้าย แห้งแล้งเสียเหลือเกิน เพราะอันที่จริง เราต่างมีรักมากมายมหาศาลเกินมิติรักแค่สองเราต่างหาก แล้วก็คุณสมพงษ์อีกนั่นแหละที่ให้ชื่อ "สู้เพื่อแผ่นดิน" (สมกับเป็นลูกหลานพระเจ้าตาก เพราะอยู่วงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี) เพราะหากเราไม่ช่วยกันรักษา โอบอุ้มแผ่นดิน โอบอุ้มโลก ตลอดจนสิ่งแวดล้อมประดามีก่อนที่จะ 'ม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร' แล้ว เราทั้งหมดก็คงไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปเป็นแน่ ป่วยการกล่าวถึงเยาวชนคนรุ่นหลัง จะมีพสุธาที่ไหนให้อาศัยได้เล่า

...มาเถิดอย่าช้า อยู่ไหนรีบมาคว้ามีดพร้าและจอบเสียม มาปลูกย้ำธรรมเนียม เตรียมไถไร่นาป่าสวนมวลพืชพันธุ์ มาสร้างคนร่วมกันรังสรรค์บ้านเมือง ประเทืองประทีปไทย เมื่อเกิดมาเป็นคน ทุกชีพชนม์ฝันใฝ่ สูงสุขจริงยิ่งใหญ่ ต่างไขว่ต่างคว้า ทุกข์ทนฟันฝ่า เพื่อจะพาชีวิตดี หากใครเชื่อกรรม สมรรถะทำเต็มที่ ขยันสร้างสรรแล้วพลี ย่อมมีคุณค่าแท้ ทั้งเป็นทรัพย์แก่ ผู้แผ่บุญหนุนโลก (เพลง สมรรถภาพ/ครูรัก รักพงษ์)

ใช่แต่พี่น้องเกษตรกรเท่านั้นที่จะเป็นผู้รังสรรค์บ้านเมือง คนอยู่เมืองนั่นแหละตัวการใหญ่ที่จะต้องชดเชยและช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม ด้วยวิธีไหน...ก็บอกกันมาตลอดทุกเล่ม รวมทั้งเล่มนี้ด้วย

ดอกหญ้าดอกน้อยยืนหยัดจนขึ้นปีที่ ๒๐ แล้ว ยังครบครันด้วยนักเขียนทั้งขาประจำและขาจร ฝ่ายศิลป์ผู้ตั้งใจจัดทุกหน้ากระดาษให้งดงามลงตัว รวมทั้งผู้ออกแบบปกอย่างพิถีพิถัน แล้วจะหารักใดยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกหนอ

ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗