มหาวิทยาลัยชีวิต สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน
LIFE Learning Institute for Everyone
ชุมชนเรียนรู้ ชุมชนเข้มแข็ง

*** ปี ๒๕๔๗ ผมโชคดีหลายครั้งและหลายอย่าง

วันหนึ่งผมนั่งแท็กซี่กลับบ้าน คนขับคงอายุประมาณ ๖๐ ท่าทางใจดี คุยกันไปมาพบว่ามาจาก ชนบท เหมือนใครๆ ลุงขับรถส่งลูกเรียนหนังสือจบปริญญาตรีสองคน ปริญญาโทหนึ่งคน ผมชมลุง ด้วยความจริงใจ ลุงมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเป็นประกาย ภูมิใจและเป็นสุข

รถวิ่งเข้าถนนสุทธิสารเพื่อผ่านไปออกรัชดาภิเษก รถไม่ค่อยติด ครู่หนึ่งลุงหยุดรถ ด้านขวาผมเห็น ผู้หญิง วัยกลางคนคนหนึ่งค่อยๆ ผลักรถซาเล้งข้ามถนน เธอคงรอนานแล้ว ไม่มีใครหยุดให้เธอข้าม พอมาถึงกลางถนน เธอหยุด หันใบหน้าเปื้อนเหงื่อมาที่คนขับ วางคันซาเล้งลงแล้วยกมือไหว้ช้าๆ เธอขอบคุณในน้ำใจของคนขับแท็กซี่

ปี ๒๕๔๗ ผมโชคดีที่ได้เห็นภาพความงามของชีวิต ของจิตใจที่มีไมตรีต่อกัน
ภาพของพ่อที่ทำงานส่งลูกเรียนหนังสือจนสำเร็จ
ภาพของคนขับรถแท็กซี่จอดให้ผู้หญิงจนๆ คนหนึ่งข้ามถนน
ภาพของเธอที่ยกมือไหว้ขอบคุณ...

*** ปี ๒๕๔๘ ผมฝันว่าโครงการ "มหาวิทยาลัยชีวิต" จะเป็นจริง
ผมฝันตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อทำงาน พัฒนาชนบทเต็มเวลา ฝันว่า วันหนึ่งชาวบ้านธรรมดาจะมีโอกาสได้เรียนรู้ "ในชีวิตจริง" ของพวกเขา ไม่ถูกดึงออกมาจาก หมู่บ้าน เข้าไปอยู่ในกรอบกรงแคบๆ ที่ใครก็ไม่รู้กำหนดให้

การศึกษาเช่นนี้ได้ทำลายพลังจินตนาการและพลังปัญญาของชาวบ้านและลูกหลานของเรา ทำให้คิดเองไม่ได้ ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องไปเป็นลูกจ้างเขาอย่างเดียว ต้องให้คนอื่นคิดแทน ตัดสินใจแทน จึงมีแต่สูตรสำเร็จและคำสัญญาว่าพรุ่งนี้จะรวย

สหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ปริญญาตรีและปริญญาโท เป็นอีกโอกาสหนึ่งให้คนชนบท ได้เรียนรู้ เรียนแล้วมีทางเลือก อยู่หมู่บ้านได้ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีงานทำ มีรายได้ อยู่อย่างพอเพียง ช่วย ตัวเองได้ ช่วยคนอื่นได้

ผมเชื่อว่า ชุมชนเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ คือชุมชนที่เรียนรู้

ผมขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ความร่วมมือ ความปรารถนาดี ความรู้และปัญญา ที่ท่านได้ กรุณาแบ่งปันให้ผมและผู้คน

ขอให้ท่านได้รับผลแห่งกรรมดีทั้งปวงในปี ๒๕๔๘ นี้ และตลอดไป

- เสรี พงศ์พิศ -

- ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๗ ม.ค. - ก.พ. ๒๕๔๘ -