ครอบครัวหรรษา - พริม - "สิ่งที่รอคอย" ติ๊ง..... ต่อง..... ติ๊ง..... ต่อง "เอ๊ะ ! ไปดูสิใครมาน่ะ สงสัย จะเป็นไปรษณีย์" "แป้งไปดูเองค่ะแม่" ว่าแล้วเธอก็วิ่งลิ่วไปหน้าบ้านด้วยความมุ่งหวังลึกๆ ถึงสิ่งที่จะได้รับจากการรอคอย มานาน แสนนาน ด้วยความตื่นเต้น ระคนคาดหวัง "จดหมายครับ....ช่วยเซ็นรับตรงนี้ ด้วยครับ ขอบคุณครับ" สีหน้าแป้งเปลี่ยนไปเมื่อเห็นชื่อจ่าหน้าจดหมายและผู้ส่ง ความยินดีเปลี่ยนเป็น ความห่อเหี่ยวผิดหวัง แต่ก็แฝงด้วยความดีใจที่ซ่อนเร้น... อะไรกันแน่ที่เธอกำลังรอคอยและคาดหวัง..... "จดหมายใครหรือแป้ง?" แม่ถามขณะง่วนเตรียมอาหารเที่ยงสำหรับวันนี้โดยไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไรมากนัก "ของคุณพ่อต่างหากค่ะ" เสียงละเหี่ยใจที่บอกผู้เป็นแม่ว่า จดหมายไม่ใช่ของเธอ "อ๋อ เหรอ งั้นวางไว้ที่โต๊ะกระจกแล้วกัน พ่อกลับมาจะได้เห็นชัดๆ" แม่พูดขณะยังสาละวนอยู่กับการล้างผักปลอดสารพิษที่เธอบรรจงปลูกมากับมือ โดยการแปลงพื้นที่ บริเวณรอบๆ บ้านให้กลายเป็น สวนผักขนาดย่อม ปลูกผักมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กวางตุ้ง คะน้า ผักโขม พริก กระเพรา โหระพา ตำลึง และอื่นๆ อีกมากมาย นั่นคือความสุขของเธอ! "เอ๊ะ! แล้วของแป้งล่ะลูก มารึยัง" แม่ถามพลางหันมามองหน้าหม่นหมองของลูกสาว "ยังเลยค่ะ รอมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว" พูดพลางก้มหน้าก้มตาเพื่อซ่อนความผิดหวัง "แป้งส่งอีเมล์ ไปถามแล้ว แต่ทางนั้นบอกว่า ให้รอไปอีกสองอาทิตย์ เฮอ!!!!!" แป้งถอนหายใจ พลางบ่นงึมงำ กับตัวเอง "ทางนั้นบอกให้รอ เราก็ต้องรอแหละทำอะไรไม่ได้หรอก" แม่พูดเรื่อยๆ เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น กับแป้งเลย "แต่ว่า... แป้งรอมานานมากแล้ว นะคะ เพื่อนแป้งคนอื่นๆ ได้รับกันหมดแล้ว
ทำไมแป้งยังไม่ได้ รับเลยล่ะคะ หรือว่า เค้าลืมแป้ง หรือว่าเค้าทำจดหมายแป้งหาย
หรือว่าเค้าขี้เกียจตอบแป้ง" หัวสมอง ครุ่นคิดหาข้ออ้างต่างๆ นานา เพื่อหาเหตุผลว่า
เหตุใดตนเองถึงยังไม่ได้รับจดหมายตอบ แป้งเคยพูดเสมอกับแม่ว่า คนเราถ้าไม่มีความหวัง หรือไม่มีการรอคอยสิ่งใด ชีวิตก็ไร้ซึ่งชีวิต บ่อยครั้ง ที่เธอจะนำ เอาบทความ ภาษาอังกฤษที่อ่านเจอ จากอินเตอร์เน็ต หรือหนังสือ มาอ่านให้คน ในครอบครัว ฟังเสมอๆ และอันหนึ่ง ที่เธอชอบมาก คือ "The Grand Essential Happiness are... ประโยคสุดท้ายคือ ประโยคที่เธอชอบมากที่สุด ความหวังคือสิ่งที่หล่อเลี้ยง ชีวิตของคนเรา เมื่อใด ที่เราสิ้นหวัง เมื่อนั้น เราก็สิ้น ซึ่งการมีชีวิต บ่อยครั้งที่แป้งมีความสุขกับการรอคอย กับการคาดหวัง แป้งคิดว่ามันทำ ให้ชีวิตของเธอตื่นตัวอยู่เสมอ มีชีวิตชีวา เธอมักเล่นสนุก กับการรอคอย และการคาดหวัง บางครั้งก็สมหวัง บางครั้งก็ ผิดหวัง แต่ไม่ได้รุนแรงมากนัก ชีวิตก็ยังคง ต้องดำเนินต่อไป แป้งคิดเช่นนั้น แต่คราวนี้ ทำไม.. ความรู้สึกของแป้งกลับไม่เป็นเช่นแต่ก่อน!! ความรู้สึกเธอเปลี่ยนไป เธอเอือม ระอากับการรอคอย เบื่อหน่ายกับการคาดหวัง จนบางครั้งบางคราว มันกลายเป็น ความเกลียดอนาคต ที่ไม่แน่นอน เกลียดอารมณ์หม่นหมอง อึดอัด สงสัยที่เกาะกุมเธอ อยู่ทุกวันเวลาในขณะนี้ เธออยากหลุดพ้น จากความรู้สึกนี้ แต่มันยากเหลือเกิน มันยากจริงๆ "แป้ง! แป้ง! เป็นอะไรลูก" แม่เรียกเมื่อเห็นลูกสาวนิ่งเงียบเหมือนครุ่นคิดอะไรซักอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เปล่าคะ คิดเรื่อยเปื่อย" เธอช่างโกหกผู้เป็นแม่ไม่แนบเนียนเอาเสียเลย "แป้ง หนูกำลังเครียดเรื่องจดหมาย ตอบกลับจากมหาวิทยาลัยที่หนูสมัครเรียน ต่อใช่ไหม" คำถามนี้เป็นคำถาม เปิดประเด็น ที่ผู้เป็นแม่ต้องการให้ลูกสาวของเธอ ได้ระบายความในใจออกมา เธอรู้เสมอ ว่าลูกสาวของเธอ กังวลเรื่องนี้อยู่ "ค่ะ" แป้งตอบแบบเสียไม่ได้ "แป้งแค่คิดว่า ทำไมแป้งไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น เพื่อนคนอื่นได้รับจดหมายตอบกลับกันหมดแล้ว ถึงแม้ว่าบางคน ถูกปฏิเสธก็ตาม แต่ของแป้งสิ ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร ได้แต่รอและรออย่างเดียว" สีหน้าของเธอ ฉายความหมองหม่น มากยิ่งขึ้น "แม่เข้าใจจ้ะ" แม่นิ่งเพื่อดูปฏิกิริยาของลูกสาว ..............
"ทำไมล่ะแป้ง แป้งเคยบอกแม่ไม่ใช่หรือว่า การรอคอยและความหวังทำให้มีชีวิตชีวา" "แต่คราวนี้ไม่เหมือนกันค่ะ ไม่เหมือนกัน" เธอย้ำ "เหมือนกันสิจ๊ะ ทำไมจะไม่เหมือน" พลางเหลือบมองลูกสาวว่าจะตอบโต้ต่ออย่างไร "..........." "แป้งรู้ไหมว่า เราสามารถทำให้การรอคอยของเรามีความสุขได้เสมอ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม แป้งบอกว่า เมื่อก่อนแป้ง มีความสุขกับมัน แต่ตอนนี้แป้งกลับเกลียดมัน เพราะอะไรรู้ไหม" แม่แน่ใจว่า ลูกสาว ไม่รู้หรอกว่าทำไม สำหรับ คนที่จิตใจหมองเศร้าแล้ว การเปิดใจที่จะเรียนรู้ถึงความรู้สึก ที่แท้จริง ของตัวเอง พยายาม ค้นหาความรู้สึก ที่แท้จริงนั้น มันยากเย็นเหลือเกิน "ทำไมล่ะคะ" แป้งเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย "เพราะแป้งหวังที่จะได้ไง และก็หวังมากด้วย" แม่หยุดเพื่อฟังข้อแย้งของลูกสาว แต่กลับมีแต่ ความเงียบ "แป้งไม่ได้หวัง ที่จะได้รับจดหมายตอบกลับอย่างเดียวอย่างที่แป้งบอกหรอก แต่แป้ง หวังว่าเมื่อได้รับจดหมายแล้ว จะเป็นจดหมาย ตอบรับ ไม่ใช่จดหมายปฏิเสธ มันเป็นการคาดหวัง สองชั้น การรอคอยเลยสร้างความเจ็บปวดให้แป้ง" แม่รู้ว่าสิ่งที่พูด จะยิ่งทำให้ ลูกสาวของตนเสียใจ แต่เธอต้องพูด! "ก็จริงค่ะ แต่... แล้วแป้งจะทำไง ให้มีความสุขกับการรอคอยได้ล่ะคะ มันไม่ง่ายเลย ไม่..ง่าย..เลยจริงๆ" "เราซึมเศร้า หม่นหมองเพราะเราคาดหวังกับสิ่งนั้นมาก หวังมากจนเราไม่เปิดใจ ที่จะยอมรับ ความผิดหวัง เรา ไม่พยายาม คิดถึงความผิดหวัง แต่เมื่อใดที่ความคิดนั้นเข้ามา เราก็จะวน หมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้น โดยไม่พยายาม คิดหาทางออก เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าเราไม่อยาก จะเตรียมการ สำหรับความผิดหวังนั่นเอง" "เฮอ ยากจังเลย" แป้งรำพึงกับตัวเอง "ใช่จ้ะ ยาก แต่ก็ต้องฝึกนะ" แม่พูดพลางยิ้มให้กำลังใจ "แล้วจะฝึกยังไงล่ะคะ" "คิดสิว่ามันคือเกม เกมที่ทดสอบสภาพจิตใจของเรา แป้งลองตั้งคำถามขึ้นมาแล้วหาคำตอบสิ เช่น ทำไมเราต้องกังวล....อ๋อ! เพราะเรากำลังรอคอยน่ะสิ เพื่อนคนอื่นได้แล้วแต่เรายังไม่ได้ รอคอยอะไรล่ะ... ก็รอคอยผลตอบ กลับจากมหาวิทยาลัยไง ทางมหาวิทยาลัยบอกรึเปล่าว่าจะส่งผลมาวันไหน... บอกมาว่าอีกสองอาทิตย์ งั้นตอนนี้ก็ยังไม่รู้ล่ะสิ... ช่าย เพราะจะรู้ผลอีกทีก็ตั้งอีกสองอาทิตย์ แล้วทำไมต้องทุกข์ล่ะ..... ก็กลัวว่า ผลที่ตอบกลับมาจะทำให้ผิดหวัง ทำไมกลัวผิดหวัง.... เพราะคาดหวัง กลัวว่าจะไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ แล้วถ้าไม่ได้จะทำยังไง... ก็ต้องคิดสิว่าจะทำยังไงต่อ" "แป้งลองคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าเกิดว่าได้รับจดหมายปฏิเสธ แป้งจะทำอย่างไรต่อ แป้งลองวางแผนดูสิจ๊ะ" แม่พูดแนะนำ "และเมื่อแป้ง มีแผนสำรองแล้ว แป้งจะรู้สึกได้ว่า ความเครียด ความกังวล เรื่องจดหมาย ตอบกลับจากมหาวิทยาลัยจะ ลดลง" "จริงหรือคะ" แป้งถามแบบไม่อยากเชื่อ "จริงสิจ๊ะ แป้งวิตกกังวลเพราะขณะนี้แป้งยังไม่มีแผนอนาคตรองรับความ ผิดหวังไว้ แป้งกลัวว่า ถ้าไม่ได้คราวนี้ แป้งจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ถ้าแป้งเริ่มวางแผนสำรองไว้ ความคิดแป้งจะเปลี่ยนไป จดหมายตอบจากมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ถ้าแป้งไม่ได้เรียนต่อ ในมหาวิทยาลัย ที่แป้งต้องการ แป้งก็ยังมีสิ่งอื่น ที่แป้งจะทำแทน แป้งจะไม่เคว้ง ไม่สิ้นหวังกับชีวิตของตัวเอง" แม่สังเกตสีหน้าของลูกสาวที่เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิม "จริงๆ แล้วการรอคอยและความหวังก่อให้เกิดความสุขในชีวิตได้เสมอ เราสามารถลิ้มรส ความหอมหวาน ของมันได้ ถ้าเราจัดการ กับมันได้อย่างเหมาะสม ไม่อยู่ห่างหรือเข้าใกล้มันมากเกินไป เหมือนดวงอาทิตย์ อยู่ห่างมากไป ก็หนาว แต่ถ้าอยู่ใกล้เกินไป ก็ร้อน หรือทำให้ไหม้ได้เลย ทีเดียว เข้าใจไหมแป้ง" "ค่ะ! แป้งจะพยายามลองทำอย่างที่แม่ว่าดูนะคะ เมื่อไรที่แป้งกังวลหรือคิดไม่ตกกับปัญหา แป้งจะลอง ตั้งคำถามดู อย่างที่แม่สอน จนกว่าจะได้คำตอบที่แท้จริง" "เมื่อได้คำตอบแล้ว หาทางแก้แล้ว วางแผนที่จะเตรียมรับมือแล้ว ก็จงหยุด ที่จะคิดสิ่งนั้นอีก เริ่มต้นทำ สิ่งใหม่ๆ แทน ไม่อย่างนั้น แป้งจะพลาดโอกาสที่จะรับรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะแป้งมัวครุ่นคิด กับสิ่งเก่า ที่ยังไม่เกิดขึ้น ลองดูนะจ๊ะ" "ค่ะแม่ แป้งรู้สึกดีขึ้นมากเลย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความคิดวิตกกังวลจะกลับมาอีกรึเปล่า แป้งจะพยายาม ฝึกบ่อยๆ อย่างที่แม่บอกค่ะ แม่ยิ้มมองหน้าลูกสาว ที่แม้จะรู้ว่าความหมองเศร้าในตัวลูกสาว จะไม่ได้หมดไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็ลดน้อย ลงมาก และแม้ว่า จะเป็นเพียง ระยะสั้นก็ตาม อนาคตแป้งยังต้องเจอเหตุการณ์ ที่รุนแรงมากกว่านี้หลายเท่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถือเป็น บททดสอบเบื้องต้น เพื่อสอนให้แป้ง รู้จักอดทนและแข็งแกร่งขึ้น ในอนาคต ไม่ว่าแป้งจะสมหวัง หรือผิดหวังในครั้งนี้ แต่แป้งได้มีโอกาส เรียนรู้ชีวิต ในโลกความเป็นจริงมากขึ้น นี่แหละคือชีวิต... "อดีตจบลงแล้ว เรียนจากมันแล้วปล่อยมันไปเถอะ ส่วนอนาคตก็ยังมาไม่ถึงตรงนี้ วางแผนได้ แต่อย่าเสียเวลา ไปกลัดกลุ้มกังวล ถึงมันเลย ความกลัดกลุ้มกังวลไม่ให้ประโยชน์อะไร เมื่อใดที่เรา หยุดคำนึงถึง สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หยุดกังวล ถึงสิ่งที่อาจจะไม่เกิดขึ้นได้ เมื่อนั้นแหละ ที่เราได้อยู่กับ ปัจจุบัน และจะมีความสุขกับชีวิต" - หนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๘ มีนา - เมษา ๒๕๔๘ - |