คุณครูในดวงใจ - ฆวาลา - ครูในดวงใจของฉันชื่อ คุณครูสาโรช
บัวทอง จ.ชัยนาท เป็นครูชั้นประถมศึกษา ครูสาโรชนิสัยดี ดูแลเอาใจใส่เวลานักเรียนเดือดร้อน
ช่วยอบรมให้เป็นคนดี ประพฤติปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกศิษย์
จึงเป็นที่รักใคร่ของบรรดานักเรียนทุกคนโดยเฉพาะฉัน เพราะครูคอยช่วยเหลือแนะนำอบรมสั่งสอนฉัน
ฉันยังจำได้ไม่เคยลืมเลย นั่นก็คือเหตุการณ์ ตอนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ฉันขี่จักรยานไปโรงเรียน
ก่อนถึงโรงเรียนฉันประสบอุบัติเหตุ จักรยานล้ม หัวกระแทกกับถนนอย่างแรง ทำให้ฉันเจ็บและปวดหัวมาก
ครูสาโรชก็คอยดู และปฐมพยาบาลให้ วันนั้นฉันหัวโน ครูทำทุกวิถีทางเพื่อให้อาการปวดลดลง
ครูอยู่ดูแลฉัน ตลอดทั้งวัน อาการปวดหัวของฉันก็ค่อยๆ บรรเทาลง หากไม่มีครูสาโรชคอยดูแล
ฉันก็ไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร บุญคุณของครูในครั้งนี้ ฉันจำได้ไม่มีวันลืม
และอยากขอบพระคุณคุณครูมากๆ สำหรับ ทุกสิ่งที่ได้ทำให้ ครูสาโรชเปรียบเหมือนแม่คนที่สองของฉัน
ซึ่งฉันรักและเทิดทูนมาก
ขอบคุณอาจารย์ฉวีวรรณ คันธมธุรพจน์ ที่ท่านช่วยให้ข่าวสาร คำแนะนำที่ดีในเรื่องเรียนต่างๆ ทำให้หนูและเพื่อนๆ ได้ทราบข้อมูลในการศึกษาต่อตลอดมา ท่านพยายามช่วยให้เด็กนักเรียน ทุกคน รู้จักกล้าแสดงออก แสดงความคิดเห็น ซึ่งความพยายามของท่านในเรื่องนี้ก็สำเร็จ ทำให้หนู กล้าแสดงออกมากขึ้น ขอบคุณท่าน รศ.ดร.นสพ.มานพ ม่วงใหญ่ และหน่วยจุฬาชนบท
ที่ให้โอกาสหนูได้เข้ามาศึกษา ต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ ถ้าไม่มีท่าน
หนูคงไม่มีโอกาสมาเรียนที่สถาบันแห่งนี้
อาจารย์สิริสังวาลย์ ศรีแสนยงค์ หนูไม่เคยคิดเลยนะคะว่า
ด้วยวัยที่แตกต่างกันถึง ๓๖ ปี จะทำให้ เรามานั่งจับเข่าคุยกันเหมือนคนวัยเดียวกันได้
อาจารย์ไม่แปลกหรอกนะคะ เพียงแต่อาจารย์ ไม่เหมือนใครเท่านั้นเอง อาจารย์คะ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์สอน หนูเก็บเอามาใช้ในชีวิตของ หนูค่ะ ทุกๆ วันที่เจออะไรร้ายๆ
ก็จะมองกลับมาและคิดถึงอาจารย์ คิดถึงเรื่องที่เราได้ผ่านมา ด้วยกันตลอด
หนูมีเพื่อนคู่คิดอีกคนหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้หนูตลอด หนูไม่รู้จะกล่าวคำขอบคุณ
อย่างไรดีกับสิ่งที่อาจารย์ให้มา...ไม่มีคำพูดอะไรเลยที่จะบอกได้
อาจารย์ท่านนี้เป็นคนที่เข้าใจลูกศิษย์ นักเรียนบางคนในโรงเรียนนอาจจะไม่ชอบท่าน
เพราะยัง ไม่รู้จักท่านดีพอ อาจจะว่าท่านจู้จี้ขี้บ่น สั่งงานเยอะ เจ้าระเบียบ
แต่จริงๆ แล้วท่านใจดีมาก เป็นกันเอง ดิฉันคิดว่าท่านอาจารย์ คนนี้สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเรียนได้
สามารถทำให้ นักเรียนได้ดี และที่สำคัญคือ สามารถทำให้นักเรียนเป็นคนดีของสังคมได้ไม่ยากเลย
อาจารย์ทุกคนที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ให้ความกรุณาฉันมาโดยตลอด ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัว บางท่านก็มอบข้าวของเครื่องใช้ให้ บางท่านก็ให้เงินค่าทัศนศึกษานอกโรงเรียนกับเพื่อนๆ ฉันซึ้ง น้ำใจอาจารย์ทุกท่านมาก ที่ดีกับฉันมากขนาดนี้ แต่อาจารย์ที่ฉันประทับใจมากที่สุด เห็นจะเป็น อาจารย์จิตติศักดิ์
วัฒวันทนา ผู้สอนคอมพิเตอร์ ที่เก่งกาจที่สุดในโรงเรียน ท่านจะพูดไม่ค่อยชัด
และฟังไม่ค่อยได้ยิน เวลาจะพูดอะไรยาวๆ ต้องใช้ การเขียนในการสื่อสาร ท่านเป็นอาจารย์คนเดียวที่ฉันกล้าไปปรึกษาเรื่องส่วนตัว
เรื่องครอบครัว รวมทั้งเรื่องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษานี้ด้วย ฉันจะคอยเล่าปัญหาหรือความกลุ้มใจให้ท่านฟัง
และ ท่านก็จะช่วยหาวิธีแก้ปัญหา และคอยให้กำลังใจฉันมาโดยตลอด
วันแรกที่ฉันเรียนกับคุณครูมัฑนา ฉันรู้สึกกลัวมากเพราะคุณครูหน้าดุ แต่ก็เพราะท่าน ทำให้ฉัน เรียนภาษาอังกฤษรู้เรื่อง รูปแบบการสอนของคุณครู คือการ เรียกชื่อตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทำให้ฉันไม่อาย ที่จะตอบเพราะถึงจะตอบผิด คุณครูก็ไม่ดุ แม้ว่าขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จะไม่ได้ เรียนภาษาอังกฤษกับคุณครู แต่ก็ได้นำความรู้ที่ครูสอนมาใช้ได้ และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฉัน ชอบคุณครู ก็เพราะคุณครูจะรับฟังปัญหาทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการเรียนจนกระทั่งเรื่องครอบครัว เวลาฉันมีปัญหา ก็จะมีคุณครูอยู่ ข้างๆ ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนั้นๆ ทำให้ฉันรู้สึกไม่โดดเดี่ยว คุณครูอีกท่านหนึ่งก็คือ คุณครูพรเพ็ญ ศิริวรรณ เป็นคุณครูแนะแนวและเป็นที่ปรึกษาให้ฉัน ได้ทุกเรื่อง หรือเวลาที่ฉันท้อ คุณครูก็จะให้กำลังใจ เช่น เรื่องการอ่านหนังสือสอบ คุณครูจะมี วิธีการอ่านแล้วจำได้ เวลามีปัญหาครอบครัวคุณครูก็จะช่วยแก้ไขปัญหา คุณครูเป็นทั้งพ่อ,แม่,พี่ และ เพื่อนในเวลาเดียวกัน สุดท้ายก็อยากจะขอบพระคุณครู ๒ ท่านนี้ และคุณครูท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง
ที่อบรมสั่งสอน ศิษย์ ให้ศิษย์มีวันนี้ ขอบพระคุณค่ะ
ต่อมาวันหนึ่งมีเรียนคณิตคาบเช้า อาจารย์เรียกหนูมาถามว่า พ่อแม่หนูเสียเหรอ ตอนนี้หนูอยู่ กับใคร อาจารย์พูดกับหนูดีมาก หนูไม่ทราบว่าอาจารย์รู้มาจากไหน อาจารย์ถามสารทุกข์สุกดิบ หนูทุกอย่าง หนูมีอะไรให้อาจารย์ช่วยก็บอกนะ ต่อมาอาจารย์คงจะไปเล่าให้พี่ๆ ม.๖ ฟัง เพราะ อาจารย์บอกว่ามีพี่คนหนึ่งอยากรู้จักหนู ชื่อ พี่ประไพรศรี อยู่ ม.๖/๑๐ เขาจะช่วยหนู แล้วหนูก็ได้ พบกับพี่เค้า พี่เค้าได้ติดต่อกับพี่อีก ๒ คนชื่อ นายชัยวัฒน์ ผลชอบ และ นางสวรส กวีชัย ซึ่งพี่ ๒ คนนี้ช่วยเหลือหนูและน้องโดยโอนเงินเข้าธนาคารให้หนูเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท หนูรู้สึกเหมือน ตัวเองและน้องๆ เป็นตัวปัญหาให้คนอื่นเดือดร้อน เขาเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่ญาติหนูสักนิด แต่เขา ช่วยหนูและน้องตลอด หนูขอบพระคุณเค้าทุกครั้งที่หนูพบหน้า หนูไม่รู้จะตอบแทนเค้ายังไงดี ตอนนี้หนูก็คงต้องตั้งใจเรียน แต่หนูคงต้องปรับตัวอีกมาก เพราะหนูเป็นคนเบื่อง่าย ขี้เกียจสุดๆ แต่หนูก็จะพยายาม พูดถึงอาจารย์ ทุกๆ คนและบุคคลที่หนูกล่าวมานี้ ล้วนมีบุญคุณกับหนูทั้งสิ้น ขอให้ทุกคน มีความสุข ต้องมีสักวันที่หนูจะกลับไปขอบพระคุณและไปเยี่ยมท่าน สุดท้ายนี้หนูก็ฝากถึงคุณยายซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วท่านก็ไม่ใช่ยายจริงๆ ของหนู
แต่ท่านรักพวกหนู ดูแลพวกหนู หนูรักคุณยาย ถึงแม้หนูจะพูดไม่เก่ง เรื่องบางเรื่องไม่กล้าคุยด้วย
แต่หนูก็รัก รักมากๆ อยากให้ยายมีความสุขค่ะ
อาจารย์เคยบอกกับข้าพเจ้าว่า ชีวิตของเราทุกคนมันไม่ได้โรยด้วย กลีบกุหลาบเสมอไป
ต้องมี อุปสรรคขวากหนามมาขวางกั้นเส้นทางที่เราเดินไปบ้าง แต่เราต้องเอาชนะมันให้ได้
เอาชนะตนเอง ให้ได้ แล้วเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้จริงๆ ถึงตอนนี้ข้าพเจ้าก็ยังระลึกถึงบุญคุณ
ของอาจารย์เสมอ ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปเยี่ยมเยียนท่านบ่อยๆ และขอให้อาจารย์มีสุขภาพ
แข็งแรง ตลอดไป
เนื่องจากตอนชั้น ม.๔ ผมต้องย้ายมาเรียน ณ โรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราชฯ เพราะโรงเรียนเก่า มีแค่ชั้น ม.๓ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำล้วน (เด็กนักเรียนทุกคนต้องอยู่ประจำ) เริ่มแรกที่ผม เข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ รู้สึกว่าตัวเองกำลังเหงาเพราะมาคนเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่นาน ผมก็ได้รู้จัก กับอาจารย์ปัทมา เนื่องจากท่านเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยกล้าพูดปัญหาของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่อาจารย์ปัทมารู้ว่าผมกำลังมีปัญหา อาจารย์จะเข้ามาให้คำปรึกษา ตลอดระยะเวลา ๓ ปี ช่วงชั้น ม.ปลายที่ผมจากบ้านมาอยู่โรงเรียน ก็ได้อาจารย์ปัทมา คนนี้แหละครับ... ที่คอยเป็นทั้งครูและแม่ อาจารย์ปัทมาจะคอยแนะนำและช่วยเหลือผมอยู่เสมอๆ แม้ตอนนี้มาอยู่ข้างนอกแล้ว อาจารย์ ยังโทร.ถามทุกข์สุขเสมอ อาจารย์ปัทมาเปรียบเหมือนพ่อแม่ ทุกครั้งที่เรามีความสุข ท่านจะร่วมแสดงความยินดี แต่ทุกครั้ง ที่เราเศร้า อาจารย์ปัทมาจะร่วมร้องไห้ไปกับเรา อาจารย์ดูแลเราเป็นอย่างดี ขอบคุณอาจารย์ครับ...อาจารย์ปัท...ที่คอยดูแลและห่วงใยกันเสมอมา "ขอบคุณครับ" อาจารย์ขนิษฐา เวชวังก์ อาจารย์เคมี โรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราชฯ อาจารย์ช่วยส่งเสริมให้เราได้เรียนและได้ความรู้อย่างมาก ช่วยให้เราได้ร่วมกิจกรรมข้างนอก ทั้งยังช่วยจุนเจือในหลายๆ สิ่ง "ขอบคุณอาจารย์มากๆ ครับ"
ครูสอนให้ฉันมีความกตัญญูต่อคุณแม่ เพราะครูรู้ดีว่าครอบครัวฉันเป็นอย่างไร และครูก็ชื่นชม คุณแม่ฉัน เหมือนดังที่ฉันและคุณแม่ชื่นชมครู ฉันอยากขอบคุณคุณครูและอยากบอกว่า ฉันจะทำ ในสิ่งที่ฉันรักให้สำเร็จ นั่นก็คือ เรียนให้จบและเลี้ยงดูครอบครัว ครูของฉันอีกท่านหนึ่งชื่อ ครูจารี โจสุขสันต์ เป็นครูสอนวิชาภาษาไทย ท่านเป็นคนพูดตรงไป ตรงมา ใจดี คอยสอนอยู่เสมอ ท่านไม่เคยรังเกียจ ไม่เคยบ่นเวลาถามข้อสงสัยต่างๆ ท่านยินดี ตอบด้วยความเต็มใจ ฉันเองพอจบ ม.ต้น ก็ไม่ได้เรียนกับท่านอีก แต่ก็จะแวะไปเยี่ยมอยู่เสมอ ทุกครั้ง ที่พบกัน ท่านจะยิ้มถามถึงความสำเร็จต่างๆ และคอยให้กำลังใจในสิ่งที่พลาดพลั้ง ครูสอน ให้ฉันอดทนและตั้งใจเรียน ฉันจึงเคารพและรักครูมาก อีกท่านหนึ่งคือ ครูประนุยา ท่านเป็นครูประจำห้องแนะแนวของโรงเรียนศรีสวัสดีวิทยาคาร
จ.น่าน ตอนแรก ก็ไม่ได้รู้จักกันเพราะครูไม่ค่อย มีเวลาว่างมากนัก เนื่องจากช่วง
ม.๔ - ม.๕ มีนักเรียนมาก ทำให้ฉันได้มารู้จักกับครูตอนอยู่ ม.๖ เพราะครูรู้ถึงปัญหาครอบครัวของฉัน
และคอยให้ ความช่วยเหลือตลอด โดยไม่เคยบ่นเลยและที่สำคัญโครงการจุฬาฯชนบทนี้
หากไม่มีท่าน ฉันก็คง ไม่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้ ท่านคอยดูแลให้คำแนะนำจนฉันสามารถทำได้
ฉันจึงรู้สึกผูกพันกับครู ท่านนี้มาก และสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่องจริงๆ
- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๓ พ.ค. - มิ.ย. ๒๕๔๗ - |