ครูในดวงใจ
- ฆวาลา -
คุณครูในดวงใจของผมคือ อาจารย์พัฒนา ประธานราษฎร์ โรงเรียนปล้อง-วิทยาคม ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย ผมกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่ก็เพราะอาจารย์ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีแม่ อาจารย์ดูแลผม ในเรื่องต่างๆ เมื่อผมอยู่โรงเรียน มักแนะนำ สิ่งดีๆ ให้ผม อาจารย์ไปเยี่ยมผมที่บ้านอยู่บ่อยๆ ท่านเป็นห่วง ผมมาก ทั้งๆ ที่ท่านก็มีลูกแล้ว ที่ผมมาปรับระดับในครั้งนี้ ท่านก็โทรฯ หาผมบ่อยๆ ทำให้ผมมีกำลังใจ ที่จะสู้ต่อไป ผมซาบซึ้งพระคุณของท่านมาก ไม่ใช่เพราะท่านดีกับผมอย่างเดียว แต่เพราะท่านเป็น แบบอย่าง ที่ดี สำหรับผมในการดำเนินชีวิต ขยันทำงาน ผลงานก็ออกมาดีมาก จนเป็นครูแม่แบบ ระดับ จังหวัด อาจารย์มีคุณธรรมประจำใจ สามีของอาจารย์ก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่อาจารย์ก็ยังเป็นหัวหน้า ครอบครัว เลี้ยงดู ลูก และพ่อแม่ของท่านได้ด้วยความเข้มแข็ง แม้จะเป็นผู้หญิงก็ตาม สิ่งนี้จะเป็น แบบอย่าง ที่ดีสำหรับผม ผมอยากจะขอบคุณอีกครั้ง ที่ทำให้ผมได้มีวันนี้ อีกท่านหนึ่งก็คือ อาจารย์บุญธรรม ทรัพย์สิน ที่ท่านได้แนะนำให้ผมสมัครทุนจุฬา-ชนบท เหมือนท่านชุบชีวิตผมขึ้นมาอีกครั้ง เพราะจบ ม.๖ ผมอาจจะไม่ได้เรียนต่อ
ผมตื้นตันใจมาก ที่อาจารย์ ได้มอบสิ่งดีๆ ให้ผมดังเช่นทุกวันนี้
ครูเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีความสำคัญ และมีพระคุณกับเรามาก ท่านช่วยสั่งสอน ประสิทธิ์ประสาทวิชา สอนให้นักเรียนมีความรู้ มีคุณภาพ เพื่อเติบโตเป็นบุคคลที่ดีในสังคม ครูในดวงใจของผม เป็นอาจารย์แนะแนวประจำโรงเรียน ท่านให้ความกรุณา และเอ็นดูเรามาก คอยชี้แนะ แนวทางการศึกษาให้กับผม คอยดูแลเอาใจใส่ทั้งเรื่องการเรียน และเรื่องส่านตัว ผมนับถือท่านมาก และการได้ทุนจุฬา-ชนบทในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะการแนะนำของท่าน ผมสำนึกตลอดเวลา ว่าเมื่อไหร่ จะเป็นวันที่ผมจะได้ตอบแทนท่านเสียที ให้สมกับความรักความเอ็นดูที่ท่านมีต่อผม ผมจะระลึกเสมอว่า ยังมีบุคคลอีกคนหนึ่งนอกจากพ่อแม่ที่คอยห่วงใย ให้กำลังใจ
ดูแลเราอยู่ห่างๆ บุคคลนั้น คืออาจารย์ ครูในดวงใจของผม
คุณครูในดวงใจผม คือ อาจารย์สุชาดา กมลเรือง สอนอยู่ที่โรงเรียนคำโพนทองราษฎรนิยม อาจารย์มี ความพยายามที่จะให้ลูกศิษย์ทุกคนได้ดิบได้ดีเป็นอย่างมาก ท่านจะให้คำปรึกษาทุกเรื่องที่ให้ได้ อย่างผม ก็เช่นกัน ท่านให้คำแนะนำว่าควรทำตัวให้ดี ไม่ควรลืมว่าตัวเองเป็นใคร และพยายาม ตั้งใจเรียน อย่าดูถูก ตัวเองว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด แล้วจะสู้เขาไม่ได้ ท่านยังบอกอีกว่า คนที่ขยันเท่านั้น คือคนที่จะเก่งจริง นี้ก็คืออาจารย์ในดวงใจของผม
คุณครูในดวงใจของผม ท่านเป็นคนที่เก่งมากๆ ให้คำปรึกษาได้ทุกอย่าง ความประทับใจแรกกับคุณครูท่านนี้คือ ตอนข้าพเจ้าอยู่ ม.๓ ท่านได้เข้ามาสอนวิทยาศาสตร์แทน ข้าพเจ้าทึ่งในตัวคุณครูมากๆ เรียกว่าเป็นแบบอย่างที่ดีได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ท่านยังรู้จักข้าพเจ้าทั้งๆ ที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อท่านเลย หลังจากวันนั้น ข้าพเจ้าก็นับถือคุณครูคนนี้มาก เมื่อได้ขึ้น ม.๔ ที่โรงเรียนเดิม ร.ร.หนองแค "สรกิจพิทยา" อ.หนองแค
จ.สระบุรี ข้าพเจ้าก็ได้เรียนกับอาจารย์ท่านนี้ ซึ่งเป็นผู้หญิง และสอนวิชาฟิสิกส์
ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งทึ่งเข้าไปใหญ่ และท่านก็สอนได้เข้าใจเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเรียนกับท่านมาตั้งแต่
ม.๔-ม.๖ นอกจากจะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ข้าพเจ้าแล้ว ท่านยังเป็นที่ปรึกษา
และแนะแนวทางการศึกษาให้ด้วย เมื่อข้าพเจ้ามีเรื่องทุกข์ที่อยากได้ความช่วยเหลือ
ท่านก็รีบให้ความช่วยเหลือทันที ท่านค่อนข้างจะเข้มงวดในเวลาเรียน ในเรื่องเวลา
สัมมาคารวะ กาลเทศะ แต่ในช่วงเวลาที่ไม่ได้เรียน ท่านจะเป็นคนสนุกร่าเริง
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าประทับใจอาจารย์มากๆ ก็คือข้าพเจ้าต้องรีบไปสมัครโควต้าที่
ม.ขอนแก่นให้ทัน ท่านก็อาสาพาไป ทั้งๆ ที่เหน็ดเหนื่อยจากการสอน และเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพเจ้าตกใจมากๆ
คือ เมื่อต้นปี ๒๕๔๘ นี้ อาจารย์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ท่านหยุดสอนไป
๑ เดือน แต่ที่ข้าพเจ้าเสียใจมากๆ ก็คือ ข้าพเจ้าไม่ได้ไปเยี่ยมท่านเลย ข้าพเจ้าเสียใจจริงๆ
อาจารย์สุพัตรา เฉลิมเผ่า ผู้นี้ จะเป็นคุณครูในดวงใจของข้าพเจ้าตลอดไป
ครูในดวงใจ ๕. คุณครูกรรณิกา พงษ์สิทธิ์ศักดิ์ เป็นครูสอนภาษาไทยที่ ร.ร.อุ่มเหม้าประชาสรรค์ คุณครูช่วยเหลือ ข้าพเจ้า ตลอด ทั้งเรื่องเรียนและความเป็นอยู่ ๖. ครูสุขกา บุญกอ เป็นคุณครูสอนคณิตศาสตร์ ข้าพเจ้าให้ความเคารพ และไว้วางใจมากที่สุด ท่านให้ ความช่วยเหลือข้าพเจ้าทุกอย่าง รวมถึงค่ารถที่มาจุฬาฯ ให้ความรู้ ให้คำแนะนำที่ดีเสมอมา ร.ร.อุ่มเหม้า ประชาสรรค์ รวมถึงคุณครูอีกหลายท่าน ที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ ทั้งที่สอนระดับประถมและมัธยมศึกษา ท่านที่ไม่ได้กล่าวถึงก็ไม่ใช่เราไม่เคารพ ไม่คิดถึง เราคิดถึงในใจ แล้วเราปฏิบัติตอบแทนบุญคุณท่านดีกว่า ที่เราจะกล่าวถึงท่าน แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อท่านเลย ขอขอบพระคุณคุณครูมากค่ะ !
ข้าพเจ้าสามารถพูดได้ว่า เวลาส่วนมากของครูจะทุ่มเทให้กับกีฬา แม้กระทั่งครูไม่สบาย ก็ยังอุตส่าห์ มานั่งดู ให้กำลังใจพวกเรา ครูบอกเสมอว่าการทำอะไรก็ต้องทำด้วยความเต็มใจ กีฬาก็เหมือนกัน ถ้ารัก และเอาใจใส่ ด้วยความทุ่มเท ด้วยความพอใจตามที่เราอยากจะทำแล้ว ทุกๆ อย่างก็ย่อมประสบ ความสำเร็จ แต่ถ้าถูกบังคับ ไม่นาน ก็จะท้อเพราะต้องซ้อมหนักทุกวัน ทำให้ต้องเลิกไป ในยามที่ข้าพเจ้าและเพื่อนๆ เหนื่อยหรือท้อ ครูจะดูออก และรีบเข้ามาให้คำปรึกษา ให้กำลังใจอยู่เสมอ "ความอดทนต่อสู้ในตอนนี้ จะช่วยหล่อหลอมให้เราเข้มแข็ง และผลักดันให้เราสำเร็จในทุกๆ เรื่อง" ข้าพเจ้าศรัทธาในครูท่านนี้มาก ท่านได้คอยสอนหลายๆ เรื่อง พร้อมทั้งปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่เสมอ
คุณครูในดวงใจของข้าพเจ้าคือ อาจารย์สุรางค์ศรี มหาผล อดีตเคยสอนอยู่ที่โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม ปัจจุบัน ย้ายไปสอนอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ไม่ทราบชื่อโรงเรียน อาจารย์สุรางค์ศรีทุ่มเทต่อการสอน ภาษาฝรั่งเศสมาก รู้หลักที่จะทำให้นักเรียน ซึ่งอ่อนวิชาภาษาฝรั่งเศส มีพัฒนาการและความเข้าใจมากขึ้น สิ่งที่ข้าพเจ้า ชื่นชอบในตัวอาจารย์อีกอย่างก็คือ อาจารย์ชอบศึกษาธรรมะ ข้าพเจ้ายังจำได้ว่า อาจารย์เคย พาข้าพเจ้า ไปที่วัดโคกตานี เป็นวัดใหม่ สร้างอยู่ในชนบทที่ห่างไกล แต่บริเวณรอบๆ วัดค่อนข้างจะสะอาด เรียบร้อยมาก ชาวบ้านที่มาวัด ก็มีใบหน้าแจ่มใส มีความสุข เจ้าอาวาสเทศนาได้จับใจเหลือเกิน ข้าพเจ้า ไม่เคยคิดเลยว่า จะมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบขนาดนี้ อยู่วัดป่าบ้านร้าง ซึ่งห่างไกลความเจริญมากๆ จวบจนกระทั่ง อาจารย์พาข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้ารู้สึกนับถือในตัวอาจารย์มาก คุณครูในดวงใจอีกท่าน คือ อาจารย์ทศเพ็ชร
ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาศิลปะที่ โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ อาจารย์ สอนให้ข้าพเจ้าฝึกวาดภาพ
เข้าประกวดแข่งขัน โดยทุ่มเทฝึกสอนให้อย่างมาก บางครั้งอาจารย์ ก็ไม่ได้กินข้าว
แต่อาจารย์จะให้ข้าพเจ้ากินก่อน อาจาย์มักซื้อขนมนมเนยผลไม้ มาให้ข้าพเจ้าเสมอ
อาจารย์ คอยไปรับไปส่งถึงบ้าน เพื่อทำการฝึกซ้อม อาจารย์ไม่เคยปริปากบ่น
แม้สักครั้งเดียว ผลจากการฝึกซ้อม อย่างหนัก และความทุ่มเทของอาจารย์ ทำให้ข้าพเจ้าชนะเลิศ
การแข่งขันวาดภาพหลายรายการ เช่น ข้าพเจ้าอยากขอบคุณอาจารย์ทั้งสองท่านมาก ที่ได้หยิบยื่นความรู้ และความสามารถหลายๆ
ด้านให้ ข้าพเจ้า อาจารย์เปรียบเสมือนแสงเทียนที่ส่องนำทางให้ข้าพเจ้าประสบความสำเร็จ
ครูในดวงใจคนแรกของผมคือ อาจารย์รุ่งนภา รุ่งคณาวุฒิ อาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ต้น ตอน ม.๓ เป็นอาจารย์ ประจำชั้นห้องผม อาจารย์ทำงานเพื่อนักเรียน อย่างมาก คอยตามนักเรียนที่เสี่ยงจะไม่จบ ม.๓ อาจารย์รุ่งนภา ให้ผมขยันเรียน และสนใจเรียนมากขึ้น ครูในดวงใจคนที่สองของผมคือ อาจารย์เอมอร สังวรรณะ อาจารย์เป็นหัวหน้างานห้องสมุด ซึ่งผมก็ได้เป็น เจ้าหน้าที่ห้องสมุด ทำงานกับอาจารย์เอมอรมา ๓ ปี อาจารย์เป็นที่ปรึกษาผมได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่อง หัวใจ อาจารย์จะคอยช่วยเหลือผมในด้านต่างๆ และให้คำแนะนำที่ดี เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ของผม รวมทั้งตักเตือนผม เวลาที่ผมทำในสิ่งที่ไม่สมควร อาจารย์รุ่งนภา รุ่งคณาวุฒิ อาจารย์เอมอร สังวรรณะ
เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนวิสุทธรังษี จังหวัด กาญจนบุรี
ครูในดวงใจของผม คือ อาจารย์นฤมล อุ้ยประโค ร.ร.พะทายพิทยาคม ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อาจารย์นฤมลเข้าถึงจิตใจของนักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียน ด้วยการเอาใจใส่นักเรียน เป็นอย่างมาก ท่านจะมองเห็นจุดด้อยจุดเด่นของแต่ละคน จากนั้นก็จะกระตุ้น นักเรียนให้มีความกระตือรือร้น ที่จะเรียน หนังสือ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกท่านกระตุ้นเหมือนกัน ผมไม่ชอบการดูถูกหรือ ดูหมิ่น
ท่านรู้ข้อนี้ เมื่อผมทำ การบ้าน หรือทำรายงานไปส่ง ท่านจะบอกว่าผมไปลอกการบ้านเพื่อน
ไม่ได้ทำเอง ผมโกรธมาก และท่าน ก็บอกว่าสอบกลางภาคหรือปลายภาคผมต้องสอบตกแน่นอน
จึงทำให้ผมยิ่งโกรธเข้าไปอีก และพยายาม อ่านหนังสือให้มากกว่าเดิม เพื่อลบคำสบประมาท
จนผมได้เกรด ๔ ในวิชาของท่าน แต่ท่านก็ยังไม่พอใจ ยังดูถูกต่ออีกว่า ได้แค่เกรด
๔ ในโรงเรียน นอกโรงเรียนจะสอบได้หรือเปล่า ผมจึงตั้งหน้าตั้งตา อ่านหนังสือ
สอบเข้ามหาวิทยาลัย จนผมสอบได้หลายแห่ง และได้รับรางวัลจากผู้อำนวยการโรงเรียน
จากนั้น ผมก็เดิน ไปหาอาจารย์นฤมล ผมเห็นน้ำตาท่านไหลออกมา แล้วท่านก็บอกว่า
นี่คือสิ่งที่ท่านรอคอยมานาน
ถ้าจะกล่าวถึงครูที่ผมรักและเคารพนับถือเป็นอย่างมาก คงจะมีครูคนนี้ ผมขอเรียกครูว่าแม่เลย เพราะถ้า ไม่มีครูคนนี้ คงไม่มีผมแน่ ครูสุวัฒนา ตั้งสุจริต เป็นครูสอนวิชาแนะแนวอยู่ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น โดยตอนแรก ที่ผมสอบเข้ามาได้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ผมจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองได้อย่างไร จนกระทั่ง ผมได้รู้จัก กับท่าน เพราะท่านเป็นครูประจำชั้น ท่านรู้ประวัติผมทุกอย่าง และเรียกผมเข้าไปถาม คุยกันเรื่องว่า จะเข้า กับเพื่อนได้หรือเปล่า ผมเองก็ไม่กล้าตอบ แต่ครูก็รู้ว่าบ้านผมจน ทำให้ครูเลี้ยงดูอุปการะผม ส่งเงินให้เรียน และให้ที่พักแก่ผม ทำให้ผมมีโอกาส มีที่อยู่ และที่สำคัญที่สุดนั้นคือ มีคนคอยให้คำปรึกษา ผมมีปัญหาในการปรับตัว ผมก็จะคุยกับครู มีปัญหาเรื่องเพื่อนก็จะคุยกับครูตลอด มีงานอะไรที่ช่วยได้ ผมก็ช่วย เพราะผมอยู่บ้านครู ผมคงไม่ได้เรียนต่อในระดับมัธยมปลาย ถ้าหากไม่มีครูคนนี้ เพราะไม่มีเงิน แต่ครูบอกว่า ยังไงก็ต้องเรียน ทำให้ผมซึ้งใจเป็นอย่างมาก และมีมานะมาตลอด โดยไม่ทำให้ครูผิดหวัง ทำตัว เป็นคนดี ทำประโยชน์เพื่อสังคมตลอดมา ครูสอนเสมอว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ และในวันนี้ผมคิดว่า ผมคงต้องทำดีต่อไป เพื่อให้ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ภูมิใจในตัวผม เพราะผมยังไม่เคยทำอะไรตอบแทนเลย นอกจากการเป็นคนดีของ ทุกคน และทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย เพื่อให้ทุกคนที่รู้จักผมไม่เสียใจ สุดท้ายขอให้ครูมีความสุข และสุขภาพแข็งแรง เพราะผมต้องมาอยู่กรุงเทพฯ และไม่ค่อยได้กลับไปหาครู
แต่ผมก็จะรำลึกถึงพระคุณเสมอ และคิดว่าจะกลับไปกราบครูเมื่อมีโอกาส และประสบผลสำเร็จในชีวิต
พระคุณของครู ผมไม่รู้จะทดแทนยังไง ครูเหมือนเทียนที่จุดให้ผมมีความหวัง
เพื่อต่อสู้กับการดำรงชีวิต ต่อไป
เมื่อข้าพเจ้าอยู่ชั้นประถมศึกษา ข้าพเจ้าเป็นเด็กที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ในการเรียน จนข้าพเจ้าเข้าสู่ชั้นประถม ปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านเมืองน้อย ข้าพเจ้าก็ตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนดี อาจารย์ที่โรงเรียนก็เริ่มเห็นแวว ความฉลาดของข้าพเจ้า คืออาจารย์เมตตา จึงพาข้าพเจ้าตระเวนไปสอบทุกงานที่มีการจัดสอบ แข่งขัน ยามเดือดร้อน เรื่องเงิน ท่านก็จะให้ ก่อนไปสอบแข่งขัน ข้าพเจ้าและเพื่อนจะไปติวที่บ้านของท่าน ซึ่งอยู่ คนละหมู่บ้าน ตอนนั้นข้าพเจ้ายังไม่มีรถใช้ ท่านก็ให้ข้าพเจ้าเอารถจักรยานที่บ้านของท่านมาใช้ วันเสาร์-อาทิตย์ ท่านก็จะมานั่งติวหนังสือให้ ข้าพเจ้าไม่มีเงินซื้อกับข้าว ท่านก็ให้เงิน ดูแลข้าพเจ้าเหมือนลูกคนหนึ่ง เวลาที่ไปสอบแข่งขัน เพื่อนๆ ของข้าพเจ้าจะมีรองเท้าผ้าใบใส่กัน แต่ข้าพเจ้า
ไม่มี ท่านก็อุตส่าห์ไปหา รองเท้า ของลูกมาให้ แล้วท่านก็ก้มลงเช็ดรองเท้าขณะที่ข้าพเจ้ายังสวมอยู่
ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจมาก ไม่เคยมีใคร ทำสิ่งที่ดีแบบนี้ให้ข้าพเจ้า นอกจากแม่และอาจารย์เมตตา
เมื่อจบชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๖ ข้าพเจ้า ยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนที่ไหนดี ท่านก็มาแนะแนวโรงเรียนให้ข้าพเจ้าตัดสินใจเลือก
ปัจจุบัน ท่านย้าย ออกจากโรงเรียนบ้านเมืองน้อยแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสได้ไปทำความเคารพท่าน
ในวันนี้ แม้จะจบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ แล้ว ข้าพเจ้าก็ยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอ
เมื่อมีเวลาว่าง ข้าพเจ้าก็จะนำของไปฝาก ท่านที่บ้าน ท่านก็อวยพรให้ข้าพเจ้าตั้งใจเรียน
ข้าพเจ้าจะจดจำและจะตอบแทนพระคุณของท่าน เมื่อมีโอกาส และจะทำหน้าที่ของข้าพเจ้าให้ดีที่สุด
ครูในดวงใจ อาจารย์ศิริมา พุ่มทิพย์ อาจารย์ ๒ ระดับ ๗ โรงเรียนพรเจริญวิทยา ท่านเป็นคนที่มีจิตวิญญาณ ของความเป็นครูมาก ท่านเคยเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของข้าพเจ้าอยู่ ๑ ปี ในช่วงนั้น ท่านทุ่มเททั้งกำลัง กาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ในการดูแลข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือ เรื่องของครอบครัว อาจารย์ปาริชาติ ทิพม่อม โรงเรียนพรเจริญวิทยา ท่านเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาตอนข้าพเจ้าอยู่ ม.๕ และ ม.๖ เป็นอาจารย์ผู้หญิงที่มีอายุไม่ห่างจากเราเท่าใดนัก
เป็นคนที่เรา พูดคุยได้ทุกเรื่อง ให้คำปรึกษาในแง่ที่มองจากจุดเดียวกับเรา
แต่มีความเป็นผู้ใหญ่กว่า ท่านจะคอยหา และติดตามข่าวการศึกษามาให้ตลอดเวลา
ดูแลเราทุกเรื่อง ตั้งแต่การแต่งตัว คบเพื่อน และอื่นๆ อีกมากมาย
คุณครูในดวงใจของข้าพเจ้าคือ อาจารย์ประจวบ ก๊วยศิริ อาจารย์เคยเป็นที่ปรึกษาในระดับชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ ๕ ทุกครั้งที่มีปัญหา อาจารย์ก็สามารถให้คำแนะนำที่ดีๆ ได้เสมอ นอกจากนี้ยังคอยเป็นห่วง ในเรื่อง การเรียนและครอบครัว เป็นคนจัดหาทุนการศึกษามาให้ สอนหนังสือให้ในเวลาที่อาจารย์ว่าง และมัก จะบอก อยู่เสมอว่าสิ่งที่ครูหวังว่าจะได้ก็คือ เห็นลูกศิษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต และเมื่อข้าพเจ้า สอบติด โครงการจุฬาฯชนบท อาจารย์ก็ดีใจมาก ท่านเป็นอาจารย์คนหนึ่ง ที่ข้าพเจ้ารักและเคารพ เหมือนพ่อแม่ เพราะถ้าไม่มีอาจารย์ ข้าพเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสได้เรียนพิเศษ อาจารย์ใจดี และเห็น ความทุกข์ ของนักเรียนทุกคนเป็นเรื่องสำคัญเสมอ สิ่งใดที่ท่านคิดว่าไม่ดี และไม่ควร ท่านก็จะคอย ตักเตือนอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์คนอื่นอีกหลายท่านใน โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี
ที่เป็นผู้มี พระคุณ ต่อข้าพเจ้า เป็นผู้ให้ความรู้และสิ่งดีๆ อาจารย์ทุกท่าน
จะเป็นครูในดวงใจของข้าพเจ้าตลอดไป สิ่งที่ได้รับ จากอาจาย์ ทุกท่านนั้นเป็นโอกาส
และอนาคตที่ดีต่อข้าพเจ้า และทุนการศึกษาที่อาจารย์ มอบให้นั้น เป็นเงินทุน
ที่ทำให้ข้าพเจ้าสามารถเรียนหนังสือได้ โดยไม่ต้องเดือดร้อนเงินทองของครอบครัว - ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๒๐ กรกฎาคม - สิงหาคม ๒๕๔๘ - |