|
ปัจฉิมลิขิต - กอง บก. - เมื่อวันก่อนดิฉันได้รับ e-mail จากรุ่นน้องเรื่องน้ำตาแม่ รู้สึกชอบ เลยส่งมาให้ทีมงานได้อ่าน
เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง ดิฉันอยากทราบ e-mail ของดอกหญ้า ได้มั้ยคะ หากมีเรื่องดี
ๆ จะได้ส่งมาให้ เห็นที่หน้าซองกับข้างในหน้าแรก ของดอกหญ้า ไม่เหมือนกัน
จึงไม่แน่ใจว่า ใช้อย่างไหนกันแน่ - ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องน้ำตาแม่ อ่านแล้วได้อุทาหรณ์อย่างดีเลยว่า ในครอบครัวหรือ แม้แต่สังคมระดับใดๆ ก็ตาม ต้องฟังกันบ้าง ถ้าผู้ใหญ่ถือตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ ไม่ฟังผู้น้อย หรือผู้ที่ถือตนว่ามีความรู้ ไม่ฟังผู้อื่น ความผิดพลาด ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ส่วน e-mail ต้องขออภัยด้วยที่ทำให้เกิดความสับสน ดิฉันเองไม่ได้สังเกตว่ามีการพิมพ์ e-mail ในหน้าแรกของดอกหญ้า สอบถามแล้วได้ความว่าเจ้าของ e-mail ปรารถนาดีขอให้ลง e-mail ไว้ เผื่อท่านผู้อ่าน ต้องการติดต่อ ดิฉันจึงขอให้ลง e-mail ใหม่ ที่สามารถติดต่อ คณะทำงาน ดอกหญ้าได้โดยตรง คือ [email protected] ทำไมจิตใจคนเราถึงวุ่นวายนัก ที่นี่วุ่นวายหนอ - เพราะมีกิเลสบงการอยู่ค่ะ ในสภาวะที่มีความขัดแย้งในการทำงาน จนบางครั้งก็เลี่ยงการกระทบกระทั่งไม่ได้
ทำอย่างไรดี เมื่อเกิดสภาวะที่ลำบากใจ ในการ ทำงาน (เราต้องการ
พัฒนางาน แต่คนอื่นไม่อยากขยับ) - ตอนที่ดิฉันเรียนหนังสือ อาจารย์บอกว่าคนทั่วไปมีธรรมชาติ กลัวการเปลี่ยนแปลงค่ะ
ใครที่อยากมีชีวิตสงบสุขจึงไม่ควรไปริอ่านสร้างความ เปลี่ยนแปลงใดๆ ใช้ชีวิตไปวันๆ ตามสภาพ สังคมที่เป็นอยู่ แต่ถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพ ของตัวเอง ก็ลองดู แน่นอน ที่ต้องกระทบกระทั่ง และลำบากใจ เป็นแบบฝึกหัดทดสอบกำลังจิตว่า จะสู้ได้แค่ไหน มีเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่เรียนรู้ทั้งจาก การเรียนในมหาวิทยาลัย และจากประสบการณ์ การทำงาน คือ การพึ่งพาผู้ใหญ่ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ จะทำงาน ตามคำสั่งของผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากพัฒนา ก่อนอื่นต้องทำให้ผู้ใหญ่เมตตา เอ็นดูเสียก่อน ทีนี้อยาก จะทำอะไร ก็พูดคุย ให้ผู้ใหญ่ เห็นด้วยเสียก่อน แล้วให้ผู้ใหญ่ดำเนินการแทนเรา เราเป็น เพียงผู้ช่วย อย่ามีบทบาทเด่นเสียเอง นอกจากจะไม่ได้รับ ความร่วมมือแล้ว ยังอาจ เกินหน้า เกินตาผู้ใหญ่ ไม่ดีค่ะ ๑. ยึดดีมากเกินไป เป็นทุกข์กับการเข้าใจผิดของผู้อื่น - ๑. อย่ายึดเลยค่ะ มิเช่นนั้นจะทุกข์ไม่ได้ว่างได้เว้น เรื่องที่จะถูกเข้าใจผิดน่ะเรื่องธรรมดา มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ทั้งพระพุทธเจ้า ทั้งมหาสาวก เคยถูกเข้าใจผิด มาแล้วทั้งนั้น ลองอ่านดูสิคะ ถ้าจะคอยตามอธิบาย ให้ทุกคนเข้าใจความจริง ก็คงไม่เป็นอันทำอะไร ๒. ต้องยอมรับค่ะว่า มนุษย์เป็นคนเห็นแก่ตัว ตั้งแต่เอาเนื้อสัตว์มาเป็นอาหารแล้วล่ะ ทำให้สัตว์ ทั้งโลกต้องเดือดร้อน ก่อนที่จะโกรธคนอื่น ลองทบทวน ตนเองดูแต่ละวันสิคะว่า ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครบ้างหรือเปล่า แม้เล็กแม้น้อย ๓. ต้องใช้สูตรพระพุทธเจ้าค่ะ ขยันและประหยัด ๑. ถ้าเราพยายามมีสติ เอาลมหายใจเป็นเพื่อน โดยไม่ได้พิจารณาไตรลักษณ์ไปด้วย เราจะบรรลุธรรม ได้หรือไม่ หรือว่าถ้าจิตใจเป็นสมาธิอยู่กับลมหายใจแล้ว สัจจะจะปรากฏขึ้นมาเอง ๒. ผมเคยไปร่วมงานที่ศาลีอโศก ในห้องน้ำชายเห็นมีถังรับบริจาคปัสสาวะตั้งอยู่
ผมขอ ทราบว่า เราจะเอาไปใช้อย่างไรครับ ผมเก็บไว้หลายถัง ถังละ ๕๐ ลิตร โดยเติม
น้ำตาลทรายแดง ไปด้วย ถังละ ๑ กก. - ๑. การปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมมีทางเดียวค่ะคือการปฏิบัติตามมรรค ๘ การมีความเห็น ความดำริ การพูด การกระทำ การงานอาชีพ ความพยายาม ความระลึกรู้ตัว และจิตตั้งมั่น ในทางที่ถูกตรง( สัมมา) การมีสติอยู่กับลมหายใจ และการพิจารณาไตรลักษณ์ เป็นเพียง ส่วนหนึ่ง ของการฝึก ความระลึกรู้ตัว และการรู้เห็นความจริงตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่ง มีความไม่แน่นอน เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตน แต่สัมมาสติ ตามหลักมรรค ๘ จะเกิดควบคู่ ไปกับการพูด การกระทำ และการประกอบอาชีพที่สัมมา ตามทิฏฐิความเห็น และ สังกัปปะความดำริ ที่สัมมา เพราะฉะนั้น สัมมาสติจึงมิใช่ความระลึกรู้ตัว ตามธรรมดา ทั่วไป แต่ต้องรู้ตัวว่า พฤติกรรมทุกขณะของเรา เป็นสัมมาหรือเปล่า สัมมาสมาธิก็เช่นกัน เป็นผลสุดท้ายของมรรค ๗ องค์แรก สมาธิที่เกิดจากการกำหนด ลมหายใจ ไม่ใช่สัมมาสมาธิของพุทธ ถ้าปราศจาก องค์ประกอบทั้ง ๘ ของมรรค ก็ไม่นำ ไปสู่การบรรลุธรรม ๒. ดิฉันถามคุณลำพัน ชะเอม ที่ศาลีอโศกแล้ว ได้ความว่า ให้นำน้ำปัสสาวะผสมน้ำ เท่าตัว เช่นน้ำปัสสาวะ ๑ ถัง เติมน้ำเปล่าลงไปอีก ๑ ถัง เพื่อไม่ให้ เข้มข้นเกินไป แล้วนำ ไปรดต้นไม้ได้เลย แต่ถ้าจะเก็บไว้ ก็ต้องเติมน้ำตาลทรายแดงเพื่อไม่ให้เกิดกลิ่น หมักไว้ ๑ สัปดาห์ เวลาจะนำไป รดต้นไม้ ต้องผสมน้ำประมาณ ๑๐ เท่า หรือจะผสมน้ำพร้อมกับ ตอนที่เติมน้ำตาลก็ได้ เมื่อหมักไว้ครบ ๑ สัปดาห์แล้ว นำไปรดต้นไม้ได้ เลย ไม่ต้อง ผสมน้ำอีก เคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอ แต่พอเจอเรื่องหนักๆ ก็แทบแย่ คิดตลอดเวลาว่า
ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เที่ยง และไม่แน่นอน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องของมนุษย์ทุกคน
แม้แต่ตัวเองค่ะ - ความยากลำบากในชีวิตเป็นแบบฝึกให้จิตใจเข้มแข็งจริงๆ ค่ะ การปฏิบัติธรรม แบบพุทธ จึงต้องอาศัยผัสสะ หรือสิ่งที่มากระทบ เป็นปัจจัยไงคะ เมื่อกระทบสิ่งใดก็ตาม ยังสามารถรักษาความคิด การพูด การกระทำ และการประกอบการงานอาชีพ ให้สัมมาได้ ถ้าไม่ได้ กระทบผัสสะอะไร ใครๆ ก็มักจะคิดว่าตนเองไม่มีกิเลส เราจะมีวิธีคิดอย่างไร เวลาเขาพูดสิ่งที่เรารับไม่ได้ พูดเสียดสีกระทบกระทั่ง
บางทีเรายัง ไม่ได้ทำอะไร ก็โดนด่า โดนว่าแล้ว - เรื่องนี้เคยมีมาแล้วสมัย พุทธกาล มีคนมาว่าพระพุทธเจ้า พระองค์ปล่อยให้เขาว่า จนพอใจ แล้วก็ถามเขาว่า เวลาแขกมาบ้าน เจ้าของบ้านเอาอาหารและน้ำมาต้อนรับแขก ถ้าแขกไม่รับประทาน อาหารและน้ำนั้นจะตกเป็นของใคร คนนั้นตอบว่า เป็นของ เจ้าของบ้าน พระองค์สรุปว่า ถ้อยคำที่เขาว่า พระองค์ก็เหมือนกัน ถ้าพระองค์ไม่รับไว้ ถ้อยคำนั้น ก็เป็นของผู้กล่าวเอง ข้อสำคัญ เวลาฟังเขาว่า อย่าทำท่ายียวนหรือยิ้มเย้ยหยันเขานะคะ ฟังเฉยๆ อย่าเก็บ หรือรับ มาเป็นอารมณ์ รู้ตัวทุกอย่างว่ายังบกพร่องอะไร ควรทำอะไร ตั้งใจก็ตั้ง ทำได้เป็นบางวันบางเวลา
ทำไมถึง ทำไม่ได้ จนกลายเป็นปกติ ไม่ต้องฝืน... ไม่เข้าใจ ทางโลกกับทางธรรม
มันตรงกันข้ามหมด - คุณเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ เพราะธรรมะจะทวนกระแสโลก คุณคิดดูเถอะว่า ตอนที่พระพุทธเจ้า ตรัสรู้น่ะ พระองค์ไม่คิด จะสอนคนเลยนะคะ พระไตรปิฎก เล่ม ๔ ข้อ ๗ กล่าวถึงพุทธดำริตอนนี้ว่า " บัดนี้ เรายังไม่ควรจะประกาศธรรม ที่เราได้บรรลุแล้วโดยยาก เพราะธรรมนี้ อันสัตว์ผู้อันราคะและโทสะ ครอบงำแล้ว ไม่ตรัสรู้ได้ง่าย สัตว์ผู้อันราคะย้อมแล้ว ถูกกองอวิชชาหุ้มห่อแล้ว จักไม่เห็นธรรม อันละเอียดลึกซึ้ง ยากที่จะเห็น ละเอียดยิ่ง อันจะยังสัตว์ให้ถึงธรรมที่ทวนกระแส คือนิพพาน" แต่เพียงชั่วครู่เดียว ก็ทรงตระหนักได้ว่า ผู้ที่มีธุลี ในดวงตาน้อยมีอยู่ เมื่อได้ฟังธรรม ก็จะเข้าใจได้ ในเมื่อการแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองเป็นเรื่องยาก เราก็ยิ่งต้องเพียรยิ่งๆ ขึ้นสิคะ ผู้ว่าซีอีโอ คำเต็มว่าอย่างไร แปลว่าอะไร ผู้บริหารซีอีโอตามที่รัฐบาลต้องการไม่เห็นมี
ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลเลย - CEO ย่อมาจาก Chief Executive Officer หมายถึง ผู้บริหารที่มีอำนาจสูงสุด หรือหัวหน้า ผู้บริหาร การที่รัฐบาลพยายาม จะให้หัวหน้า ส่วนราชการเป็น CEO ก็เพื่อจะได้มีอำนาจ ตัดสินใจ และรับผิดชอบงาน ในหน่วยงานเต็มที่ แก้ปัญหาที่ว่า " ไม่มีเจ้าภาพ" หรือเกี่ยง ความรับผิดชอบกัน มีปัญหาอะไรก็โทษกันเป็นทอดๆ ไป เช่น ครูน้อยโทษหัวหน้าหมวด หัวหน้าหมวด โทษฝ่ายวิชาการ ฝ่ายวิชาการ โทษผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้อำนวยการ โทษอธิบดี เป็นอย่างนี้เรื่อยไป จนถึงนายกรัฐมนตรี สาเหตุที่ผู้บริหาร CEO ยังไม่มี ประสิทธิภาพ อย่างที่หวัง คงเป็นเพราะ ยังไม่เคยชินกับ ระบบบริหารแบบใหม่ " อำนาจ" เป็นเรื่องที่ไมใช่จะจัดสรรกันง่าย ๆ คงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะแก้ไขวัฒนธรรม การทำงานของคนไทยได้ ๑. คนเราเมื่อตายแล้ว วิญญาณห่วงสมบัติไม่ไปเกิดเรียกว่าสัมภเวสีใช่หรือไม่ ศาสนาพุทธ ให้อุทิศ สังฆทานไปหา ถึงจะได้ไปเกิดจริงหรือไม่ เพราะเหตุไร ๒. การไปเกิดเป็นอะไร แล้ว แต่กรรมของตนใช่ไหม เพราะเหตุไร ๑. สัมภเวสีคือสัตว์ผู้ยังแสวงหาที่เกิด ได้แก่ ปุถุชนและพระเสขะผู้ยังไม่บรรลุอรหัตผล เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ห่วงสมบัติเท่านั้น ยังห่วง หรือยึดอะไรอยู่ ก็เป็นสัมภเวสีทั้งนั้น ใครๆ ก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะกรรมใดใครก่อ ก็ต้องรับผลกรรมนั้น ศาสนาพุทธ ไม่สอนเรื่อง การอุทิศส่วนกุศล ซึ่งขัดแย้งกับคำสอน เรื่องวิบากกรรม ลองคิดดูง่ายๆ ว่าถ้าการอุทิศ ส่วนกุศล ให้ผลจริง ระบบกรรมของมนุษย์ คงสับสนน่าดู คนที่ทำชั่วไว้ แต่มีผู้อุทิศ ส่วนกุศลให้มากๆ อาจจะมีชีวิตที่ดีกว่าคน ที่ทำดีแต่ไม่มีหรือมีคนอุทิศ ส่วนกุศลให้น้อย แล้ววิธีที่ได้สิ่งของ มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลนั้น ถ้าได้มาจากการกระทำบาปล่ะ ผลบาป จะเป็นของผู้อุทิศหรือผู้รับ ๒. ใช่ค่ะ เพราะผลย่อมเกิดจากเหตุ ยกตัวอย่างง่ายๆ นักเรียน ที่ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ขวนขวาย ศึกษาเพิ่มเติม ก็ต้องสอบตก หรือคนที่ เอาแต่ใจตัวเอง ถือความคิดของตน เป็นใหญ่ ไม่รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน ก็ย่อมไม่มีคนที่มีความคิด มีฝีมือ มาทำงานด้วย ถ้าใคร เป็นคนมีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น ก็ย่อมเป็นที่รักของบุคคลทั่วไป คนขยันทำมาหากิน และประกอบด้วยสติปัญญา ย่อมประสบ ความสำเร็จ ในการงาน อาชีพ เญยยธมมคืออะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง - แปลตามอักษรว่าธรรมที่ควรรู้ ดิฉันเปิดพจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรมของ ท่านเจ้าคุณ พระธรรมปิฎก (ปัจจุบัน คือ พระพรหมคุณาภรณ์) ไม่ได้บอกไว้ว่ามีอะไรบ้าง ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็ต้องบอกว่า ธรรมทุกหมวด เป็นธรรมที่ควรรู้ทั้งนั้น ถ้าจะให้ เจาะจงหน่อย ก็คงต้องบอกว่ามรรค ๘ ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ แต่ละข้อก็มี รายละเอียด ที่ควรรู้ควรปฏิบัติทั้งสิ้น ไม่สามารถอธิบายทั้งหมดได้ในที่นี้ ขอให้คุณอ่าน ได้จาก มหาจัตตารีสกสูตร พระไตรปิฎกเล่ม ๑๔ พระท่านบอกว่า แต่งงานแล้วมีทุกข์ แต่ทำไมคนจึงแต่งงานกันมากมาย - เพราะคนเรายังโง่อยู่ ยังยอมตนอยู่ใต้อำนาจกิเลสต่างๆ นานา เหมือนคนรู้ว่าบุหรี่ เป็นอันตราย ต่อสุขภาพ ก็ยังสูบกันอยู่ ยาเสพติด จะทำลายชีวิต ก็ยังเสพกันอยู่ บางคน อ้างว่าสูบบุหรี่แก้เครียด บางคนว่าเสพยาเพื่อหนีทุกข์ ทั้งที่ผลท้ายปลายสุด ทั้งบุหรี่ และ ยาเสพติด ก็นำไปสู่ความทุกข์ทั้งสิ้น ดิฉันเองก็เหมือนกัน รู้แสนรู้ว่าความโกรธเป็นโทษ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม ก็ยังโกรธอยู่เลย นอกจากโง่แล้ว ยังเป็นเพราะอ่อนแอ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ อยากจะทราบวิธีลดอาการหงุดหงิด โมโหง่าย บางครั้งก็พยายามทำใจ แต่บางครั้ง
ก็สุดทน กับผู้คน ในสังคมปัจจุบัน - ฝึกขัดใจตนเองค่ะ เช่น ไม่ กินอาหารที่อยากกิน ไม่ซื้อสิ่งของที่อยากจะได้ พูดกับคนที่ ไม่อยากจะพูดด้วย ทำงานที่ไม่ชอบ ฯลฯ บางทีดิฉัน รอรถเมล์นานๆ คิดอยากจะเรียก แท็กซี่ ต้องบอกตัวเองว่า หัดอดทนเสียบ้าง แต่ก่อนนี้ดิฉันไม่ยิ้มแย้ม ทักทายใครๆ ก็ต้องหัดทำ พยายาม หาเรื่องพูดคุยกับผู้คน การที่พยายามหาเรื่องขัดใจตัวเองเสมอๆ ก็จะไม่ค่อยมีเวลา ไปโมโหคนอื่นเท่าไรค่ะ เพราะถูกขัดใจอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว เวลาคนอื่นขัดใจเราบ้างถึงได้ไม่โกรธ หรือโกรธ น้อยลง กว่าที่เคย อีกอย่างหนึ่ง ที่ดิฉันเคยใช้คือ หุบปากไว้ก่อน ไม่พอใจแค่ไหนก็ไม่พูด เราจะได้มีเวลาอบรมจิตตัวเองเสียก่อน พอเวลาผ่านไป ระดับความโกรธ จะลดลงค่ะ แต่ถ้ามีปัญญา เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ ก็จะไม่โกรธเลย
ความโกรธเป็นต้นเหตุของความอาฆาตแค้นหรือเปล่าคะ - ใช่ค่ะ แล้วก็นำไปสู่การเบียดเบียนผู้อื่นทางกาย ทางวาจา และทางใจ ผิดศีลธรรม คนที่เข่นฆ่ากัน ทำร้ายกัน เป็นคนไม่สมควรมีศาสนาใช่หรือไม่ - ดิฉันคิดว่า น่าจะพูดว่า คนที่มีศาสนาไม่สมควรเข่นฆ่ากันทำร้าย กัน คนที่ฆ่ากัน ทำร้ายกัน บางที ก็มีศาสนานะ แต่กำลังจิตไม่เข้มแข็งพอ ที่จะควบคุม กิเลสโทสะได้ ๑. ดิฉันเคยเข้าค่ายมาและอยากจะมาทำที่บ้าน แต่ด้วยความไม่สนิทกับคนในครอบครัว ทุกคน ในครอบครัว จะรับประทาน อาหารธรรมดา ตามปกติ ดิฉันไม่กล้าที่จะใช้ วิธีการ ที่เข้าค่าย มาทำกับทุกคนในครอบครัว ถ้าจะทำเพียงคนเดียว ในครอบครัว และ รับประทาน อาหารมังสวิรัติ เพียงผู้เดียว คนในครอบครัวจะตำหนิ ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ดิฉันอยากทราบว่า จะต้องทำอย่างไร ๒. ดิฉันไม่ได้เป็นสมาชิก จะสมัครได้อย่างไร - ๑. ดิฉันว่าทุกคนที่รับประทานอาหารมังสวิรัติเริ่มต้นคนเดียวในบ้าน รวมทั้งดิฉันด้วย ยี่สิบ กว่าปีมาแล้ว ทุกวันนี้ ก็ยังเป็นคนเดียวในบ้าน ที่กินอาหารมังสวิรัติ ดิฉันทำอาหาร ไม่เป็นด้วย แรกๆ ไม่มีใครทำให้ ดิฉันก็กินข้าวกับผัดผักต้มผัก บางทีก็ลวกก๋วยเตี๋ยว ใส่ซีอิ๊วกิน ตอนหลัง เขาสงสาร ต้องทำให้กิน ปัจจุบันนี้ทุกคนในบ้าน ทำอาหาร มังสวิรัติเป็น ทำให้ดิฉัน แต่ยังไม่มีใคร เลิกกินเนื้อสัตว์เลย ถ้าต้องรอให้ทุกคน รับประทาน อาหารมังสวิรัติ ก็คงยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติ อย่าคิดว่าจะให้คนอื่น แม้ในครอบครัวทำอย่างเรา เพราะจะทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้น เราทำตัวสบายๆ เตรียมอาหารของ ตัวเอง อย่าให้คนอื่น ต้องมาลำบากกับเรา ถ้าคิดว่า ทำอาหารอร่อย พอให้คนอื่นกินด้วยได้ ก็ ทำเผื่อให้เขาชิมบ้าง รับประทานอาหาร ร่วมกับคนอื่น เขากินเนื้อสัตว์ เรากินมังสวิรัติ ก็นั่งร่วมโต๊ะกันได้ ๒. ส่งใบสมัครไปให้แล้วค่ะ
๑. เคยได้ยินชื่อภูผาฟ้าน้ำ แต่ยังไม่เคยไป จะติดต่อเข้าได้อย่างไร เพราะอยากไปมาก
อยู่ใกล้ที่เดียว - ๑. โทรศัพท์ติดต่อภูผาฟ้าน้ำได้ที่หมายเลข ๐-๕๓๒๒-๘๕๕๘, ๐-๕๓๒๒-๘๕๕๙ หรือจะไปเยี่ยมเยียน ชมรมมังสวิรัติที่อำเภอเมือง เชียงใหม่ก่อนก็ได้ค่ะ ติดต่อได้ที่ ๐-๕๓๒๗-๑๒๖๒ ๒. ไปที่ภูผาฟ้าน้ำก็ได้ค่ะ ใกล้กว่า หรือจะลองติดต่อศาลีอโศก อำเภอไพศาลี จังหวัด นครสวรรค์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๕๖๒๕-๙๒๑๗ ดิฉันไม่ทราบว่าจากน่าน ไปทางไหน จะใกล้ และสะดวกกว่ากัน
- ๑. มีที่พัก มีอาหารเลี้ยง แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของชาวอโศก คือ
รับประทาน อาหาร วันละมื้อเดียว ไม่สวมรองเท้า ตื่นตีสามครึ่ง ร่วมทำวัตร
ฟังธรรม และช่วยงาน ในวัด ๑. ถ้าไปสันติอโศกครั้งแรกคงเปิ่นๆ นะ เพราะไม่เคยไปและไม่รู้จักใครเลย - ๑. ก็เหมือนไปที่อื่นๆ เป็น ครั้งแรกแหละค่ะ เดินดูไปเรื่อยๆ อยากรู้อะไร เห็นใครเดินผ่านมา ก็ถามได้ ถ้าเขาทำอาการแปลกๆ หรือรู้สึกว่า ถูกมองอย่างเพ่งพินิจ ก็คิดเสียว่า คนที่นี่แปลกดีนะ ถ้าเห็นว่า ใครมีการกระทำไม่เหมาะสม ก็ให้อภัยด้วย ๒-๓. บริเวณหน้าวัดจะมีร้านอาหารมังสวิรัติหลายร้าน พอเดินเข้าไปในวัดก็จะมีศาลา ฟังธรรม ศาลาวิหาร น้ำตก กุฏิที่พักสมณะ ที่พักสิกขมาตุ โรงเรียนสัมมาสิกขา ที่พักคนวัด โรงพิมพ์ ร้านจำหน่าย สื่อธรรมะ คุณสามารถเดินดูได้ ทุกจุด และจะเข้าไปคุยกับสมณะ หรือสิกขมาตุ รูปใดก็ได้ ที่คุณพบ แต่เพื่อความสบายใจ ไม่ต้องถูกปฏิเสธจากท่าน ที่กำลัง ติดภารกิจอื่น คุณเข้าไปสนทนาธรรมกับสมณะ ที่มีหน้าที่ปฏิสันถาร โดยตรง ได้ที่บ้านดอกไม้ บ้านดอกไม้อยู่ตรงไหน ถามเขาค่ะ ๔. แต่งกายสุภาพตามธรรมเนียมไทยทั่วไปค่ะ แรกๆ คุณไม่รู้จักใคร ไม่ต้องเจาะจง พบใคร ดีกว่านะคะ ไปพบสมณะ ที่บ้านดอกไม้ดีกว่า ถ้าไป วันอาทิตย์ จะมีฆราวาสไปวัด มากหน่อย คุณอาจได้พบคน ที่คุยถูกคอกัน สันติอโศกอยู่ที่ไหน จะไปได้อย่างไร ข้าพเจ้าอยู่จังหวัดชลบุรี ครั้งแรกที่เป็นสมาชิก
อ่านหนังสือจากเพื่อน ที่เป็นสมาชิก แต่ตอนนี้ ไม่ได้พบเพื่อนคนนั้นแล้ว
ไม่ทราบ จะถามใคร - จากชลบุรี คุณนั่งรถโดยสารประจำทางมาลงที่เอกมัย แล้วข้ามถนน ขึ้นรถเมล์สาย
๗๑ หรือ ปอ.๑ บอกกระเป๋ารถเมล์ว่า ถึงสันติอโศก ช่วยบอกด้วย แต่ดูทางด้วยนะคะ
เผื่อกระเป๋ารถเมล์ลืม นั่งรถเมล์ไกลเหมือนกันค่ะ ประมาณชั่วโมงกว่า มองทางซ้ายมือ
ถ้าถึงตลาด อินทรารักษ์ ก็ลงป้ายต่อไป ข้ามถนน จะมีป้ายบอกทางเข้าสันติอโศกค่ะ ผมขอหนังสือเจ จะเอามาทำเป็นอาหารกินในครอบครัว - ต้องขออภัยด้วยนะคะ เราไม่มีหนังสืออาหารเจแจก แต่ขอแนะนำวิธีทำอาหารเจง่ายๆ คือ ทำเหมือนอาหารปกติ ที่คุณเคยทำอยู่แล้ว เพียงแต่ใช้เต้าหู้ หรือเห็ดแทนเนื้อสัตว์ ใช้ซีอิ๊วแทนน้ำปลา ไม่จำเป็นต้องทำอะไร ผิดแผกจากเดิมหรอกค่ะ เพียงแต่พยายามคิด เสียหน่อยว่า อะไรที่เราจะใส่ลงไป ในอาหารของเรานั้น ได้มาจากสัตว์หรือเปล่า ถ้ามี ส่วนประกอบของสัตว์ ก็อย่าใช้ หาอย่างอื่นมาใช้แทน ๑. ชมรมมังสวิรัติแจกอาหารฟรีวันที่ ๕ ธันวาคมทุกปี มีที่ไหนบ้าง - ๑. ที่ทราบแน่นอนก็มีที่จตุจักรกับที่คลองกุ่มค่ะ เฉพาะที่กรุงเทพฯ นะคะ ต่างจังหวัดก็มี ไม่ใช่เฉพาะ ชมรมมังสวิรัติ ประชาชนทั่วไป ที่มีศรัทธา จะทำบุญ ถวายพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ก็ทำได้ ร่วมกับเพื่อน ๆ หรือญาติพี่น้อง ช่วยกันทำอาหาร มังสวิรัติ แจกหน้าบ้าน หรือแหล่งชุมชนใกล้บ้าน หรือจะติดต่อขอแจกนักเรียน ในโรงเรียนก็มี เพราะฉะนั้น ก็จะเลือกวันที่สะดวก และเหมาะสมกับชุมชน บางทีก็อาจ ไม่ตรงวันที่ ๕ ธันวาคมก็ได้ค่ะ ปัจจุบันนี้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกค่ะ ร้านมังสวิรัติที่คลองกุ่ม กรุงเทพฯกับที่เชียงใหม่ จะมีคน ใจบุญ มาเหมาอาหารมังสวิรัติ แจกอยู่เสมอ ๆ เช่น วันเกิด วันเข้าพรรษา หรือวันสำคัญอื่น ๆ ของแต่ละท่าน บางทีก็เหมาทั้งร้าน บางทีก็เหมาอาหาร อย่างเดียว ใครมารับประทาน อาหาร ที่ร้านวันนั้น ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน ลูกค้าที่ได้รับประทานฟรี วันหน้าเขาก็มาเหมาอาหาร ทำบุญ ให้คนอื่นบ้างเหมือนกัน ๒. เนื่องจากว่าคุณชลิตาอยู่กรุงเทพฯ ดิฉันจึงขอแนะนำให้ไปหาซื้อได้ตามร้านหนังสือ แถวบ้านคุณ อาจจะมีร้านหนังสือดอกหญ้า (ไม่เกี่ยวข้อง อะไรกับนิตยสาร ดอกหญ้า และ สมาคมผู้ปฏิบัติธรรม นะคะ) ร้านนายอินทร์ หรือ ซีเอ็ด ซึ่งมักจะตั้งอยู่ในห้าง สรรพสินค้า ถ้าไม่มีร้านหนังสือ ใกล้บ้านจริงๆ คุณคงต้องลงทุนเดินทางไปสยามสแควร์ มีทั้งศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านดอกหญ้า หรือไม่ก็ไปที่ ท่าพระจันทร์ มีศูนย์หนังสือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร้านดอกหญ้า ร้านนายอินทร์ ร้านเหล่านี้มีหนังสือ สูตรอาหาร มังสวิรัติ หรืออาหารเจ แน่นอน จะทำอย่างไรคนที่บ้านจะอ่านดอกหญ้าด้วย ถ้าอ่าน คงจะเข้าใจกัน ขณะนี้แก้ปัญหา
ไม่ตก - ปัญหาจะคลี่คลายได้ถ้าเราเข้าใจผู้อื่นก่อน จะบริจาคร่างกายให้ทางศูนย์ได้ไหม และจะขอให้ทางศูนย์จัดการศพให้เรียบร้อยเลย
ได้หรือเปล่า - ไม่ได้หรอกค่ะ จะบริจาคร่างกายต้องติดต่อสภากาชาดไทย VCD วิธีทำการเกษตรไร้สารพิษของชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน
มีจำหน่ายที่สันติอโศก ด้วย หรือเปล่าครับ - มีค่ะ โทรศัพท์ติดต่อสอบถามคุณใบแก้ว ชาวหินฟ้า โทรศัพท์ ๐-๒๓๗๔-๕๒๓๐ สมาชิกดอกหญ้านี้จะจัดประชุมพบปะพูดคุยกันทางภาคเหนือสักครั้งไหมครับ เพราะผม
ก็อยากจะไป - ค่อนข้างแน่ใจว่าจะจัดประชุมได้ แต่ต้องรอเวลาที่ภาระงานของเพื่อนร่วมงานแต่ละคน เบาบางลง สักหน่อยก่อนค่ะ ขอความกรุณาส่งหนังสือดอกหญ้า ฉบับย้อนหลังให้ได้หรือเปล่าคะ - ก่อนอื่นขอชมว่าลายมือสวยมากค่ะ เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนหนังสือดอกหญ้า ฉบับย้อนหลังนั้น ไม่มีจริงๆ ค่ะ แจกหมดทุกฉบับ บางฉบับไม่พอแจกเสียด้วยค่ะ อยากได้หนังสือดอกหญ้าเล่มใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะจะได้อ่านมากๆ ไม่ทราบว่า
กองบรรณาธิการ จะทำได้ไหมคะ - ระยะนี้ยังทำไม่ไหวค่ะ ภาระงานด้านอื่นยังมากเหลือเกิน - ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๕ กันยายน - ตุลาคม ๒๕๔๗ - |