ปัจฉิมลิขิต - กอง บก. -

รับอาสาสมัครทำงาน ฟรี
และขอรับบริจาคกระดาษหน้าเดียว
โครงการวิจัยชุมชนชาวอโศก และโครงการพิมพ์หนังสือธรรมะให้ท่วมโลก

ขอความช่วยเหลือจากท่านผู้อ่าน ๒ ประการ

๑. รับอาสาสมัครพิมพ์ต้นฉบับพระธรรมเทศนาจำนวนมาก ท่านที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ พิมพ์ดีดเป็นและยินดีสละเวลาช่วยพิมพ์งานโดยไม่รับค่าตอบแทน

๒. ขอรับบริจาคกระดาษ A ๔ ที่ใช้แล้วหน้าเดียว ยังอยู่ในสภาพดี แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ท่านที่ยินดีบริจาค กรุณาส่งไปรษณีย์ ประเภทสิ่งตีพิมพ์ ค่าส่งกิโลกรัมละ ๑๓ บาท

กรุณาติดต่ออาสาช่วยงานหรือส่งกระดาษไปที่ คุณรินธรรม อโศกตระกูล ตู้ ปณ.๑๒ ปณ.คลองกุ่ม กทม. ๑๐๒๔๐

ขอบคุณอย่างยิ่งในความร่วมมือ


 

อยากใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบในสังคมที่มากด้วยคนจิตใจดี
*** นลินทยา ปลอบชม/นนทบุรี

- ความยากลำบากของการอยู่ ในสังคมที่ดีก็คือการที่ต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ การควบคุมตนเอง ให้ปฏิบัติเคร่งครัดในศีลและกฎระเบียบก็ยากอยู่เหมือนกันนะคะ แถมต้องขยันทำงานอีก ดิฉันเคยทราบมาเหมือนกันว่า ถ้าจะไปอยู่วัด ต้องมีเงินจำนวนหนึ่งเก็บไว้ใช้บ้าง สำหรับชุมชนต่างๆ ของชาวอโศกนั้น ผู้ที่อยู่ในชุมชนไม่ต้องมีเงินส่วนตัวก็ได้ค่ะ ส่วนใหญ่จะทำงานให้ส่วนกลาง ไม่มีรายได้ส่วนตัว ส่วนกลางมีปัจจัยสี่ให้ พอเพียงแก่ความจำเป็น หรือบางงานอาจมีรายได้บ้าง แต่ก็ต่ำมาก ไม่เกินเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท ก็จะมีปัญหาเวลาที่เราต้องการสิ่งที่ไม่จำเป็นนี่ล่ะค่ะ ส่วนกลางไม่ให้เบิก หรือว่าต้องใช้จ่ายเกิน ๒,๐๐๐ บาท ที่ได้รับ ต้องฝึกควบคุมความต้องการของตนเองให้ดีก่อน แล้วก็ทดลองไปอยู่สักอาทิตย์สองอาทิตย์ ค่อยตัดสินใจค่ะ


ฉันกำลังจัดสรรชีวิตอยู่ว่าจะทำยังไงดี ระหว่างอยู่ในครอบครัวถือศีลห้า ทำมาหากินอยู่ที่บ้านตามวิถีที่ศีลห้าพาไป กับเข้าร่วมกลุ่มของชาวอโศกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตลอดชีวิตโดยเอาลูกไปอยู่ด้วย
*** ดวงพร พิลาชัย/มหาสารคาม

- การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนตัดสินใจควรลองไปอยู่ในชุมชนดูก่อนเป็นระยะ ไปครั้งละอาทิตย์บ้าง ครั้งละสองอาทิตย์หรือเดือนหนึ่งบ้าง ถ้ามั่นใจว่าอยู่ได้โดยไม่ยากไม่ลำบาก ค่อยตัดสินใจนะคะ


 

ดิฉันมีปัญหาเรื่องการทานมังสวิรัติ เพราะว่าทานทีไร ดิฉัน มีอาการเหมือนไม่มีแรง ความดันโลหิตต่ำ ดิฉันมีอาการอย่างนี้มาหลายครั้งค่ะ อาการก็เป็นเช่นเดิม
*** เสาวลักษณ์ บุญประวัติ/พิจิตร

- พวกเราที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหลายคนก็ความดันโลหิตต่ำค่ะ อาจเป็นเพราะจิตใจสงบลงด้วยกระมังคะ ส่วนเรื่องไม่มีแรงนี่ แก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกายค่ะ แล้วก็รับประทานอาหารให้ครบธาตุอาหาร ถั่ว งา ข้าวกล้อง ผักสด ผลไม้ ต้องรับประทานทุกวัน ขาดไม่ได้นะคะ โดยเฉพาะข้าวกล้อง กินมากๆ หน่อย จะได้มีพลัง อาหารประเภทไขมันก็ต้องรับประทานบ้าง อย่ามากหรือน้อยเกินไป บางคนไม่รับประทานไขมันเลย ก็ขาดธาตุที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แล้วก็ควรหาอาหารเผ็ดร้อนอย่างพริก พริกไทย ขิง ข่า หอม กระเพรา และเครื่องเทศทั้งหลาย มารับประทานด้วยค่ะ


 

ตั้งสัจจะให้ตัวเอง จะเลิกดื่มกาแฟ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจะปวดหัวมาก แต่ก็จะพยายาม จะต่อสู้กับความเจ็บปวด จะอดทนจนถึงที่สุด
*** พรสวรรค์ สุทธิอาจ/สกลนคร

- ถ้ายากเกินไปที่จะเลิกทีเดียว ค่อยๆ ลดลงก็ได้ค่ะ เช่น เคยดื่ม วันละ ๓ แก้ว ก็เหลือสองแก้วหรือแก้วเดียว หรือจากที่เคยดื่มทุกวัน ก็ไม่ดื่มวันจันทร์ วันอังคาร หรือวันใดวันหนึ่งตามแต่จะตั้งใจ

เป็นการฝึกจิตใจให้เข้มแข็งด้วยค่ะ หัดฝืนใจตัวเองวันละเล็กละน้อย เจอปัญหาอะไร ก็จะไม่พ่ายแพ้ง่ายๆ


 

ดอกหญ้าช่วยเปลี่ยนนิสัยของผมมาก แต่ยังขาดเรื่องมุสาวาท ไม่โกหกแต่ชอบด่า ไม่ทราบว่าจะแก้ให้หายได้อย่างไรด
*** ชาตรี เกษดี/พิษณุโลก

- แล้วคนถูกด่าเขาไม่โกรธหรือคะ ขั้นตอนแรก คุณชาตรีพิจารณา โทษของการพูดจาก้าวร้าว ไม่สุภาพ รวมไปถึงการด่าคนอื่น จดไว้นะคะว่ามีกี่ข้อ เอาไว้อ่านทบทวนบ่อยๆ ต่อจากนั้นก็ตั้งข้อกำหนดให้ตัวเองว่า เมื่อไรที่หลุดปากด่าใครไม่ว่ามากน้อย จะต้องทำอะไรสักอย่างชดใช้ เช่น เอ่ยขอโทษเขาพร้อมยกมือไหว้ อาสาช่วยงานเขา หรือลงโทษตัวเอง เช่น งดสิ่งที่ตนเองติด งดอาหารที่ชอบ หรือทำสิ่งดีๆ ที่ไม่ชอบ/ ไม่เคยทำ เช่น ทำความสะอาดถนนหน้าบ้าน ไปวัดฟังธรรมหรือฟังเท็ปธรรมะ ฯลฯ


 

๑. เวลาดิฉันง่วงนอน ทำให้ไม่สามารถนั่งสมาธิได้ มีวิธีแนะนำบ้างไหมคะ
๒. เมื่อดิฉันทำสิ่งที่คิดว่า ถูกต้องดีงามแล้ว ก็จะมีผู้คนชื่นชมว่าเป็นคนดี มีวิธีคิดอย่างไรบ้างคะ ดิฉันจะไม่หลงตัวเองกับ คำชื่นชมเหล่านั้น

*** เกียรติชัย อุฬารพาณิชกุล(แทน) อุดรธานี

๑. ถ้าง่วงนอนก็ไม่ควรนั่งสมาธินะคะ น่าจะเดินจงกรมดีกว่า หรือหางานทำ ๒. มีคนชมก็ดีแล้วค่ะ จะได้ เป็นกำลังใจให้ทำดีต่อไป แล้วก็ต้องทำดีให้ยิ่งๆ ขึ้นอีก มีความดีอย่างอื่นที่ต้องทำอีกมาก อีกอย่าง หนึ่งที่อยากจะขอเสนอแนะคือ ถ้าเห็นคนอื่นทำอะไรดีๆ ก็ชมเขาบ้างนะคะ


 

ดิฉันควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรต่อ เพราะทุกวันดิฉันสวดมนต์ นั่งสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ
*** กันยา จารุสวัสดิ์/เชียงใหม่

ลองเสียสละแรงงานทำประโยชน์ให้ผู้อื่นโดยไม่รับค่าตอบแทนบ้าง ดีไหมคะ เวลาทำงานจะมีเรื่องกระทบกระทั่งให้ได้เรียนรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น จะได้ฝึกควบคุมอารมณ์ได้เก่งขึ้น ที่ถนนมหิดล อำเภอเมือง เชียงใหม่ มีร้านชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย ต้องการแรงงานฟรี ช่วยล้างจาน หั่นผัก ทำความสะอาด ถ้าสนใจลองไปเยี่ยมชิมอาหารดูก่อนก็ได้ค่ะ


 

๑. ควรทำอย่างไรจึงปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงธรรมะ
๒. การมองตัวเองภายใน มองได้อย่างไร
๓. ฝึกให้อยู่กับคนที่ชอบแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ทำได้อย่างไร
๔. ทำอย่างไรให้ใจเป็นสุขในท่ามกลางสิ่งเลวร้าย
๕. มองโลกอย่างไรให้เป็นสุข
๖. การต่อสู้กับอุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

*** รำไพณี วงศ์ชัย/เชียงราย

๑. ควบคุมกาย วาจา จนกระทั่งมีผลถึงจิต จนเป็นพฤติกรรม ปกติ เช่น กายไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่เป็นเหตุให้เบียดเบียนหรือฆ่าสัตว์ ไม่เอ่ยวาจาใช้ให้คนอื่นไปเบียดเบียนหรือฆ่าสัตว์ ใจก็ไม่คิดเบียดเบียนหรือฆ่าสัตว์ เมื่อห้ามกาย วาจา ใจ จากบาปอกุศลแล้ว จึงพัฒนาไปสู่คุณธรรมที่สูงขึ้น คือ เมตตาธรรม กายช่วยเหลือสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ วาจากล่าวถ้อยคำที่เป็นไปเพื่อช่วยเหลือสัตว์ และใจคิดแต่จะช่วยเหลือสัตว์ ถ้าทำดังนี้ได้จนเป็นปกติธรรมชาติ ก็ถือว่าเข้าถึงธรรมะประการหนึ่ง ธรรมะข้ออื่นก็เช่นกัน มีขั้นตอนการพัฒนาตนเองให้เข้าถึง ได้ตามลำดับทำนองนี้

๒. มองดูว่าตัวเองมีกิเลสอกุศลอะไรบ้างที่ต้องรีบกำจัดละลด และมีกุศลใดที่พึงรักษาไว้และกระทำให้ยิ่งขึ้น การมองตนเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการบันทึกประจำวัน ตรวจสอบตนเองว่า แต่ละวันคิด พูด ทำอะไรบ้างเป็นกุศล อะไรบ้าง เป็นอกุศล แล้วเวลาที่เกิดอกุศลจิต จัดการกับจิตอย่างไร พอชำนาญแล้ว ตรวจสอบประจำวันก็จะช้าไป ต้องพยายามรู้ตัวให้ได้ทุกขณะจิต

๓. เข้าใจความจริงตามความเป็นจริง ไม่ต้องตั้งเกณฑ์มาตรฐานไปวัดใคร ตั้งเกณฑ์วัดตัวเองคนเดียวก็พอ สำหรับคนอื่น ต้องใช้คาถาของหลวงปู่พุทธทาสที่ว่า "เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่ มีประโยชน์ แก่โลกบ้าง ยังน่าดู ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย" แล้วก็เมตตาเขาให้มากนะคะ

๔. เอาสิ่งเลวร้ายมาเป็นกำลังใจต่อสู้กับสิ่งเลวร้ายนั้นเอง ต้องคิดว่าโลกเลวร้ายอย่างนี้ เราต้องพัฒนาตัวเองให้กิเลสเบาบางลง จะได้มีเวลาและเรี่ยวแรงไปช่วยเปลี่ยนความเลวร้ายให้เป็นสิ่งดีๆ

ถ้าไปมัวเศร้าหมองหรือหมดหวังกับโลก ชีวิตก็คงเหี่ยวเฉา ไม่รื่นรมย์ เราต้องมีความสุขก่อน ถึงจะมีพลังรักษาตนพร้อมๆ กับช่วยผู้อื่นให้อยู่ในโลกนี้ได้

๕. ที่สำคัญคือต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลกค่ะ

๖. อดทนและเจริญเมตตาค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทีมงานดอกหญ้าทุกคนกำลังฝึกหัดปฏิบัติอยู่ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ สังคมดีขึ้นแน่นอนค่ะ


 

แม่ลูก หรือญาติ เพื่อนๆ อธิษฐานขอเป็นแม่ลูกกัน ขอเป็นญาติและเพื่อนกันในชาติหน้า ท่านผู้รู้ผู้ปฏิบัติธรรมจะอธิบายอย่างไรทั้งในรูปธรรมและนามธรรม
*** ลำไย ไกรมาก / ชุมพร

- อธิษฐานแปลว่าความตั้งใจนะคะ ถ้าเราฝึกจิตให้แข็งแรง จิตเรา ก็จะมีอำนาจบังคับสิ่งต่างๆ ให้ เป็นไปตามที่เราต้องการ ขอยกตัวอย่างคนที่มีวินัยในตัวเอง เขาจะบังคับตัวเองได้ทุกอย่างว่า เวลาไหนจะทำอะไร ตั้งใจว่าจะทำอะไร ก็ทำตามนั้น เช่น ตั้งใจออกกำลังกายทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมง หรือตั้งใจเขียนบันทึกประจำวันทุกวัน ตั้งใจเพาะกล้าวันละ ๕๐ ต้น เป็นต้น เมื่อเขาทำได้ตามที่ตั้งใจ ผลดีก็เกิดขึ้นว่า เขาจะมีร่างกายแข็งแรง ได้พัฒนาตนเองในเรื่องต่างๆ ตามที่คิดจะทำ เป็นผลที่เกิดจากความตั้งใจของตนเอง ไม่ใช่เกิดจากการอ้อนวอนร้องขอตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เช่น บนบานขอให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่ถ้าไม่อ่านหนังสือ แถมไม่ตั้งใจเรียนอีกด้วย ขอให้ตายก็สอบไม่ได้หรอกค่ะ

ทีนี้ถ้าตั้งใจไว้ว่าชาติหน้าจะเกิดมาเป็นพ่อแม่ลูก พี่น้อง เพื่อนฝูงกับใคร ถ้าคุณมีพลังจิตแข็งพอ ก็อาจเป็นไปตามความตั้งใจ แต่ก็ต้องมีปัจจัยอื่นประกอบ เช่น พฤติกรรมที่กระทำต่อกันในแต่ละชาติ สมมติว่าดิฉันอยากเกิดเป็นลูกศิษย์ของครูสอนภาษาฝรั่งเศสที่เคยสอนเมื่อตอน ม.ปลาย เพราะอาจารย์เอาใจใส่ลูกศิษย์ดีมาก แล้วก็เป็นครูที่ขยันสอนมาก แต่ตอนที่เรียน ถ้าดิฉันไม่ได้ทุ่มเทให้กับการเรียนเต็มที่ แถมเรียนจบแล้ว ก็ไม่เคยติดต่อกับอาจารย์อีกเลย เหตุปัจจัยให้เกิดเป็นลูกศิษย์อาจารย์อีกก็อาจจะไม่เพียงพอ เพราะในแต่ละวันเราก็สร้างเหตุปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลมากกว่าความตั้งใจลอยลม

สรุปว่าความตั้งใจจะเป็นผลต้องประกอบด้วยการกระทำ


 

ขอเสนอแนะให้จัดทำเรื่องราวของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จะได้เปิดกว้างให้เห็นแนวทางอื่น ๆ ที่ดีมาเป็นแบบอย่างให้ชาวอโศก และยังเป็นการกระตุ้นให้ชาวพุทธตื่นตัว ยกย่องผู้บำเพ็ญธรรมด้วย
*** พิษณุ พงษ์ประเสริฐ/ลำปาง

- นี่เป็นการบ้านข้อที่ ๙ ที่ดิฉันจดไว้จากข้อเสนอของท่านผู้อ่าน แต่ละข้อล้วนเป็นเรื่องดีๆ ที่น่าทำทั้งสิ้น เพียงแต่ต้องใช้เวลา จัดสรรงานได้ดีขึ้นเมื่อไร จะรีบ ลงมือทำทันทีค่ะ


 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณกองมี กงล้อม ที่โดนรถชนจนเดินไม่ได้ แต่ก็ยังส่งกำลังใจมาให้ทีมงานและอยากได้กำลังใจจากทีมงาน ผมและผู้อ่านเรื่องราวของคุณกองมี ผมว่าน่าจะทุกคนนะที่อยากส่งกำลังใจไปให้คุณกองมี อดทน ต่อสู้ ทำความดีต่อไปนะ ผมคนหนึ่งที่จะให้กำลังใจ
*** จ.ส.ท.ณัฏฐชัย ภัทรวสุ/ลพบุรี

- เราทุกคนเป็นกำลังใจให้กัน และกัน


 

ทำไมกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมต้องตัดผมสั้น ทำไมต้องใส่เสื้อผ้าสีและแบบเดียวกัน ทำไมไม่ใส่รองเท้า ทานอาหารวันละกี่มื้อ และออกไปข้างนอกชุมชนได้ไหม ไปทำอะไร
*** วงเดือน เสนสนาม / ร้อยเอ็ด

- ตัดผมสั้น ใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกัน และไม่ใส่รองเท้า เพื่อประหยัดค่ะ ตัดผมสั้นทำให้สะดวกในการดูแลรักษาความสะอาด เสื้อผ้าแบบเดียวกันก็คือสีที่ไม่เปื้อนง่ายและทำความสะอาดง่าย เพราะพวกเรางานเยอะมาก งานหลายประเภท ไม่มีเวลาไปวุ่นวายกับเรื่องเสื้อผ้าหน้าแพรค่ะ ส่วนรองเท้า เราเห็นข้อดีของการไม่ใส่รองเท้า คือ ช่วยประหยัดทรัพยากรที่จะต้องผลิตรองเท้า แล้วก็ไม่ต้องมีขยะจากรองเท้าเก่าอีกด้วย เวลาเดินก็ได้ฝึกสติ ระวังไม่ให้ไปเหยียบสิ่งสกปรกหรือมีอันตราย แล้วก็เป็นสัญญาณบอกให้ประชาชนช่วยกันรักษาความสะอาดของถนนหนทางด้วย เพราะทุกคนใส่รองเท้าก็เลยไม่ได้ช่วยกันรักษาความสะอาดของสถานที่สาธารณะต่างๆ สำหรับเรื่องอาหาร รับประทานอาหารวันละมื้อเดียวเป็นปกติ ยกเว้นสำหรับคนป่วย รับประทานอาหารเสริมได้

ทีนี้เรื่องออกไปข้างนอกชุมชน ถ้ามีธุระก็ไปค่ะ เช่น ไปเยี่ยมญาติ ไปโรงพยาบาล ไปติดต่อราชการ ไปฟังบรรยาย เข้าร่วมประชุมสัมมนา ไปศึกษาเล่าเรียนสิ่งที่สนใจ เป็นต้นว่า การแพทย์แผนไทย การทำเต้าหู้ การสอนภาษาอังกฤษ ฯลฯ


 

เข้าพรรษาปีที่ผ่านมา ดิฉันจำศีลที่วัดในหมู่บ้านของดิฉัน ๓ เดือน ส่วนมากจะเป็นคนแก่ ดิฉันเป็นผู้อายุน้อยที่สุดที่ไปจำศีล อาจารย์ที่วัดบอกว่ารู้สึกภูมิใจมาก ที่เห็นโยมอายุน้อย เข้าวัดถือศีล
*** สมหมาย ชิลนาค / หนองคาย

- ดิฉันก็อนุโมทนาด้วยเหมือนกันค่ะ


 

ขอสัตตาหะกรณียะ แปลว่าอะไรคะ
*** ชญานุตม์ ไตรรัตน์/กทม.

- แปลว่า ขอลากิจ ๗ วันค่ะ สัตตะ แปลว่า เจ็ด กรณียะ แปลว่า กิจที่ควรทำ หรือหน้าที่ พระพุทธเจ้า ทรงอนุญาตให้พระภิกษุขอลาไปพักค้างแรมที่อื่นได้ไม่เกิน ๗ วันในช่วงเข้าพรรษา ถ้ามีภารกิจจำเป็น เช่น ไปดูแลบิดามารดาที่ป่วย หรือมีกิจการงานของสงฆ์


 

ดิฉันขอสารภาพว่า ดิฉันมาอยู่ที่อเมริกานี้ ๑๓ ปีแล้ว ถ้าไม่ได้อ่านหนังสือธรรมะจากที่ท่านส่งมาให้อ่านทุกๆ ครั้งแล้ว ป่านนี้คงจะตกเป็นเหยื่อของกิเลสตัณหาไปในทุกๆ ด้าน
*** อัมพร นพจินดา / สหรัฐอเมริกา

- มีหนังสือดีๆ อยู่ใกล้ตัว ก็เหมือนมีเพื่อนสนิทที่รู้ใจใช่ไหมคะ


 

ดิฉันจะทำงานตามเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนกำหนด ไม่ขาดและ ไม่เกิน แต่ไม่ทุ่มเทเสียสละให้ องค์กรอีกต่อไป เพราะผลตอบแทนเจ็บแสบมาก
*** ๒๔๙๕๗๘

- ดิฉันไม่ทราบนะคะว่าคุณครูที่สอนหนังสือดิฉันมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันนี้ แต่ละท่านพอใจกับการเลื่อนขั้นเงินเดือนของตนเอง แค่ไหน ที่จะบอกก็คือคุณครูที่ดิฉันรักและอยากเจริญรอยตาม มาตลอด ไม่เคยเสื่อมศรัทธาจากท่านเลย ก็คือคุณครูที่ทุ่มเทให้พวกเรานักเรียนอย่างเต็มที่ มา โรงเรียนแต่เช้า เข้าสอนตรงเวลา ตั้งใจสอน เตรียมการสอนมาอย่างดี คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างจริงจัง (ซึ่งหมายรวมถึงการดุและบ่นด้วย) เพราะมีคุณครูอยู่ในหัวใจ ดิฉันจึงไม่กล้าทำอะไรให้คุณครูเสียใจเลยค่ะ

ถ้าบ้านเมืองเราไม่มีคุณครูที่ทุ่มเทหรืออุทิศตัวให้แก่เด็กๆ เด็กๆ จะดูตัวอย่างจากใครล่ะคะ


 

คนที่ชวนพ่อกินเหล้านั้นอายุ ๓๕ ปีเท่านั้นเอง ต้องหามส่งโรงพยาบาลกระทันหัน เพราะปวดท้อง แน่นท้อง หมอเช็คดูอาการปรากฏว่าเป็นมะเร็งตับขั้นสุดท้าย ฉายแสงก็ไม่ได้ ต้องพากลับบ้าน นัดให้ไปตรวจเป็นระยะ ๆ หมอก็ให้ญาติๆ ทำใจ ตอนนี้หนู ก็เตือนพ่อเป็นประจำว่า ใครชวนกินเหล้า ก็ให้ท่องว่า "เหล้าคือยาพิษ" เพราะตัวอย่างก็มีใกล้ตัวอยู่แล้ว
*** จรียา วรรณกุล / นครสวรรค์

- ลูกๆ เป็นกำลังใจสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่องดเหล้าได้ค่ะ


 

มีคนจะสร้าง Entertainment Complex ให้คนหันมาเข้าใกล้กาสิโน ทำให้คนทำบาปมากยิ่งขึ้น ละเหี่ยใจไหมคะ
*** หนูเจ / กทม.

- พวกเราคงต้องทำงานหนักขึ้น ช่วยกันหน่อยนะคะ


 

กระผมแสดงความคิดเห็นมาตลอดระยะเวลา ๒ ปี ไม่เคยเห็น บทความของกระผม ในดอกหญ้า ไม่ทราบว่าทำผิดกฎเกณฑ์อะไรหรือไม่
*** สมเกียรติ์ สกุลศึกษาดี / เชียงใหม่

- ถ้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแวดวงชาวอโศกค่อนข้างลึก ดอกหญ้าก็จะไม่ลงค่ะ เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้อ่านท่านอื่น ส่วนญาติธรรมชาวอโศกนั้น มีสารอโศก และข่าวอโศกรายปักษ์ เป็นสื่อกลางอยู่แล้ว


 

นอกจากคุณสมเกียรติ์ ก็ยังมีท่านอื่นอีกที่ต่อว่า ว่าไม่ลงจดหมายให้ ฉบับนี้ก็เลยคุยกับท่านผู้อ่าน มากหน่อย แถมท้ายด้วยบทกวีของ ภู เชียงดาว

หลับแล้วหรือเจ้านกฝัน เหนื่อยล้าคืนวันอันเหน็บหนาว
กี่ครั้ง, หวังว่าไขว่คว้าดาว กี่คราวพ่ายฝืนเพราะลมแรง
เพียงวาดปีกกว้างกว่ากว้าง ในใจไหวว้าง อยากกล้าแกร่ง
ยิ่งถลายิ่งคล้ายถูกทิ่มแทง ด้วยศัตรูคู่แข่งที่มองไม่เห็น
พักให้หายเหนื่อยเสียก่อน นกฝัน, อย่ารีบร้อนหรือหลบเร้น
เรียนรู้ในความว่างความเปลี่ยนเป็น ฝึกสายตามองเห็นท่ามความมืดดำ
บางวิถีแห่งชีวิต ดวงจิตคิดยาวก้าวถลำ
แสวงหาสาละวนทนตรากตรำ ยิ่งค้นหายิ่งเจ็บช้ำในวิญญาณ์
ค่อยค่อยฝึกฝนนะนกฝัน ท่ามพายุตะวันอันกร้าวกล้า
หลอมชีวิต ความคิด อิสรา แล้วโผแหวกว่ายฟ้าไขว่คว้าชัย

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๑ มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ -