ประเทศไทยชำรุด สำนึกอันตราย อาจารย์เกษตรเผยผลวิจัยน่าตระหนก สังคมไทยเสื่อมถอยอย่างน่าใจหาย กระทบความมั่นคงของชาติ ประชาชนมีจิตสำนึกสุดอันตราย "ประเทศไทยไม่ใช่ของคนคนเดียว" ไทยโพสต์ l เผยผลวิจัยคนไทยมักง่าย ขาดจิตสำนึกต่อส่วนรวม เห่อฝรั่ง ชี้เป็นความเสื่อมทางวัฒนธรรม ซึ่งกระทบ ความมั่นคงของชาติ เหตุครอบครัว ศาสนา สถาบันการศึกษา สื่อฯ และผู้บริหาร บ้านเมือง บกพร่อง สลดคนส่วนใหญ่เห็นพ้อง "ประเทศชาติไม่ใช่ของคนคนเดียว" สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง "การฟื้นฟูวัฒนธรรมเพื่อความมั่นคงของชาติ" โดยในส่วน โครงการวิจัยที่ ๑ การปลูกฝังจิตสำนึกความเป็นไทย ความรักชาติและวัฒนธรรมไทยนั้น ดร.ปัญญา รุ่งเรือง ประธานสาขาวิชาดนตรีชาติพันธุ์วิทยา ภาควิชาศิลปะนิเทศ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ผู้วิจัยเปิดเผย ว่า เนื่องจากสภาพทั่วไปทั้งทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและ สังคมไทย ส่อเค้าถึงอันตรายต่อความเป็นไทยและความมั่นคงของชาติ อาทิ การขาดความละอาย ต่อ การกระทำ ที่ผิดทำนองคลองธรรม ความย่อหย่อนทางคุณธรรมและจริยธรรม เห็นแก่ตนยิ่งกว่าส่วนรวม ถูกครอบงำ ด้วยวัตถุนิยม สภาวะวิกฤติในความวิบัติของภาษาไทย สิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่า คนไทย ขาดสำนึก ในความเป็นไทย ย่อหย่อนในความรักชาติและวัฒนธรรมไทย ยากแก่การฝากอนาคต ฝากความหวัง ของชาติและ ความเป็นไทยไว้ได้อย่างสนิทใจ ดังนั้นจึงเป็นการสมควรที่จะต้อง มีการศึกษา วิจัยว่า ปัญหาของการ ขาดสำนึก ในความเป็นไทย รักชาติ และวัฒนธรรมไทย เกิดจากสาเหตุอะไร และ มีแนวทางแก้ไขอย่างไร ดร.ปัญญากล่าวว่า งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยต่อเนื่องระยะ ๓ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ ซึ่งได้ผลสรุปว่า ความเสื่อม ทางวัฒนธรรม ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ เป็นผลมาจากความย่อหย่อนทางคุณธรรม การขาดวินัย ในตนเอง ขาดสำนึกต่อส่วนรวม และนิสัยมักง่ายของประชากร ซึ่งเกิดจากความบกพร่อง ในกระบวนการ ขัดเกลาทางสังคม มีที่มาจากความบกพร่องขององค์ประกอบหลัก ๕ ส่วน คือ ๑. ความบกพร่อง ในการ เลี้ยงดู และอบรมเด็กของสถาบันครอบครัว ๒. ความบกพร่องในการดำเนินการ และปฏิบัติการ อบรม สั่งสอนประชาชน ของสถาบันศาสนา ๓.ความบกพร่องในการบริหารจัดการ และการดำเนินงาน ของ สถาบันการศึกษา (โดยมี) ๔. สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการเสริมสร้างอุปนิสัย อันไม่พึง ปรารถนา และ ค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ เป็นเพราะ ๕. ความบกพร่องของการจัดการบริหารบ้านเมือง ของฝ่าย การเมืองการปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือผู้นำสังคมทุกระดับ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ อาจแก้ไขได้ โดยอาศัย ความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สถาบันครอบครัว วัด โรงเรียน และสื่อมวลชน ทั้งนี้ ผลการวิจัย ถึงข้อบ่งชี้ปัญหาทางวัฒนธรรม สาเหตุและแนวทางแก้ไขทั้ง ๑๓ ด้าน ซึ่งเมื่อลงลึก ในรายละเอียด แต่ละด้านจะ พบจุดที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ด้านปรัชญา แนวคิดของประชาชนทั่วไป ผลวิจัยบ่งชี้ว่าแนวคิดของคนไทยในปัจจุบันเป็นไปในลักษณะใครดีใครได้ ไม่รู้จักพอ เห็นแก่ตัวมากขึ้น ขาดความโอบอ้อมอารีมีน้ำใจ ปัดความรับผิดชอบ คิดว่าประเทศชาติไม่ใช่ของตนแต่เพียงผู้เดียว อายที่จะ แสดงออก ซึ่งความเป็นไทย ขาดความภูมิใจในวัฒนธรรมไทย ชักจูงง่าย เห่อของนอก เช่น ตั้งชื่อทุกอย่าง เป็นฝรั่ง ซึ่งสาเหตุมาจากขาดความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย และวีรบุรุษ-สตรีไทย ไม่เห็น คุณค่าและความสำคัญของศิลปวัฒนธรรมไทย คิดว่าเป็นสิ่งล้าหลัง ไม่ทันสมัย ไม่ควรใช้ สังคมมีอิสรภาพ มากเกินไป สามารถกระทำผิดได้ง่าย เพราะกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ถือกฎหมายกระทำผิดเสียเอง วิกฤติ ด้านศาสนา ข้อบ่งชี้คือ ผู้คนขาดสำนึกในความดี ไม่อายที่จะทำความผิด ความชั่ว ไม่ค่อยทำบุญตักบาตร ไม่ไปวัด ความเลื่อมใสในศาสนาลดลง ซึ่งสาเหตุแห่งวิกฤติเกิดจากพระสงฆ์ไม่ปฏิบัติตนให้สมควรกับการ เคารพ ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี ผู้คนขาดการอบรมสั่งสอนทางศาสนาทั้งในครอบครัว สถานศึกษา ไม่เชื่อเรื่อง กฎแห่งกรรม มีสื่อที่ยั่วยุสงฆ์ให้ผิดวินัย เข้าถึงได้ง่ายและยากที่จะควบคุม เช่น วีดิทัศน์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ดร.ปัญญาระบุว่า แนวทางแก้ไขที่เป็นผลของการวิจัยในครั้งนี้ จำเป็นจะต้องนำมาตีความ ขยายความ กำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป จึงจะสามารถแก้ไข ข้อบกพร่องทั้งหลายได้ * จากเอ็กซ์ไซต์ไทยโพสต์ วันที่ ๒-๓ พ.ค.๒๕๔๘ - ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๑๙ พฤษภาคม - มิถุนายน ๒๕๔๘ - |