ปัจฉิมลิขิต - กอง บก. - คุณสุรางค์ สุวรรณชาติ และคุณอนุชา ทองมาก ส่งธนาณัติไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ได้บอกว่าเป็นค่าอะไร ดิฉันตรวจสอบที่อยู่ ในทะเบียนสมาชิก ไม่พบ ก็เลยยังไม่ได้ส่งใบเสร็จรับเงินไปให้ กรุณาแจ้งที่อยู่ และความประสงค์ ที่ส่งเงินไปด้วยนะคะ จะได้ดำเนินการให้ถูกต้อง ๑. วิบากกรรมยังมีมาก สอนลูกหลานแบบตรงไปตรงมาแล้ว
ไม่ค่อยเชื่อฟัง ชอบความสะอาด ไม่อยากทำงาน ความอดทนพ่อแม่น้อยอยู่ จึงต้องมีการดุด่าว่ากล่าว
กรรมของพ่อแม่หรือลูก ใครมากกว่าใครคะ - ๑. ชีวิตจริงดิฉันยังไม่เคยเห็นครอบครัวที่พ่อแม่ทารุณลูก ไม่ว่าทางกายหรือทางใจนะคะ
ถ้ามีจริง อย่างนั้น ก็เป็นกรรมของลูกล่ะค่ะ แต่โดยทั่วไป เห็นมีแต่พ่อแม่เดือดร้อนกายใจเพราะลูก
ดูท่าพ่อแม่ มีกรรม มากกว่านะคะ ดิฉันดีใจกับตัวเองจริงๆ เลย ที่ไม่ได้แต่งงาน
และไม่ต้องมีลูก เวลาเห็นคนอื่น ทุกข์เพราะลูก ก็มักตั้งจิตว่า ชาติไหนๆ
ก็อย่าได้แต่งงานและอย่าได้มีลูกเลย
- ๑. ทำงานต่อไปให้เต็มกำลังความสามารถ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่แสดงตัว
จนออกนอกหน้า งานอะไร ที่คนอื่นไม่ทำ เราค่อยทำ และไม่เรียกร้องผลประโยชน์ตอบแทน
ตำแหน่งลาภยศ ใครอยากได้ ก็ให้เขาไป ขนาดทำอย่างนี้ ก็ยังมีคนอิจฉาได้ แต่ช่างเขาเถอะ
เราทำดีกับทุกคนเสมอหน้ากัน ก็แล้วกัน
ปัจจุบันนักเรียนไม่สนใจเรียนเท่ากับสมัยก่อน มีมารยาท
ความประพฤติที่ตามใจตนเองมาก คิดพูดทำอะไร ก็เอาตัวเองรอดก่อน ทั้งที่รู้ว่าไม่ดี
ก็ยังทำซึ่งหน้า ครูว่ากล่าวตักเตือน ก็บ่นว่า แสดงกิริยาที่ไม่ดีออกมาอีก ๑. คุณครูต้องรักลูกศิษย์และเสียสละอย่างสูงค่ะ ลูกศิษย์ที่มีพฤติกรรม ไม่เหมาะสมนี่แหละ
ทดสอบ ความรัก และความสามารถของครูได้ดีแท้ๆ ลองอ่านปฏิปทาของขงจื๊อ ในคอลัมน์
คิดตามหนัง ดูสิคะ
๑. การที่คนเราคิดทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น แปลกแตกต่างจากคนทั่วๆ
ไป แต่ก็ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร มักถูกว่า "แปลก" หรือ "บ้า"
เขาใช้สิ่งไหนมาวัดกันแน่คะ - ๑. เขาใช้ความเคยชินและความติดยึดของตัวเองมาวัด เผลอๆ เราเองก็ไม่ยอมรับคนที่คิด
หรือทำ ต่างจากเรา เพราะฉะนั้น เวลาที่เราถูกมองว่าบ้า เราก็มั่นคงในตนเอง
ถ้าทบทวนแล้วว่า ปฏิบัติตนอยู่ ในกุศลธรรมดีแล้ว แล้วก็เห็นใจคนที่ไม่เข้าใจเราด้วย
รู้แล้วแต่ทำไมทำไม่ได้ - ยังไม่ได้ทำมากกว่า ถ้าตัดสินใจลงมือ ทำเมื่อไร ก็ทำได้ ถ้าบอกตัวเองว่าทำไม่ได้ ก็ทำไม่ได้ ต่อไปนี้ บอกตัวเองเสมอๆ ว่า เราเป็นคนจิตใจเข้มแข็ง จะทำอะไรก็ทำได้ แล้วทำทันที
อยากทราบวิธี "นอนให้หลับ" ช่วงนี้จิตใจว้าวุ่น
คิดเรื่องซ้ำๆ กลับไปกลับมา พยายามหยุดคิด แว่บเดียว ก็มาอีกแล้ว ไม่อยากบำบัดด้วยยา
(หลานสาวเป็นหมอ ให้ยานอนหลับมา ๒ แผง) - อ่านหนังสือที่น่าเบื่อมากๆ เปิดเทปดนตรีคลาสสิก นับเลขไปเรื่อยๆ ตามลมหายใจ ทั้งหมดนี้ ทำในอิริยาบถ ที่นอนอยู่นะคะ แต่ที่จริงเวลากลางวัน ทำงานให้หนัก ออกแรงให้เหนื่อย จนหมดแรง ก็น่า จะทำให้หลับได้ดีค่ะ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไร ก็เดินค่ะ เดินไปตลาด เดินไปห้องสมุดประชาชน จะไปศูนย์การค้า หรือไปไหนก็เดินไป ตอนเย็น แดดร่มลมตก เดินไปสวนสาธารณะหรือทุ่งศรีเมือง วิ่งรอบสวน สัก ๓ รอบ ๕ รอบ ขนาดนี้ถ้ายังไม่หลับ ต้องทดลองไปอยู่สันติอโศกดูสักเดือนแล้วล่ะค่ะ ที่นั่นมีแต่ คนคิดหาวิธีทำยังไงจะไม่หลับ
๑. ฉี่ของคนเรามันเค็มๆ เหมือนกันหรือไม่ ทำไมฉี่ของดิฉันรู้สึกเค็มๆ
(ไม่ได้กินอาหารเค็ม แต่ชอบกิน หวานๆ) และร่างกายดิฉันก็ปกติ เพราะบริจาคโลหิตด้วย
(บริจาคทุก ๓ เดือน ๑ ปีแล้วค่ะ) ๑. เคยได้ยินมาว่า รสของน้ำปัสสาวะจะขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากิน แต่ก็ไม่ใช่ว่ากินอาหารรสอะไร
ก็จะออกมา เป็นรสนั้น เพราะว่ามันผ่านการสังเคราะห์ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายแล้ว
คุณอาจจะดื่มน้ำน้อยไป ลองดื่ม น้ำเปล่า มากขึ้น แล้วก็ลดอาหารหวานลง น้ำปัสสาวะอาจจะเปลี่ยนรสไป
วิบากกรรมจะแก้อย่างไร
ใจจึงเป็นสุขได้ กรรมที่ทำไปแล้ว แก้ไขไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องรับวิบาก (ผล) แต่ผ่อนหนักเป็นเบาได้ด้วยการทำกรรมดีให้มาก จนส่งผล ก่อนที่กรรมชั่วจะออกฤทธิ์ คล้ายๆ กับที่เราเห็นคนเลวเสวยสุข แล้วเราก็สงสัยว่า ทำไม ไม่เห็นเขาได้รับ ผลกรรมชั่วเลย ก็ตอนนั้นเขากำลังรับผลกุศลกรรม ที่ทำไว้อยู่ และเหมือนกับคนดี ที่เราเห็นเขา ต้องทุกข์ร้อน ลำบากต่างๆ นานา เพราะกำลังรับผลกรรมชั่วอยู่ ขนาดพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็น ผู้บริสุทธิ์ จากกิเลสแล้ว พระองค์ยังต้องถูกพระเทวทัต กลิ้งหินทับพระบาท เพราะทรงเคยฆ่าคนมา ในอดีตชาติ วิบากอื่นๆ อีกหลายอย่าง ทรงเล่าไว้ในพระไตรปิฎก ลองอ่านดูเถอะค่ะ จะได้ไม่ต้องมาทุกข์ กับอกุศลกรรม ที่ทำแล้ว รีบใช้เวลาสร้างกุศลกรรมให้มากๆ ไว้ดีกว่า
ในภาคฤดูร้อนปี ๒๕๔๘ สถานปฏิบัติธรรมจะรับสมาชิกไปอบรมได้ไหม ลองไปเยี่ยมชมดูก่อนดีไหมคะ ที่ ทักษิณอโศก จังหวัดตรัง โทรศัพท์ ๐-๗๕๒๒-๖๑๙๖
๑. เคยฝันจะไปปลูกบ้าน ซื้อที่สัก ๑๐ ไร่ ทำไร่นาสวนผสม
อยู่ในหมู่ญาติธรรม แต่กลัวร่างกาย สู้งานหนัก ไม่ไหว - ๑. ทำ ๑๐ ไร่ไม่ไหว ก็ทำไร่เดียวสิคะ
๑. อยากเลิกกินเนื้อสัตว์ ทำอย่างไรจึงจะทำได้ - ๑. ต้องทราบก่อนว่าทำไมจึงทำไม่ได้ ทำอาหารไม่เป็น คนในครอบครัวขัดขวาง
หรือว่าเราจิตใจอ่อนแอเอง ยังอยากกินเนื้อสัตว์ ถ้ามีโอกาสเข้าไปในตัวเมืองอุดรธานี
คุณลองไปที่ร้านปางมังสวิรัติ แถวตลาดบ้านห้วย ถามเขาว่าชุมชนดินหนองแดนเหนือ
ที่อุดรธานีอยู่ตรงไหน ลองไปหาหมู่กลุ่มที่เขากินมังสวิรัติดู เผื่อจะช่วย
ให้คุณเลิกกินเนื้อสัตว์ได้ หรือจะลองคุยกับคุณครูสมภาร ปัตถาวะโร ที่โรงเรียนบ้านตาดราษฎร์สมบูรณ์
อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ก็ได้
เป็นคนคิดมากและซีเรียสกับปัญหาต่างๆ
เนื่องจากยังปลงกับปัญหาไม่ได้ ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข - ฝึกปฏิบัติธรรมสิคะ จะได้หันเหความสนใจจากปัญหาภายนอกมาเป็นการหาข้อปฏิบัติใหม่ๆ ให้ตัวเอง เราเรียกว่าตั้งตบะค่ะ เช่น กินมังสวิรัติบริสุทธิ์อาทิตย์ละครั้งในวันเกิด (อาทิตย์ถึงเสาร์) หรือวันอาทิตย์ ไม่กินขนมหรืออาหารที่ชอบนาน ๑ เดือน อ่านหนังสือหรือฟังเทปธรรมะวันละครึ่งชั่วโมง หยอดกระปุก ออมสินวันละ ๕ บาท พอครบปีก็เอาเงินไปทำบุญทำทาน เขียนบันทึกสภาวะจิตใจตัวเองทุกวัน คิดถึงคนอื่น ในแง่ดีวันละครั้ง ไม่พูดถึงความไม่ดีของคนอื่นเป็นเวลา ๓ วัน ฯลฯ อะไรก็ได้ค่ะที่ดีๆ คิดขึ้นมาบังคับตัวเอง ตั้งตบะทีละอย่างนะคะ ตั้งหลายอย่าง เดี๋ยวทำไม่ไหว ยิ่งจะทุกข์กว่าเก่า ถ้าทำได้ดี ก็ตั้งตบะเดิมต่อ และเพิ่มตบะใหม่ ถ้าทำไม่ได้ก็ลงโทษตัวเอง เช่น วันไหนที่ไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งตบะไว้ ก็กินข้าวเปล่า หรือเดินนานสัก ๓๐ นาที เป็นต้น เหล่านี้เป็นการฝึกจิตใจให้เข้มแข็งค่ะ จะได้มีกำลังจิตที่จะสู้กับปัญหาต่างๆ ได้ ปัญหามีไว้ให้แก้นะคะ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม แล้วบ่อยครั้งที่แก้ไม่ได้หรอก ถึงแก้ไขได้ ก็จะมีปัญหาใหม่เกิดขึ้น คุณลองอ่าน พระไตรปิฎกดูสิคะ พระพุทธเจ้ายังต้องทรงแก้ปัญหาที่พระภิกษุทั้งหลายสร้างขึ้น ไม่หยุดหย่อน ยังไงๆ ปัญหา ก็มีอยู่แล้ว แล้วเรายังปล่อยให้จิตใจขุ่นมัวอีก จะเอาอารมณ์เสียๆ ไปแก้ปัญหาได้อย่างไร
๑. การปฏิบัติศีล ๕ ให้ได้เกือบ ๑๐๐% ควรทำอย่างไร - ๑. ฝึกปฏิบัติอย่างที่แนะนำคุณสายรุ้งค่ะ จะทำให้จิตใจเข้มแข็ง เวลาตั้งตบะก็ตั้งตามศีล
๕ เช่น จะไม่ฆ่ายุง มด แมลงสาบ เป็นเวลา ๗ วัน ไม่หยิบของคนอื่นไปใช้โดยไม่ขออนุญาตเป็นเวลา
๑ เดือน พูดคุยกับผู้หญิงอย่างสุภาพไม่คิดเกินเลยเป็นเวลา ๓ วัน ไม่พูดโกหก
ไม่พูดคำหยาบ เป็นเวลา ๓ วัน ไม่ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมเป็นเวลา
๗ วัน นี่แค่เบื้อง-ต้นนะคะ รายละเอียดของศีล ยังมีมากกว่านี้ คุณตั้งตบะทีละอย่างนะคะ
เท่าที่พอจะทำได้ ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาก็ต้องลงโทษตัวเอง
การเอาชนะใจตนเองที่ได้ผล และทำให้ตนเองมีความสุข
ทำอย่างไรคะ - ขณะที่ต่อสู้ อาจจะรู้สึกว่าทุกข์ยากลำบาก แต่เมื่อชนะแล้ว จะมีความสุขค่ะ เหมือนเวลาเดินขึ้นภูเขา น่ะค่ะ เหนื่อยมาก ใช่ไหมคะ แต่พอถึงยอดดอยแล้วจะภูมิใจและมีความสุขที่ได้สัมผัสอากาศเย็นสบาย ทิวทัศน์สวยงาม เพราะฉะนั้นเวลาที่จะเอาชนะใจตนเอง ก็ต้องอดทน และนึกถึงผลบั้นปลายที่จะได้รับ ดิฉันเคยได้ยินว่า ทางไปสู่ความสำเร็จนั้น ที่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบหอมหวนยวนจิตไซร้ ไป่มี จะมีก็แต่ หนามกุหลาบแหละค่ะ
จะมีวิธีไหนบ้างคะที่จะทำให้เราทำได้ตลอดรอดฝั่ง
ไม่ล้ม ยืนหยัดมั่นคงตลอดไป - ไม่มีหรอกค่ะ ก็เหมือนเราหัดยืน หัดเดิน หัดขี่จักรยาน ก็ต้องล้มก่อนทั้งนั้น ข้อสำคัญต้องลุกขึ้นมา ฝึกหัดต่อไป เราถึงจะยืนได้ เดินได้ ขี่จักรยานได้ในที่สุด ถ้าล้มแล้วกลัวหรือหมดหวัง ไม่ยอมหัดอีก ก็ไม่มีวัน ยืนหยัดได้ สำหรับคนที่เราเห็นว่าเขาทำได้ง่ายในบางเรื่อง ไม่ล้มเลย เขาเคยทำเรื่องนั้นมาแล้วในชาติก่อนๆ ชาตินี้ เขาก็ทำได้ง่าย ไม่เฉพาะเรื่องกิเลส เรื่องเรียน ทำกับข้าว งานฝีมือ งานช่าง การพูด เรื่องอื่นๆ ก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ง่ายทุกเรื่อง หรือยากทุกเรื่อง บางเรื่องสำหรับบางคนง่าย บางเรื่องสำหรับบางคนยาก จะเป็นเพราะอะไรล่ะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเคยหัดมาก่อน ฉะนั้นรีบฝึกหัดเสียแต่ชาตินี้ ชาติหน้าจะได้ไม่ยากอีกค่ะ
วิธีการที่จะทำให้เกิดความรู้รักสามัคคีซึ่งเป็นนามธรรม
โดยวิธีเข้าใจ นำไปสู่การปฏิบัติง่ายๆ มีวิธีการ อย่างไรบ้าง - รายละเอียดมีเยอะมากค่ะ ถ้าเราเป็นคนดีกว่า เก่งกว่า ยศศักดิ์สูงกว่า อายุมากกว่า ด้านใดด้านหนึ่ง ก็ต้องให้โอกาสผู้ที่ด้อยกว่าไม่ว่าในด้านใด ให้อภัย ให้ความช่วยเหลือ ให้ความเป็นธรรม ให้ ให้ ให้... ถ้าเราเป็นคนด้อยกว่าด้านคุณงามความดี ความสามารถ ฐานะตำแหน่ง หรืออายุ ด้านใดก็ตาม ก็ต้องอ่อนน้อม ถ่อมตน เคารพนับถือท่าน ศึกษาจากท่าน ... คนเราถ้ายอมรับกัน ไม่ริษยาแก่งแย่งแข่งขันกัน แต่ช่วยเหลือกัน ปฏิบัติต่อกันด้วยความเมตตา พูดจากัน ด้วยความเมตตา ระลึกถึงกันด้วยความเมตตา เราก็จะมีแต่ความรักสามัคคีแน่นอนค่ะ นี่ตอบอย่างสั้นที่สุดนะคะ ถ้าต้องการ อย่างยาว ก็ติดตามอ่านดอกหญ้าทุกฉบับ
เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งมาปรึกษา เธอเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วมีพระเข้ามาทำความรู้จักและ
chat ด้วย โดยที่เธอไม่รู้ว่าท่านเป็นพระ ท่านขอเบอร์โทรศัพท์และโทร.มาคุยด้วยเหมือนคนธรรมดา
เธอสงสัยและถามในภายหลังจึงทราบว่าท่านเป็นพระ ขอถามว่า - ๑. แค่คุยเฉยๆ ไม่บาปหรอกค่ะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเป็นพระ (แต่ถ้าคุยเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่สุภาพสตรีควรจะคุยแม้กับบุคคลทั่วไป
ก็เป็นมิจฉาวาจา เป็นอกุศลกรรมเหมือนกัน)
๑. บุคคลที่ไม่เคารพนับถือพ่อของตัวเองมีบาปมากไหมคะ - ๑. อย่าว่าแต่พ่อเลยค่ะ ผู้มีบุญคุณ อื่นๆ ก็ต้องเคารพ
ผมไปใส่บาตรเช้าวันอาทิตย์ มีพระรูปหนึ่งดุเด็กนักเรียนหญิงของปฐมอโศกต่อหน้าคนจำนวนมาก
ท่านว่าถูกต้องหรือ ไม่ - ในแง่มุมของคนเห็นเหตุการณ์ อาจคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะเราไม่รู้เหตุปัจจัยประกอบ เช่น ความผิดของเด็กที่ทำตอนนั้น อาจเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขทันที หรือเด็กคนนั้นอาจทำความผิดเดิมซ้ำซากหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมจริงๆ ก็ต้องให้อภัยและยอมรับกัน ท่านประมาณการกระทำของท่านแล้ว และเชื่อว่าทำด้วยความปรารถนาดี
คณะดอกหญ้าเคยเหนื่อยและท้อบ้างไหมคะ - เคยค่ะ แต่ไม่ได้เกิดจากทีมงานดอกหญ้า เกิดจากเหตุแวดล้อมอื่นในงานอื่น ต้องคิดถึงประโยชน์จากการทำงาน ทำให้ยินดีที่จะทำต่อไป มีปัญหาอะไรก็อดทนก่อน แล้วก็ทำความเข้าใจปัญหา พูดคุยกันได้ก็คุยกัน คุยแล้วยังปรับเข้าหากันไม่ได้ ก็ยอมรับซึ่งกันและกัน ปัญหาที่คุณพบในที่ทำงานของคุณ ดิฉันว่ามีอยู่ในเกือบทุกที่ทำงาน เป็นโจทย์ที่ทดสอบจิตใจคน ถ้าคุณยังสามารถทำงานได้เต็มกำลังความสามารถโดยไม่หวังลาภยศตอบแทน นั่นเป็นการยกระดับจิตใจตนเองได้ดียิ่งกว่าการอ่านดอกหญ้าอีกค่ะ เพราะมันเป็นภาคปฏิบัติจริงๆ พอดีมีกลอนของคุณประยงค์ ฉัตรนันทภรณ์ ส่งไปให้ ตอนท้ายเป็นคำตอบให้คุณนิภาลัยได้ด้วย เพราะผู้ประพฤติตามคนพาลย่อมโศกเศร้าตลอดกาลนาน การอยู่ร่วมกับคนพาลย่อมเป็นทุกข์เสมอ เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรู และการอยู่ร่วมกับนักปราชญ์ย่อมเป็นสุขเสมอ เหมือนอยู่ร่วมกับหมู่ญาติ ส.ร้อยดาว - หนังสือดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๘ มีนา - เมษา ๒๕๔๘ - |