รับเชิญ
อนุสรณ์ แห่ง ความรัก

หญิงสูงอายุร่างเล็กในชุด สีดำยืนอยู่บนเกาะกลางถนน สายตากวาดมองไปทั่ว ราวจะค้นหา ใครสักคนหนึ่ง พลันกรีดร้องสุดเสียง "ลูกแม่ อยู่ที่ไหน แม่มารับลูกกลับบ้าน ไปกับแม่ กลับบ้านเรา" เธอร้องเรียก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เสียงนั้นไม่ดังพอจะกลบเสียงรถยนต์ ซึ่งวิ่งแข่งกัน ราวพายุบนเส้นทางหลวงระหว่าง กำแพงแสน กับสุพรรณบุรี ชายสูงอายุในชุดดำเหมือนกัน คาดว่าคงเป็นสามีถลันเข้าหา พลางประคองเธอ ข้ามถนน ไปยังรถตู้ ที่จอดรถอยู่ ริมทาง ฟากหนึ่งของถนน เธอยังคงร้องเรียกแต่เสียงแผ่วเบาราวกระซิบกับตัวเอง น้ำตาไหล กลบตา แล้วหลั่งริน ผ่านแก้มมาถึงคาง ผู้คนที่มีแหล่งพักพิงบริเวณนั้นพากันจ้องดูอย่างใคร่รู้ ชั่วครู่หนึ่ง รถตู้คันนั้นแล่นผ่านไป

ผมเห็นธูปหลายดอกปักอยู่ใกล้บริเวณที่หญิงคนนั้นยืนอยู่เมื่อครู่นี้ ควันธูปลอยขึ้นไปในอากาศ อยากรู้จัง ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมรีบตามรถตู้ไปติดๆ รถเลี้ยวเข้าไปในบริเวณโรงเรียนการบิน กำแพงแสน หญิงชายคู่นั้น และคนอื่นอีก ๒-๓ คน กับเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่ง ถูกเชื้อเชิญ ให้เข้าไปในห้องรับประทานอาหาร เจ้าหน้าที่ บริการเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนทุกคนจะดื่มกินกัน น้อยมาก ผมเมียงมองอยู่ห่างๆ แล้วทั้งหมดพากันไปที่ โรงพยาบาลจันทรุเบกษา โลงศพ คลุมด้วย ธงชาติมีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินนำหน้าขึ้นรถ ญาติผู้เสียชีวิต และนายทหาร ในชุดสีกรมท่า อีกหลายคน ตามไปยังลานจอดรถของสนามบิน ขบวนศพเคลื่อนผ่าน แถวทหารกองเกียรติยศ ขึ้นเครื่องบินลำเลียง ซี ๑๓๐ แล้วเครื่องบินก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

เธอรำพึงน้ำตาไหลพราก ลูกเคยบอกว่า อีกไม่นานเมื่อมีเงินมากพอ จะพาแม่บินไปเที่ยวที่ต่างๆ แต่นี่ลูกพาแม่ ขึ้นเครื่องด้วยวิธีนี้ หรือลูกมีความฝันมากมาย ล้วนแล้วแต่จะทำเพื่อครอบครัว ทั้งสิ้น แม้จะเหน็ดเหนื่อย จากภารกิจ การงานที่หนักมาก กลับถึงบ้าน ดูลูกมีความสุข และ ให้ความอบอุ่นกับทุกคน บ่อยครั้ง แม่ถามว่า "ลูกเหนื่อยใช่ไหม" จะได้รับคำตอบเพียง "นิดหน่อย ครับแม่ นอนพักสักครู่ก็หาย" ขอลูกจงพักอย่างเป็นสุข หมดสิ้น ภารกิจใหญ่หลวง ที่แบกรับ ไว้เสียที หลับเถิดนะ คนดีของแม่ แม่เพียงแค่คิดถึงลูกมากเหลือเกิน เท่านั้น ต่อไปนี้ไม่มีแล้ว ที่ใครจะแย่งถือของหนักจากมือแม่ ใครจะประคองแม่ยามซวนเซ งกๆ เงิ่นๆ เมื่อชราภาพ ลงเรื่อยๆ ใครจะเอื้ออาทร แม้ในเรื่องเล็กน้อยของหญิงชราคนนี้เท่าลูกเล่า

ผมเป็นครูในโรงเรียนการบินแห่งนี้ประมาณ หกปีมาแล้ว ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติม นอกเหนือจาก สอนศิษย์ระดับมัธยม เทอมละสองคนแล้ว ยังมีหน้าที่ขึ้นบินลองเครื่อง ที่ช่างซ่อมเสร็จแล้ว เพื่อทดสอบ สมรรถภาพ หากสมบูรณ์ ก็จะได้นำเสนอผู้บังคับบัญชา ให้ใช้ฝึกบินได้ต่อไป ลูกศิษย์ของผม มักจะเป็นประเภท เหลือเลือกจากพวกคะแนนดี ในระดับประถม บางครั้งออกจะน้อยใจว่าเพื่อนเลือกแต่คนเก่ง เพราะง่ายต่อ การถ่ายทอด ความรู้ให้ แต่บางครั้งก็นึกว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของเรา หากเราสอนคนที่เหลือเข็น ให้บินได้ดี ย่อมเป็นความภาคภูมิใจของครูผู้สอน อ๊อด ลูกศิษย์คนหนึ่งได้ไปบินเครื่อง เอฟ ๑๖ ที่ตาคลี ผมปลื้มใจมาก อาชีพนักบินเป็นงานเสี่ยง ผมพบเห็นการสูญเสียทั้งรุ่นพี่ เพื่อนและ รุ่นน้อง ทุกครั้งจะรู้สึกสงสาร ครอบครัวของเขาเหล่านั้นมาก ครอบครัวทหารโดยเฉพาะนักบิน ต้องมีจิตใจที่ เข้มแข็ง ผมกำลังคิด อยากเปลี่ยน สายงาน ไปอยู่ภาคเอกชน เผื่อว่าจะมีเงิน ให้ลูกเรียนสูงๆ ผมอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เท่าที่ผมจะหาให้ได้ เพื่ออนาคตของเขา ลูกชาย อายุ ๖ ขวบ กำลังน่ารักและติดผมมาก วันหยุด ผมรีบกลับบ้าน ได้อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก ปู่ ย่า พ่อและแม่ของผมเป็นข้าราชการบำนาญ ปู่รักหลานมาก ชอบไปวัด ย่าชอบต้นไม้ ผมและ ภรรยา ทำงานได้เต็มที่ เพราะลูกมีทั้งปู่และย่าช่วยกันดูแล

ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน พิธีสวดเริ่มตั้งแต่หกโมงเย็น ประมาณทุ่มเศษก็เสร็จสิ้น งานศพ จัดอย่างสมเกียรติ ของวีรชน ผู้เสียสละชีวิต ในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ของกองทัพอากาศ ให้เกียรติมาร่วมพิธี เธอกับสามี ยืนขอบคุณและส่งแขก ด้วยนัยน์ตาบวมช้ำ หม่นหมอง น้ำตาเหือดแห้งแล้ว หากแต่ไหลย้อน กลับไปในใจ แขกทะยอยกลับไปเกือบหมด เหลือเพียงญาติสนิท ทุกคนต่างแสดงความเสียใจ อาลัยรัก และ พูดปลอบประโลม แต่ใคร จะสามารถเยียวยาหัวใจที่เหี่ยวแห้ง สิ้นหวัง และทุกข์ทรมาน ที่ไม่อาจให้ผู้เป็นที่รัก หวนกลับคืน เธอยืนมองภาพถ่าย "ดูเหมือนลูกจะร้องไห้บอกเราว่า ลูกเสียใจที่ต้องจากไปโดยไม่ร่ำลานะพ่อ" เธอบอกสามีพลางเพ่งมองผ่านม่านน้ำตา "ลูกแม่ พอเสร็จพิธี เราจะกลับบ้านพร้อมกันนะ"

เมื่อเดือนที่แล้ว ผมพาครอบครัวไปพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่อัมพวา โรงแรมที่พัก รวมบริการ เที่ยวทางเรือ เราไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก และชมอุทยาน ร.๒ ด้วย เป็นการท่องเที่ยว ทางธรรมชาติ ที่ทุกคนสนุกสนาน และมีความสุขมาก เราชอบวิถีชีวิตชาวบ้าน สองฝั่งคลอง ผมอยากมีบ้านริมน้ำ ดูเรียบง่ายและร่มเย็นดี "แม่สนุกไหม กอล์ฟสบายใจ ที่มีโอกาสพาทุกคนมา พักผ่อนด้วยกัน แม้จะเป็นการเที่ยวใกล้บ้าน" ผมกุมมือแม่ไว้ ในขณะที่ แม่ส่งยิ้ม มาด้วยสายตาเปี่ยมสุข

เธอรำลึกถึงสัปดาห์ที่แล้ว ลูกรีบกลับบ้าน เพื่อร่วมพิธีบัณฑิตน้อยของนักเรียน ชั้นอนุบาล ๓ ในวันเสาร์ ทุกคนตื่นเต้น ราวกับเจ้าตัวเล็กรับปริญญาบัตร ลูกถ่ายรูปเด็กชาย ในชุดครุย และหมวกสีฟ้าแถบขาว ไว้มากมาย วันอาทิตย์ เราไปรับประทานอาหารเย็นนอกบ้าน ถือเป็นโอกาสพิเศษ ลูกซื้อบัตรชมภาพยนต์เรื่อง "โหมโรง" ให้พ่อแม่ไปชม ที่โรงภาพยนต์ ใกล้บ้าน สักประมาณสี่ทุ่ม กลับมาลูกรอถาม "สนุกไหมครับ" พ่อรีบตอบ "เป็นภาพยนต์ ที่น่าประทับใจ และนำความภูมิใจมาสู่คนไทยนะ" "เยี่ยมมากเลย ลูกไปดูสิ แล้วจะรักดนตรีไทย ขึ้นอีกมาก" แม่ย้ำ ลูกบอกว่าสัปดาห์หน้าจะพาภรรยาไปดูบ้างแล้วกล่าว "ราตรีสวัสดิ์"

เช้าวันจันทร์ ไม่มีอะไรรีบเร่ง ลูกศิษย์รุ่นนี้จบหลักสูตรแล้ว เหลือเพียงบินลองเครื่องอย่างเดียว นานๆ ครั้ง ผมจึง มีโอกาสพาลูกไปส่งโรงเรียนด้วยตัวเองสักที พ่อแม่ยืนหน้าประตูบ้าน "ขับรถดีๆ นะลูก" พ่อเตือน "ดูแลตัวเองนะลูก" แม่มักจะพูดอย่างนี้ก่อนผมสตาร์ทรถ และขับ ออกจากบ้าน ผมไปถึงโรงเรียนการบิน ประมาณสิบโมงเช้า เตรียมขึ้นบินทดสอบเครื่องบินฝึก ๑๙ (พี.ซี.๙) เครื่องบินลำนี้มีการซ่อมบำรุง หลายครั้ง ยังไม่สมบูรณ์สักที ช่างบอกมีปัญหา ตรงรอบหมุนของใบพัด ยังไม่โทรหาต้อยละ เดี๋ยวลงมา แล้วค่อยคุยกัน

ท้องฟ้าเหนือโรงเรียนการบินแจ่มใส ไร้เมฆ มีเพียงหมอกแดด ด้วยเริ่มเข้าฤดูร้อน ผมพาเครื่อง ทะยานขึ้น แล้วบินวน ในท่าทางการบินแบบต่างๆ เพื่อหาจุดบกพร่องกว่ายี่สิบนาที ห่างจาก โรงเรียนการบินสัก ๗ กิโลเมตร พื้นล่าง คือท้องทุ่ง สลับกับผืนไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด มีหมู่บ้าน เป็นกลุ่มๆ มองเหมือนเมืองตุ๊กตา เครื่องยนต์สะอึก คล้ายจะดับวูบ กลางอากาศ ผมพยายาม แก้ไขสถานการณ์ เร่งเครื่องเต็มกำลัง และประคองผ่านกลุ่ม บ้านเรือน ผู้คน การสละเครื่องนั้น ง่ายและปลอดภัย ต่อชีวิตนักบิน แต่นั่นเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมจะทำ เพราะทรัพย์สินของ ทางราชการและผู้คนเบื้องล่างจะมีอันตรายและสูญเสียมหาศาล เครื่องยนต์ออกอาการดับๆ ติดๆ ผมพยายาม เร่งเครื่อง สุดกำลังอีกครั้งหนึ่ง มีเสียงดังสนั่น ราวโลกจะระเบิดออก เป็นเสี่ยงๆ

เสียงเรียกปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ "กอล์ฟ กอล์ฟ แม่มารับลูกกลับบ้าน ไปกับแม่ กลับบ้าน เรา แม่มารับลูกแล้ว" นั่น ผู้หญิงคนนั้น ร่างเล็กในชุดดำกรีดร้องแข่งกับเสียงรถยนต์ เธอยืนอยู่บน เกาะกลางถนน ร้องเรียกและ มองหา ไปรอบตัว บางครั้งแหงนเงยไปบนท้องฟ้า "กลับบ้าน กับแม่ แม่มารับลูกแล้ว" เสียงคร่ำครวญสะท้านเยือก จนถึงจิตวิญญาณ ผมโลดทะยาน ตามเสียงนั้นไป

เฮลิคอปเตอร์บรรทุกผู้โดยสารชุดดำกลุ่มเดิม เหินบินในท้องฟ้า เธอเพ่งมองทัศนียภาพ เบื้องล่าง แปลงเกษตร รูปสี่เหลี่ยม หลายแบบเป็นเส้นตรง ราวกับขีดด้วยไม้บรรทัด มองจาก มุมสูง ผ่านวัด หมู่บ้าน แหล่งน้ำ สวนมะพร้าว ทุ่งนา ฝูงสัตว์ ถนนที่มีรถยนต์คันจิ๋ว ทุกอย่าง ย่อส่วนลง ดูเหมือนของเด็กเล่น นี่คือถิ่นที่ลูก เคยคุ้น อยู่ทุกวัน แม่รู้แล้วคำว่า "ผู้ครองฟ้า" คือเช่นใด เหนือปากน้ำสมุทรปราการ ผืนน้ำกว้างใหญ่ จรดครอบโค้ง ตรงเส้นขอบฟ้า พอประตู เครื่องแง้มออก เธอยื่นมือโปรยเถ้าอัฐิและกลีบกุหลาบให้ล่องลอยสู่อากาศ พลางภาวนา "ขอลูกแม่จงเป็นดั่งสายลมและแสงตะวัน เหนือผืนน้ำและแผ่นดิน เพื่อแม่และทุกคน จะสัมผัส ลูกได้ ยามค่ำคืน ขอลูกจงเป็นดวงตาสวรรค์ที่สามารถมองลงมาเห็นคนที่รักลูกตราบชั่วนิรันดร์"

บ้านดูเงียบเหงา เธอมองไปรอบห้องโถง ตั้งแต่เล็กจนโต ลูกชอบกิน นอน เล่น พักผ่อนในห้องนี้ ห้องนอนส่วนตัว ของลูกแทบไม่เคยใช้ ความทุกข์ระทมแล่นปราดถึงหัวใจ น้ำเสียง วิธีการใช้ คำพูดยังจำติดหู รูปร่างหน้าตา ทุกอารมณ์ ของลูกยังแจ่มชัดอยู่กับตา แต่ลูกอยู่ไหนหนอ "แม่จะทำห้องนี้ให้ลูก เก็บทุกอย่างของลูกไว้ที่นี่ แม่จะทำ ให้เป็นห้องที่ดีที่สุดของบ้าน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพ่อแม่ และทุกคนในครอบครัว ที่มีต่อลูก" แม่ประกาศ ให้ทุกคนรับทราบ "ดูลูกสิ มีรอยยิ้มน้อยๆ ตรงมุมปาก ไม่มีน้ำตาคลอเหมือน ตอนอยู่ ที่วัดนะพ่อ" เธอยืนจ้องภาพถ่ายของลูก

"เมื่อคืนนี้แม่ฝันว่าลูกกลับบ้าน แม่ดีใจมาก ลูกไม่ได้เป็นอะไร และบอกแม่ว่า ลูกกลับมา อยู่บ้านแล้ว ไม่ต้องทำงาน ในกองทัพอีกต่อไป"

หนังสือพิมพ์หลายฉบับพาดหัวข่าว "เครื่องบินฝึก ๑๙ (พี.ซี.๙) ประสบอุบัติเหตุ ตกลงที่เกาะกลางถนน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ขณะทำการทดสอบเครื่องยนต์ นักบินลองเครื่องเสียชีวิตทันที"

- หนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๒ มีนาคม - เมษายน ๒๕๔๗ -