ถึงพ่อ และ แม่ที่รัก
- ฆวาลา -
*** ประทับใจพ่อ ทำไมเราไม่มีพ่ออย่างที่คนอื่นมี เวลาขอเงินพ่อมักจะถามเสมอว่า "เอาไปซื้ออะไร จำเป็นไหม" หนูก็รู้สึกหงุดหงิดทุกทีและมักจะตะโกนใส่ท่านเสมอ มีอยู่วันหนึ่งท่านพาหนูไปที่ทำงาน หนูเห็นท่านวิ่งไปวิ่งมา คนโน้นใช้ คนนี้ใช้ หนูเห็นแล้วรู้ว่า กว่าที่พ่อจะได้เงินมาแต่ละบาทแต่ละสตางค์ต้องยากลำบากแค่ไหน ท่านต้องอดทนเพื่อเรา ตลอดมา เมื่อถึงวันเด็ก พ่อก็มักจะมาร่วมงานเสมอ หนูก็พยายามทำเหมือนรังเกียจ หนูบอกว่า "โอ๊ย! พ่อจะมาทำไมงานนี้ ให้เฉพาะเด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ กลับไปได้แล้ว" เวลามีงานอะไร พ่อมาครั้งไหน หนูมักจะทำอย่างนี้ทุกๆ ครั้ง มันยังมีอีกหลายครั้งที่หนูทำให้พ่อต้องร้องไห้ และเป็นทุกข์กับหนู หนูอยากกราบขอโทษพ่อค่ะ สาวิตรี (ปุ้ย) บัวขจร
*** ประทับใจพ่อและแม่ ด.ญ.ฟ้าเพชรเพ็ญ มูลกัน *** ประทับใจพ่อ-แม่ ด.ญ.อัจฉริยา (ตาล)
ปีรัง *** ประทับใจ...แม่ แม่บอกว่า แต่ก่อนลำบากมาก แม่ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนแม่ แม่จึงพยายามดิ้นรน หาสิ่งที่ ผมไม่มีให้มี ผมรู้สึกปลื้มปีติมาก ผมอยากบอกคนทั้งโลกว่า "รักแม่ที่สุด ไม่มีอะไรมาเทียบเทียม ได้เลยครับ" *** ประทับใจพ่อ... พ่อทำงานหนักเพื่อให้ผมเป็นคนดี และให้ได้เรียนสูงๆ พ่อเคยพูดเสมอว่า อยากให้ลูกได้เรียน สูงๆ ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ จงทำฝันของตนเองให้สำเร็จ ผมจำคำนี้มาตลอด แม้คำนี้อาจ ไม่สำคัญกับคนอื่น แต่สำหรับผมมันสำคัญมาก มันทำให้ผมอยู่ได้ตราบจนทุกวันนี้ "โลกทั้งใบ ผมขอยกให้วีรบุรุษคนที่ชื่อว่าพ่อครับ" รักพ่อแม่ที่สุด ไม่มีอะไรเปรียบปานได้ ด.ช.อรรถพล สีไสว *** ประทับใจแม่มากสุดเลย สุดารัตน์ แสงลำ *** ความประทับใจ ๕ ปีผ่านไปฉันอยู่ ป.๔ แม่ก็จาก ฉันไป แต่แม่จะย้ำว่า เวลาที่พ่อและแม่ไม่อยู่ ไปอยู่บ้านคนอื่น อย่านั่งเฉยๆ ต้องช่วยเขาทำงาน เขาบอกสอนอะไรก็ต้องเชื่อฟัง ต้องรับฟังด้วยจิตสำนึก เมื่อแม่จากฉันไป ฉันยังจดจำคำที่แม่บอกเสมอ ฉันกลายเป็นเด็กกำพร้า แต่ฉันก็ยังได้กำลังใจ จากญาติรอบตัว ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะคำที่แม่สอนเอาไว้ ถึงจะโดนเพื่อนล้อบ้าง ฉันก็จะพยายาม ไม่โกรธ และคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตฉันก็เคยมีพ่อแม่แบบคนอื่นเขา เวลาเขาถามว่า พ่อแม่ฉัน ไปไหน ฉันก็จะตอบตรงๆ ไม่อึกอัก ในวันนี้ฉันก็มีญาติเป็นพ่อแม่คนที่สอง คอยให้กำลังใจ คอยบอกคอยสอน ฉันจะพยายาม ไม่น้อยเนื้อต่ำใจเวลาถูกสอนค่ะ จะพยายามเป็นเด็กดี และจะพยายามทำหลายๆ สิ่งที่ทางบ้าน ของฉันฝากความหวังเอาไว้ค่ะ ด.ญ.ไพรวัลย์ (ปุ้ย) สืบโส *** ความประทับใจของผมที่มีต่อพ่อและแม่ ผมประทับใจคุณพ่อคือ วันพ่อ พ่อจะมาหาผม โอบกอดผม หอมแก้มผม ผมก็หอมแก้มพ่อ มีบางครั้งที่ผมร้องไห้ ต่อหน้าพ่อ แล้วผมก็พูดกับพ่อว่า "พ่อครับ ผมจะตั้งใจอยู่อโศกให้ได้ครบ ๖ ปีครับ" ด้วยความดีใจของผม ผมกระโดดกอดพ่ออย่างมีความสุข ความประทับใจที่มีต่อพ่อและแม่คือ เมื่อถึงวันจะได้กลับบ้าน ผมจะโทร.ไปหาแม่และพ่อเสมอ พูดคุยกับพ่อและแม่อย่างมีความสุข เมื่อถึงวันกลับบ้าน พ่อกับแม่ก็มารับผม และพาไปเที่ยว หลายแห่งตามจังหวัดต่างๆ และห้างสรรพสินค้า สรุป พ่อและแม่เป็นผู้เอ็นดู เลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ ตั้งแต่อยู่ในท้อง ผมรักพ่อและแม่ม้ากมากครับ เทพฤทธิ์ (เทพ)
พิมพ์บูลย์ *** ประทับใจพ่อ สุพรรษา (ทราย) ปลอดตะคุ พ่อ แม่ ม่านรักฟ้า นะราภัย *** ความประทับใจพ่อ-แม่ ผมเป็นคนเลวมากตอนอยู่ที่บ้าน เคยยกพวกตีกัน ตอนนั้นผมไม่คิดว่าพ่อจะรู้ ก็เดินกลับบ้าน พ่อก็ให้ผมไปหา แล้วให้ไปเอาไม้มา จากนั้นก็ตีผม ทำให้ผมไม่กล้าที่จะไปตีกับเพื่อนอีกเลย จบ ป.๖ แล้ว พ่อก็ให้เข้ามาที่ ภูผาฯ แต่ผมก็ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เพราะผมออกจากภูผาฯ ม.๑ แล้ว พ่อแม่ก็ไม่ว่าให้มาเข้าที่นี่ ผมก็มาเข้าเรียนที่ศาลีอโศก จตุพงษ์ (จอน)
ผาสุขดี *** ประทับใจย่า ย่ามีลูก ๓ คน เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมยังเด็กอยู่ ในชีวิตของผม ผมอยู่กับย่ามีความสุขที่สุด ย่าสอน ให้ผมรู้จักค่าของเงิน ถ้าผมอยากได้อะไรต้องเก็บเอาเอง เช่น ของเล่นต่างๆ แต่สำหรับสิ่งจำเป็น ย่าจะซื้อให้ ที่บ้านผมทำไร่อ้อย ย่าก็ชวนไปทำบ่อยๆ ก็ทำบ้างหนีบ้าง ย่าทำให้ผมรู้ว่ากว่าจะได้สิ่งใดมา ต้องเอา ความเหน็ดเหนื่อยเข้าแลกทั้งนั้น ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรี มีอยู่วันหนึ่งเราไปตลาดที่อำเภอ ตอนกลับย่าซื้อนมไปฝากลูกอา ผมรู้สึกน้อยใจ แล้วคิดไปว่า ตอนเด็กๆ ผมได้กินอย่างนี้บ้างหรือเปล่า เพราะเด็กๆ ผมกินน้ำข้าวแทนนม กลับบ้าน ผมนอน ร้องไห้บนเปล เพราะความน้อยใจ ย่าก็เข้ามาถามว่า เป็นอะไร อยากได้อะไร ด้วยเสียงที่แข็งๆ ผมไม่ตอบ สักครู่ย่าหยิบเงิน ๕๐ บาทให้ผม ผมรู้สึกดีใจมากเพราะผมไม่เคยได้เงินมากเช่นนี้ อย่างดีก็แค่ ๕-๑๐ บาท ความน้อยใจ ก็หายไปมีแต่ความดีใจและไม่รู้จะบอกย่าได้อย่างไร ผมรักย่าที่สุดครับ อนุลักษณ์ สาราบุญ *** ความประทับใจพ่อและแม่ แต่ก่อนพ่อไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่พอหนูคลอดออกมาได้ ๒ เดือน แม่ก็ทิ้งพ่อไปมีแฟนใหม่ พ่อเลี้ยงหนูมาจนโตและพ่อก็ต้องมาดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ พ่อเป็นช่างซ่อมไฟฟ้า โทรทัศน์ วิทยุ เป็นต้น หลังจากหนูอายุได้ ๗-๘ ขวบ พ่อก็เปลี่ยนอาชีพเป็นหมอดู เที่ยวดูหมอไปทุกจังหวัด หนูก็ไม่ได้เข้าโรงเรียน จนอายุ ๑๑ ปี หนูถึงได้เข้าโรงเรียน เพราะต้องเข้าไปอยู่ ในสถานสงเคราะห์ อุดรธานี ช่วงไม่ได้เข้าโรงเรียนพ่อก็คอยสอนหนังสือให้ พ่อจับมือเขียนหนังสือ หาเงินเลี้ยงข้าวน้ำนม จนหนูโต จนพ่อเสียชีวิตเมื่ออายุ ๕๘ ปี ส่วนแม่นั้นยังไม่เคยเห็นหน้าตั้งแต่เกิด ถ้าจะถามว่าหนูเกลียดแม่ไหม หนูเคยเกลียดค่ะ แต่เมื่อ หนูได้เข้ามาอยู่ในสังคมอโศก หนูก็มีความรักแม่อยากเจอหน้าแม่ ถ้าเจอหนูจะวิ่งไปหาแม่ กราบเท้าแม่สวยๆ และพูดว่า "หนูรักแม่ค่ะ" ถึงแม่จะไม่ได้เลี้ยงหนูมา ก็ตาม เพราะแม่คือคนที่ให้ชีวิตหนู น.ส.แรกขวัญ จอหอ (ขวัญ)
*** ประทับใจพ่อแม่ของผม ผมเป็นลูกคนเดียวของพ่อ-แม่ครับ และแน่นอน คนที่ผมรักที่สุดคือพ่อและแม่ของผม ท่านทั้งสอง เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตของผม พ่อจะคอยสอนเรื่องต่างๆ ทำให้ผม มีความรู้ และยังคอยเอาใจใส่ดูแลผมทุกอย่างไม่ให้ขาด แต่ก็ไม่ถึงขั้นตามใจ ทุกอย่างนะครับ พ่อจะให้ทุกอย่างที่ผมต้องการรู้ เพราะจะทำให้ผมมีประสบการณ์ หลายอย่าง มากขึ้น พ่อเคยบอกว่า "ถ้าเป็นสิ่งที่ดี มีค่า มีสาระประโยชน์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงิน กี่ร้อยกี่พัน ถ้าซื้อหาได้ก็จะหาให้ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ไร้สาระแล้ว แม้แต่บาทเดียว ก็ไม่สมควรให้" แต่พ่อก็ไม่เคยบังคับผม ถ้าผมต้องการจริงๆ พ่อก็สอนให้คิดถึงประโยชน์ หรือโทษภัย ของสิ่ง ที่ต้องการ และถ้าผมยังห้ามใจตัวเองไม่ได้ บางทีพ่อก็จะยอมซื้อโดย ให้ผมรู้ชัดถึง ความสมควร หรือประโยชน์และโทษก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับผมคือแม่ ถ้าจะเปรียบผมเป็นกำแพง พ่อก็เป็นเหมือนคน คอยช่วยก่อกำแพงให้สูงและกว้างใหญ่ขึ้น ส่วนแม่ก็เป็นคนที่ซ่อมแซมกำแพงส่วนที่แตกหัก หรือส่วนที่ขาดหายไป หรือจะเปรียบพ่อผมเป็นปัญญาแล้ว แม่ของผมก็ควรจะเป็นศีลที่คอย ปกปักรักษาตัวผม แม่คอยให้กำลังใจและความอบอุ่นแก่ผมให้ต่อสู้ต่อไป ผมไม่มีคำบรรยาย ถึงแม่มากกว่าพ่อ ทว่าความรู้สึกรักและซาบซึ้งใจก็ไม่ต่างกันกับพ่อเลยครับ ผมมีความสุขและภาคภูมิใจที่มีพ่อและแม่แบบนี้มากเลยครับ ตอนนี้ผมอยู่ ม.๑ ที่สันติอโศก ครับ อายุเพิ่ง ๑๓ ปีเมื่อวานนี้เองครับ พ่อแม่ผมบอกเสมอว่า การเรียนก็เหมือนการพายเรือ ทวนน้ำ ถ้าเราหยุดเมื่อไหร่ เราก็ไหลไปตามน้ำเมื่อนั้น ดังนั้นถึงแม้ผมจะสอบได้ที่ ๑ ตอนสอบ เข้า ม.๑ สันติอโศก ผมก็จะพยายามเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดครับ นอกจากนี้ผมก็ต้อง ฝึกตนเอง ให้ดีขึ้นครับ เพราะสอบได้ที่ ๑ คือเรื่องวิชาการ แต่ เรื่องงานผมไม่เอาไหนเลยครับ เพราะไม่ค่อยได้ทำตอนเด็กๆ แต่ผมจะสู้ต่อไป จะทำให้ได้ดีทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าศีล วิชาการ และ การทำงานครับ ผมจะต้องทำ ให้ได้เพื่อพ่อและแม่สุดที่รักของผมครับ วิศว์ (ชิม)
เจียมวิจิตรกุล - หนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๒ มีนาคม - เมษายน ๒๕๔๗ - |