ช่วงวันหยุดปีใหม่ทำงานไม่ได้มากอย่างที่กะการไว้ เพราะทำท่าจะเป็นหวัด พิมพ์งานได้ไม่เท่าไร ก็ง่วงเหลือเกิน ต้องนอน ฝืนไม่นอนก็คิดอะไรไม่ออกอยู่ดี

ส่วนเวลาที่ไม่ง่วงก็ติดตามข่าวคราวพี่น้องที่ประสบภัยคลื่นยักษ์ถล่มที่ ๖ จังหวัดภาคใต้ เสียดาย ที่เอาตัวไปช่วยไม่ได้ ได้แต่พูดกับแม่ว่า ถ้าแม่ยังสาวจะพาแม่ไปช่วยพวกเขา แล้วก็ชวนแม่ แบ่งเงินส่วนหนึ่งที่ลูกๆ ให้ไว้ไปเข้าบัญชีช่วยผู้ประสบภัย

เป็นน้ำใจเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับน้ำใจของพี่น้องคนไทยทุกวัยทุกสาขาอาชีพ ที่ช่วยกันคนละไม้ คนละมือเท่าที่จะสามารถ

ดิฉันเห็นภาพทางโทรทัศน์แล้วก็ตื้นตันใจ ดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย มีความรู้สึกและความคิด เกิดขึ้นมากมายระหว่างติดตามสถานการณ์ อย่างนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ที่มาเที่ยวเมืองไทย กับสามีและลูกชาย ๒ คน วัยประมาณไม่เกิน ๑๐ ปี วันที่เกิดเหตุ เธอกับลูกเล่นน้ำทะเลอยู่ ส่วนสามีอยู่ในห้องพัก ทันทีที่เกิดเหตุร้าย เธอคว้าตัวลูกไว้ได้ทั้งสองคนแต่สู้แรงน้ำได้พักเดียว เธอก็รู้ตัวว่ารักษาลูกทั้งสองคนไว้ไม่ไหวแล้ว ต้องตัดสินใจปล่อยลูกคนโตไป ขณะที่เสนอข่าวว่า ครอบครัวเธอปลอดภัยทุกคน และแสดงความเห็นใจในการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยว ของแม่คนหนึ่ง ลูกชายคนโตของเธอยังร้องไห้ไม่หยุด คงยังไม่หายตกใจกลัว

ชีวิตปกติประจำวันก็เช่นกัน ต้องอาศัยการตัดสินใจที่ดี จึงจะสามารถนำตนก้าวไปได้ถูกทาง ไม่มีใครจะอยู่ช่วยเราตัดสินใจได้ตลอดเวลา ฉะนั้นเราควรฝึกคิดและตัดสินใจ ด้วยตนเอง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกทั้งควรฝึกฝนให้ลูกหลานและลูกศิษย์คิดและลงมือทำตามความคิดของเขา โดยมีผู้ใหญ่คอยดูแลให้คำแนะนำตามสมควร

มิฉะนั้นเราจะต้องเผชิญปัญหาที่ลูกหลานของเราไม่รู้จักคิด หรือคิดผิดอยู่ร่ำไป อย่างลิงตัวหนึ่ง ในนิทานของอินเดียจะช่วยพระราชา กลายเป็นปลงพระชนม์ไปโดยไม่ตั้งใจจริงๆ เรื่องนี้เกร็ดกรวด เล่าไว้ในคอลัมน์แนะนำหนังสือ เชิญติดตามอ่านได้ในเล่ม

ทีนี้บางทีก็มีบางเรื่องที่ตัดสินใจไม่ได้ เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายคนและคิดเห็นต่างกัน (ซึ่งผู้ใหญ่ ก็ชำนาญมากในการตัดสินใจแทนทุกคน)ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนมากนัก บางทีรอเวลาไปอีกสักหน่อย สถานการณ์จะช่วยให้เราตัดสินใจได้

ดิฉันใช้วิธีนี้บ่อย เพราะเคยมีผู้ใหญ่แนะนำว่าให้ใจเย็นๆ รู้จักอดทน รอเหตุปัจจัยให้ครบพร้อม จะตัดสินใจได้เอง

อย่างเช่นเรื่องรูปเล่มของดอกหญ้า นานมาแล้วที่มีผู้เสนอให้เปลี่ยนรูปเล่ม พอมีผู้เสนอที เราก็คิดกันที หลังจากที่คิดกันมานาน คิดกันมาหลายรอบ ก็ไม่เคยตกลงกันได้ว่าจะแปลงโฉมเป็นแบบไหนดี คนที่ชอบดอกหญ้าอย่างที่เห็นและเป็นอยู่ก็มาก ไม่อยากให้เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งโรงพิมพ์ จะเปลี่ยนมาใช้เครื่องพิมพ์ใหม่ที่ใช้งานง่ายและพิมพ์งานได้เร็วขึ้น ซึ่งถ้าลดขนาดดอกหญ้า ลงสักเล็กน้อย ก็จะสามารถพิมพ์ปกดอกหญ้าได้ทีละ ๒ ปก หมายความว่าเร็วขึ้นเท่าตัว เมื่อมีเหตุ ปัจจัยดังนี้ ก็สมควรจะต้องเปลี่ยนแปลง เราก็เลยหารือกันว่าขนาดไหนดี แนวตั้งหรือ แนวนอน แล้วก็ลงเอยอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะหวังว่าคงจะถูกใจท่านผู้อ่านส่วนใหญ่ ท่านใดไม่ชอบใจ ก็บ่นไปได้ เรายินดีรับฟัง

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง บางทีต้องใช้เวลากว่าจะยอมรับสิ่งที่เราไม่เคยชิน แต่เชื่อว่าอ่านไปอ่านมา ทุกท่านก็จะเห็นความน่ารักอีกแบบหนึ่งของรูปเล่มใหม่นี้

ปัญหาเรื่องรูปเล่มจบไป แต่ยังมีข้อขัดข้องอีกเรื่องหนึ่งคือตอบคำถามจากท่านผู้อ่านไม่ทัน ทั้งที่ใช้หน้ากระดาษสำหรับคอลัมน์ปัจฉิมลิขิตกว่าสิบหน้าแล้ว

คุณผู้อ่านช่วยเสนอความคิดเห็นหน่อยเถอะค่ะว่า จะทำอย่างไรดีกับคำถามของอีกนับร้อยท่าน ที่ค้างอยู่ นอกจากนี้ยังอยากได้ประวัติการศึกษา การทำงาน และการปฏิบัติธรรม ของท่านผู้อ่าน ที่สนใจจะเข้าร่วมสัมมนาสมาชิกดอกหญ้าในปี พ.ศ.๒๕๔๙ ด้วย (ถ้าไม่มีปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ต้องเปลี่ยนแปลง) ที่สำคัญคือประวัติการปฏิบัติธรรมตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน เพื่อจะได้เชิญ เข้าร่วมสัมมนาสมาชิกดอกหญ้าให้เหมาะสมกับประสบการณ์ของแต่ละคน และจะได้จัดรายการ การสัมมนาแต่ละรุ่นให้เหมาะสมด้วย

การสัมมนาสมาชิกดอกหญ้านี้ ดิฉันเห็นว่าจะเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้ที่จะฟังคนอื่นและแก้ไขตนเอง โดยเฉพาะพวกเราก็อายุมากๆ กันแล้ว เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นครูบาอาจารย์ เป็นผู้บริหารระดับต่างๆ บางทีคนใกล้ชิดก็ไม่กล้าบอกข้อบกพร่องของเรา เกรงใจบ้าง เคยชินจนไม่รู้สึกเป็นปัญหาบ้าง เราก็เลยไม่ได้แก้ไขตัวเองสักที

เมื่อวานนี้ (๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘) พี่คนหนึ่งบ่นถึงผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่น และไม่มีสำนึกของ ความประหยัด

วันนี้ เพื่อนอีกคนหนึ่งบ่นถึงคนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักคิด ไม่ใฝ่เรียนรู้ ไม่มีน้ำใจ และเพื่อนร่วมงาน ที่ไม่ค่อย จะทำงานแต่อยากได้หน้า

เป็นสิ่งที่ดิฉันได้ประสบพบเห็นมาเหมือนกัน และคิดว่าจะต้องบอกให้เขารู้ตัว จะได้แก้ไข
ถึงแม้ว่า จะเหนื่อยล้าลงมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว
เชื่อว่าถ้าเขารู้ เขาอาจจะแก้ไขได้
เช่นเดียวกับคนที่ป่วยอยู่
คนที่ทุกข์กายทุกข์ใจด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม
ขอให้มีความหวังอยู่เสมอว่า ชีวิตเราจะดีขึ้นได้

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๗ เดือน ม.ค. - ก.พ. ๒๕๔๘ -